Ep.6 - อาวุธก็อบลิน
Ep.6 - อาวุธก็อบลิน
[หน้าไม้ก็อบลิน] : อุปกรณ์เลเวล 1 , สีเทาคุณภาพกลาง , การโจมตีทางกายภาพ +2 , ความทนทาน 10 , (ต้องใช้หินคริสตัลเทาสองก้อนในการนำกลับสู่โลกมนุษย์)
“อืม โชคดีจริงๆ ในที่สุดพวกเราก็ดรอปอาวุธได้อีกชิ้น” ทันทีที่เอ่ยจบ ฮังอวี่ก็หันไปทางพงหญ้าแล้วกวักมือ
“เจียงหนานน้อย จะนอนขดเป็นหนอนอีกนานไหม ออกมาได้แล้ว!”
วัยรุ่นสาวสะดุ้ง วิ่งเหยาะๆออกจากพงหญ้า วันนี้เป็นครั้งแรกเลยที่ดาวมหาลัยอย่างเธอถูกล้อเลียน เอ่ยเสียงอ่อนว่า “โธ่พี่มหาเทพ! เรียกฉันเจียงหนานเฉยๆเถอะ!”
ฮังอวี่ไม่สนใจ เขาโยนหน้าไม้และลูกศรให้เธอ
“หน้าไม้นี่ไม่เลว เธอเอาไปใช้ก่อน ต่อไปจะได้ช่วยพวกเราบ้าง”
เจียงหนานพอได้ยินรู้สึกอับอายมาก นับแต่ต้นจนถึงตอนนี้ เธอเหมือนเป็นแค่หนอนน้อยนอนหมอบอยู่ในพงหญ้า เรียกได้ว่าไม่มีประโยชน์ใดๆ แต่อาวุธที่ดรอปได้อย่างยากเย็นชิ้นนี้ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันจะถูกมอบให้เธอ
ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ใด ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ กล่าวได้ว่ามีค่ามาก มันช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตได้อย่างมหาศาล
จ้าวหมิงกับจางเสี่ยวเฉียงเองก็ต้องการหน้าไม้นี่เช่นกัน ตอนนี้อุปกรณ์สวมใส่บนตัวพวกเขาย่ำแย่อย่างถึงที่สุด หากมีมันพกติดตัว อย่างน้อยถ้าตายอาจยังสามารถรักษากางเกงเอาไว้ได้
“ขอบคุณนะ .. ขอบคุณจริงๆ!”
เจียงหนานกอดหน้าไม้เอาไว้แน่น พอมีมัน เธอไม่เพียงรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น แต่ยังสามารถช่วยกันสู้กับคนอื่นๆได้!
ฮังอวี่ไม่ค่อยสนใจอาวุธชิ้นนี้ “อุปกรณ์สีเทาเลเวล 1 ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับพวกเรา คือการเพิ่มความสามารถในการต่อสู้และประสิทธิภาพของทีม”
จ้าวหมิงพยักหน้า “ฉันเห็นด้วย หน้าไม้นี้มอบให้เธอถือว่าเหมาะสมแล้ว”
เห็นทุกคนกล่าวเป็นเสียงเดียวกัน แล้วจางเสี่ยวเฉียงจะกล้าแสดงความคิดเห็นอื่นได้อย่างไร? ถ้าโต้แย้งออกไป กลัวว่ามหาเทพคงจะไม่ให้เขาติดตามไปด้วย “ใช่ๆ ถูกอย่างที่ลูกพี่พูด”
อันที่จริงแล้วด้วยผลงานการต่อสู้ของฮังอวี่ตลอดทางที่ผ่านมา แม้ตัวเขาจะฮุบอุปกรณ์ทุกชิ้นที่ดรอปไว้เป็นของตัวเองเพียงผู้เดียว ทุกคนก็ไม่กล้าโต้แย้งใดๆ
