ตอนที่ 249+250 ผลกระทบ
ตอนที่ 249 ผลกระทบ
หลินเฉียวอยู่ถอนหายใจด้วยอีกคน “คนที่บ้านเกิดของเรา อิจฉากันมาก ตอนที่ได้ยินว่าเสี่ยวอี้กับฉัน จะได้ทำงานในโรงพยาบาลของเมืองใหญ่หลังจากเรียนจบ ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับโรงพยาบาลเฉิงอ้าย ตอนที่เราเรียนอยู่ปีหนึ่ง แล้วเธอล่ะเจียงเหยา เธอตั้งเป้าไปที่โรงพยาบาลเฉิงอ้ายตั้งแต่ที่มาที่นี่หรือเปล่า?”
“เอ๋?” เจียงเหยาถูกถาม เธอส่ายหน้าตามความจริง “เปล่า ไม่ใช่เพราะเรื่องนั้น ฉันเลือกที่นี่เพราะว่าอยู่ใกล้บ้านที่สุด ส่วนที่ทำงานในอนาคตของฉัน ฉันจะตามสามีไปอยู่ทางเหนือ แล้วหางานทำที่ภาคเหนือ”
“ฉันไม่ควรถามคำถามนี้กับเธอเลย” โจวเสี่ยวเซียหัวเราะและเจียงเหยาเบา ๆ “สถานการณ์ของเราแตกต่างกัน สำหรับคนมีครอบครัวเช่นเธอน่ะนะ”
ไม่มีใครถามเหวินเสวี่ยฮุ่ยเหมือนกัน พ่อของเหวินเสวี่ยฮุ่ยเป็นอธิการบดี หากโรงพยาบาลเฉิงอ้ายยังไม่ล้มละลาย ยังไงซะเหวินเสวี่ยฮุ่ยย่อมมีงานที่ดีรออยู่อย่างแน่นอน เธอสามารถเข้าทำงานโรงพยาบาลอื่นได้ ถึงแม้จะไม่มีโรงพยาบาลเฉิงอ้าย แม้ว่าเหวินเสวี่ยฮุ่ยไม่อยากทำงานกับโรงพยาบาลอื่น เธอก็สามารถทำงานในมหาวิทยาลัย เรียนต่อระดับสูงขึ้น จะเป็นปริญญาโท หรือเอก และเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยยังได้
“พวกเธอคิดว่าเกิดอะไรขึ้น ผู้ถือหุ้นรายใหม่ทำอะไรทำทุกคนกลัวขนาดนี้ ทำไมพวกเขาถึงบอกว่าโรงพยาบาลที่อยู่ภายใต้การดูแลของเขาจะไม่ดีล่ะ” โจวเสี่ยวเซียหาสาเหตุที่สมเหตุสมผลไม่ได้ “ผู้ถือหุ้นเพียงรายเดียวสามารถนำผลกระทบร้ายแรงขนาดนั้นมาสู่โรงพยาบาลได้เชียวหรือ?”
“ผู้ถือหุ้นรายเล็ก ๆ คงไม่สามารถสร้างผลกระทบอะไรได้ แต่หากเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ก็มีสิทธิ์เป็นไปได้” เหวินเสวี่ยฮุ่ยเสนอ
“แต่มีบางอย่างผิดปกติเกี่ยวกับผู้ถือหุ้นล่ะ ฉันไม่ได้ยินข่าวของผู้ถือหุ้นรายใหม่ที่เป็นข่าวทั้งหมดนี่เลย ฉันรู้เพียงว่าโรงพยาบาลเฉิงอ้ายกำลังจะปิดเพราะผู้ถือหุ้นรายใหม่ ดูเหมือนว่าไม่มีใครรู้อะไรแน่ชัดว่าทำไม”
“เฮ้อ...”
หลี่อี้ หลินเฉียวอยู่ ถอนหายใจออกมาพร้อม ๆ กัน “ถ้าแม่ฉันรู้เรื่องนี้ล่ะก็นะ”
เจียงเหยาเหลือบมองไปที่เพื่อนร่วมห้องของเธอโดยก้มหน้าลง ไม่นานก็พูดออกมา
“ไม่ต้องกังวลไปหรอก ฉันรับประกันได้ว่าโรงพยาบาลเฉิงอ้ายจะไม่ปิดตัวลงในเร็ว ๆ นี้ แค่พวกเราตั้งใจเรียนให้ดี! นี่แค่ปีแรกเท่านั้น ยังเร็วเกินไปที่จะกังวลเรื่องนี้”
“เร็วเกินไปไหมเหรอ? เธอรู้ไหมว่าคนในมหาวิทยาลัยของเราจับจ้องงานในโรงพยาบาลเฉิงอ้ายกี่คน” โจวเสี่ยวเซียพูด “สิ่งที่เรามีในตอนนี้คือสิ่งที่เรียกว่า ‘การรับรู้ถึงวิกฤต’ เลยนะ”
“แน่นอน ต้องระวัง ส่วนเธอ เธอจะรับประกันได้ยังไง แค่ล้อเลียนพวกเราใช่ไหมล่ะ ฮึ่ม! เป็นความจริงอย่างที่คนอื่นพูดสินะ คนที่แต่งงานแล้วไม่มีอะไรที่ต้องกังวล ช่างดีเหลือเกิน! เธอยังมี สามีของเธอที่จะช่วยและคิดทุกอย่างเพื่อเธอนี่” หลี่อี้รู้สึกอิจฉาเจียงเหยา เธอไม่แปลกใจที่เจียงเหยาไม่มีอะไรต้องกังวลเพราะเธอมีภูมิหลังที่ร่ำรวยและสามีของเธอยังเป็นทหาร หลังจากเจียงเหยาเรียนจบ ครอบครัวของเธอต้องช่วยเธอจัดการทุกอย่างเกี่ยวกับอาชีพของเธอ และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับอนาคตของโรงพยาบาลเฉิงอ้าย
“แน่นอน ฉันรับประกันได้ เพราะฉันเป็นผู้ถือหุ้นคนใหม่ของโรงพยาบาลเฉิงอ้าย ฉันเป็นคนที่จะทำลายโรงพยาบาล ตาที่พวกเขาพูด...”
