ตอนที่ 245+246 การตัดสินใจที่ชาญฉลาด
ตอนที่ 245 การตัดสินใจที่ชาญฉลาด
เจียงเหยาไม่แน่ใจว่าผู้จัดการซุนเคยได้ยินเรื่องการเปลี่ยนมือผู้ถือหุ้นของโรงพยาบาลเฉิงอ้าย จากโซเซียลมาบ้างหรือยัง แต่เพราะเขาจะต้องเป็นตัวละครหลักในเกมต่อจากนี้ ในการเป็นตัวแทนเข้าซื้อขายหุ้น ไม่ช้าไม่เร็วเขาจึงต้องรู้เรื่องนี้
“...โอ้.. ได้ ได้” ผู้จัดการพึมพำด้วยความงุนงง เขาใช้เวลาสักพักกว่าจะสงบได้ เขารู้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในผู้ถือหุ้นของโรงพยาบาลเฉิงอ้าย แต่เพราะอาการป่วยขั้นวิกฤติของลูกสาว เขาจึงไม่ได้สนใจเรื่องอื่นใดมากนัก เขาไม่เคยคิดว่าผู้ถือหุ้นรายใหญ่คนปัจจุบันของโรงพยาบาลจะเป็นหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างหน้าเขา
ผู้จัดการซุนเริ่มนึกถึงความประทับใจแรกของเขา เมื่อเขาพบเจียงเหยา
เธอนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้น เธอสงบสติอารมณ์ และช่วยชายที่เป็นลมหมดสติด้วยวิธีการอย่างชำนาญในการปั๊มหัวใจ ทำให้เขาเชื่อว่าเธอพยาบาลหรือหมอที่มีรูปร่างที่อ่อนกว่าวัย
ภาพความปราดเปรียวและความอุตสาหะของเธอประทับอยู่ในความทรงจำของเขา เขาประหลาดใจอย่างยิ่งเมื่อพบว่าเด็กหญิงคนนี้เป็นเพียงนักศึกษาใหม่อยู่ในช่วงวัยรุ่นตอนปลายเท่านั้น
ต่อมาเขาได้พบกับเจียงเหยาอีกครั้งที่ห้องทำงานอธิการบดี ในตอนนั้น เขาเห็นถึงความสงบและความมีวุฒิภาวะในตัวเธอแล้ว
แม้ว่าเธอจะทิ้งความประทับใจที่ดีในครั้งแรกที่ได้พับกัน แต่วันนี้ มีออร่าที่แตกต่างออกไปจากเดิม เจียงเหยามีความมั่นใจและทัศนคติที่สุขุม มันทำให้เธอมีเสน่ห์ชวนหลงใหล โดยไม่เกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาที่สวยงามของเธอ
ผู้จัดการซุนเองก็เป็นคนที่มีความมั่นใจและภูมิใจในตัวเองเช่นกัน
เขาเชื่อว่าเขามีพรสวรรค์ในการทำงานที่ยอดเยี่ยม เมื่อทำงานในร้านอาหาร เขาจัดการทุกอย่างด้วยตัวคนเดียวได้อย่างยอดเยี่ยม ภายใต้การดูแลที่มีประสิทธิภาพของเขา เขาได้สร้างชื่อเสียงให้กับร้านอาหารในเมืองหนานเจียงได้สำเร็จ แม้ว่าจะถือว่ายังใหม่อยู่ก็ตาม
หลังจากนั้น เหตุการณ์ที่เจียงเหยาได้ช่วยชายคนหนึ่งเกิดขึ้นในร้านอาหาร เขารีบติดต่อเหอเหมาหมิงและตีพิมพ์บทความเกี่ยวกับเรื่องนี้ในไม่ช้าชื่อของเจียงเหยาก็โด่งดังไปทั่วเมืองเจียงหนาน เพราะบทความนั้นทำให้ร้านอาหารยือเอียมีชื่อเสียงขึ้นด้วยเช่นกัน
ในวันต่อมา ร้านอาหารถูกจองจนเต็มเป็นเวลา 1 สัปดาห์ นอกจากนี้เขายังได้รับโบนัสก้อนโตอีกด้วย
เขาเชื่อว่าในโลกของการทำงานอย่างมืออาชีพ เขาทำงานอย่างหนักในตำแหน่งนั้น หากเจ้านายได้มอบหมายตำแหน่งนั้นด้วยความเชื่อมั่นใจตัวเขา เขาก็จะตอบแทนเจ้านายด้วยการทำงานหนักจากความไว้วางใจที่ได้รับ
การเลิกจ้างอย่างกะทันหัน ทำให้เขารู้สึกว่าเจ้านายไม่มีเหตุผล เขาไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ กับเจ้านาย เขาไม่ได้เรียกร้องค่าชดเชยจากการเลิกจ้างเสียด้วยซ้ำ
