404 - ผู้ท้าชิงตำแหน่งจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่
404 - ผู้ท้าชิงตำแหน่งจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่
ครึกๆ
หลังจากที่รออยู่นานในที่สุดก็มีเสียงสั่นสะเทือนดังมาจากด้านล่าง ทันใดนั้นกองทัพซากศพขนาดใหญ่ที่มีทหารม้านับพันก็พุ่งออกมาจากส่วนลึกของพื้นดิน
เสียงคำรามของพวกมันดังก้องและน่ากลัวอย่างถึงที่สุด! บรรยากาศแห่งความตายตลบอบอวลรอบๆการปรากฏตัวของกองทัพปีศาจนั้น
"นี่มันเรื่องบ้าอะไร?"
"บูม"
ปราณสีดำก่อตัวเป็นคลื่นที่พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า ทันใดนั้นท้องฟ้าก็มืดลง ราวกับเมฆสีดำที่ไม่มีที่สิ้นสุดปกคลุมทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่อนุญาตให้แสงจากดวงจันทร์และดวงดาวส่องผ่านลงมาได้
“มันน่ากลัวกว่าที่ข้าคิด มีสิ่งชั่วร้ายอยู่ข้างใน เป็นวิญญาณอาฆาตที่กลายเป็นปีศาจและมีพวกมันมากมาย” ใบหน้าของต้วนเต๋อซีดขาวด้วยความกลัว
ความเคลื่อนไหวที่น่าแตกตื่นตรงนี้สร้างความตกตะลึงให้กับผู้ฝึกตนมากมายที่อยู่ใกล้เคียง และมีเงาหลายสายบินเข้ามาในทิศทางนี้อย่างรวดเร็ว
จี้ฮ่าวเยว่ในฐานะร่างศักดิ์สิทธิ์รกร้างตะวันออกก็มีสีหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อย
ราชาเผิงน้อยปีกทอง บุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วง ยอดฝีมือจากตระกูลเจียง ผู้คนจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์คฤหาสน์ม่วง รวมทั้งมือดีรุ่นเยาว์อีกหลายคนต่างก็ปรากฏตัวในทันที
"บูม"
เสียงระเบิดดังกึกก้องในขณะที่หมอกสีดำก็กระจัดกระจายไปทั่วบริเวณอย่างรวดเร็ว จากนั้นปราณสีดำก็พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าราวกับว่าเมฆสีดำที่ไม่สิ้นสุดกำลังพยายามปิดผนึกทุกสิ่งทุกอย่าง
กองทัพที่เกิดขึ้นจากวิญญาณอาฆาตต่างก็หลั่งไหลขึ้นไปบนท้องฟ้าเป็นภาพที่น่าหวาดหวั่นถึงขีดสุด
คนเหล่านี้ล้วนขี่สัตว์อสูรประเภทต่างๆ ในมือของพวกเขาก็มีอาวุธหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น ง้าว ทวน ดาบ และร่างกายของพวกเขาก็สวมเกราะเหล็กที่มีคุณภาพสูงอย่างยิ่ง
“จะมีกองทัพม้าวิญญาณหยินที่ทรงพลังขนาดนี้ได้อย่างไร!” หลายคนอุทานด้วยความกลัว
ในช่วงเวลาสั้นๆกองทัพวิญญาณหยินหลายพันที่ต้องการบุกทะลวงออกจากม่านหมอกสีดำก็ไม่ประสบผลสำเร็จ พวกเขาพยายามบุกทะลวงอยู่หลายครั้งแต่สุดท้ายก็ถูกผลักดันกลับมาทั้งหมด
"ปราณสีดำพวกนี้คือกรงขังของวิญญาณหยิน!" มีใครบางคนรู้แจ้งขึ้นมาทันที
“หลุมฝังศพโบราณที่กักขังวิญญาณชั่วร้ายขนาดนี้จะต้องเป็นหลุมศพของคนระดับจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัย!”