ยิ่งตอนนี้เขาเลือกที่จะเพิ่มประสิทธิภาพของทีม ลดภาระคนอื่นๆ เพิ่มพลังรบโดยรวม จ้าวหมิงกับจางเสี่ยวเฉียงก็ยิ่งยอมรับง่ายกว่าเดิม
ต่อมา ฮังอวี่นำทีมไปข้างหน้า ระหว่างทางบังเอิญเจอพุ่มไม้หนึ่งที่แปลกออกไป เขาพบว่ามีผลไม้สีฟ้าและแดงสองสามลูกออกผลอยู่ประปรายบนพุ่ม รูปทรงของพวกมันกลมมน มีขนาดเท่าครึ่งกำปั้น และมีก็อบลินกำลังยื่นมือเด็ดอยู่
ก็อบลินลาดตระเวนถูกกำจัดแล้ว ตอนนี้ถึงตาของก็อบลินหน่วยเสบียงบ้าง
ก็อบลินหกตัวกำลังถือกระบองไม้กวาดซ้ายกวาดขวาเข้าไปในพุ่มไม้ เนื่องจากพวกมันมีสีเขียวใกล้เคียงกับพืชโดยรอบมากเกินไป บางทีหากทำภารกิจอยู่ข้างใน แล้วบังเอิญจ๊ะเอ๋กัน อาจตกใจจนเผลอโจมตีกันได้
ซึ่งพละกำลังของก็อบลินหน่วยเสบียงค่อนข้างแข็งแกร่ง ถูกกระบองไม้ของมันหวดลงทีเดียวคงได้กลายเป็นง่อย อันตรายมาก!
“ก็อบลินหน่วยเสบียงอยู่รวมกลุ่มกันค่อนข้างเยอะ คงเป็นเรื่องยากที่จะจัดการกับพวกมัน” ฮังอวี่เสร็จสิ้นการสอดแนม ถอยกลับมาแล้วบอกทุกคน “นอกจากนี้ ก็อบลินหน่วยเสบียงยังมีพลังโจมตีสูง โล่ป้องกันของลุงจ้าวสามารถทนรับลูกศรจากหน้าไม้ได้สามดอก แต่ถ้าเป็นการโจมตีจากกระบองไม้ คงรับได้ไม่เกินสองครั้งเท่านั้น พวกเราจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์เพื่อกำจัดหน่วยเสบียง”
“พวกมันไม่มีความสามารถในการโจมตีระยะไกล” จ้าวหมิงเสนออย่างใจเย็น “งั้นพวกเราเล็งตัวที่อยู่แยกออกมาจากกลุ่มก่อนดีไหม ใช้ประโยชน์จากข้อเสียเปรียบที่พวกมันโจมตีระยะไกลไม่ได้ กำจัดตัวนึงก่อนที่ตัวอื่นๆจะเข้ามา”
จางเสี่ยวเฉียงร้องสนับสนุนอย่างรวดเร็ว “ผมเห็นด้วย! นี่เรียกว่าการกระตุกเอ็นล่อปลา ผมเคยใช้มันบ่อยๆตอนเล่นเกม”
“แบบนั้นไม่ได้หรอก การโจมตีในระยะไกลของพวกเรายังทำได้ไม่ดีมากพอ อย่างลูกไฟของนายมันมีระยะเวลาคูลดาวน์นานไป ส่วนหน้าไม้ของเจียงหนานก็ทำดาเมจได้ไม่เยอะ ไหนจะภูมิประเทศกันดารไม่อำนวย พวกเราไม่มีทางวิ่งเร็วกว่าพวกก็อบลิน ถ้าใช้แผนนั้น น่ากลัวว่าจะฆ่าตัวอื่นๆไม่ทันแล้วเป็นฝ่ายถูกกำจัดซะเอง” ฮังอวี่ปฏิเสธ
เจียงหนานกอดหน้าไม้ของเธอแน่นแต่ไม่ได้เสนอข้อคิดเห็นใดๆ เวลานี้เธอประหม่าจริงๆ เพราะก่อนหน้านี้คอยหมอบตลอดเวลา พอได้ลงสนามจริงครั้งแรกจึงตื่นกลัว
