ตอนที่ 251+252 มีเงินหรือเปล่า
ตอนที่ 251 มีเงินหรือเปล่า
เธอจำได้ว่าลู่ชิงสีเคยพูดถึงสถานการณ์ที่ไม่ธรรมดาของตระกูลโจว เหวยฉียังต้องขอความช่วยเหลือจากลู่ชิงสี เพราะเขาไม่มีที่พัก ดังนั้นเหวยฉีไม่ควรนำเงินจำนวนมากออกมาใช้ทีเดียว แม้ว่าเธอจะถามเขา ก็มีแต่จะสร้างปัญหาให้กับเขาเท่านั้น
เจียงเหยาถอนหายใจ หลังจากทำงานหนักทั้งหมดของเธอ ดูเหมือนว่าเธอต้องยอมแพ้เรื่องหุ้น เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณฉินจะขายหุ้นของเขาให้ใคร ถ้าเธอไม่ซื้อจากเขา เธอคงจะมีเรื่องให้ปวดหัวใหญ่อีกครั้งเกิดขึ้นแน่
ในขั้นต้น เจียงเหยากำลังวางแผนที่จะลาเรียนเพื่อไปซื้อหุ้นในวันศุกร์ เธอไม่คาดคิดว่าแผนการของเธอจะล้มเหลว
แม้ว่าจะรู้สึกเสียดาย แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ เจียงเหยารู้สึกท้อแท้เพราะการทำงานหนักของเธอต้องพังทลายลงและกลายเป็นเอื้อประโยชน์ให้กับคนอื่น ดังนั้นเจียงเหยาจึงนอนไม่หลับทั้งคืน เธอใช้เวลาทั้งหมดไปกับการเรียน นอกจากนี้ เธอยังใคร่ครวญว่าควรพามัวออกไปหาเงินหรือไปล่าสมบัติเมื่อไหร่ดี
เธอได้บทเรียนแล้วว่า เราต้องพึ่งพาตัวเองเสมอ เมื่อเรามีเงินอยู่ในมือ แผนการใด ๆ จะไม่พังอีก
เนื่องจากปัญหาทางการเงิน จึงมีการเปลี่ยนแปลงแผนอย่างกะทันหัน เมื่อเจียงเหยาตื่นขึ้นในเช้าวันศุกร์ เธอโทรหาผู้จัดการซุน แจ้งให้เขารู้เกี่ยวกับการไม่ซื้อหุ้นของคุณฉิน
ผู้จัดการซุนได้ยินข่าวก็ตกใจมาก ท้ายที่สุด เจียงเหยารอโอกาสนี้มานาน แต่เธอกลับตัดสินใจยกเลิกทุกอย่าง ผู้จัดการซุนจึงถามเธอเพื่อคำขออธิบาย
“เพราะฉันไม่มีเงินค่ะ! ฉันไม่สามารถเอาเงินออกมาได้ในตอนนี้!” เจียงเหยายังเป็นนายจ้างที่ซื่อสัตย์ที่สุดในโลก เธอรู้สึกหดหู่ใจเมื่อกล่าวถึงเงิน “เกี่ยวกับของที่ฉันฝากไว้กับคุณ ลองสอบถามดูนะคะ แล้วก็ขายมัน เมื่อถึงเวลา”
หลังจากที่เจียงเหยาวางสาย เธอไปเข้าเรียนตามปกติ เธอเป็นผู้หญิงที่มองโลกในแง่ดี เนื่องจากเธอไม่สามารถหาเงินพอที่จะซื้อหุ้นของคุณฉินได้ เธอจึงไม่คิดเรื่องนี้อีก ในระหว่างที่พวกเขาพัก เธอยังถามเหวินเสวี่ยฮุ่ย เรื่องจะไปเที่ยวในช่วงสุดสัปดาห์
ตอนนั้นอากาศเริ่มเย็นลง เจียงเหยาเตือนเหวินเสวี่ยฮุ่ยให้นำแจ็กเกตบาง ๆ ติดตัวไปด้วย ในเขตชนบทกลางวันและกลางคืนอากาศแตกต่างกันมาก
เมื่อพวกเขากำลังคุยกันมีคนมาที่ห้องเรียนเพื่อมาหาเจียงเหยา เจียงเหยาจำชายคนนั้นได้ เพียงแค่ชำเลืองมองครั้งเดียว เขาคือผู้ช่วยส่วนตัวของหวงเฉิงจิ้ง
“คุณหวงมาหาฉันเหรอคะ?” เจียงเหยาพบว่ามันแปลกเพราะหวงเฉิงจิ้งสามารถติดต่อเธอทางโทรศัพท์ได้ ถ้าเขาต้องการอะไรจากเธอ
ผู้ช่วยยิ้มให้กับเจียงเหยา และพูดว่า “คุณหวงสั่งให้ผมนำสิ่งนี้มาให้คุณเจียงครับ”
