ตอนที่แล้ว402 - ขุด ขุด ขุด!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป404 - ผู้ท้าชิงตำแหน่งจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่

403 - ดินแดนศักดิ์สิทธิ์คฤหาสน์ม่วง


กำลังโหลดไฟล์

403 - ดินแดนศักดิ์สิทธิ์คฤหาสน์ม่วง

ในเมืองเหมยที่แห้งแล้ง ตอนนี้ไม่มีอะไรนอกจากซากปรักหักพังจมอยู่ในฝุ่นและทราย แทบไม่เหลือเค้าความงดงามแต่เดิมเลย

ผู้ฝึกตนจำนวนมากปรากฏตัวขึ้น ราชาเผิงน้อยปีกทอง ร่างศักดิ์สิทธิ์ตระกูลเจียง บุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วง และจี้ฮ่าวเยว่

ความสนใจของผู้คนทั้งโลกนั้นต่างก็จับจ้องไปยังยอดฝีมือรุ่นเยาว์ทั้งสี่ ผู้ที่คิดจะชิงชัยในการเป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่คนใหม่

บนท้องฟ้า เรือศักดิ์สิทธิ์ขนาดใหญ่กำลังมุ่งหน้าเข้าสู่เมืองเหมย และรถศึกอีกคันก็ปรากฏตัวออกมาจากความว่างเปล่าอย่างยิ่งใหญ่ ท้องฟ้าก็สั่นสะเทือนครั้งแล้วครั้งเล่า

"เหล่ายอดฝีมืออาวุโสจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์มาถึงแล้ว!"

ดวงตาที่สวยงามของเหยาซีเปล่งประกาย

ดวงตาคมกริบสองคู่ที่มองทอดลงมาจากเรือขนาดใหญ่และรถศึกโบราณตามลำดับ สายตาทั้งคู่นี้เต็มไปด้วยไอสังหารที่บ้าคลั่งและมันหยุดอยู่ที่ยอดฝีมือรุ่นเยาว์ที่ต่อสู้กันอยู่บนท้องฟ้าในระยะไกล!

“ดูเหมือนว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์คฤหาสน์ม่วงก็คิดจะร่วมสนุกในครั้งนี้!” จี้จื่อเยว่หันไปมองพี่ชายของนางด้วยสีหน้าหนักอึ้ง

เรือรบขนาดใหญ่ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์คฤหาสน์ม่วงข้ามฟากฟ้า และศิษย์รุ่นเยาว์จำนวนมากที่สวมชุดนักพรตต่างก็บินออกมาจากเรือด้วยท่าทีคุกคาม

อย่างไรก็ตาม ผู้สืบทอดที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกยังคงยืนอยู่ที่หัวเรืออย่างเงียบๆ สายตาของพวกเขาทอดมองผู้คนมากมายที่กำลังขุดหลุมศพอย่างเฉยชา

เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่มีแผนจะแข่งขันกันในเวลานี้

อดีตเมืองเหมยแทบจะอยู่ภายใต้การปกครองของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิ้น นอกจากตระกูลเจียงและตระกูลจี้ยังมีดินแดนศักสิทธิ์แสงโชติช่วงและทะเลสาบหยก

แต่เมื่อผ่านกาลเวลาอันยาวนานดินแดนศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ ก็สามารถสอดแทรกมือเข้ามาได้เช่นกัน

เก้าญาณวิเศษลึกลับทำให้โลกตะลึงทักษะศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่มีใครเป็นเจ้าของนี้ทำให้ทุกคนไม่สามารถนั่งนิ่งได้

นอกเหนือจากอู๋จงเทียน, หลี่เหอซุย เจียงฮวยเหรินแล้ว ยังมีอัจฉริยะรุ่นเยาว์ซึ่งเป็นทายาทโจรผู้ยิ่งใหญ่ทั้ง 13 คนก็มาถึงเช่นกัน

"บูม"

