WS บทที่ 352 ได้รับคาถาใหม่
เมอร์ลินเดินไปรอบ ๆ ห้องสมุดเวทมนตร์ของราชวงศ์ แม้ว่าเขาจะได้เห็นกองภูเขาตำราเวทมนตร์มากมายภายในหอสมุดแต่ภาพตรงหน้าเขาก็ยังทำให้เขาประหลาดใจ
ตำราคาถาแต่ละเล่มถูกเรียงซ้อนอยู่บนชั้นหนังสือสีแดงชาด พวกมันถูกระบุไว้อย่างชัดเจน คาถาระดับศูนย์, คาถาระดับหนึ่ง, คาถาระดับสอง, คาถาระดับสาม, คาถาระดับสี่, คาถาระดับห้าและคาถาระดับหก
เวทมนตร์เหล่านี้แบ่งออกเป็นธาตุลม ไฟ น้ำ สายฟ้า น้ำแข็ง ดินและมืด อาจกล่าวได้ว่าสถานที่แห่งนี้มีคาถาแต่ละธาตุมากมายจนหาที่เปรียบไม่ได้
เมอร์ลินเลือกหยิบตำราคาถาธาตุมืดขึ้นมาอย่างแบบสุ่ม ๆ คาถาธาตุมืดนั้นหาได้ยาก แม้แต่ตอนที่เขาอยู่ในหอสมุดของดินแดนมนต์โ จำนวนคาถาธาตุมืดก็สามารถนับได้ในมือเดียวและคาถาก็ไม่ได้ทรงพลังขนาดนั้น
คาถาธาตุมืดของเมอร์ลินได้รับมาโดยการช่วยเหลือของพ่อมดลีโอในการไปที่หอคอยอเวจี อย่างไรก็ตาม คาถาธาตุมืดที่เมอร์ลินหยิบขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจคือคาถาที่เมอร์ลินเพียรพยายามค้นหาในหอคอยอเวจีซึ่งเป็นคาถาระดับสี่ ฝันร้ายแห่งรัตติกาล
ฝันร้ายแห่งรัตติกาล เป็นคาถาระดับที่สี่ซึ่งเป็นที่รู้จักว่าเป็นสุดยอดของคาถาลวงตา พลังจิตในปัจจุบันของเมอร์ลินยังห่างไกลจากการสร้างคาถานี้
ดังนั้น เมอร์ลินจึงเปรียบเทียบโครงสร้างคาถาฝันร้ายแห่งรัตติกาลจากหอคอยอเวจีกับของห้องสมุดเวทมนตร์ เขาพบว่าคาถาทั้ง 2 แบบมีความเหมือนกันไม่มากก็น้อย ซึ่งหมายความว่าคาถาธาตุมืดในห้องสมุดเวทมนตร์ของราชวงศ์นั้นเป็นของจริง และพวกเขายังมีคาถาธาตุมืดให้เลือกสรรมามากกว่าหอคอยอเวจี
“ไม่น่าแปลกใจเลยที่พวกเขาถูกนำไปเปรียบเทียบกับองค์กรนักเวทย์ขนาดใหญ่ ทรัพยากรของราชวงศ์นั้นกว้างขวางอย่างไม่น่าเชื่อ!”
เมอร์ลินพึมพำด้วยเสียงต่ำ คาถาที่นี่มีจำนวนมากจริง ๆ เขาคาดว่ามีมากกว่าหมื่นคาถาหรือมากกว่านั้น นี่จะเป็นประโยชน์อย่างมากในการเติมฐานข้อมูลของเดอะเมทริกซ์
“เลือกคาถาตามที่คุณต้องการแต่จำไว้ว่าคุณอยู่ที่นี่ได้เพียงแปดชั่วโมงเท่านั้น หมดเวลาแล้วฉันจะมาหาคุณ!”
