ข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 21 สาวน้อยหว่านเอ๋อ
ข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 21 สาวน้อยหว่านเอ๋อ
ภายในห้องส่วนตัวนั้นเงียบกริบ
หญิงสาวที่มีชื่อว่าหว่านเอ๋อมีสีหน้าขมขื่น นิ่งเงียบ
คงหนิงตกใจและอยู่ในความสับสน พยายามแยกแยะข้อมูลที่ได้มาใหม่เงียบๆ
เกิดหายนะครั้งใหญ่เมื่อยี่สิบปีก่อน.......สำนักผู้วิเศษฝ่ายธรรมะถูกทำลายไปทีละแห่งๆ.......วิถีทางแห่งปีศาจเริ่มรุ่งเรือง......
การคาดเดาก่อนหน้านี้ของเขาเกิดขึ้นจริงๆ!
เหตุผลที่ปีศาจในเขตชานหลานขวักไขว่ไปมาเป็นเพราะผู้ฝึกตนฝ่ายธรรมะทั้งหมดตกตายไปแล้ว? จึงไม่มีใครมาขับไล่ปีศาจ!
ดูเหมือนว่าสถานการณ์ในเขตชานหลานจะไม่ได้เลวร้ายนัก? อย่างน้อยมนุษย์ที่อยู่อาศัยในเขตเมืองก็ยังใช้ชีวิตและทำงานทำการกันได้อย่างสงบสุขโดยไม่รู้ถึงการคงอยู่ของเหล่าปีศาจ ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายไร้กังวลประหนึ่งสัตว์เลี้ยงในคอก
เมื่อพิจารณาจากข้อมูลที่หญิงสาวบอกมา นิกายกระบี่สวรรค์ลี้ลับนี้ดูเหมือนจะเป็นนิกายอันดับต้นๆ บนโลกนี้ แต่ก็ยังถูกทำลายโดยน้ำมือของปีศาจ ฉะนั้นนิกายอื่นคงมีสภาพที่ไม่สู้ดีเท่าไหร่นัก
แม้ว่าจะมีศิษย์สาวกหนีเอาชีวิตรอดจากหายนะไปได้ พวกเขาก็อาจจะไม่ได้แตกต่างไปจากนิกายกระบี่สวรรค์ลี้ลับ สำนักเสื่อมโทรมน่าอนาถ
แม้กระทั่งมรดกตกทอดภายในนิกายก็อาจจะถูกตัดขาด ผู้คนที่อยู่ในนิกายทั้งหมดอาจจะถูกกวาดล้างจนหมดสิ้น.......
ไม่แปลกใจเลยที่เหล่าปีศาจจะเหิมเกริม อยากจะฆ่าใครก็ฆ่า อยากจะทำร้ายใครก็ทำได้ตามใจ เขตเล็กๆ กลับเต็มไปด้วยปีศาจ ไม่เกรงกลัวว่าปรมาจารย์ยุทธจะผ่านทางมาเพื่อปราบปรามปีศาจ ไม่มีแม้แต่จะปิดบังซ่อนเร้น
ปรากฏว่าปรมาจารย์ยุทธจากสำนักฝ่ายธรรมะล้วนตกตายกันไปหมดแล้ว และปีศาจเหล่านี้ก็ทำทุกสิ่งได้ดั่งใจอยาก
ในตอนนี้ คงหนิงเข้าใจถึงความหนักหนาของคำเตือนที่ซูหยานบอกมาแล้ว
โลกของเหล่าปีศาจไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์ธรรมดาจะมีคุณสมบัติเข้ามายุ่งเกี่ยว ยิ่งเข้าใจเรื่องราว ยิ่งสิ้นหวัง......