เสียงระเบิดดังกึกก้อง

เรือโบราณยาวหลายพันจ้างเฉกเช่นสัตว์อสูรโบราณฉีกท้องฟ้าของเมืองเหมยออกเป็นสองส่วน สัตว์อสูรขนาดใหญ่ที่มีลักษณะเหมือนมังกรทำหน้าที่ลากยานพาหนะนี้มา

หลังจากการปรากฏตัวของเรือรบขนาดใหญ่ มันก็ตามมาด้วยเรือรบขนาดกลางอีกหลายสิบลำ

เอี๋ยนหรูหยูยืนอยู่บนเรือรบโบราณขนาดใหญ่นั้น ความงามและความสูงส่งของนางเรียกความสนใจจากผู้คนมากมายที่อยู่ด้านล่าง

ภายใต้การปรากฏของเก้าญาณวิเศษลึกลับดินแดนภาคเหนือจึงเกิดคลื่นโหมกระหน่ำครั้งใหญ่ มีคนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆที่ปรากฏตัวในเมืองเหมย

นี่คือเก้าญาณวิเศษลึกลับที่ไม่มีใครเคยเป็นเจ้าของ หากเจ้าโชคดีเจ้าก็อาจจะทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าในครั้งเดียวหลังจากที่ได้ครอบครองมัน

ต้วนเต๋อมองดูทุกอย่างด้วยรอยยิ้มก่อนจะกล่าวว่า

"ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์น้อยแห่งตระกูลจี้ เจ้าไม่อยากเข้าร่วมสงครามอันยิ่งใหญ่หรือ ตัวแทนดินแดนศักสิทธิ์ปรากฏขึ้นทีละคนแล้ว

เจ้าเป็นร่างศักดิ์สิทธิ์แม้ว่าเจ้าอาจจะสามารถเอาชนะการต่อสู้ตัวต่อตัวได้ แต่ด้วยผู้คนมากมายขนาดนี้ข้าคิดว่าเจ้าก็ควรจะกดดันอยู่บ้าง”

“เจ้าอ้วน!” จี้จื่อเยว่แยกเขี้ยวใส่ต้วนเต๋อ

"เก้าญาณวิเศษลึกลับยังไม่เปิดเผย ผู้ใดลงมือก่อนรังแต่จะกระตุ้นผู้คนมากมายให้ลงมือโจมตี"

จี้ฮ่าวเยว่มีสีหน้าสงบนิ่งและพลังศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็เงียบสงบราวกับบ่อน้ำขนาดใหญ่ ในฐานะที่เป็นร่างศักดิ์สิทธิ์เขารู้สึกถึงเจตนาฆ่าอันทรงพลังและภัยคุกคามที่แท้จริง

ทันทีที่เก้าญาณวิเศษลึกลับปรากฎ นี่จะถือเป็นการแย่งชิงความยิ่งใหญ่ระหว่างยอดฝีมือรุ่นเยาว์เช่นพวกเขาไปในตัวอีกด้วย!

“ช่วงเวลานี้ถือว่าดินแดนรกร้างตะวันออกของพวกเราอยู่ในยุครุ่งเรืองมากที่สุด ผู้ฝึกตนจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์มากมายปรากฏตัวออกมาพร้อมกัน

หากพวกเขายังไม่ตาย ในอนาคตจะต้องมีการต่อสู้ครั้งใหญ่อย่างต่อเนื่องเพื่อแย่งชิงตำแหน่งจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่คนต่อไปอย่างแน่นอน” ต้วนเต๋อถอนหายใจเบาๆ

“ข้ากลัวว่าหลายคนไม่มีความคิดแบบเดียวกับนักพรต” เหยาซียิ้มราวกับสายลมฤดูใบไม้ผลิและกล่าวว่า

“ผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งควรมีหนึ่งหรือสองคนก็เพียงพอแล้ว หากมีห้าหรือหกก็อาจจะเป็นหายนะและความเศร้าโศก เป็นการยากที่จะจินตนาการว่าการปะทะกันในอนาคตจะน่าเศร้าเพียงใด”