พ่อมดฟอสส์เตือนเมอร์ลิน หลังจากนั้นเขาก็ซ่อนตัวอยู่ในความมืดในพริบตา อย่างไรก็ตาม เมอร์ลินไม่ได้รู้สึกว่าเขากำลังถูกจับตามองราวกับว่าพ่อมดฟอสส์ไม่ได้กังวลว่าเมอร์ลินจะขโมยตำราคาถาพวกนี้ไป
เมอร์ลินถอนหายใจเล็กน้อย แน่นอนว่าเขาจะไม่ขโมยคาถาเพราะเขาไม่จำเป็นต้องทำอะไรแบบนั้น เขาวางแผนที่จะใช้เดอะเมทริกซ์บันทึกคาถาพวกนี้ลงในฐานข้อมูล
“เดอะเมทริกซ์ เตรียมสแกนคาถาทั้งหมดลงในฐานข้อมูล!”
“บี๊บ รับทราบภารกิจแล้ว เริ่มทำการสแกน โปรดรอสักครู่!”
เดอะเมทริกซ์เริ่มการสแกน แม้แต่จอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ก็ไม่สามารถรู้เกี่ยวกับเดอะเมทริกซ์ได้ ดังนั้น พ่อมดฟอสส์จึงไม่สามารถค้นพบเดอะเมทริกซ์แม้ว่าเขาจะใช้พลังจิตเพื่อสอดแนมเมอร์ลินก็ตาม
การสแกนหนังสือจำนวนมหาศาลดังกล่าวอาจต้องใช้เวลาพอสมควร ดังนั้น เมอร์ลินจึงเริ่มรออย่างอดทน โดยสุ่มพลิกคาถาบางคราวโดยสุ่ม ทำทีราวกับว่าเขากำลังมองหาคาถา
แม้ว่าพ่อมดฟอสส์จะไม่ได้สอดแนมเขาด้วยพลังจิต แต่เมอร์ลินก็รู้ว่ามีวิธีอื่นที่ซ่อนอยู่อย่างแน่นอนซึ่งจะทำให้พ่อมดฟอสส์ติดตามทุกการเคลื่อนไหวของเขา
สิ่งที่เมอร์ลินคิดนั้นตรงกับความเป็นจริง ณ ขณะนี้ ทุกการเคลื่อนไหวของเมอร์ลินถูกจับตาโดยพ่อมดฟอสส์ งานของเขาคือปกป้องตำราทั้งหมดของห้องสมุดเวทมนตร์ เมื่อองค์ชายแปดได้ใช้คำสัญญาของเขาที่มีต่อองค์ราชินีในอดีต พ่อมดฟอสส์จึงต้องยอมให้เมอร์ลินเข้าไปในห้องสมุดเวทมนตร์อย่างไม่เต็มใจ
อย่างไรก็ตาม หากเมอร์ลินกล้าที่จะขโมยคาถาจากห้องสมุดเวทมนตร์จริง ๆ เขาจะไม่แสดงความเมตตาใด ๆ
จากที่พ่อมดฟอสส์เห็น เขาพบว่าเมอร์ลินไม่ได้ทำอะไรที่น่าสงสัย เมอร์ลินเพียงมองผ่านโครงสร้างคาถาเท่านั้น บางทีเขาอาจจะจำโครงสรเงคาถาที่ซับซ้อนได้แต่เขาไม่ได้พยายามขโมยคาถา
“ฮึ! ห้องสมุดเวทมนตร์กว้างใหญ่ไพศาลมากเพียงใด ยิ่งระดับของคาถาระดับสูงมากเท่าไหร่ โครงสร้างคาถาก็ยิ่งซับซ้อนมากขึ้นเท่านั้น เมอร์ลินคนนี้กำลังพยายามจดจำคาถาระดับห้าและระดับหกอย่างไร้ประโยชน์ ช่างเป็นการเสียเวลาและโอกาส! ด้วยโอกาสหนึ่งในล้านแบบนี้และเวลาเพียงแปดชั่วโมงเท่านั้น เขาอาจได้อะไรจากที่นี่ ถ้าเขามุ่งมั่นที่จะท่องจำคาถาระดับสี่ อย่างไรก็ตาม เขากลับเป็นพวกโลภมาก ไม่ประมาณตน เขาไม่มีทางได้อะไรจากที่นี่อย่างแน่นอน!”