ไม่ใช่เพราะเขาไม่ต้องการเงินหรือไม่สนใจงาน ตรงกันข้าม การเลิกจ้างของเขา เพิ่มการปัญหาในเรื่องการดูแลอาการป่วยของลูกสาวของเขาด้วย อย่างไรก็ตาม เขายังคงรักศักดิ์ศรีของตัวเอง สำหรับเขา เจ้านายประเภทนี้ไม่น่าชื่นชม และไม่คู่ควรกับเวลา รวมไปถึงความพยายามของเขา
เขามีความคิดมากมายในช่วงว่างงาน เขาสงสัยว่าจะหางานอะไรต่อไปได้อีก และจะได้ทำงานกับเจ้านายแบบไหน
แต่แล้ว สิ่งแปลกประหลาดที่สุดก็เกิดขึ้น ทันทีที่เจียงเหยาโทรหาเขา เขาก็ตกลงรับข้อเสนอของเธออย่างไม่ลังเลเลย
เขาไม่รังเกียจที่จะมีนายจ้างที่อายุน้อยกว่าเขามากขนาดนี้ กับคุณเจียงแล้ว เขาไม่แม้แต่จะรู้สึกอึดอัดใจที่ตอนนี้เธอเป็นเจ้านายของเขา
เขามีลางสังหรณ์ว่าเขาจะไม่เสียใจที่ตัดสินใจทำงานให้กับเจียงเหยา
ขาของเจียงเหยาปวดเมื่อย แทบจะกลายเป็นวุ้น เพราะยืนรอแท็กซี่อยู่ข้างถนนเป็นเวลานาน
พวกเขาขึ้นรถ เธอนั่งที่เบาะหลัง ขณะที่ผู้จัดการซุนนั่งข้างคนขับ
__
ตอนที่ 246 ใบสั่งยาใหม่
“หลังจากที่กลับถึงบ้านแล้ว รอโทรศัพท์จากฉันนะคะ เราควรหลีกเลี่ยงการพบปะกันสักสองสามวัน เผื่อว่าคุณฉินและคนของเขาจะรู้ความสัมพันธ์ของเรา ถ้ามีอะไรโทรหาฉันได้เลยค่ะ” เจียงเหยากล่าว
เธอขอที่อยู่ของผู้จัดการซุน และขอให้คนขับรถ ขับไปส่งเขาที่บ้าน ก่อนที่เธอจะไปโรงพยาบาล
เธอตั้งใจจะส่งยาไปในช่วงสุดสัปดาห์ แต่เพราะเธอต้องเดินทางไปเที่ยวกับเหวินเสวี่ยฮุ่ย ไหน ๆ ตอนนี้ออกมาข้างนอกแล้ว เธอจึงคิดจะแวะไปที่โรงพยาบาลสักครู่
เธอซื้อผลไม้ 2ถุงที่หน้าทางเข้าโรงพยาบาล เธอวางถุงหนึ่งไว้ที่ป้อมยาม และฝาก รปภ. นำไปส่งให้กับอู๋จงในวันรุ่งขึ้น จากนั้นจึงนำอีกถุงไปที่ห้องพักผู้ป่วย
หลังจากที่เลื่อนตำแหน่งให้กับอู๋จงแล้ว เขาจึงไม่จำเป็นต้องทำหน้างานกะกลางคืนอีกต่อไป ซึ่งส่งผลดีต่อการพักฟื้นร่างกายของเขา เจียงเหยายังสงสัยว่าเมื่อใดที่เธอควรจะบอกเขาเกี่ยวกับการผ่าตัดที่เธอจะผ่าให้กับเขา ไม่ว่าจะกี่ปี จากประสบการณ์ที่เธอมีในฐานะแพทย์ในชาติก่อน ตอนนี้เธอเป็นเพียงนักศึกษาปีหนึ่ง เธอสงสัยว่าอู๋จงจะเชื่อมั่นในทักษะทางการแพทย์ของเธอได้อย่างไร
เมื่อโรงพยาบาลเป็นของเธอโดยสมบูรณ์และถูกต้องตามกฎหมาย เธอสามารถตั้งค่าห้องปฏิบัติการของเธอได้โดยที่ไม่มีใครรู้หรือขัดขวาง การใช้ระบบการแพทย์ พัฒนาทักษะของเธอ และอาจจะทำให้เธอโน้มน้าวอู๋จงได้ง่ายขึ้น
เจียงเหยาดึงยาออกจากระบบเมื่อเธอมาถึงโรงพยาบาล หลังจากพยายามหลายครั้ง เธอตระหนักว่าการเรียกสิ่งของชิ้นเล็ก ๆ ออกจากระบบนั้นง่ายมาก เธอเพียงต้องจดจ่อกับจิตใต้สำนึกของเธอและสิ่งของที่เธอต้องการจะปรากฏบนฝ่ามือของเธออย่างน่าอัศจรรย์
ในขณะนี้เฉินจื่อบิ่นพักอยู่กับแม่ของเขาในห้องพักผู้ป่วย เขาอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจเมื่อเจียงเหยาเดินเข้ามา
“เจียงเหยา ทำไมมาที่นี่ตอนนี้ล่ะ มีประชุมอีกงั้นหรือ?” เฉินจื่อบิ่นถามอย่างสงสัยและพึมพำกับตัวเองอย่างเงียบ ๆ ว่า ‘ฉันไม่ได้ยินเรื่องการประชุมในโรงพยาบาลเลย อีกอย่าง มันไม่ใช่สุดสัปดาห์ ทำไมเธอถึงมาที่นี่อย่างกะทันหัน?’