“พวกเราจะใช้ประโยชน์จากภูมิประเทศกันดารและต้นไม้ในบริเวณใกล้เคียง” ฮังอวี่สังเกตรอบๆ สายตาเขาหยุดลงบนก้อนหินใหญ่ หินก้อนนี้สูงประมาณสามเมตร รอบด้านไม่มีหินหรือไม้ต้นอื่น
“ฉันกับลุงจ้าวจะรับหน้าที่ลากมอนสเตอร์ ส่วนเธอกับเสี่ยวเฉียง สองคนปีนขึ้นไปบนก้อนหินคอยโจมตีสนับสนุน”
ทั้งสามพอได้ฟังก็เข้าใจกลยุทธ์ของฮังอวี่ทันที หลังจากสมาชิกสายโจมตีไกลปีนขึ้นไปบนก้อนหิน จ้าวหมิงก็ทำหน้าที่ลากมอนสเตอร์มา
จำนวนก็อบลินหน่วยเสบียงมีเยอะมาก การโจมตีก็รุนแรง จะเสียก็ตรงที่มันรูปร่างเตี้ย ปีนป่ายไม่เก่ง ขณะที่หินใหญ่ก้อนนี้ บนผิวเต็มไปด้วยมอสเขียว ตอนสู้กัน โอกาสที่พวกมันจะปีนขึ้นมาถึงแทบไม่มี คงได้แต่วนเวียนวิ่งไล่ตามจ้าวหมิงกับฮังอวี่อยู่ด้านล่างเท่านั้น
เท่ากับว่าจางเสี่ยวเฉียงกับเจียงหนานสามารถคอยโจมตีระยะไกลได้อย่างไม่ต้องพะวงใดๆ
ระยะเวลาคูลดาวน์ลูกไฟของจางเสี่ยวเฉียงคือ 20 วินาที ส่วนการโจมตีด้วยหน้าไม้ของเจียงหนานน้อย ถึงเบามากก็จริง แต่ไม่มีระยะเวลาคูลดาวน์ ลูกศรสามดอกนี้น่าจะช่วยให้ฆ่าได้หนึ่งตัว แผนรวมๆก็จะประมาณนี้
จ้าวหมิงกางโล่พลังงานเพื่อดึงดูดความสนใจ ฮังอวี่มีหน้าที่คอยลอบโจมตีจากด้านหลัง สุดท้ายสามารถบรรลุภารกิจได้อย่างราบรื่น
ก็อบลินหน่วยเสบียงพวกนี้มีอัตราการดรอปที่สูงมาก เกือบทุกตัวเมื่อตายลง บอลแสงหนึ่งถึงสองลูกจะปรากฏขึ้น
ฮังอวี่หยิบของดรอปทั้งเก้าชิ้นออกมาดูทีละรายการ พบว่าเป็นผลไม้สีฟ้าและแดงหกลูก หินคริสตัลเทาสองก้อน และอาวุธกระบองไม้
[ผลเบอร์รี่แดงของก็อบลิน] จำนวนสองลูก ต้องกินในสภาวะที่ไม่อยู่ในระหว่างการต่อสู้ ช่วยฟื้นฟูพลังชีวิตได้ 5 หน่วย
[ผลเบอร์รี่ฟ้าของก็อบลิน] จำนวนสี่ลูก ต้องกินในสภาวะที่ไม่อยู่ในระหว่างการต่อสู้ ช่วยฟื้นฟูพลังจิต 5 หน่วย
[กระบองก็อบลินสภาพชำรุด] เลเวล 1 , สีเทาคุณภาพต่ำ , การโจมตีทางกายภาพ +2 , ค่าความทนทาน 10 (ต้องใช้หินคริสตัลเทาหนึ่งก้อนในการนำกลับสู่โลกมนุษย์)
ผลเบอร์รี่เหล่านี้สามารถใช้กินได้ ช่วงเริ่มเกมถือเป็นเสบียงสำคัญ
ฮังอวี่แจกจ่ายผลเบอร์รี่ฟ้าสองลูกให้จางเสี่ยวเฉียง ค่าพลังจิตของอีกฝ่ายใกล้หมดแล้ว ถึงเวลาเติมในส่วนที่สูญเสียไปกลับคืนมาเสียที
