398 - เรือรบแดงม่วง
398 - เรือรบแดงม่วง
เย่ฟ่านออกจากโลกใบเล็กๆและรีบเดินทางออกจากดินแดนแห่งนี้อย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้
“มีคนตามมา!”
การรับรู้ทางจิตวิญญาณของจักรพรรดิดำมีความเฉียบคมเป็นอย่างมาก และมันสัมผัสได้ว่าใครบางคนกำลังติดตามพวกเขาอยู่
ทันใดนั้นเมฆบนท้องฟ้าก็ถูกเขย่าออกไป ปราณอสูรพุ่งพล่านราวกับว่าอสูรผู้ยิ่งใหญ่บางคนกำลังไล่ตามพวกเขาอยู่
“วู้ วู้”
เสียงกระแสลมอันรุนแรงที่ตัดผ่านท้องฟ้าพุ่งตรงมาหาพวกเขา
เงาสีม่วงขนาดใหญ่ที่มีลักษณะคล้ายก้อนเมฆปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของเย่ฟ่าน
เมื่อก้อนเมฆถูกแหวกออกพวกเขาจึงเห็นว่าสิ่งที่ปรากฏออกมาคือเรือรบขนาดใหญ่นั่นเอง
"มันคือเรือรบแดงม่วงของเผ่าพันธุ์อสูร!" ใบหน้าของตู้เฟยจมลง เขารู้สึกได้ถึงบางสิ่งที่แย่มาก
เรือรบลำนี้รับรองว่าไม่ใช่สหายของพวกเขาแน่ๆ
“สามลำ พวกมันมีถึงสามลำ!” ตู้เฟยรู้สึกประหลาดใจอีกครั้ง
มีเรือรบแดงม่วงทั้งหมดสามลำเห็นได้ชัดว่ามีเจตนาดุร้าย
"ใครเป็นเจ้าของเรือรบพวกนี้" เย่ฟ่านถาม
"ข้ารู้เพียงว่ามันเป็นของอสูรแต่ไม่รู้ว่าเป็นของเผ่าพันธุ์ใดกันแน่ " ตู้เฟยชตอบกลับ
“ไม่ต้องเดาแล้ว” เย่ฟ่านมองขึ้นไปบนฟ้า
ตอนนี้มีชายหนุ่มที่หล่อเหลาคนหนึ่งยืนอยู่บนเรือรบ เขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหงส์ขาว
“เขานำผู้ช่วยมามากมาย”
มีผู้ฝึกฝนเผ่าพันธุ์อสูรมากมายบนเรือรบ เห็นได้ชัดว่าไม่มีใครอ่อนแอ พลังอสูรของพวกเขาแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก
บนเรือรบอีกลำชายหนุ่มเสื้อคลุมสีเขียวยืนอยู่ตรงนั้นด้วยรอยยิ้มพร้อมกับผู้ติดตามอีกนับร้อย เขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากไผ่ขม
และแน่นอนว่าบนเรือรบอีกลำย่อมเป็นของปีกทองอย่างไม่ต้องสงสัย
"พวกเจ้าต้องการอะไร?" ตู้เฟยถาม
ปู่ของเขาคือมหาโจรลำดับที่เจ็ดซึ่งเป็นพี่น้องร่วมสาบานกับราชามังกรเขียว บุคคลทั้งสามที่ได้ตามพวกเขามานั้นเป็นเพียงลูกหลานของคนรับใช้ราชามังกรเขียว
สถานะพวกเขาแตกต่างกันอย่างยิ่ง
“พวกเราไม่ได้คิดร้ายต่อพี่ตู้ แต่มีเรื่องจะพูดกับน้องชายเย่”
คนที่ส่งเสียงคือหงส์ขาว เย่ฟ่านดูสงบและถามว่า
"เจ้าต้องการจะพูดอะไร"
"เมื่อเจ้าจากไปสมบัติของข้าชิ้นหนึ่งได้หายไปด้วย ข้ารู้ดีว่าตัวเจ้าเป็นคนขโมยไปดังนั้นจึงต้องติดตามเจ้าเพื่อมาเอาคืน" หงส์ขาวกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง
“ไอ้พวกสาระเลว?” ตู้เฟยคำราม
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับพี่ตู้ พวกเราเพียงแค่ต้องการสมบัติจากตัวเขาเท่านั้น” ปีกทองคำรามด้วยความอวดดี
“พวกเจ้าเพียงแค่ต้องการแย่งชิงสมบัติของข้าเท่านั้น จะเข้ามาก็เข้ามา เลิกลีลาได้แล้ว” เย่ฟ่านเย้ยหยัน
ไผ่ขมสวมเสื้อคลุมสีเขียวกล่าวอย่างใจเย็น
"ร่างกายของเจ้ามีสิ่งประดิษฐ์ของเผ่าพันธุ์อสูรอย่างแน่นอน เราจะให้ความยุติธรรมแก่เจ้า แต่ต้องพาเจ้ากลับไปเพื่อให้ผู้อาวุโสเผ่าพันธุ์อสูรสอบสวนอย่างหนัก"
หัวใจของเย่ฟ่านสั่นไหว เขานึกถึงอสูรแก่ๆสองสามตัวที่ทำหน้าที่เฝ้าสมบัติของราชามังกรเขียว คนพวกนั้นเห็นได้ชัดว่าไม่มีเจตนาดีต่อเขา
"พวกเจ้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสมบัติคืออะไรยังกล้าจะสาดโคลนใส่ข้า?"
