ตอนที่10 นายน้อยผู้ลึกลับ
ตอนที่10 นายน้อยผู้ลึกลับ
“ข้ามากับพี่เก้า แม่นางท่านนั้นคือใคร? ข้ามิได้เห็นท่านกับอาวุโสผู้ประเมินราคาเนื้อเต้นเช่นนี้มาเนิ่นนานแล้ว”
ชายหนุ่มผู้ที่ถูกเรียกขานว่า นายน้อย จับจ้องผู้ดูแลด้วยสีหน้าที่อยากรู้อยากเห็นเป็นอย่างยิ่ง
“ชายชราเช่นข้าเองก็มิทราบเช่นกัน แม่นางท่านนี้คล้ายว่าไม่ต้องการเปิดเผยตัวตน ทว่าอย่างไรนางก็มาขายโอสถให้แก่โรงประมูลของเราเป็นจำนวนมาก และโอสถเหล่านั้นก็หาใช่ธรรมดาไม่เลย”
“โอ้? ช่างน่าทึ่งยิ่งนัก เช่นนั้นพานางมาพบข้าที!”
ดวงตากลมโตของชายหนุ่มผู้นั้นฉายแววสนอกสนใจขึ้นมาทันที ประหนึ่งว่ากำลังพบเจอเหตุการณ์แปลกใหม่
“เสี่ยวเฟิง อย่าพูดจาเหลวไหล”
สุ้มเสียงอ่อนโยนราวกับหยกดังขึ้นมาจากเบื้องหลังฉากกั้น
หากหลี่หวงอยู่ในที่แห่งนี้ด้วย นางคงจะทราบได้จากสุ้มเสียงนั้นทันทีว่า ชายหนุ่มอีกคนที่ซ่อนตัวอยู่หลังฉากกั้นนั้นก็คือ ชายหนุ่มผู้เดียวกับที่ซ่อนตัวอยู่ในห้องของนางครานั้น!
หลิงฉางเจวี่ย!
“โถ่ว... เช่นนั้นลุงฝูมีธุระอะไรก็ไปทำต่อเถิด”
เมื่อเสี่ยวเฟิงได้ยินหลิงฉางเจวี่ยเอ่ยห้ามปรามออกมาเช่นนั้น เขาก็ปั้นหน้าบูดเบื่อหน่ายออกมาเล็กน้อย และได้แต่เก็บเอาความอยากรู้อยากเห็นทั้งหมดไว้ภายในใจ พร้อมกับโบกมือไล่ให้ลุงฝูกลับไปทำงานของตนเองต่อ
“ขอรับ”
เมื่อลุงฝูเดินจากไปแล้ว ชายหนุ่มผู้นั้นจึงได้เอ่ยถามด้วยความสงสัยขึ้นในทันที
“พี่เก้า ไฉนท่านจึงมิให้ข้าไปพบกับแม่นางผู้นั้นเล่า?”
อย่างไรเสีย เสี่ยวเฟิงกลับไม่ได้รับคำตอบกลับมาในทันที
ผ่านไปเนิ่นนานชั่วระยะ ชายหนุ่มหลังฉากจึงได้เอ่ยตอบขึ้นว่า
“แม่นางผู้นั้นเต็มไปด้วยคมหนามทั่วร่าง หากเจ้าเดินไปพบนางสุ่มสี่สุ่มห้าอาจถูกหนามแทงโดยไม่รู้ตัว”
น้ำเสียงของเขาฟังดูน่าสนใจมากขึ้น
“ถูกหนามทิ่มแทง? นี่นางเป็นเม่นหรืออย่างไร? พี่เก้า! ท่านหลอกข้าอีกแล้วนะ!”
“ครานี้ข้ากลับมิได้หลอกลวงเจ้าจริงๆ”
ชายหนุ่มกล่าวตอบไปเพียงเท่านั้น และไม่อธิบายขยายความอันใดเพิ่มเติม
ปล่อยให้นายน้อยผู้นี้ชักสีหน้างุนงง ไม่รู้จะทำอย่างไรเช่นกัน
หลิงฉางเจวี่ยแหวกม่านซึ่งเป็นฉากกั้นออก เบื้องลึกในแววตาสาดฉายปรากฏเป็นเงาหน้าของหลี่หวง เขาแสยะยิ้มมุมปากขึ้นเล็กน้อย
สาวน้อย เจ้าเปลี่ยนไปมากจริงๆ
ณ โถงชั้นในของห้องรับรอง
“มีเหรียญม่วงทองอยู่ทั้งหมดห้าร้อยเหรียญ ข้าได้นำฝากเข้าไปในบัตรใบนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว”
ผู้ดูแลส่งมอบบัตรสีทองและป้ายตราแผ่นหนึ่งให้กับหลี่หวง
“นี่เป็นหลักฐานสำหรับแสดงตัวตนของแขกผู้มีเกียรติในโรงประมูลทงเทียนของเรา การประมูลจะถูกจัดขึ้นในอีกเจ็ดวันให้หลัง เมื่องานประมูลสิ้นสุดลง คุณผู้หญิงสามารถเข้ามารับเงินได้ทุกเมื่อ”
“ขอบใจ เช่นนั้นข้าขอตัว”
หลี่หวงไม่อยากอยู่ที่นี่นานไปกว่านี้แล้ว นางรับบัตรสีทองคำกับป้ายตรามาแล้วเดินจากไปทันที
แต่จู่ๆนางก็ทำท่าทางคล้ายนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงได้เหลียวกลับมาเอ่ยถามขึ้นว่า
“ท่านผู้ดูแล ช่วงนี้มีงานประมูลแหวนบ้างมิติหรือไม่?”