สำหรับอาวุธ [กระบองก็อบลิน] เนื่องจากฮังอวี่มีดาบสั้นอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงมอบมันให้แก่จ้าวหมิง
ในบรรดาสามคนนี้ จ้าวหมิงคือบุคลากรคุณภาพที่สุด มีความสามารถป้องกันที่แข็งแกร่ง หากได้รับกระบองไม้นี้ จะมากหรือน้อยก็น่าจะสร้างผลงานได้ดีขึ้น
ส่วนผลไม้และหินคริสตัลที่เหลือ ฮังอวี่ยัดใส่กระเป๋าตัวเอง แล้วนำทีมเข้าสู้ต่อ
เวลาล่วงเลยถึงช่วงตกเย็น ก็อบลินที่อยู่นอกหมู่บ้านก็ถูกกำจัดทิ้งทั้งหมด
หลังจากการต่อสู้ ฮังอวี่ได้รับผลเบอร์รี่มาอีกสิบกว่าลูก และหินคริสตัลเทาอีกสองสามก้อน ที่เหลือก็ไม่มีอะไรอีก
ทั้งสี่กลับมาถึงทางเข้าหมู่บ้าน เจียงหนานชะโงกหน้ามองเข้าไปข้างใน กระซิบเสียงเบา “ดูเหมือนจะเหลือก็อบลินแค่สามตัว”
ตรงกลางหมู่บ้าน มีก็อบลินสามตัวกำลังเดินเตร่ ระหว่างการต่อสู้พวกเขาได้สังหารก็อบลินไปหลายสิบตัว ตอนนี้ความหวาดกลัวในสัตว์ประหลาดก็อบลินไม่ได้ลึกล้ำเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว
“หีบสมบัติ! นั่นมันหีบสมบัตินี่!” จางเสี่ยวเฉียงสังเกตเห็นว่ากลางหมู่บ้าน มีหีบทองแดงตั้งอยู่
แม้หีบนี้จะดูเก่ามาก แต่มันกลับถูกปกคลุมไปด้วยแสงจางๆ เปล่งกลิ่นอายของมนต์ขลังชวนให้หลงใหลออกมา ทำให้ผู้คนแทบอดใจไม่ไหวที่จะเข้าไปใกล้เพื่อเปิดดูมัน
จางเสี่ยวเฉียงตื่นเต้นมาก “อาจจะมีขุมทรัพย์อยู่ข้างในก็ได้!”
ฮังอวี่พยักหน้า “หีบสมบัตินั่นมีค่ามาก ข้างในมักเป็นของดี และนี่คือหนึ่งในเหตุผลหลักที่ฉันเลือกโจมตีหมู่บ้านก็อบลินนี้”
“งั้นจะรออะไรอยู่ล่ะ?” จางเสี่ยวเฉียงคล้ายเห็นหีบสมบัติกำลังกวักมือเรียกเขา “แค่ก็อบลินสามตัว พวกเราเข้าไปฆ่ามันกันเถอะ!”
“ฉันว่าอย่าพึ่งทำอะไรบุ่มบ่ามเลยดีกว่า” จ้าวหมิงขมวดคิ้วและกล่าวว่า “นายไม่สังเกตเห็นหรอ ก็อบลินสามตัวนี้ไม่เหมือนกับพวกที่ออกไปข้างนอก มีบางอย่างต่างออกไป”
สายตาเฉียบคมจริงๆ! นี่สินะเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงสามารถขึ้นเป็นประธานบริษัทจดทะเบียนได้!
หากตรงนี้มีแค่จางเสี่ยวเฉียงคนเดียว เกรงว่าเจ้าตัวคงพุ่งเข้าไปแล้ว และคงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองตายได้ยังไง
“ครั้งนี้คงไม่ง่ายแล้ว” สีหน้าของฮังอวี่ดูจริงจังขึ้นมาอย่างหาได้ยาก “มีมอนสเตอร์ชั้นยอดตัวหนึ่งอยู่ในกลุ่มพวกมัน!”