เจียงเหยาชี้นิ้วมาที่ตัวเอง เธอไม่ได้มองเหมือนว่ากำลังพูดเล่น
อย่างไรก็ตาม ในสายตาของเหวินเสวี่ยฮุ่ย และโจวเสี่ยวเซีย คำพูดที่มาจากก้นบึ้งหัวใจของเธอถือเป็นเพียงเรื่องตลกที่เธอคิดขึ้นเพื่อให้กำลังใจพวกเขา
ทุกคนหัวเราะพวกกับตีชกเธอเบา ๆ ด้วยหมัดเล็ก ๆ นั่น พวกเขาคิดว่าเธอพยายามปลอบโยน จึงไม่สนใจมากกับสิ่งที่เธอพูด
เจียงเหยาจ้องไปที่เพื่อนร่วมห้องของเธอที่กลับไปทำสิ่งต่าง ๆ หลังจากทุบตีเธอ เธอมีใบหน้ามืดมน แม้ว่าเธอจะบอกความจริงกับพวกเขาอย่างจริงใจ แต่กลับไม่มีใครเชื่อเธอเลย?
อย่างไรก็ตาม เมื่อหลี่อี้และหลินเฉียวอยู่ ได้งานที่โรงพยาบาล เธอก็คงจะได้เห็นเจียงเหยาในที่ประชุมผู้ถือหุ้นเองนั่นแหละ พวกเขาจะต้องตกตะลึง เมื่อถึงเวลานั้น ทั้งคู่ก็หัวเราะออกมา เมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ รวมไปถึงใบหน้าไร้เดียงสาและมืดมนของเจียงเหยา แต่แน่นอนว่าเรื่องนั้นมันเป็นเรื่องของอนาคตอีกหลายปีข้างหน้า
__
ตอนที่ 250 การระรานครั้งใหญ่
แม้ว่าการสื่อสารและอินเทอร์เน็ตในตอนนั้นไม่ได้ก้าวหน้า แต่ข่าวลือก็ยังแพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว
เจียงเหยาไม่ได้ออกจากมหาวิทยาลัยเป็นเวลาสองวันติด แต่การพูดเกี่ยวกับข่าวปิดโรงพยาบาลเฉิงอ้าย ได้ยินทุกที่ในมหาวิทยาลัย
ถ้าไม่ใช่เพราะข่าวลือแพร่สะพัดในครั้งนี้ เจียงเหยาคงไม่มีทางรู้ว่าโรงพยาบาลเฉิงอ้ายมีความสำคัญต่อคณะแพทย์มากขนาดไหน ทุกคนกังวลเกี่ยวกับการพัฒนาในอนาคตของโรงพยาบาลเฉิงอ้าย
ในที่สุด ข่าวลือก็พัฒนาขึ้นเอง มีคนคิดว่าผู้ถือหุ้นรายใหม่ของโรงพยาบาลเฉิงอ้ายเป็นอันธพาล เขาบังคับให้พยาบาลและหมอสาว ๆ นอนกับเขา นั่นเป็นสาเหตุให้หมอและพยาบาลลาออกกันยกใหญ่ ข่าวลือนั้นทรงพลังและน่าเชื่อถือมาก จนหลายคนคิดว่าเป็นความจริง
ต่อมาในหอพัก เจียงเหยาได้ยินเหวินเสวี่ยฮุ่ย โจวเสี่ยวเซียและคนอื่น ๆ วิจารณ์ผู้ถือหุ้นรายใหม่ของโรงพยาบาลเฉิงอ้าย พวกเขาบอกว่าผู้ถือหุ้นรายใหม่ไร้มนุษยธรรมและเรื่องอื่น ๆ ตามข่าวลือ แต่เธอไม่สามารถพูดอะไรเพื่อปกป้องตัวเองได้เลย
เธอจะรังแกใครบนโลกใบนี้ได้ แม้ว่าเธออยากจะเป็นมาเฟีย อย่างน้อย ๆ เธอก็ต้องการเครื่องมือบางอย่างล่ะน่า!