“จานรวมดาราผู้ยิ่งใหญ่อยู่ที่เจ้าแล้ว วันนี้เจ้าต้องถูกนำตัวกลับไป” หงส์ขาวตะโกน
“เจ้าคิดว่าเจ้าขโมยสมบัติแล้วจะหนีไปได้” ปีกทองสนับสนุน
“พูดอะไรไปก็ไร้ประโยชน์ เจ้าต้องตามเรากลับไป!” ไผ่ขมตะโกนออกมา
เรือรบทั้งสามลำปลดปล่อยตาข่ายขนาดใหญ่ยิงเข้าหาเย่ฟ่าน
ตาข่ายขนาดใหญ่ที่ถักทอด้วยพลังงานทางวิญญาณตกลงมา แต่ร่างกายของเย่ฟ่านกลายเป็นหนึ่งเดียวกับความว่างเปล่า ตาข่ายพวกนั้นไม่สามารถดักจับเขาได้
“ทำลายเรือรบก่อน” จักรพรรดิดำคำรามและโยนธงค่ายกลมากมายออกไป
"หนีก่อน ต่อให้ฆ่าพวกตัวเล็กได้อสูรแก่ๆพวกนั้นก็ยังจะตามมาอยู่ดี!" เย่ฟ่านส่งเสียง
เขาได้ยินคำพูดของไผ่ขมเมื่อสักครู่นี้ เห็นได้ชัดว่าคำสั่งนี้ถูกถ่ายทอดมาจากอสูรแก่ๆเหล่านั้น
“พี่ใหญ่ตู้ รีบไปเถอะ” เย่ฟ่านเร่งเร้า
"แล้วเจ้าล่ะ?"
“พวกเขาตามข้าไม่ทันหรอก” เย่ฟ่านพูดจบก็ออกวิ่งอย่างรวดเร็ว
ตู้เฟยไม่กล้าที่จะอยู่เป็นเวลานาน เขาพยายามอย่างเต็มที่ที่จะหลบหนีและหายตัวไปในพริบตา
แม้ว่าปู่ของเขาจะเป็นมหาโจรลำดับที่เจ็ด แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะยับยั้งภาคเหนือทั้งหมดได้ หากอสูรแก่ๆโผล่ออกมามันจะสายเกินไปที่เขาจะออกจากที่นี่
เห็นได้ชัดว่าหงส์ขาว ปีกทอง และไผ่ขมไม่ต้องการที่จะขัดแย้งกับตู้เฟย และพวกเขาไม่ได้วางแผนที่จะไล่ล่าสุนัขสีดำตัวใหญ่ พวกเขาทั้งหมดรีบไปในทิศทางเดียวกับเย่ฟ่าน
“เย่ฟ่านเจ้าหนีไม่พ้นหรอก แม้ว่าทักษะการเคลื่อนไหวของเจ้าจะยอดเยี่ยม มันจะสามารถเปรียบเทียบกับเรือรบแดงของพวกเราได้อย่างไร” เจตนาสังหารฆ่าของหงส์ขาวไม่มีขอบเขตและไม่มีเจตนาปกปิดอีกต่อไป
ไผ่ขมและปีกทองยังสั่งให้ผู้คนเร่งความเร็วของเรือให้ติดตามเย่ฟ่านไปอย่างไม่ลดละ
ขณะนี้เย่ฟ่านอยู่ที่ความเร็วของตำหนักเต๋า แต่เขาไม่สามารถกำจัดเรือรบแดงออกไปได้ และระยะห่างของพวกเขาก็ใกล้กันเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ
"เจ้ากำลังระดมคนจำนวนมากเพื่อฆ่าคนและแย่งชิงสมบัติ" เย่
ฟานเสียดสี
“เราไม่ได้ต้องการแย่งชิงสมบัติของเจ้า เป็นเจ้าขโมยสมบัติของเราก่อนพวกเราจึงต้องมาเอาคืน” หงส์ขาวตอบ
“ไม่มีคนอื่นอยู่ที่นี่แล้วพวกเจ้ายังจะเสแสร้งอยู่อีก” เย่ฟ่านเย้ยหยัน