“ฉันมีเรื่องต้องจัดการน่ะ อีกอย่างโรงพยาบาลเป็นทางผ่านพอดี ฉันเลยแวะเข้ามาเยี่ยมค่ะ โอ้ ใช่ ฉันเพิ่งได้รับยาจากหมอของแม่คุณ เอายานี้ผสมกับน้ำก่อนที่จะให้แม่ของคุณนะคะ”
เจียงเหยาโกหกโดยเดาว่าเฉินจื่อบิ่นคงไม่ไปถามหมอเกี่ยวกับยาตัวนี้
เมื่อเธอมองไปที่แม่เฉิน เธอก็ถอนหายใจเล็กน้อย เพียงไม่กี่วันเท่านั้น แต่ผู้ป่วยบนเตียงกลับผอม ซีดราวกับกระดาษ
“คุณแม่เป็นยังไงบ้างคะ?”
เธอหยิบแฟ้มบันทึกที่แขวนไว้ข้างเตียงขึ้นมาเปิดดู บันทึกนั้น เป็นบันทึกกิจกรรมทางการแพทย์ของแม่เฉินในแต่ละวัน เช่นเธอตื่นกี่ครั้ง เมื่อไหร่ ตื่นนานแค่ไหน เป็นต้น
เฉินจื่อบิ่นถือยาในมือ เหลือบมองเจียงเหยาอย่างมึนงงราวกับว่าเขา กำลังดูหมอที่มีประสบการณ์ วิธีที่เธอเปิดเวชระเบียนอย่างสุขุมในขณะที่สังเกตแม่ของเขาบนเตียงนั้นเหมือนกับที่หมอทำในระหว่างเข้าตรวจ
แม่เฉินอาการดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก อย่างน้อยตอนนี้อาการของเธอก็ทรงตัวแล้ว เธอพ้นอันตรายร้ายแรงแน่ถ้าไม่มีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น เธอยังคงไม่สามารถพูด เคลื่อนไหว หรือกิได้ตามปกติ แต่เธอตื่นขึ้นหลายครั้ง บางวันตื่นเป็นเวลาสามถึงห้านาที ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี
“ละลายยาด้วยอุ่น ๆ แล้วให้แม่ของคุณดื่มน้ำเพิ่มนะคะ”
เจียงเหยาเพียงแค่มองไปที่เฉินจื่อบิ่น หลังจากวางแฟ้มลง เขาดูราวกับว่าเขาพร้อมที่จะเป็นลม ซึ่งบ่งบอกว่าเขาได้อยู่เฝ้าแม่ของเขาทั้งวันทั้งคืน เธอเม้มริมฝีปากด้วยความเป็นห่วงและพูดว่า “ฉันตรวจดูแฟ้มรายงานผลของแม่คุณแล้ว อาการของท่านอยู่ในการควบคุมได้ค่ะ สิ่งที่รอคือ รอให้เธอฟื้นตัวขึ้นก็หายดีแล้ว เพราะงั้นคุณไม่ต้องอยู่กับเธอทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงก็ได้ค่ะ ถ้าคุณเป็นแบบนี้ต่อไป ร่างกายของคุณจะทนไม่ไหว แม้ว่าคุณจะแข็งแรงก็เถอะ ถ้าคุณล้มป่วยขึ้นมา หลังจากที่แม่คุณหายดีแล้ว คุณอยากจะให้แม่ของคุณเป็นฝ่ายดูแลคุณบ้าง อย่างงั้นหรือคะ?”