ภายในห้องส่วนตัว ใบหน้าของคงหนิงดูขมขื่นยิ่ง พูดอะไรไม่ออก
ความสุขจากการได้พบผู้ฝึกตน ถูกกลบทับด้วยอารมณ์แห่งความสิ้นหวังในทันที
ตอนแรกเขาคิดว่าตนเองเดินทางข้ามมิติมาในสมัยโบราณธรรมดาๆ ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขไร้กังวลมาตลอดสิบเอ็ดปี จนกระทั่งถึงคืนวิวาห์ เมื่อหญิงสาววางไข่เข้ามาในร่างของเขา คงหนิงก็ตระหนักว่ามีภูตผีปีศาจอยู่บนโลก
ในตอนนั้นคงหนิงยังคิดอยู่เลยว่าโลกที่เขาอยู่ คงจะเป็นโลกที่มีทั้งตำนานภูตผีปีศาจ ตำนานเซียน และตำนานเทพเจ้า เพียงแค่เขาโชคร้าย บังเอิญมาเจอเข้ากับปีศาจ จึงทำได้เพียงตั้งตารอคนอย่างนักพรตฝาไห่[1]ผ่านทางมาช่วย
หรือไม่ก็ใช้ไหสีดำลึกลับเพื่อแก้ปัญหาไขปัญหาปีศาจที่อยู่ในบ้าน จากนั้นก็ค้นหาผู้ฝึกตนเพื่อเริ่มฝึกฝนวิชา เริ่มฝึกฝนเพลงกระบี่เหาะเหินเดินอากาศ ปราบปรามปีศาจ และดื่มด่ำไปกับการเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลอย่างมีความสุข อายุยืนยาวเป็นอมตะ มีอิสระไม่ถูกจำกัดไว้ในกรอบ จะไม่ปล่อยให้ทุกสิ่งผ่านไปอย่างเปล่าประโยชน์
แต่ยามนี้ เมื่อได้พบกับผู้ฝึกตนตัวจริงแล้ว ก็ได้รู้ว่าโลกนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก วิถีธรรมะเสื่อมถอย อธรรมรุ่งเรือง สำนักฝาไห่ดับสูญ และมีเพียงเหล่าปีศาจเท่านั้นที่ยังคงอยู่อย่างไม่ต้องเกรงกลัวสิ่งใด ภาพความฝันที่จะมีอายุยืนยาวไม่ตกตายเหมือนดั่งโลกแฟนตาซีกลายเป็นเพียงภาพฝัน
การเอาตัวรอดในโลกที่เลวร้ายเช่นนี้ เกรงว่าคงจะมีแต่ความยากลำบาก แล้วจะให้ไปมีความสุขได้อย่างไร?
นี่มันก็ไม่ต่างไปจากหวังพึ่งพิงภูเขาให้ถล่มล้มลง พึ่งพิงคนอื่นให้วิ่งแทนตนเอง[2]
คงหนิงถอนหายใจออกยาวๆ แล้วกล่าวว่า “หว่านเอ๋อ เจ้าเพิ่งจะทำลายจินตนาการอันสวยงามของชายหนุ่มผู้โง่งมคนหนึ่ง.......”
อารมณ์ของคงหนิงทำให้หญิงสาวตกใจ
“เอ๋?” หว่านเอ๋อทำหน้างงเล็กๆ
คงหนิงโบกมือแล้วพูดว่า “ไม่มีอะไร พูดเรื่องอื่นดีกว่า เพราะมันคงเป็นไปไม่ได้แล้ว แล้วนี่แม่นางหว่านเอ๋อยังอยากจะให้ข้าเข้านิกายกระบี่สวรรค์ลี้ลับอยู่อีกหรือ? ปีศาจสาวในบ้านของข้านั้นน่ากลัวนัก”
“ถ้าปล่อยให้นางรู้ว่าแม่นางหว่านเอ๋อต้องการจะพาตัวข้าไป ข้าคิดว่าผลที่ตามมาจะต้องร้ายแรงอย่างมากแน่”
คงหนิงพยายามจะเกลี้ยกล่อมให้หญิงสาวหนีไป
แม้ว่าหญิงสาวคนนี้จะทำลายภาพฝันอันสวยงามของเขาในการฝึกตนเป็นเซียน แต่ความแข็งแกร่งของนางยังอ่อนแออยู่ ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของปีศาจแมงป่องเลย ทว่า คนผู้นี้ก็ไม่ได้มีภาระหน้าที่ในการมาช่วยคงหนิงกำจัดปีศาจอยู่แล้วไม่ใช่หรือ?