“แน่นอนคุณผู้หญิง หลังเจ็ดวันนับจากงานประมูลโอสถของท่าน ก็จะมีการประมูลแหวนมิติวงหนึ่ง”
ผู้ดูแลยิ้มให้และตอบกลับไปตามตรง เพราะเขาไม่คิดว่า การเปิดเผยสิ่งประมูลล่วงหน้านั้นจะใช่เรื่องต้องห้ามตรงไหน
“ขอบคุณมาก”
หลี่หวงหมุนกายเดินจากออกไปอย่างรวดเร็ว พร้อมตบโอสถไร้ชีพจรเข้าไปอีกหนึ่งเม็ด
“ผู้อาวุโสฝู แม่นางท่านนี้หาใช่ธรรมดาไม่เลย”
ผู้ประเมินราคารีบตรงไปหาผู้ดูแลในทันที
“นางไม่ธรรมดาเลยจริงๆ และดูเหมือนว่านายน้อยจะดูสนอกสนใจนางมากเช่นกัน”
“นายน้อยมาที่เมืองหงเฟิงอย่างนั้นรึ?!”
ผู้ประเมินราคาถึงกับปั้นหน้าตื่นตระหนกตกใจ
“ถูกต้อง เวลานี้อยู่ด้านในแล้ว”
ผู้ดูแลพยักหน้า
“เจ้าเด็กนั่น! ตอนแรกบอกข้าว่าจะไปศึกษาศาสตร์หลอมกลั่นโอสถ หายหน้าหายตาไปห้าปี ใครจะไปรู้ว่าจะกลับมาอีหรอบนี้!”
ผู้ประเมินราคาพับแขนเสื้อขึ้นทันที ทำท่าทำทางราวกับกำลังจะไปหาเรื่องผู้คน
“ไม่ได้! ไม่ได้! ไหนๆไอ้เด็กเหลือขอนั่นก็กลับมาแล้วทั้งที ตาเฒ่าอย่างเราก็เริ่มคันไม้คันมือขึ้นมา!”
ผู้ดูแลปรายตามองสหายเก่าแก่ผู้นี้ที่กำลังเดินอารมณ์ฉุนเฉียวเข้าไปด้านใน พร้อมกับส่ายหน้าไปมามิรู้ว่าควรจะหัวเราะ หรือว่าร้องไห้ดี
“แต่ครั้งนี้ท่านใต้เท้าก็มาด้วย หรือจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกันแน่?”
ผู้ดูแลรำพึงรำพันกับตัวเอง
.....
เช้าวันรุ่งขึ้น หลี่หวงตื่นขึ้นมาจากห้วงนิทราอันแสนสบาย
เมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่า ตนเองกำลังใช้ชีวิตที่สุดแสนจะมีความสุขในเรือนกว้างอันหรูหรา
หลังจากล้างหน้าล้างตาแต่งตัวเสร็จ นางก็เดินไปเปิดประตูเพื่อสูดอากาศยามเช้า แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเรือนว่างเปล่าในอดีต ยามนี้กลับเต็มไปด้วยผู้คนมากมายมารวมตัวกัน!
“คุณหนูใหญ่ บ่าวมาส่งเสื้อไหมแพรพรรณให้เจ้าค่ะ”
“คุณหนูใหญ่ ฮูหยินใหญ่ส่งบ่าวมาปรนนิบัติคุณหนูเจ้าค่ะ!”
“คุณหนูใหญ่ ฮูหยินรองส่งให้บ่าวมาปรนนิบัติท่านเจ้าค่ะ!”
“คุณหนูใหญ่ บ่าวมาตัดแต่งสวนหน้าเรือนให้ใหม่เจ้าค่ะ คุณหนูต้องการลวดลายอันใดเป็นพิเศษหรือไม่เจ้าคะ?”
“คุณหนูใหญ่ บ่าวเป็นผู้ดูแลเรือนบัญชี นี่คือค่าขนมของคุณหนูในเดือนนี้เจ้าค่ะ!”
“คุณหนูใหญ่ บ่าวเป็นคนครัว นำมาอาหารเช้ามาให้เจ้าค่ะ”
“คุณหนูใหญ่ นี่เป็นตำราฝึกปรือที่ท่านประมูลส่งมาให้เจ้าค่ะ ส่วนผู้อาวุโสท่านนี้คืออาจารย์ที่จ้างมาเจ้าค่ะ...”
.....
หลี่หวงถึงกับพูดไม่ออก
“....”
เชี่ยไรเนี่ย...