พ่อมดฟอสส์เห็นว่าเมอร์ลินเริ่มมองคาถาระดับห้าและระดับหกแล้ว และคิดว่าเมอร์ลินเป็นพวก ‘มักใหญ่ไฝ่สูง ทำอะไรเกินตัว’ ซึ่งทำให้เขาเสียเวลาและโอกาสไปเปล่า ๆ
อย่างไรก็ตาม มันเป็นความรู้ทั่วไปสำหรับนักเวทย์ว่าถ้าพลังจิตไม่ทะลุทะลวงไปถึงระดับที่ใกล้เคียงกัน คน ๆ นั้นจะไม่สามารถสร้างคาถาขั้นสูงได้และมันจะต้องพยายามอย่างมากที่จะท่องจำมันเพียงลำพัง
ปัจจุบันเมอร์ลินครอบครองพลังจิตระดับสี่เท่านั้น ถ้าเขาต้องการจดจำโครงสร้างคาถาระดับห้าและระดับหกเหล่านั้น มันจะเป็นงานที่ยากและไร้ประโยชน์ พ่อมดฟอสส์จึงเข้าใจว่าเมอร์ลินเป็นพวกโลภมาก
อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริง สิ่งที่เมอร์ลินทำเป็นเพียงการแสดง โดยสุ่มดูโครงสร้างคาถาอย่างลวก ๆ เขาไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องจดจำโครงสร้างคาถาที่ซับซ้อนเหล่านั้นเลย ด้วยเดอะเมทริกซ์ที่สแกนทุกคาถาในห้องสมุดเวทมนตร์ เขาสามารถดูคาถาเหล่านั้นในยามว่างหลังจากที่เขาออกไปจากที่นี่แล้ว
พ่อมดฟอสส์เข้าใจเจตนาของเมอร์ลินผิดและให้ความสนใจเขาน้อยลง เขาไม่ได้รบกวนเมอร์ลินเลย เขาหวังว่าเวลาแปดชั่วโมงจะผ่านไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อส่งเมอร์ลินออกไปและป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาที่ไม่จำเป็นขึ้น
ท้ายที่สุด พ่อมดฟอสส์ก็กำลังแหกกฎ หากผู้อาวุโสของราชวงศ์ค้นพบสิ่งนี้ พ่อมดฟอสส์จะถูกลงโทษอย่างหนักแม้ว่าเขาจะเป็นผู้อาวุโสเองก็ตาม
…
“บี๊บ สแกนเสร็จแล้ว มีทั้งหมด 35,489 รูปแบบ จะเก็บทั้งหมดนี้ไว้ในฐานข้อมูลหรือไม่?”
ในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง เดอะเมทริกซ์ได้สแกนคาถาทั้งหมดของห้องสมุดเวทมนตร์เสร็จแล้ว ถึงกระนั้น จำนวนเวทย์มนตร์ก็ทำให้เมอร์ลินตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง
‘มีคาถามากกว่าสามหมื่นคาถา’ เมอร์ลินค่อนข้างผงะเล็กน้อย ในตอนแรก มีเพียงสองร้อยคาถาในเดอะเมทริกซ์ จากการคาดเดาของเขา คาถาหนึ่งพันคาถาหรือมากกว่านั้นน่าจะเพียงพอสำหรับการสร้างคาถาใหม่
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขามีคาถาไม่น้อยกว่าสามหมื่นคาถาในฐานข้อมูล นี่หมายความว่าเขาจะได้รับคาถาใหม่ทันทีหรือไม่?
