ตอนที่ 257+258 อย่าโง่สิ
เจียงเหยายืนอยู่ข้าง ๆ พร้อมกับยื่นทิชชู่ส่งให้กับเวินเสวี่ยฮุ่ยอย่างเงียบ ๆ เธอรู้ว่าเวินเสวี่ยฮุ่ยจะต้องร้องไห้ออกมาและระบายความรู้สึกกับเธอ
หลังจากที่แอบชอบเขามาเป็นเวลานานและตระหนักว่าเขาเป็นคนหน้าซ่อใจคด ไม่มีใครจะรู้สึกมีความสุขกับเรื่องนี้แม้แต่คนเดียว
เวินเสวี่ยฮุ่ยร้องไห้อยู่นานก่อนจะหยุดร้อง เธอมองดูบ้านไม้หลังเล็ก ๆ ริมถนนเป็นแถว เธอไม่รู้ว่าเมืองนี้เป็นเมืองไหน แต่ช่างมองดูแล้วช่างน่าหดหู่มาก
แม้ว่าเธอจะรู้ว่าหลี่หรงฮุ่ยมาจากสถานที่เล็ก ๆ แห่งนี้ แต่เธอก็ไม่เคยคาดหวังว่าผู้ชายที่มีมารบาทจะมีความคิดที่น่ารังเกียจเช่นนี้เกิดขึ้นในตัวเขา
“เจียงเหยา เด็กสาวคนนั้น ฟางฟาง ดูเหมือนว่าเธอจะรักเขาอย่างสุดซึ้ง เขาจะทำเรื่องเนรคุณได้อย่างไร?” เวินเสวี่ยฮุ่ยถามออกมาอย่างกะทันหัน
“เขาเต็มใจที่จะหลอกลวงผู้หญิงที่ทใจดีเช่นเธอ ไม่มีอะไรอื่นที่เขาจะทำไม่ได้หรอก บางทีในสายตาของเขา เด็กสาวที่โง่เขลาอย่างฟางฟาง อาจเป็นคนโง่ที่เขาสามารถเอาเปรียบได้” เจียงเหยาพูดเบา ๆ “ไปกันเถอะ มันไม่มีความหมายสำหรับเราที่จะอยู่ที่นี่ต่อ กลับหนานเจียงกันเถอะ”
พวกเขาคิดว่ามันต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการหาบ้านของหลี่หรงฮุ่ย นั่นคือเหตุผลที่พวกเขาเลือกมาในช่วงวันหยุดช่วงสุดสัปดาห์ โชคดีที่พระเจ้าเข้าข้างเขา ทำให้การเดินทางครั้งนี้จึงสั้นมาก
เวินเสวี่ยฮุ่ยพยักหน้า แต่ทันใดนั้นเธอก็ส่ายหน้า “เจียงเหยา ฉันแตกต่างจากผู้หญิงที่ชื่อฟางฟาง เธอได้ยินไหมว่าเธอและครอบครัวของเธอเสียสละเพื่อหลี่หรงฮุ่ยมาก ฟางฟางและครอบครัวของเธอเป็นฝ่ายดูแลแม่ของหลี่หรงฮุ่ย และเป็นฟางฟางที่ทำงานอย่างหนักเพื่อหาเงินค่าเทอมให้หลี่หรงฮุ่ย หลี่หรงฮุ่ยต้องชดใช้ให้กับผู้หญิงคนนั้นและครอบครัวของเธอถึงแม้จะจ่ายด้วยชีวิตของเขาก็ตาม ฉันไม่เคยคาดหวังว่าเขาจะเป็นเช่นนั้น เนรคุณ เขากำลังเพลิดเพลินกับการเสียสละของหญิงสาวและครอบครัวของเธอในขณะที่เธอต้องสูญเสียความเยาว์วัยของเด็กสาวคนนั้น”
เวินเสวี่ยฮุ่ยกัดฟันของเธอ “ฉันได้ยินหลี่หรงฮุ่ยพูดถึงเป้าหมายของเขาคือการเรียนจบปริญญาเอก อีกนานแค่ไหน เขาจะเสียความเยาว์วัยของเด็กสาวคนนั้นไป เขาจะเป็นปลิงดูดเลือดผู้หญิงคนนั้นและครอบครัวของเธออีกนานแค่ไหน?”
