ข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 27 อยู่กับหญิงอื่นลับหลังภรรยา
ข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 27 อยู่กับหญิงอื่นลับหลังภรรยา
เด็กสาวที่อยู่ในความตื่นเต้นค่อยๆ สงบลง
แต่สายตายังคงจ้องไปที่คงหนิงด้วยความกระตือรือร้น
“หัวหน้ามือปราบหนิง ข้านั้นได้พบกับปีศาจสาวในบ้านของเจ้าแล้ว”
หญิงสาวกล่าวต่อไปว่า “เมื่อคืนนี้ ข้าไปแอบซุ่มอยู่ใกล้กับตรอกฮว๋ายชู่ และเห็นปีศาจออกมาจากบ้านของเจ้า และหายไปในท้องถนนของเขตเมือง”
“จากการพิจารณาของหว่านเอ๋อ นางสามารถโบยบินขึ้นไปบนท้องฟ้าได้ พลังตบะของนางอย่างน้อยต้องมีถึงสามร้อยปี สถานการณ์เช่นนี้ไม่ง่ายดายเลย”
“แต่พวกเราก็ไม่ได้ไร้ซึ่งความหวัง”
“ต่อแต่นี้ไป หัวหน้ามือปราบหนิงเพียงแค่ต้องทำตัวให้เป็นปกติ เพื่อที่นางจะได้ไม่สังเกตเห็นความผิดปกติ จากนั้นพวกเราจึงจะวางแผนขั้นต่อไป”
หญิงสาวให้กำลังใจคงหนิง
คงหนิงพยักหน้าเข้าใจ
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ถามว่า “ข้าไม่ทราบว่าตอนนี้หว่านเอ๋อมีระดับการบ่มเพาะถึงระดับไหนแล้ว เมื่อเทียบกับปีศาจภายในบ้านของข้า......อืม ต่างกันมากเท่าไหร่?”
คงหนิงพยายามใช้คำที่ดูสุภาพให้ได้มากที่สุด แต่เรื่องนี้สำคัญมาก จำเป็นต้องสอบถามให้ถี่ถ้วน
เด็กสาวดูเขินอายเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า “นั่น.......ตอนนี้หว่านเอ๋ออยู่ในขอบเขตประตูสวรรค์ อีกเพียงไม่นานก็จะเข้าสู่ขอบเขตกลั่นนภา ฉะนั้นในแง่ของพลังบ่มเพาะ ตอนนี้จึงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของปีศาจที่มีพลังตบะสามร้อยปี”
หลังจากพูดออกไป เนื่องจากกลัวว่าคงหนิงจะเสียความมั่นใจ หญิงสาวจึงรีบเสริมว่า “แม้ว่าหว่านเอ๋อจะเอาชนะนางในการต่อสู้ตัวต่อตัวไม่ได้ ตราบใดที่หว่านเอ๋อมีเวลามากกว่านี้ อย่างน้อยก็สามารถพาครอบครัวของหัวหน้ามือปราบหนิงหนีไปอย่างเงียบๆ ได้”
“ส่วนเรื่องไข่ปีศาจภายในท้องของหัวหน้ามือปราบหนิง หว่านเอ๋อยังต้องคิดหาวิธีแก้ปัญหาอีกหน่อย”
“ดังนั้นหัวหน้ามือปราบหนิงไม่ต้องกังวลไป”
“เวลาห้าเดือนยังอีกนาน และหว่านเอ๋ออาจจะสามารถบุกทะลวงเข้าสู่ขอบเขตกลั่นนภาได้ภายในช่วงเวลานี้ ดังนั้นหัวหน้ามือปราบหนิงไม่ต้องกลัว หว่านเอ๋อจะไม่มีวันทำสิ่งใดถ้ายังไม่มั่นใจ เจ้าโปรดวางใจ”
หญิงสาวยืนยันอย่างหนักแน่น
แม้ว่าการยืนยันดังกล่าวจะดูไม่ค่อยมีอำนาจเท่าไหร่นัก
คงหนิงงงงวย “ขอบเขตประตูสวรรค์? ขอบเขตกลั่นนภา? แม่นางหว่านเอ๋อโปรดอธิบายโดยละเอียดที ข้าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการฝึกตนเลย”
หญิงสาวพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “แน่นอนว่าย่อมได้......สิ่งที่เรียกว่าขอบเขตประตูสวรรค์ มันคือวิถีทางประเภทหนึ่งในการบำเพ็ญตบะ”
“มีคำกล่าวหนึ่งว่าเอาไว้ว่า ทันทีที่แสงสีทองส่องกระทบประตูสวรรค์ กายละเอียดจะประทับอยู่ในร่างกายของมนุษย์ กลั่นเกลาแก่นแท้และเปลี่ยนแปลงปราณภายในกายให้กลายเป็นกายแห่งธรรมชาติ อยู่เหนือกว่าร่างกายมนุษย์ธรรมดา นี่คือขอบเขตประตูสวรรค์”
“จากนั้นก็เป็นขอบเขตกลั่นนภา สามารถขี่ลมเหยียบแผ่นน้ำ เดินทางไกลได้นับหมื่นลี้ เมื่อมาถึงขอบเขตกลั่นนภาจะสามารถควบคุมสายลมในชั้นบรรยากาศ โบยบินขึ้นไปบนท้องฟ้าและหลบหนีการตามล่า สามารถเข้าถึงความยิ่งใหญ่ของโลกหล้า”
“ฐานการบ่มเพาะดังกล่าว หากเทียบกับเหล่าปีศาจก็ประมาณสามร้อยปีของพลังตบะ”
“หว่านเอ๋อตอนนี้อยู่ในขอบเขตประตูสวรรค์ ยังห่างไกลจากขอบเขตกลั่นนภา แต่ว่า.......อืม.......”
เมื่อหญิงสาวพูดออกมาเช่นนี้ นางก็ดูลังเล
คงหนิงมองนางด้วยความประหลาดใจ แล้วไต่ถามว่า “แต่ว่าอะไรหรือ?”
สีหน้าของหญิงสาวดูลำบากใจเล็กน้อย ราวกับว่านางมีความลับบางอย่างและลังเลที่จะบอกกับคงหนิง
แต่ในท้ายที่สุด หญิงสาวก็ส่ายศีรษะแล้วกล่าวว่า “ไม่มีอะไร หว่านเอ๋อแค่อยากจะบอกหัวหน้ามือปราบหนิงว่าไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องปีศาจในบ้าน หว่านเอ๋อมั่นใจเต็มร้อย และจะไม่ยอมให้นางฆ่าหัวหน้ามือปราบหนิงได้”
หญิงสาวมั่นใจมากเกี่ยวกับเรื่องนี้
ถึงแม้ว่าคงหนิงจะไม่รู้ว่าความมั่นใจของสาวน้อยคนนี้มาจากไหน เมื่อพิจารณาพลังของนางนั้นก็ใกล้เคียงกับคงหนิง เทียบเท่ากับพลังปีศาจเจ็ดสิบถึงแปดสิบปีเท่านั้น ซึ่งยังห่างไกลจากปีศาจยักษ์ใหญ่อย่างซูหยานที่มีพลังตบะสามร้อยปี
แต่เมื่อมันเป็นความลับของอีกฝ่าย คงหนิงก็ไม่ได้อยากจะถาม
ดังนั้นคงหนิงจึงเปลี่ยนเรื่องถาม “เอ้อแล้ว แม่นางหว่านเอ๋อ ตอนที่เจ้ามาซุ่มดูปีศาจในบ้านของข้าตรงตรอกฮว๋ายชู่เมื่อคืนนี้......นางไม่สังเกตเห็นเจ้าหรอกหรือ?”
คงหนิงอยากจะรู้ไม่น้อย
เหตุผลก็เพราะความห่างชั้นระหว่างทั้งสองนั้นใหญ่มาก เด็กสาวคนนี้สามารถหลีกเลี่ยงการรับรู้ของซูหยานได้จริงๆ หรือ? การที่คงหนิงมีพลังปีศาจถึงเจ็ดสิบปี การรับรู้ของเขายังเฉียบคมมากขนาดนี้ แล้วซูหยานที่อยู่เหนือไปกว่านี้ไม่ยิ่งมีสัมผัสเฉียบแหลมกว่าอีกหรือ
หว่านเอ๋อกล่าวพร้อมกับแย้มยิ้ม “หัวหน้ามือปราบหนิงไม่ต้องกังวล ทักษะการปิดบังกลิ่นอายจากนิกายของหว่านเอ๋อนั้นล้ำเลิศไม่มีใครเสมอเหมือน แม้จะบังเอิญเจอปีศาจตัวนั้น นางก็ไม่มีทางรู้ว่าข้าเป็นผู้ฝึกตน ไม่เช่นนั้นหว่านเอ๋อจะไม่สามารถมาพักแรมอาศัยอยู่ในเมืองที่รายล้อมไปด้วยปีศาจเช่นนี้ได้”
“หัวหน้ามือปราบหนิงจะต้องระวังตัวให้มากขึ้น โดยเฉพาะช่วงหลังจากนี้ พยายามอย่าอยู่ข้างนอกจนมืดค่ำ เมื่อเทศกาลวันสารทจีนใกล้เข้ามา วิญญาณร้ายในเขตเมืองจะเริ่มแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ผีร้ายอาจจะปรากฏตัวขึ้นได้ตลอดเวลา”
“ถ้าหว่านเอ๋อคาดเดาไม่ผิด จะต้องเกิดเหตุร้ายบางอย่างกับเทพประจำเมืองผู้ควบคุมโลกวิญญาณของที่นี่”
“เพียงแต่ว่าหว่านเอ๋อเพิ่งจะมาถึง และไม่ทราบว่าสถานการณ์ในโลกวิญญาณของที่นี่เป็นอย่างไร ก็ต้องสืบหากันต่อไป แต่เพื่อความปลอดภัยของหัวหน้ามือปราบหนิง เจ้าควรกลับบ้านโดยเร็วที่สุด ให้ทันก่อนฟ้ามืด”
หญิงสาวกล่าวเตือนอย่างจริงจัง
คงหนิงพยักหน้าพร้อมกับกล่าวว่า “ปีศาจในบ้านของข้าก็บอกแบบนี้เช่นเดียวกัน บอกให้ข้าอย่าอยู่ข้างนอกหลังฟ้ามืดในช่วงก่อนเทศกาลวันสารทจีน ที่แท้ก็เกี่ยวข้องกับวิญญาณร้ายจริงๆ......แม่นางหว่านเอ๋อ ถ้ามีผีร้ายออกมาสร้างความปั่นป่วนในช่วงวันสารทจีนจริงๆ พวกมันรับมือได้ยากหรือไม่?”
ในเวลานี้ คงหนิงพยายามนึกถึงความเป็นไปได้ต่างๆ
ปีศาจในเขตนี้มีแต่แข็งแกร่งกว่าตัวเขา จนเขาไม่สามารถจัดการกับพวกมันได้ แต่ถ้าเป็นพวกผีร้ายเล่า?
หากมีผีร้ายออกมาทำร้ายผู้คนในช่วงวันสารทจีนจริงๆ การสังหารผีร้ายและกลั่นพวกมันซะ อาจจะช่วยเพิ่มพลังบ่มเพาะให้กับตัวเขาเองได้
และจากที่คิดเอาไว้ ผีร้ายเหล่านี้ไม่ควรจะน่ากลัวอะไรมาก อย่างไรเสียก็มีเทศกาลวันสารทจีนอยู่ทุกปี แต่ไม่เคยเกิดปัญหาครั้งใหญ่ในเมืองมาก่อน นี่พิสูจน์ให้เห็นว่าสถานการณ์ต่างๆ อยู่ภายใต้การควบคุมของเหล่าปีศาจมาโดยตลอด
ถึงไม่สามารถเอาชนะปีศาจได้ แต่อาจจะยังสู้กับผีร้ายได้?
และคำตอบของหญิงสาวก็เหมือนกับการคาดเดาของคงหนิง
“ผีร้ายนั้นจัดการได้ไม่ยาก” หว่านเอ๋อกล่าว “สำหรับผีร้ายธรรมดาๆ เกรงว่าเพียงแค่เห็นหัวหน้ามือปราบหนิงมันก็คงหนีไปแล้ว แม้จะเป็นวิญญาณเก่าแก่ที่อยู่มานานก็ตาม จะเป็นประเภทไหนก็คงสลายหายไปในอากาศกันหมด”
“เพียงแต่ว่าโลกฝั่งวิญญาณของที่นี่ พลังหยินนั้นผิดปกติ ข้าเกรงว่าผีร้ายที่แสนน่าหวาดกลัวภายในประตูผีจะมีอยู่ไม่ใช่น้อยๆ หัวหน้ามือปราบเป็นดั่งทองคำล้ำค่า ไม่ควรเอาตัวเองไปเสี่ยงอันตราย ตราบใดที่วันสารทจีนสิ้นสุด ประตูผีจะถูกปิด ทุกอย่างก็จะปลอดภัย”
“ช่วงค่ำคืนก่อนวันสารทจีน หว่านเอ๋อจะตามหาผีร้ายที่เข้าไปในเมืองล่วงหน้า สังหารพวกมันและปกป้องความสงบสุขของพื้นที่แถบนี้”
ไม่ว่าอย่างไร หญิงสาวจะต้องปกป้องอัจฉริยะวิถีดาบตรงหน้านางให้ได้ และพาเขาออกจากสถานที่อันตรายเช่นเขตชานหลานโดยปลอดภัย
แต่ดวงตาของคงหนิงพลันเปล่งประกาย “หว่านเอ๋อจะอยู่ในเมืองเวลากลางคืนเพื่อออกล่าผีร้ายใช่ไหม? ไม่ทราบว่าข้าขอตามมาได้หรือไม่? การล่าสังหารปีศาจเป็นความรับผิดชอบของมนุษย์ทุกคน แม้ว่าข้าจะสู้กับปีศาจไม่ได้ แต่ถ้าเป็นวิญญาณชั่วร้าย คงพอช่วยอะไรได้บ้าง”
เมื่อเห็นว่าหญิงสาวต้องการจะปฏิเสธ คงหนิงก็พูดขึ้นทันทีว่า “ตั้งแต่ข้าตัดสินใจจะฝึกฝน ไม่ช้าก็เร็วต้องได้สู้กับปีศาจร้าย ตอนนี้สามารถต่อสู้ร่วมกับแม่นางหว่านเอ๋อสังหารผีร้าย สะสมประสบการณ์ล่วงหน้า เผื่อว่าในอนาคตหากต้องสู้กับปีศาจจริงๆ จะได้มีแต้มต่อบ้าง”
“ถ้าให้ซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังอย่างมั่นคง ไม่เคยเจอแดดเจอฝน จะก้าวหน้าต่อไปได้อย่างไร?”
คงหนิงพยายามหาเหตุผลมาอธิบาย
หว่านเอ๋อส่ายศีรษะแล้วกล่าวว่า “หัวหน้ามือปราบหนิงเข้าใจผิดแล้ว ข้าไม่ได้กังวลเรื่องความปลอดภัยของหัวหน้ามือปราบหนิง ในเมื่อหว่านเอ๋ออยู่ที่นี่ ก็ไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวผีร้ายธรรมดาๆ”
“หว่านเอ๋อกังวลเกี่ยวกับปีศาจภายในบ้านของหัวหน้ามือปราบหนิง......ปีศาจตนนั้นคงต้องคอยมองอยู่อย่างใกล้ชิด หัวหน้ามือปราบจะหาข้ออ้างออกมาได้อย่างไร?”
คงหนิงยิ้มออกมาเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า “แม่นางหว่านเอ๋อไม่รู้อะไรเสียแล้ว ปีศาจตนนั้นออกจากบ้านทุกคืนและจะไม่กลับมาจนกว่าจะรุ่งสาง ข้าก็แค่ต้องออกไปหลังจากที่นางออกไปแล้ว และกลับบ้านก่อนที่นางจะกลับมาก็เท่านั้น ไม่มีทางที่นางจะรู้ตัว”