จากคำพูดของนางเห็นได้ชัดว่าไม่ต้องการเข้าร่วมในการต่อสู้ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต แต่เย่ฟ่านนั้นไม่มีทางเชื่อเหยาซีอย่างแน่นอน

เขารู้ดีว่าสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของนางนั้นแข็งแกร่งมากแค่ไหน มันทรงพลังอย่างหาที่เปรียบมิได้ และนั่นเป็นไพ่ตายที่น่าสะพรึงกลัวที่ไม่มีใครรู้

ต้วนเต๋อบ่นพึมพำในลำคอของตัวเองและกล่าวขึ้นว่า

"คนพวกนี้ก็แค่ขี้โกงเท่านั้น พวกเขาใช้จำนวนที่มากกว่าของตัวเองในการกดดันทุกคนที่อยู่ที่นี่ก่อนจะแย่งชิงหลุมศพทั้งหมดไปขุดค้นเพียงคนเดียว "

ในบริเวณสุสานขนาดใหญ่มีหลุมศพทั้งหมด 54 แห่ง พื้นที่ทั้งหมดในบริเวณรอบๆมีการขุดค้นไปแล้ว 45 แห่งแล้ว เหลืออีก 9 แห่งที่อาจจะยังมีมรดกของตระกูลขุนนางโบราณหลงเหลืออยู่

“ไปเถอะ ไม่อย่างนั้นพวกเราจะเสียเปรียบคนอื่น”

เย่ฟ่านไม่สนใจการต่อสู้เพื่อชีวิตและความตาย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการค้นหาเก้าญาณวิเศษลึกลับ

ในท้ายที่สุด พื้นที่หลุมฝังศพอีกเก้าแห่งที่เหลือก็ถูกยึดครองเกือบหมด เย่ฟ่านและคนอื่นๆรีบเข้าจับจองหลุมศพแห่งหนึ่งโดยไม่มีการต่อสู้เกิดขึ้น

ภายใต้ชื่อเสียงของจี้ฮ่าวเยว่ ผู้ฝึกตนจากดินแดนรกร้างตะวันออกทั้งหมดอย่างน้อยๆก็ต้องไว้หน้าเขา

เขาเป็นหนึ่งในสองร่างศักดิ์สิทธิ์รกร้างตะวันออก แทบไม่มีใครกล้าต่อสู้กับเขาตัวต่อตัว แม้แต่คนที่สามารถยืนหยัดกับเขาได้เพียงชั่วคราวก็หาได้ยากอย่างยิ่ง ต่อให้เป็นคนรุ่นอาวุโสก็ตาม

“นักพรต เจ้าแน่ใจหรือว่าจะเลือกที่นี่?” เหยาซีถาม

“นักพรตผู้น่าสงสารคนนี้เป็นปรมาจารย์ด้านการศึกษาสถานที่ฝังศพและข้าก็เคยมีประสบการณ์บางอย่างมาบ้าง ข้าคิดว่าในบรรดาสุสานขนาดใหญ่เก้าแห่ง สถานที่แห่งนี้มีแนวโน้มที่จะค้นพบเก้าญาณวิเศษลึกลับ”

“เจ้าอ้างอิงจากอะไร?” เย่ฟ่านถาม

“ดูนั่นสิ ดินแดนแห่งนี้มีความเฉพาะเจาะจงและสงบมาก” ต้วนเต๋อชี้ไปที่หลุมศพที่ไร้ขอบเขตนี้และกล่าวต่อไป

“หากเจ้ามองจากระยะไกลเจ้าจะมีความรู้สึกว่ามันคล้ายกับบันไดที่ทอดยาวขึ้นสู่สวรรค์ ซึ่งจะทำให้ผู้ตายมีความสุขสงบหลังจากที่เสียชีวิต”