เจียงเหยารับถุงกระดาษจากมือผู้ช่วยของหวงเฉิงจิ้ง เธอไม่ได้รีบเปิดมัน เพราะเธอคิดว่าเป็นของกิน จึงขอบคุณเขาเพียงเท่านั้น
เจียงเหยาเปิดถึงกระดาษอย่างสบาย ๆ หลังจากที่เธอกลับมานั่งที่ของเธอแล้ว เธอเขย่ามันเบา ๆ และมีกระดาษแผ่นเล็ก ๆ หลุดออกมา เธอหยิบมันขึ้นมาดู เธอแปลกใจว่ามันเป็นสมุดบัญชีเงินฝากและมีโน้ตในนั้น มีเพียงประโยคสั้น ๆ และเรียบง่ายบนโน้ต แต่มันดูมีสีสันและเก๋ไก๋
หลังจากอ่านข้อความในบันทึกย่อนั้นแล้ว เจียงเหยาเปิดสมุดเงินฝากด้วยรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าของเธอ รอยยิ้มขยายกว้างขึ้น ขณะที่เธอนับจำนวนศูนย์ในสมุดเงินฝาก
“เสวี่ยฮุ่ย ฉันมีเรื่องด่วนต้องทำและฉันต้องออกไปข้างนอกสักพัก ไปก่อนนะ” เจียงเหยาเก็บสมุดเงินฝากออก เธอรีบบอกเหวินเสวี่ยฮุ่ยว่าหลังจากที่เธอลากอีกฝ่ายออกจากวงสนทนากับเพื่อนร่วมชั้นของพวกเขาที่อยู่ข้าง ๆ เธอ จากนั้นเธอก็ออกจากห้องเรียนไปโดยไม่ลังเล
เจียงเหยาไม่ได้กลับไปที่ห้องของเธอ เธอโทรหาผู้จัดการซุนทันทีและพูดว่า “แผนการยังเหมือนเดิมค่ะ ฉันจะโอนเงินเข้าบัญชีคุณเดี๋ยวนี้!”
ผู้จัดการซุนฟังเสียงที่ลอดผ่านโทรศัพท์ ไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ที่ชีวิตของเขามีเจ้านายที่พูดและทำสิ่งต่าง ๆ อย่างรวดเร็วเช่นเธอ
__
ตอนที่ 252 ไม่ไปหาเธอ
เจียงเหยาขึ้นรถแท็กซี่ตรงไปโรงพยาบาล ประการแรก เธอต้องไปโรงพยาบาลและไปหาอู๋จง ให้อู๋จงไปหาคุณฉินเป็นเพื่อนเธอ เพราะเธอกลัวว่าหากเธอไปหาคุณฉินเพียงลำพัง คงถูกเขาโยนออกมาจากหน้าประตู
ระหว่างที่แท็กซี่วิ่งไปตามถนนพร้อมกับหัวใจของเจียงเหยาที่เต้นแรงเช่นกัน
เธอไม่เคยคาดหวังว่าหวงเฉิงจิ้งจะให้ความช่วยเหลือเธอในเวลาสำคัญเช่นนี้ โดยที่รู้ว่าเธอมีเงิน เขาจึงขอให้ผู้ช่วยของเขาส่งเงินมาให้เธออย่างเงียบ ๆ เขาทำให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเธอควรจะคืนเงินให้เขาพร้อมกับดอกเบี้ยตามอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารกำหนด หากเงินไม่พอ เธอก็สามารถขอยืมเพิ่มได้เสมอ
อย่างไรก็ตามเจียงเหยาไม่ใช่คนประเภทที่ไม่รู้ว่าแยกแยะ หวงเฉิงจิ้งไม่ใช่คนร่ำรวยที่จะมีเงินแจกจ่ายคนอื่นไปทั่ว หรือต้องการหารายได้จากเธอ เขาเพียงแค่พยายามช่วยเหลือเธอเท่านั้น
ความเมตตาของหวงเฉิงจิ้งถูกจารึกไว้ในหัวใจของเจียงเหยา
เจียงเหยาไม่มีวันลืมความใจดีของเขา ที่ให้ความช่วยเหลือเมื่อเธอต้องการความช่วยเหลือในครั้งนี้ เจียงเหยาจะจดจำมันไว้เสมอ และเธอจะต้องตอบแทนเขาทุกครั้งที่มีโอกาสอย่างแน่นอน
อู๋จงอยู่ที่โรงพยาบาลในตอนกลางวัน เจียงเหยามาพบเขาและขอให้เขาออกไปกับเธอ เธอบอกเขาว่าเธอจะไปพบคุณฉินและอู๋จงก็ไม่ได้ถามอะไรมากเกี่ยวกับเรื่องนี้
เจียงเหยาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดในโรงพยาบาล และถูกเรียกว่าคุณเจียง ดังนั้นเมื่อเธอจางไป เธอจึงขอให้ผู้อำนวยการจัดคนขับรถและรถไปส่งเธอและอู๋จงตรงไปที่บ้านของคุณฉิน
คุณฉินอยู่ที่บ้าน เมื่อแม่บ้านมาบอกว่ามีหญิงสาวต้องการพบเขา เขาก็นึกถึงเจียงเหยาในทันที
“ฉันไม่ออกไปพบเธอ! ไม่มีทาง! แกไม่รู้วิธีบอกกับเธอเหรอว่าฉันไม่อยู่? หน้าโง่!” เมื่อเจียงเหยาปรากฏตัวขึ้น ในใจของคุณฉินก็นึกถึงหมัดหนัก ๆ ของอู๋จงโดยไม่รู้ตัว หมัดของเขาหนักมาก ความโกรธของเขาลุกโชนทันทีและตะโกนใส่แม่บ้าน
คุณฉินกลัว เขากลัวจริง ๆ
ข่าวลือเกี่ยวกับโรงพยาบาลเฉิงอ้ายที่แพร่สะพัดไปทั่วนั้น กับการที่อยู่ ๆ เจียงเหยาก็มาเยี่ยมเขาในวันนี้? เธอต้องมาเพื่อแก้ไขเรื่องข่าวลือที่เขาสร้างขึ้นเพียงเพราะไม่พอใจเขาอย่างแน่นอน
เมื่อข่าวลือแพร่สะพัดออกไป คุณฉินเสียใจกับทุกสิ่งที่ทำลงไปในวันนั้น เป็นความจริงที่เขาพูดออกไปโดยไม่สนใจว่าจะเกิดปัญหาอะไรบ้าง เขาไม่ควรอ้างว่าโรงพยาบาลกำลังจะเลิกกิจการภายใต้การบริหารของผู้ถือหุ้นรายใหม่ เพราะเขาเพียงต้องการแสดงความไม่พอใจของเขาเท่านั้น ใครจะรู้ว่าคำกล่าวของเขาอาจนำมาซึ่งผลที่ไม่อาจทนได้เช่นนี้และทำให้สถานการณ์เลวร้ายได้
เขาได้ทำสิ่งที่สร้างปัญหาให้กับคนอื่นและไม่ได้ประโยชน์แก่ตัวเองเช่นกัน
บรรดาผู้ที่กำลังคิดจะซื้อหุ้นของเขา ต่างก็อ้างว่าขอเวลาตัดสินใจ คุณฉินไม่ได้โง่ เขาเข้าใจว่าพวกเขาพยายามพูดจาสุภาพก็เท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วพวกเขาไม่ได้โง่ แม้แต่จะยอมพบเขาอีกสักครั้ง
ข่าวลือเริ่มแย่ลงทุกวัน แม้แต่หนานเจียงเดลี่โพสต์ก็มีคอลัมน์พิเศษ พูดคุยเรื่องนั้นและตั้งสมมติฐาน คุณฉินกำลังรอให้ผู้ถือหุ้นรายใหม่ออกมาพร้อมกับมาตรการรับมือในช่วงสองวันที่ผ่านมา เขาไม่ได้คาดหวังว่าหญิงสาวจะล้มเหลวในการจัดการจริง ๆ แทนที่จะเคลียร์ข่าวลือ เธอกลับเลือกมาที่นี่เพื่อแก้แค้น!
เพียงคำพูดไม่อาจแสดงออกถึงความเสียใจได้ จู่ ๆ หุ้นที่เขาถือก็ไร้ค่าขึ้นเรื่อย ๆ
สมัยก่อนจะขายหุ้นก็มีคนมาถามซื้อเยอะมาก แต่ตอนนี้ไม่มีใครปรากฏตัวขึ้นเลย
หลังจากได้รับข้อมูลบางส่วนจากผู้ถือหุ้นท่านอื่นแล้ว คุณฉินพบว่าผู้ถือหุ้นรายอื่น ๆ ก็หาคนมาซื้อหุ้นของตัวเองด้วยเช่นกัน โดยทั้งหมดเชื่อว่าโรงพยาบาลจะไม่สามารถอยู่ต่อไป ก่อนที่จะเลิกกิจการ พวกเขาต้องการขายหุ้นออกและลดการขาดทุนอย่างรวดเร็ว ทว่าสิ่งต่าง ๆ ไม่ได้เป็นไปตามที่พวกเขาต้องการ ตอนนี้ไม่มีใครเต็มใจที่จะซื้อหุ้น
แม่บ้านรู้สึกผิดหวังหลังจากถูกตำหนิ จนร้องไห้ออกมา
“หญิงสาวคนนั้นมาเพื่อขอซื้อหุ้นโรงพยาบาลเฉิงอ้ายค่ะ ฉันเห็นว่าท่านกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ฉันเลยอยากมาแจ้งให้ท่านทราบ..”
แม่บ้านพึมพำหลังจากที่เธอร้องไห้ “ถ้าฉันรู้ก่อนหน้านี้ ฉันจะไม่สนใจเสียด้วยซ้ำ”