ทันใดนั้น เวินเสวี่ยฮุ่ยรู้สึกว่าความเศร้าโศกของเธอแทบไม่ได้กับผู้หญิงคนนั้นเสียด้วยซ้ำ สิ่งที่เธอเสียไปก็แค่ความรัก แต่ผู้หญิงคนนั้นเสียสละมากกว่านั่นเสียอีก
“ฉันรู้ว่าคุณสงสารผู้หญิงคนนั้น อย่างไรก็ตามนะเสวี่ยฮุ่ย เราไม่สามารถทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้หรอก” เจียงเหยารู้ว่าเวินเสวี่ยฮุ่ยหมายถึงอะไร แต่ความจริงก็คือ พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้มากในฐานะผู้ชมเท่านั้น
เจียงเหยามองไปที่เวินเสวี่ยฮุ่ย ซึ่งมีนิสัยค่อนข้างจะดื้อรั้นและถอนหายใจ “ลองคิดดูสิ ฟางฟางกับหลี่หรงฮุ่ยเป็นเพื่อนสมัยเด็ก พวกเขารู้จักกันมายี่สิบปีแล้ว ถ้าเธอไปบอกฟางฟางว่าหลี่หรงฮุ่ยเป็นคนยังไง ทำอะไรลงไปบ้าง ทั้งหลอกลวงและหลอกใช้เธอกับครอบครัว เธอจะเชื่อคนแปลกหน้าอย่างพวกเราหรือว่าเชื่อเพื่อนสมัยเด็กของเธอกันเล่า? จะเป็นอย่างไร ถ้าหลี่หรงฮุ่ยบิดเบือนคำพูดของเธอเพื่อทำให้ผู้หญิงคนนั้นคิดว่าเธอคือสาวในเมืองที่ต้องการทำลายความสัมพันธ์ของคนอื่น มันจะกลายเป็นกลายนำโชคร้ายมาสู่ตัวเองเสียเท่านั้น”
ในชีวิตก่อนหน้านี้ หลี่หรงฮุ่ยไม่ได้แต่งงานกับหญิงสาวที่ชื่อฟางฟาง ในท้ายที่สุดเจียงเหยาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับฟางฟางเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับจุดจบของฟางฟางด้วยหรือไม่?
เธอไม่ใช่พระเจ้าสักหน่อย เธอไม่สามารถดูแลทุกคนได้ สิ่งที่เธอทำได้คือการปกป้องคนที่เธอห่วงใย
ดังนั้นคำพูดของเจียงเหยาทำให้เวิ่นเสวี่ยฮุ่ยพูดอะไรไม่ออก เธอเข้าใจความหมายในคำพูดของเจียงเหยา มันดูมีเหตุผลกับสิ่งที่เธอพูดทั้งหมด
หลี่หรงฮุ่ยสามารถหลอกลวงใครซักคนได้เป็นเวลาหลายปี จึงเห็นได้ชัดว่าเขาสามารถบิดเบือนและมีอุบายของตัวเอง ถ้าเธอต้องการสร้างปัญหาจริง ๆ หลี่หรงฮุ่ยก็สามารถคิดหาวิธีตอบโต้เธอได้เช่นกัน
__
ทั้งสองมาถึงมหาวิทยาลัยในตอนเย็น ใช้เวลาเพียงวันเดียว แต่สำหรับเวินเสวี่ยฮุ่ยราวกับว่าดลกทั้งใบได้เปลี่ยนไป
ความจริงถูกเปิดเผยอย่างโหดร้าย แม้ว่าเธอจะไม่เต็มใจเชื่อก็ตาม
คืนนั้นเวินเสวี่ยฮุ่ยกลับบ้านพร้อมกับอธิบาการบดีเวิน และไม่ได้อยู่ที่หอพัก
เจียงเหยารู้ว่าเวินเสวี่ยฮุ่ยต้องการการดูแลและกำลังใจจากครอบครัวในเวลาเช่นนี้ เวินเสวี่ยฮุ่ยไม่ต้องการให้เพื่อนของเธอเห็นว่าเธอเป็นยังไง เธอจึงปฏิเสธที่จะอยู่หอพัก หรือบางทีเธออาจไม่ต้องการที่จะพบกับหลี่หรงฮุ่ย
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เจียงเหยาได้รับข่าวดีจากผู้จัดการซุน เขากล่าวว่าเขาได้ซื้อหุ้นของคุณฉินในราคาที่ต่ำกว่าราคาที่เธอไปต่อรองถึงสองเท่า
“ทำได้ดีมาก! ฉันจะให้โบนัสกับคุณในเดือนนี้” เจียงเหยารู้สึกเบิกบานใจ
“คุณฉินยินดีขายหุ้นของเขาในราคาต่ำขนาดนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะรอไม่ไหวที่จะเอามันออกให้พ้นมือตัวเอง”
“คุณเจียง หลายคนจับตามองการขายหุ้นของคุณฉิน มีคนถามผมว่าเขาขายหุ้นของเขาราคาเท่าไหร่ ผมก็บอกไปตามจริง ผมพนันได้เลยว่าทุกคนคงรู้เรื่องนี้หลังจากผ่านไปแค่คืนเดียว” ผู้จัดการซุนมีความสุข เพราะเขาได้ช่วยทำงานให้กับนายจ้างคนใหม่สำเร็จและได้รับคำชมจากเจ้านาย ไม่ใช่เพราะจากโบนัสที่เจียงเหยาพูดถึง
“ฉันจะจัดการกับผู้ถือหุ้นรายอื่นในตอนบ่ายคะ หลังจากที่หุ้นทั้หงมดอยู่ในมือของฉันแล้ว คุณก็จะได้ตำแหน่งอย่างเป็นทางการ” หลังจากที่เจียงเหยาวางสายจากผู้จัดการซุน เธอโทรไปที่สำนักงานผู้อำนวยการ เธอขอให้ผู้อำนวยการแจ้งให้ทุกคนทราบ ว่าจะมีการประชุมผู้ถือหุ้นในวันนี้เวลาบ่ายสองโมง
หลังอาหารกลางวัน โจวเสี่ยวเซียมองไปที่เจียงเหยาที่เปลี่ยนชุดและถามอย่างสงสัย “เจียงเหยา จะออกไปไหน ทำไมช่วงนี้ดูยุ่ง ๆ”
“โรงพยาบาลเฉิงอ้ายกำลังจะปิดกิจการแล้ว เธอไม่คิดว่าฉันผู้ถือหุ้นรายใหม่จะยุ่งบ้างเหรอ ฉันจะไปประชุมผู้ถือหุ้นที่โรงพยาบาล พวกเธอทานอาหารเย็นไปก่อนโดยไม่ต้องรอฉันนะ ฉันน่าจะกลับมาหลังอาหารเย็น” เจียงเหยาถอนหายใจอย่างตั้งใจ ยิ้งให้พวกเขาและถือกระเป๋าเป้สะพายหลังของเธอก่อนเดินจากไป
โจวเสี่ยวเซียและคนอื่น ๆ ได้ยินสิ่งที่เธอพูดและหัวเราะออกมาดัง ๆ
“เจียงเยหา เธอนี่ตลกจริง ๆ”
เมื่อทุกคนชมว่าเธอเป็นคนสนุกสนาน พวกเขาก็เชื่อว่าเธอเป็นคนตลกจริง ๆ เมื่อวันก่อนเธอเคยพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเขาไม่คิดว่าเธอจะยังทำเรื่องตลกเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก โจวเสี่ยวเซียและคนอื่น ๆ หัวเราะจนยืดหลังไม่ได้
“ขอให้เป็นวันที่ดีนะคุณเจียง! เราหวังว่าคุณจะจัดการงานในอนาคตให้เราได้!” โจวเสี่ยวเซียตะโกนไล่หลังเจียงเหยา
“พูดได้ดี พูดได้ดี!” เจียงเหยารู้ว่าไม่มีใครเชื่อเธอ เธอจึงไม่ได้อธิบายเพิ่มเติม
เธอหยิบสิ่งของของเธอและเหลือบมองมัวที่ยังคงลังเลที่จะคืนดีก่อนจะออกไปด้วยตัวเอง
เสี่ยวฟางคนขับรถกำลังรอเจียงเหยา อยู่ที่ทางเข้ามหาวิทยาลัย หลังจากที่เธอขึ้นรถ เสี่ยวฟางสตาร์รถและเคลื่อนรถมุ่งตรงไปยังโรงพยาบาล
เจียงเหยาจัดการทุกอย่างเรียบร้อยและมาถึงห้องประชุมก่อนเวลา 10 นาที ผู้ถือหุ้นรายอื่นมาถึงก่อนเธอโดยไม่คาดคิด
เมื่อทุกคนที่อยู่ในห้องประชุมเห็นเจียงเหยา ใบหน้าของพวกเขาก็มืดลง ยกเว้นเฉินจื่อบิ่นและผู้อำนวยการ
เฉินจื่อบิ่นรู้ว่าเจียงเหยากำลังมาที่โรงพยาบาลเพื่อเข้าร่วมประชุม เขาจึงเข้ามาในห้องประชุมเพื่อคุ้มกันเจียงเหยาด้วยตัวเองโดยที่เธอไม่ได้ร้องขอ
“มาถึงกันเร็วจัง ไม่เลวนี่คะ ฉันชอบคนตรงต่อเวลา” เมื่อพวกเขามาถึง เจียงเหยาไม่มีเหตุผลที่จะรอจนกว่าจะถึงเวลานัดประชุม เธอเริ่มประชุมทันที
เธอถือกระเป๋านักเรียนเข้าไปข้างในและหยิบของที่เธอเตรียมไว้ในตอนเช้าออกมาจากกระเป๋า มอบให้กับผู้อำนวยการ เธอถือว่าผู้อำนวยการเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของเธอในขณะที่เธอพูดว่า “แจกสัญญาเหล่านี้ให้กับผู้ถือหุ้นด้วยค่ะ”
ผู้อำนวยการรับสัญญาโดยไม่ได้มองดูก่อนที่จะแจกให้กับผู้ถือหุ้น