เนื่องจากเขตชานหลานนั้นอันตรายมาก คงจะดีกว่าถ้าสามารถเกลี้ยกล่อมให้สาวน้อยผู้นี้หนีไปโดยเร็วที่สุด
แม้ว่าจะหลงทางอยู่ในภูเขา ประสบพบเจอกับมรดกโบราณ ได้รับวิชายุทธขั้นสูงสุดมาเหมือนกับเป็นตัวเอกในนิยาย แต่เรื่องแบบนี้ก็นับว่าเป็นตัวเอกยุคเก่า
ตัวเอกจากยุคเก่าเช่นนั้นไม่มีทางสู้กับปีศาจอย่างซูหยานได้แน่
อย่างไรก็ตาม คงหนิงมีไหสีดำลึกลับอยู่ อาศัยความสามารถแปลกๆ ของไหดำลึกลับที่สามารถพัฒนาความแข็งแกร่งของตนเองขึ้นไปได้ ไม่ช้าก็เร็วเขาย่อมสามารถต่อสู้ตัวต่อตัวกับซูหยานได้ และไม่จำเป็นต้องลากผู้ฝึกตนมือใหม่ที่ดูไม่ค่อยฉลาดผู้นี้ลงมาอยู่ในความวุ่นวายนี้ด้วย
แต่หว่านเอ๋อส่ายศีรษะแล้วกล่าวว่า “หัวหน้ามือปราบหนิงกล่าวผิดไปแล้ว หว่านเอ๋อเป็นผู้สืบทอดเพียงคนเดียวของนิกายกระบี่สวรรค์ลี้ลับ ตอนนี้ได้สืบทอดมรดกของสำนักมา ย่อมไม่อาจทำให้สำนักเสียศักดิ์ศรีได้”
“ถึงแม้ปีศาจแมงป่องจะน่ากลัว แต่ก็ไม่สามารถทำให้หว่านเอ๋อหวาดหวั่น”
“หว่านเอ๋อลงจากภูเขามาครานี้ก็เพราะมีความมุ่งมั่นที่จะกำจัดปีศาจและฟื้นฟูโลกอันสดใสกลับมา จะให้หลบหนีไปได้อย่างไรเมื่อเจอเข้ากับปีศาจ?”
“ด้วยเหตุนี้ข้าจึงตัดสินใจอยู่ต่อ สำรวจที่นี่อย่างละเอียดถี่ถ้วน ค่อยๆ ค้นหาตื้นลึกหนาบางของเหล่าปีศาจภายในเมือง แล้วก็รอโอกาสที่จะได้ลงมือ”
“ส่วนปีศาจที่อยู่ในบ้านของหัวหน้ามือปราบหนิงนั้น หว่านเอ๋อจะพยายามอย่างเต็มที่ มีเวลาอีกตั้งห้าเดือน บางทีในห้าเดือนนี้ หว่านเอ๋ออาจจะคิดหาวิธีการบางอย่างที่ช่วยหัวหน้ามือปราบหนิงให้พ้นจากทะเลทุกข์นี้ได้”
“ดังนั้นหัวหน้ามือปราบหนิงไม่ควรสิ้นหวัง แล้วก็อย่าทำอะไรเกินตัว”
เมื่อพูดออกไปเช่นนี้ เด็กสาวก็มองไปที่คงหนิงด้วยความกังวลแล้วกล่าวเสริมว่า “ถึงแม้ท้ายที่สุดจะหาทางไม่ได้ แต่เพื่อช่วยชีวิตคนในครอบครัวของหัวหน้ามือปราบหนิง มันก็คงไม่ใช่ว่าจะไม่มีทาง ฉะนั้นหัวหน้ามือปราบหนิงไม่ควรตื่นตระหนก”
“ในช่วงเวลาที่แสนยากลำบาก มันทำให้เห็นถึงความกล้าแกร่งของพวกเรา หัวหน้ามือปราบหนิงสังหารปีศาจได้ด้วยร่างมนุษย์ธรรมดา อนาคตย่อมไร้ขอบเขต ตราบใดที่เราผ่านพ้นอุปสรรคในปัจจุบันไปได้ อนาคตจะต้องราบรื่นอย่างแน่นอน......อื้อ สำหรับวันนี้ ก็มีแค่นี้แหละ”
หญิงสาวกล่าวเสริมว่า “เพื่อนร่วมงานของท่านหัวหน้ามือปราบกำลังจะตื่นแล้ว หว่านเอ๋อคงไม่สะดวกที่จะอยู่ต่อ หากหัวหน้ามือปราบหนิงมีอะไรสงสัยหรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถมาหาข้าที่บ้านร้างตระกูลเถียนทางตอนใต้ของเมืองได้เลย หว่านเอ๋อจะอยู่ที่นั่นตลอด”
พูดจบ หญิงสาวที่มาอย่ากะทันหัน ก็จากไปอย่างกะทันหันด้วยเช่นกัน นางไม่ให้โอกาสคงหนิงได้พูดอะไร รีบกระโดดออกหน้าต่างแล้วหายตัวไปในความมืด
ไร้ซึ่งมารยาทเฉกเช่นกุลสตรีทั่วไป ทำเอาคงหนิงพูดไม่ออกเล็กน้อย
ภายในใจย้ำยืนยันอีกครั้งว่าหญิงคนนี้ไม่ฉลาดเอาเสียเลย......