ขณะที่เขาคิดถึงเรื่องนี้ หัวใจของเมอร์ลินก็เต้นเร็วขึ้นโดยไม่ตั้งใจ
“เดอะเมทริกซ์ เริ่มกระบวนการรวมข้อมูลและสร้างคาถาระดับสี่ใหม่!”
เมอร์ลินสูดหายใจเข้าลึก ๆ และบังคับตัวเองให้สงบอารมณ์ที่กระสับกระส่าย จากนั้นเขาออกคำสั่งให้กับเดอะเมทริกซ์
“บี๊บ กำลังประมวลผลการรวมข้อมูล ที่มาของรูปแบบคาถาระดับที่สี่ใหม่ที่กำลังดำเนินการ... บี๊บ คำสั่งผิดพลาด โปรดป้อนคำสั่งโดยละเอียดและผูกมัดด้วยพลังจิต!”
เสียงของเดอะเมทริกซ์ก็ดังขึ้นทันที ความพยายามครั้งที่สองของเมอร์ลิน ในการรวมข้อมูลยังไม่ประสบความสำเร็จ
“คำสั่งผิดพลาด? ฉันต้องผูกมัดด้วยพลังจิตงั้นเหรอ?”
เมอร์ลินขมวดคิ้ว เดอะเมทริกซ์เป็นเพียงเครื่องคำนวณควอนตัมธรรมดาและเป็นผลผลิตของจุดสุดยอดของการพัฒนาวิทยาศาสตร์ ในชีวิตก่อนหน้านี้เมื่อไม่มีสิ่งที่เรียกว่าพลังจิต อย่างไรก็ตาม เดอะเมทริกซ์กำลังร้องขอการผูกมัดพลังจิตซึ่งอาจหมายความว่าเดอะเมทริกซ์ได้รับการเปลี่ยนแปลงเมื่อได้ข้ามโลกพร้อมกับเมอร์ลินในตอนนั้น
ตอนนี้เดอะเมทริกซ์ไม่ได้เป็นเพียง ‘เครื่องคิดเลข’ ธรรมดาอีกต่อไป
แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเดอะเมทริกซ์ แต่เมอร์ลินรู้ดีว่าหากเขาไม่ทำตามขั้นตอนของเดอะเมทริกซ์ เขาจะไม่มีวันได้รับคาถาใหม่
ดังนั้น เมอร์ลินจึงตอบอย่างนุ่มนวลว่า ‘ผูกมัดพลังจิต!’
“บี๊บ ผูกมัดพลังจิตสำเร็จ พร้อมปฏิบัติการ!”
“นำข้อมูลในฐานข้อมูลออกมาแล้วสร้างคาถาระดับสี่ใหม่…”
หลังจากหยุดชั่วคราว เมอร์ลินรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง หลังจากที่เขาคิดเกี่ยวกับมัน เขาก็ตระหนักว่าขอบเขตของคาถาระดับสี่นั้นกว้างเกินไป แม้ว่าเดอะเมทริกซ์จะมีความสามารถด้านแต่คำสั่งนี้ก็คลุมเครือเกินไป นอกจากนี้ คาถาได้รับมาจากคาถามากกว่าสามหมื่นคาถา จำนวนการคำนวณที่มาก ไม่ว่าใครก็ต้องประหลาดใจ
ดังนั้น เมอร์ลินจึงแก้ไขคำสั่งและพูดว่า “นำข้อมูลในฐานข้อมูลออกมาแล้วสร้างคาถาธาตุไฟระดับสี่ใหม่!”
“บี๊บ ได้รับภารกิจ! กำลังวิเคราะห์...”