มันคงไม่เป็นไร ถ้าพวกเขากล่าวหาว่าเธอบังคับผู้ชาย แต่ทำไมถึงได้กลายเป็นไปยุ่งกับผู้หญิงเล่า!
ยิ่งกว่านั้น เธอได้ครอบครองผู้ชายที่ดีที่สุดในโลกอยู่แล้ว นั่นคือลู่ชิงสี ทำไมเธอถึงพยายามจีบผู้ชายคนอื่นด้วย?
อย่างไรก็ตาม มันยังไม่เป็นไรถ้าเธอไม่ได้คิดถึงลู่ชิงสี ทว่าเมื่อพูดถึงเขา เธอก็เริ่มคิดถึงเขาทันที
หลังจากที่เธอโทรหาลู่ชิงสีในวันนั้น เธอก็ไม่สามารถติดต่อลู่ชิงสีได้อีกเลย ทุกครั้งที่เจียงเหยาพยายามติดต่อเขา โทรศัพท์ของเขาจะถูกปิด และลู่ชิงสีไม่เคยติดต่อเธอกลับมาเช่นกัน
สองวันผ่านไป เจียงเหยากังวลใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากข่าวลือแพร่สะพัดไปราวกับไฟไหม้ป่า ถึงเวลาแล้วที่เธอจะต้องทำอะไรสักอย่าง
เห็นได้ชัดว่าเธอต้องการความช่วยเหลือทางด้านการเงินจากสามีของเธอ เพื่อดำเนินการตามแผนที่เธอได้วางเอาไว้
ในขณะที่ไม่สามารถติดต่อลู่ชิงสีได้ เจียงเหยาไม่ใช่แค่กังวลเกี่ยวกับเงิน แต่ลู่ชิงสีเป็นคนที่เธอกังวลมากที่สุด เธอกลัวว่าอาจมีบางอย่างเกิดขึ้นกับเขา และนั่นเป็นเหตุผลที่เธอไม่สามารถติดต่อเขาได้
ในคืนวันพฤหัสบดี เจียงเหยาก็ยังไม่สามารถติดต่อเขาได้ จึงได้ตัดสินใจโทรไปหาเหวยฉี
“เหวยฉี ในช่วงสองสามวันมานี้คุณได้ติดต่อกับพี่สามของคุณบ้างไหม โทรศัพท์ของเขาปิดทุกครั้งที่ฉันพยายามโทรหาเขา” ยิ่งเธอขาดการติดต่อกับเขานานเท่าไหร่ เจียงเหยาก็ยิ่งกังวลมากขึ้นเท่านั้น
เหวยฉีสามารถบอกได้ว่าเจียงเหยากังวล ดังนั้นเขาจึงหัวเราะ เขาอธิบายทันที
“เจียงเหยา ชิงสีน่ะโตแล้ว มีอะไรให้ต้องกังวล เขามีภารกิจด่วนออกบ่อย เวลาที่ต้องออกไปปฏิบัติภารกิจ เขาไม่สามารถพกโทรศัพท์ไปด้วยได้หรอกนะ เมื่อวานที่ฉันโทรหาเขา โทรศัพท์ของเขาก็ถูกปิดเช่นกัน ฉันโทรไปที่กองทัพ เขาบอกว่าชิงสีออกไปปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่สองวันก่อน และไม่ได้บอกว่าจะกลับมาเมื่อไหร่”
“ออกไปปฏิบัติภารกิจเหรอ ภารกิจด่วน ภารกิจอะไร อันตรายไหม?” เจียงเหยาถามโดยไม่รู้ตัวเมื่อเธอได้ยินว่าเขาออกไปทำภารกิจ เธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดในกองทัพของลู่ชิงสี เพราะเธอไม่รู้ก็ยิ่งทำให้เธอเป็นห่วงเขามากเท่านั้น
“เจียงเหยา ฉันจะไปรู้เรื่องเกี่ยวกับภารกิจในกองทัพได้ยังไง แต่คนเก่งอย่างชิงสี เขาไม่เป็นอะไรหรอก ไม่ต้องกังวลไป เมื่อชิงสีกลับมาแล้ว ฉันจะให้เขาติดต่อคุณทันทีอย่างแน่นอน ตั้งใจเรียนของคุณไปเถอะ ไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเขา”
เจียงเหยาขอบคุณเหวยฉี และพูดคุยกับเขาต่อไปชั่วครู่ อย่างไรก็ตาม เธออดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ แม้ว่าเธอจะรู้ว่าลู่ชิงสีเก่ง แต่เขาก็ยังเป็นสามีของเธอ สามีของเธอออกไปปฏิบัติหน้าที่เร่งด่วนแต่เขาไม่แม้แต่จะมีเวลาบอกภรรยาของเขาเลย ช่างโหดเหี้ยมไร้หัวใจเสียจริง
ในทีแรก เจียงเหยาต้องการจะถามยืมเงินเหวยฉีว่าได้หรือไม่ แต่สุดท้ายเธอก็กลืนคำพูดเหล่านั้นกลับเข้าท้องของเธอไป