เขาต้องการจะเกลี้ยกล่อมนางให้ออกไปอยู่โทนโท่ แต่นางกลับเข้าใจว่าตัวเขานั้นสิ้นหวังและต้องการจะทุบทำลายความหวังของตนเอง?
ก่อนจะจากไปก็ยังพูดทิ้งท้ายปลอบใจคงหนิงไว้อีก......
คงหนิงส่ายศีรษะ ไม่รู้จะพูดอะไร กลับไปนั่งที่เก้าอี้
ในเวลานี้ ภาพลวงตาค่อยๆ หายไป มือปราบที่หลับใหลภายในห้องส่วนตัวก็ค่อยๆ ตื่นขึ้นทีละคน ทุกคนหัวเราะร่าและพูดต่อจากหัวข้อที่คุยกันไว้ก่อนหน้า โดยไม่ได้รู้ตัวเลยว่าพวกตนวูบหลับไปอย่างกะทันหัน
อีกฝั่ง คงหนิงก็ตอบกลับเพื่อนร่วมงานทุกคนด้วยรอยยิ้ม แต่ภายในจิตใจเต็มไปด้วยความคิดมากมาย
หญิงสาวที่ชื่อว่าหว่านเอ๋อ เข้ามาโดยกะทันหัน แต่กลับทำให้เขา “ประหลาดใจ” มากทีเดียว
ข้อมูลมากมายถูกเปิดเผยออกมาจากปากของอีกฝ่าย มันทำให้คงหนิงไม่ค่อยสบายใจ ยากที่จะสงบอารมณ์ลงได้
คงหนิงซึ่งเดิมคิดว่าหลังจัดการเรื่องปีศาจแมงป่องที่บ้านและเรื่องไข่ปีศาจภายในร่างได้แล้ว เขาจะออกไปโลดแล่นเพื่อดูว่าตัวเองสามารถฝึกฝนบ่มเพาะและแสวงหาเส้นทางแห่งเซียนได้หรือไม่ แต่ตอนนี้ทำได้เพียงวางแผนต่อไปในระยะยาว
โลกนี้ช่างอันตราย ปีศาจเพ่นพ่านไปทั่ว ดังนั้นตัวเขาควรทำอะไรดีหลังจากแก้ปัญหาเรื่องปีศาจแมงป่องเรียบร้อยแล้ว?
แค่เขตชานหลานเล็กๆ ก็น่ากลัวมากเหลือเกิน แล้วสถานการณ์ภายนอกจะเป็นเช่นไร?
แล้วยังมีนิกายกระบี่สวรรค์ลี้ลับที่หว่านเอ๋อกล่าวถึงอีก.......เนื่องจากอีกฝ่ายยืนกรานจะอยู่ต่อ แปลว่ามีโอกาสสอบถามนางเรื่องเคล็ดวิชากระบี่สวรรค์ใช่หรือไม่?
วันนี้คงหนิงมีพลังปีศาจภายในร่าง แต่เขาไม่มีเคล็ดวิชาให้ใช้ออก
หากหญิงสาวผู้นั้นเต็มใจจะสอนเคล็ดวิชาเซียนให้แก่เขา คงหนิงก็คงไม่รังเกียจที่จะเข้าร่วมกับนิกายกระบี่สวรรค์ลี้ลับ
ถึงอย่างไร ทั้งนิกายแห่งนี้ก็มีสมาชิกเพียงคนเดียวอยู่แล้ว
---------------------------------------
[1] ฝาไห่ นักพรตจากเรื่องนางพญางูขาว เป็นผู้เดินทางมาปราบปีศาจงู
[2] หวังพึ่งพิงภูเขาให้ถล่มล้มลง พึ่งพิงคนอื่นให้วิ่งแทนตนเอง – ประมาณว่า การหวังพึ่งพาการคุ้มครองหรือสนับสนุนจากผู้อื่นเป็นเรื่องไม่แน่นอน (คือพึ่งตัวเองไว้ใจได้มากที่สุด)