"บันไดที่ทอดยาวขึ้นสู่ท้องฟ้า มีลักษณะคล้ายมังกรเฝ้าสมบัติ นี่เป็นหลุมฝังศพที่มีความไม่ธรรมดาอย่างที่เจ้าว่าจริงๆ?" เย่ฟ่านพยักหน้าเห็นด้วย

“สถานที่ที่มีลักษณะที่ดีเช่นนี้ไม่มีทางที่คนธรรมดาจะครอบครองได้ คนที่สามารถเป็นเจ้าของหลุมศพนี้จะต้องเป็นผู้ยิ่งใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัย

ในอดีตเมืองเหมยมีตระกูลขุนนางโบราณที่มีเก้าญาณวิเศษลึกลับซึ่งเป็นที่แน่ใจว่าพวกเขาจะต้องเป็นเจ้าของทุกสิ่งทุกอย่างในเมืองนี้ ข้าคิดว่าพวกเขาจะต้องเข้าใจลักษณะภูมิประเทศของที่นี่อย่างแน่นอน

พูดไปก็ป่วยการ พวกเราต้องทดลองขุดลงไปดูถึงจะรู้ว่าคำพูดของนักพรตผู้น่าสงสารคนนี้สามารถเชื่อถือได้อย่างแน่นอน ประสบการณ์การขุดสุสานของข้ามีมากกว่าพวกเจ้า ถ้าไม่เชื่อพวกเจ้าจะเห็นเอง!"

"ประสบการณ์การขุดสุสาน?” จี้จื่อเยว่กัดฟันด้วยความโกรธ

"ครืนนน"

มีเสียงดังจากพื้นดิน เย่ฟ่านเปิดเส้นทางสู่ใต้ดินแล้ว หลุมนี้อยู่ลึกลงไปกว่าร้อยวา ทั้งหมดล้วนแต่เป็นหินและดินแห้ง ไม่เหมือนที่ฝังศพสักนิด

“นักพรตเจ้ามั่วแล้ว ไม่มีสุสานโบราณที่นี่ มันเป็นเพียงหลุมใต้ดินที่เปล่าประโยชน์” จี้จื่อเยว่กล่าวด้วยความไม่พอใจ

“ไม่ มันต้องมีอะไรอยู่แน่ๆ พวกเจ้าดูสิว่าข้างล่างนี้ดูไม่เหมือนหลุมฝังศพแม้แต่น้อย มันจะต้องซุกซ่อนอย่างอื่นอยู่แน่ๆ” ต้วนเต๋อยืนกรานที่จะขุดต่อ

หลังจากขุดลงไปอีกสามร้อยวาในที่สุดก็มีเสียงดัง พวกเขาเจาะทะลุถ้ำขนาดใหญ่แห่งหนึ่งที่อยู่ด้านล่าง ต้วนเต๋อพูดถูก ตรงนี้มีสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่อยู่จริงๆ

“ว่าอย่างไร นักพรตผู้น่าสงสารคนนี้พูดว่าอย่างไร ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในการคำนวณของข้าตั้งแต่แรกอยู่แล้ว” ต้วนเต๋อมีใบหน้าแดงก่ำด้วยความตื่นเต้น

ขณะนี้เป็นเวลาพลบค่ำ และแสงสุดท้ายกำลังจะหายไป อีกาเฒ่าที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงต่างก็ส่งเสียงร่ำร้องไม่หยุดปาก

“นักพรตพวกเราจะลงไปเลยหรือไม่?” เหยาซีถาม

“ลงไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด” ต้วนเต๋อกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง

"ทำไมล่ะ?" จี้จื่อเยว่งงงวย

“มีบางสิ่งบางอย่างอยู่ข้างล่าง พวกเราต้องรอให้มันออกมาก่อนพวกเราค่อยลงไปได้” ต้วนเต๋อเป็นนักขุดสุสานตัวยง ประสบการณ์ด้านนี้ของเขาค่อนข้างน่าเชื่อถือ!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด