ตอนที่17 หิวเกินไปกระมัง?
ตอนที่17 หิวเกินไปกระมัง?
ผู้ดูแลถอยละจากออกไปอย่างเงียบงัน หลี่หวงสาดประกายตามองไปทางทิศที่อีกฝ่ายลาจากด้วยความสงสัย ก่อนจะเดินวนสำรวจภายในห้อง
ห้องรับรองแห่งนี้มีขนาดใหญ่ มีฟูกชั้นหนาไว้สำหรับนอนพักสายตา และพรมหนังสัตว์ราคาแพงวางอยู่ บนโต๊ะมีถาดผลไม้ตามฤดูกาลวางเคียงคู่กับสุรารสเลิศขวดหนึ่ง
ผนังกำแพงด้านข้างและด้านหลังทั้งสามทิศทำจากหินอ่อนวิจิตรตาบดบังแสง ด้านหน้าเป็นกระจกหนาใสบริสุทธิ์ ทำให้สามารถมองเห็นบรรยากาศของโรงประมูลโดยรอบได้อย่างชัดเจน
แต่แน่นอนว่า หากมองจากด้านนอกเข้าไป ย่อมไม่สามารถมองผ่านเข้ามาเห็นภายในห้องได้
ด้านหน้ากระจกถูกจัดเตรียมให้เป็นที่นั่งเบาะหรู ด้านซ้ายเป็นโต๊ะขนาดเล็กที่มีกระดิ่งและป้ายที่ใช้ประมูลอยู่ ดูเหมือนจะถูกจัดเตรียมไว้พร้อมสำหรับใช้ในการประมูลหลังจากนี้
เวลานี้ งานประมูลยังไม่เริ่มต้นขึ้น หลี่หวงจึงได้นั่งลงพลางริมจิบน้ำชาที่ถูกจัดเตรียมไว้ให้อย่างสบายอารมณ์
ภายในห้องรับรองหมายเลขสอง
“พี่เก้า! ไฉนสะใภ้เก้าจึงได้งดงามเพียงนี้?”
หลิงเฟิงเอ่ยทักทามหลินฉางเจวี่ยด้วยสีหน้าที่เปี่ยมล้นไปด้วยความสุข
“พูดมากน่ารำคาญนัก”
แม้จะเอ่ยออกไปเช่นนั้น แต่หลิงฉางเจวี่ยก็ยังคงยืนจับจ้องใบหน้าอันงดงามของหลี่หวงผ่านจอภาพฉายบนผนัง พร้อมกับแย้มยิ้มให้ความรู้สึกอบอุ่นนุ่มนวล
“พี่เก้า ไฉนยังต้องทำเป็นปากแข็งด้วย!”
เมื่อเห็นรอยยิ้มของหลิงฉางเจวี่ย หลิงเฟิงก็อดที่จะล้อเลียนมิได้ เขารับรู้ได้จากรอยยิ้มว่าพี่ชายของเขาผู้นี้กำลังครุ่นคิดอะไรอยู่ภายในใจ
ถึงขนาดมอบห้องรับรองที่ดีที่สุดของโรงประมูลทงเทียนให้กับหญิงสาวเช่นนี้ มีหรือที่ตำแหน่งสะใภ้เก้าในวันข้างหน้าจะหลุดมือไปได้?
แต่...
หลิงฉางเจวี่ยยังคงเอาแต่จับจ้องภาพของหลี่หวง ซึ่งปรากฏอยู่บนภาพฉายตรงหน้าแน่นิ่ง ไม่มีว่อกแว่กเลยแม้แต่น้อย
“พี่เก้า! นี่ท่าน....ข้าว่าท่านหื่นกระหายเกินไปกระมัง? นาง...นางยังเป็นเพียงแค่เด็กสาวเท่านั้น!”
“โป๊ก...!”
หลิงเฟิงโดนเขกกะโหลกดังโป๊กอีกครา จนต้องไปนั่งซึมอยู่มุมห้องพลางน้ำตาคลอเบ้าและพึมพำขึ้นว่า
“พี่เก้า ท่านช่างใจร้ายชะมัด… ไม่ว่าดูอย่างไรท่านก็เป็นพวกคลั่งไคล้เด็กสาวแต่กลับไม่กล้ายอมรับ! ...โอ๊ย! พอแล้ว พอแล้ว! หัวของข้าปูดหมดแล้ว!”
ทันทีที่พูดจบ หลิงเฟิงก็โดนเขกหัวไปอีกหนึ่งที เขาถึงกับลงไปนอนกลิ้งเกลือกพร้อมกับร้องโอดโอยไม่หยุดไม่หย่อน
หลินเฟิงนอนมองพี่เก้าของตนที่กำลังจับจ้องภาพของหลี่หวงบนภาพฉาย สายตาของชายหนุ่มยังคงไม่ขยับเขยื้อนออกไปที่ไหนเลยแม้แต่น้อย
ไม่ว่าจะดูอย่างไร ก็เป็นพวกคลั่งไคล้เด็กชัดๆ!
เนื่องจากภายในห้องรับรองเป็นพื้นที่ส่วนตัว หลี่หวงที่ไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกจับตามองอยู่ จึงได้ถอดเสื้อคลุมชั้นนอกออก ด้วยเหตุนี้ ทั้งหลิงเฟิงและหลิงฉางเจวี่ยจึงได้เห็นอีกฝ่ายอย่างชัดเจน
เฮ้ออ...ในสายตาของหลิงเฟิง พี่เก้าเป็นบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาพี่น้องทั้งหมด มิหนำซ้ำยังเป็นคนที่น่าเบื่อที่สุดอีกด้วย ทั้งยังมีอุปนิสัยเย็นชาไม่ต่างจากน้ำแข็ง แต่ใครจะไปคิดว่า วันหนึ่งเขาจะได้ยินพี่เก้าคนนี้พูดคำว่า ‘พี่สะใภ้เก้าของเจ้า’ ออกมาให้ได้ยินเต็มสองรูหูเช่นนี้?
นี่ช่างเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อยิ่งนัก!
พี่ชายของข้าชอบกินเด็ก!!
กระนั้นหลิงเฟิงก็อดที่ยอมรับจากใจไม่ได้ว่า หลี่หวงนับเป็นเด็กสาวที่ช่างงดงามยิ่งนัก ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่!....แค่คำว่างดงามยังน้อยเกินไป หลี่หวง...นางนั้นเปรียบดั่งเทพธิดาที่จุติลงมาบนผืนพิภพ! ดูประหนึ่งจักรพรรดินีตัวน้อยผู้หยิ่งผยองอวดดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งนัยน์ตาสีม่วงคู่นั้นที่งดงามยิ่งกว่าสิ่งใด แต่ทว่า...มันก็ดูน่าสะพรึงกลัวอย่างบอกไม่ถูกเช่นกัน!
แต่ท้ายที่สุด แม้ว่าหลี่หวงจะงดงามสักเพียงใดก็ตาม ความจริงเรื่องหนึ่งก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง นั่นก็คือนางยังเป็นเพียงแค่เด็กสาวคนหนึ่งเท่านั้น จากที่พินิจดูด้วยสายตาแล้ว นางน่าจะมีอายุเพียงแค่สิบสามปีเองกระมัง เรือนร่างของนางยังไม่เจริญเติบโตเต็มวัยด้วยซ้ำไป
แต่พี่เก้าของเขาผู้นี้ก็ยัง....
หลิงเฟิงเฝ้ามองหลิงฉางเจวี่ยอยู่ครู่หนึ่ง...อายุของคนทั้งคู่นั้นค่อนข้างห่างกันมากจริงๆ
“เจ้ามองอะไร? ยังไม่มานั่งอีก?”
หลิงเฟิงที่กำลังครุ่นคิดกับตัวเองอยู่นั้น จู่ๆก็พลันได้ยินสุ้มเสียงอ่อนโยนของพี่เก้าดังขึ้น เขาตกใจคิดว่าผีหลอกจนถึงกับสะดุ้งเฮือกใหญ่ และแทบล้มลงไปกับพื้นอีกรอบ
“เปล่า เปล่า! ข้าก็แค่มองพี่เก้าสุดหล่อของข้าเท่านั้นเอง! ไป ไป...ไปนั่งประจำที่กันเถิด”
หลิงเฟิงรีบเดินไปนั่งข้างๆหลิงฉางเจวี่ยโดยเร็ว
หยาดเหงื่อหยดหนึ่งรินไหลลากผ่านตั้งแต่หน้าผากลงมาจรดคาง
หากพี่เก้าสามารถคาดเดาความคิดของเขาในเวลานี้ได้ว่า กำลังคิดอะไรอยู่แล้วล่ะก็ มีหวังเรื่องคงไม่จบง่ายๆอย่างแน่นอน
ภายในห้องรับรองหมายเลขหนึ่ง
หลี่หวงย่อมไม่รู้ว่าภายในห้องรับรองหมายเลขสองที่อยู่ติดกันนั้นกำลังเกิดอะไรขึ้นบ้าง นางกำลังนั่งกินผลไม้อย่างเงียบๆ เฝ้ามองบรรยากาศโดยรอบโรงประมูลที่อยู่เบื้องล่าง
จวิ๋นจ้านพาเหล่าผู้อาวุโสของตระกูลจวิ๋นมาถึงที่นี่แล้ว และด้วยฐานะของตระกูลจวิ๋น พวกเขาย่อมต้องมีห้องรับรองพิเศษบนชั้นสองเช่นกัน แต่จากมุมมองของหลี่หวงซึ่งอยู่บนชั้นสี่นั้น ย่อมสามารถมองเห็นอีกฝ่ายได้ชัดเจนแจ่มแจ้งมากกว่า
ส่วนโถงชั้นล่างสุดเวลานี้ ก็อัดแน่นไปด้วยผู้คนมากมาย ดูเหมือนว่าผู้คนจะพากันแห่มาเกือบทั้งเมืองเลยกระมัง