ท่ามกลางกองทัพม้าวิญญาณหยินนับพันที่พยายามบุกทะลวงออกจากม่านแสงสีดำ อีกาเฒ่าหลายตัวก็ส่งเสียงร้องด้วยความเศร้าโศก
กองทัพม้าวิญญาณหยินยังคงไม่ย่อท้อ พวกมันกระแทกใส่ม่านแสงสีดำอย่างไม่หยุดยั้งแม้ว่าจะถูกผลักดันออกมาอยู่ตลอดเวลา
ฉากแบบนี้สั่นสะเทือนจิตใจของผู้คนเป็นอย่างมาก วิญญาณร้ายพวกนี้เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงและไม่ว่ามันจะผ่านที่ใดทุกสิ่งทุกอย่างก็จะแห้งเหี่ยวในทันที
นี่คือไอสังหารที่ทรงพลัง มันกวาดทุกอย่าง ต้นไม้และเถาวัลย์ดูเหมือนจะสูญเสียพลังชีวิตไปทั้งหมด พวกมันกลายเป็นสีเหลืองซีดและล้มลง
ในขณะเดียวกันแม้แต่ก้อนหินที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงก็ยังแหลกสลายภายใต้ไอสังหารที่น่ากลัวนี้
ไม่มีอะไรสามารถหยุดกองทัพม้าวิญญาณหยินเหล่านี้ได้ ไม่ว่าพวกมันจะมุ่งหน้าไปยังทิศทางใดพลังชีวิตของบริเวณนั้นจะถูกทำลายทันที
"วิญญาณร้ายพวกนี้มีหน้าที่เฝ้าขุมสมบัติหรือไม่!" ผู้ฝึกตนหลายคนอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นพวกเขาแห่กันไปในทิศทางของฝากหลุมที่พวกเย่ฟ่านขุด
ปรากฏการณ์นี้เป็นสิ่งที่แปลกประหลาดอย่างยิ่ง ต่อให้เป็นคนปัญญาอ่อนที่สุดก็รู้ว่ามันจะต้องมีบางสิ่งบางอย่าง อย่างไม่ต้องสงสัย
ในเวลาเพียงครู่เดียวผู้ฝึกตนมากมายก็เริ่มโจมตีทหารหยินที่หลั่งไหลเข้าหาพวกเขาราวกับน้ำท่วม
ผู้ฝึกตนเหล่านี้ไม่ใช่คนโง่ พวกเขารู้ดีว่ากองทัพปีศาจนี้คงกำลังเฝ้าอะไรบางอย่างอยู่ ดังนั้นหากพวกเขาไม่ทำลายกองทัพปีศาจนี้ออกไปมันก็ไม่มีทางที่พวกเขาจะเข้าไปในสุสานใต้ดินได้
แต่การโจมตีของพวกเขากลับไม่ได้ผลดีอย่างที่คิด ผู้บ่มเพาะหลายสิบที่เริ่มการโจมตีถูกทหารปีศาจตอบโต้กลับมาด้วยความโหดเหี้ยมอย่างยิ่ง
เลือดเนื้อของพวกเขาสาดกระจายขึ้นสู่ท้องฟ้า กองทัพนับพันบดขยี้ร่างกายของพวกเขาจนแหลกละเอียดภายใต้กีบเหล็กที่บ้าคลั่ง!
ทหารหยินผู้ทรงพลัง ม้าหยินที่น่าสะพรึงกลัว และหอกเหล็กที่แข็งแกร่งกว่าอาวุธศักดิ์สิทธิ์ เมื่อสิ่งเหล่านี้รวมกันมันก็สร้างแรงกดดันมหาศาลต่อผู้ฝึกฝนมากมายที่อยู่ในบริเวณ
“บูม” “บูม” “บูม”
ในสุสานโบราณที่อยู่ลึกลงไปในดิน ได้ยินเสียงกลองเบาๆดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เสียงกลองนี้เป็นเหมือนสัญญาณที่สั่งการให้ทหารม้าหยินเริ่มออกไล่ล่าผู้ฝึกฝนที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง
ใบหน้าของทุกคนที่อยู่ในบริเวณตอนนี้บิดเบี้ยวอย่างรุนแรง กองทัพปีศาจที่อยู่ตรงหน้ามีพลังมากเกินไป ตอนนี้พวกมันเริ่มไล่ล่าผู้ฝึกฝนที่บินอยู่บนท้องฟ้าแล้ว
มีผู้ฝึกฝนมากมายบนท้องฟ้า และมีคนจำนวนไม่น้อยที่เข้ามาดูความสนุกสนานโดยไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์ร้ายแบบนี้เกิดขึ้น มันทำให้เกิดโศกนาฏกรรมอย่างไม่สิ้นสุดในทันที
หมอกสีดำกำลังโหมกระหน่ำ เกราะเหล็กฉายแสงแวววับ อาวุธทุกชนิดถูกชี้ไปข้างหน้า ทหารหยินนั้นทรงพลังอย่างถึงที่สุด และผู้ฝึกฝนหลายร้อยคนก็หล่นร่วงลงมาไม่สามารถต้านทานได้
อาวุธศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาถูกทำลาย และดอกไม้เลือดก็ได้เบ่งบานอย่างไม่สิ้นสุด ทุกที่ที่กองทหารหยินผ่านไปจะมีซากศพของผู้ฝึกฝนร่วงลงมาอยู่ตลอดเวลา
แน่นอนว่าภายใต้การต่อสู้ที่ดุเดือดแบบนี้ก็มีทหารหยินส่วนหนึ่งที่ถูกทำลาย เมื่อศีรษะของพวกเขาถูกตัดออกร่างกายของพวกเขาก็จะกลายเป็นฝุ่นสีดำและสลายไปในทันที
“วิญญาณร้ายที่ถูกกักขังข้าจะปลดปล่อยพวกเจ้าให้เป็นอิสระเอง”
ท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย ทันใดนั้นก็มีเสียงของสตรีดังกึกก้องไปทั่วสุสานโบราณ หลังจากนั้นแสงสีทองก็สาดส่องไปทุกทิศทุกทางและวัดเต๋าขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นภายในแสงสีทองนั้น
“มหาเทวาลัยจงปลดปล่อยวิญญาณร้ายพวกนี้”
นักพรตหญิงคนหนึ่งบินขึ้นสู่ท้องฟ้าและยืนอยู่ด้านหน้าของวัดเต๋าที่ถูกเรียกว่ามหาเทวาลัย มือของนางประสานอินอย่างต่อเนื่องและแสงสีทองก็ยิงเข้าใส่กองทหารหยินอยู่ตลอดเวลา
วัดเต๋าโบราณสงบนิ่งเหมือนสายน้ำ ภายใต้การโจมตีของนักพรตหญิง ทหารหยินหลายร้อยคนก็ถูกโจมตีจนร่างแหลกสลายกลายเป็นฝุ่นผงสีดำโดยไม่อาจหลีกเลี่ยง
ทหารหยินที่เหลือต่างก็กรีดร้องด้วยความกลัวและรีบวิ่งเข้าหาปากทางเข้าสุสานอย่างรวดเร็ว
“สรรเสริญเทวทูต”
เสียงสวรรค์อันไพเราะของนักพรตหญิงใสราวกับไข่มุกที่ตกกระทบจานหยก ทันใดนั้นแสงสีทองขนาดใหญ่ก็ยิงเข้าไปในประตูสุสานด้วยความเร็วราวกับสายฟ้าฟาด
ทหารหยินที่น่ากลัวนับพันที่หนีตายด้วยความกลัวร่างกายแหลกสลายก่อนที่จะมีโอกาสหลบหนีได้สำเร็จ
ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ในเวลาเพียงไม่กี่ลมหายใจที่นักพรตหญิงลงมือสถานการณ์ก็จบลงราวกับว่าก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หลายคนที่เห็นเหตุการณ์ต่างก็สูดลมหายใจเข้าไปอย่างหนาวเหน็บ นักพรตหญิงผู้นี้เป็นใคร ความแข็งแกร่งของนางดูเหมือนจะไม่เป็นรองอัจฉริยะรุ่นเยาว์ของมหาอำนาจในดินแดนรกร้างตะวันออกเลย
ต้วนเต๋อพยักหน้าและกล่าวว่า
"นักพรตหญิงน้อยคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์แห่งตระกูลจี้ในอนาคตดูเหมือนว่าเจ้าจะมีคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอีกคนแล้ว"
"นักพรตเจ้าคิดจะหาเรื่องเราจริงๆ?" จี้จื่อเยว่จ้องเขม็งด้วยความโกรธ
"นักพรตต้วน เจ้าคิดว่าพวกเราควรล่าถอยหรืออยู่ต่อ?" เย่ฟ่านถาม
“พวกเราเป็นเพียงเด็กรุ่นหลังเท่านั้น ต่อให้พวกเราร่วมมือกันก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของยอดฝีมืออาวุโสที่อยู่บนเรือ สิ่งที่พวกเราทำได้ตอนนี้ก็เพียงแค่รอให้พวกเขาเข้าไปสำรวจก่อน” ต้วนเต๋อถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้
เย่ฟ่านก็พยักหน้าเห็นด้วยเช่นกัน
"มีผู้คนมากมายจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์และตระกูลขุนนางโบราณมาที่นี่ ต่อให้พวกเขาอนุญาตให้เราลงไปก่อนก็ไม่แน่ว่าจะเป็นเรื่องดี "
“ใช่ ไม่ต้องรีบร้อน พวกเราควรรอดูท่าทีไปก่อน” ต้วนเต๋อกล่าวเสริม
เหยาซี จี้จื่อเยว่และจี้ฮ่าวเยว่ก็ไม่มีข้อเสนอที่ดีกว่านี้ พวกเขาจึงได้แต่ถอยหลังออกไปยืนอยู่ที่ชายขอบของหมอกสีดำเพื่อรอดูสถานการณ์จากด้านข้าง