"ถ้าเจ้าเข้าใจแบบนั้นก็ตามใจเจ้า แต่ไม่ว่าจะอย่างไรพวกเราจะต้องจับตัวเจ้ากลับไปอย่างแน่นอน"
“พวกเจ้าทั้งสามจดจำไว้ ในเวลาอีกไม่นานความแค้นครั้งนี้ข้าจะต้องชำระคืนอย่างแน่นอน” เย่ฟ่านพูดอย่างเย็นชา
"เจ้าจะพูดถึงอนาคตอะไรอีก เจ้ายังคิดว่าวันนี้จะหนีไปไหนได้" ไผ่ขมเยาะเย้ยออกมา
เย่ฟ่านไม่พูดอะไรอีก เขาเปิดหม้อวิเศษของเขาออกและนั่งอยู่ด้านในพลางขับเคลื่อนให้มันหลบหนีไปด้วย
หงส์ขาว ปีกทอง และไผ่ขมเห็นของวิเศษที่ถูกสร้างขึ้นจากปราณปฐพีต้นกำเนิดก็รู้สึกอิจฉาเป็นอย่างมาก
“เจ้าขโมยสมบัติลับของตระกูลข้า เจ้าตายแน่” หงส์ขาวกล่าว
“หากเจ้ามีความสามารถก็รีบเข้ามา!” เย่ฟ่านเย้ยหยัน
ถ้าจะพูดกันตามตรงปีกทองนั้นตรงไปตรงมากว่ามาก เจตนาฆ่าของเขาถูกเปิดเผยออกมาอยู่ตลอดเวลา และเขาไม่สนใจที่จะเล่นลิ้นคารมเหมือนกับพวกหงส์ขาว
"ข้าไม่ต้องการที่จะพูดอะไรกับคนตาย เอาหม้อวิเศษของเจ้ามา!"
เขาอ้าปากและพ่นแสงสีทองออกมา แสงนั้นกลายเป็นสายฟ้าสีทองที่ยิงเข้าหาเย่ฟ่าน
“ชัว!”
เย่ฟ่านหลบหลีก ศัตรูอยู่ในตำหนักเต๋าชั้นห้าซึ่งสูงกว่าเขาสามอาณาจักร เย่ฟ่านไม่ได้เกิดความลังเลอะไรและเรียกใช้ญาณวิเศษลึกลับทั้งเก้าเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวเองสิบเท่าทันที
“ราชาเผิงน้อยปีกทองนั้นหยิ่งผยอง มันเป็นเรื่องน่าขันที่ต้องต่อสู้กับเจ้าในระดับเดียวกัน” ไผ่ขมส่งเสียงด้วยรอยยิ้ม "เราไม่ทำอย่างนั้น มีแต่คนโง่เท่านั้นที่เปิดโอกาสให้กับคนอื่น!"
“นั่นแสดงให้เห็นว่าเจ้าไม่สามารถเทียบได้กับราชาเผิงน้อยปีกทองยังไงล่ะ เจ้าทำได้เพียงร่วมมือกันอย่างไร้ยางอายเพื่อตามล่าข้า”
ในขณะที่เย่ฟ่านกล่าว เก้าญาณวิเศษลึกลับก็ถูกกระตุ้นสำเร็จและความเร็วของเขาก็เพิ่มขึ้นทันทีเป็นสิบเท่า
เย่ฟ่านกระโดดขึ้นไปบนเรือรบแดงม่วงลำหนึ่งพร้อมกับปลดปล่อยเปลวไฟอันมากมายมหาศาลออกมาจากเตาเทพอัคคี
ความเร็วของเขานั้นน่าเหลือเชื่อเป็นอย่างมากและแม้แต่อาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่บินได้เช่นเรือรบแดงม่วงก็ยากที่จะตามให้ทัน
และในตอนนี้ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่า มันกลายเป็นสิ่งที่ผู้ฝึกตนอาณาจักรตำหนักเต๋าไม่สามารถเทียบได้อีกต่อไป