หลังจากทำทั้งหมดนี้แล้ว เมอร์ลินก็เริ่มรออย่างประหม่า เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงนับตั้งแต่ที่เขาเข้าสู่ห้องสมุดเวทมนตร์โดยไม่รู้ตัว
การที่เขาได้รับคาถาใหม่หรือไม่นั้นมีความสำคัญสูงสุดสำหรับเมอร์ลิน ในช่วงยุคสมัยอันรุ่งโรจน์ที่สุดของนักเวทย์ นักเวทย์ที่เก่งกาจอย่างแท้จริงสองสามคนสามารถสร้างคาถาของตนเองได้ตั้งแต่ระดับที่สี่เป็นต้นไป
เมอร์ลินที่ไม่มีพรสวรรค์ในการสร้างคาถา เขาสามารถบรรลุสิ่งที่เขามีในยุคสมัยนั้นได้ด้วยเดอะเมทริกซ์ ดังนั้นเดอะเมทริกซ์จึงเป็นรากฐานของความสำเร็จของเขา
ในอดีต คาถาจากเดอะเมทริกซ์ที่ได้มามีทั้งความเสถียร ความเข้ากันได้ พลัง และอื่น ๆ ที่ประกอบเป็นโครงสร้างคาถาของเขา อันที่จริงแล้วสิ่งนี้เป็นประโยชน์อย่างมากซึ่งทำให้เมอร์ลินพอใจอย่างมากกับความสำเร็จในปัจจุบันของเขา สิ่งเหล่านี้คงเป็นไปไม่ได้เลยหากปราศจากความช่วยเหลือจากเดอะเมทริกซ์
อย่างไรก็ตาม เดอะเมทริกซ์ดูเหมือนจะได้รับการเปลี่ยนแปลงบางอย่างแล้ว มันไม่ใช่แค่การคำนวณและวิเคราะห์โครงสร้างอย่างเดียวอีกต่อไป เมอร์ลินต้องการใช้มันเพื่อสร้างคาถาใหม่ ๆ
สำหรับเป้าหมายนี้ เมอร์ลินได้เสียสละมากมายและได้ใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อให้ได้โอกาสนี้ในการเข้าสู่ห้องสมุดเวทมนตร์ โดยรวบรวมคาถากว่าสามหมื่นคาถาสำหรับเดอะเมทริกซ์ ส่งผลให้มีฐานข้อมูลมากกว่าสามหมื่นคาถาซึ่งเพียงพอสำหรับเดอะเมทริกซ์ที่จะดำเนินการรวมข้อมูลต่อไป
ทั้งหมดนี้เป็นการคาดเดาของเมอร์ลินฝ่ายเดียว ไม่ว่าเดอะเมทริกซ์จะได้รับคาถาใหม่หรือไม่ สำหรับตอนนี้ยังไม่มีอะไรมายืนยัน
เวลาผ่านสี่ชั่วโมง ห้าชั่วโมง หกชั่วโมง เจ็ดชั่วโมง...
เวลาล่วงเลยไปอย่างรวดเร็ว เมอร์ลินอยู่ในห้องสมุดเวทมนตร์มาเป็นเวลากว่าเจ็ดชั่วโมงโดยไม่รู้ตัว เหลือเวลาที่จะอยู่ในห้องสมุดแห่งนี้ไม่มากแล้ว
พ่อมดฟอสส์เริ่มเพ่งความสนใจไปที่เมอร์ลินและรอเวลาสิ้นสุดอย่างเงียบ ๆ!
*หวู่ม*
เบื้องหน้าของเมอร์ลินได้มีพ่อมดฟอสส์ปรากฏตัวโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า ทำให้เขาที่กำลังจดจ่อกับเดอะเมทริกซ์หลุดจกภวังค์อย่างรวดเร็ว
"เวลาของคุณหมดแล้ว รีบออกไปจะที่นี่ได้แล้ว!” พ่อมดฟอสส์จ้องไปที่เมอร์ลินอย่างเย็นชา
ความผิดหวังเกิดขึ้นบนใบหน้าของเมอร์ลินในขณะที่เขาพึมพำ “มันไม่ได้ผล? สงสัยฉันคิดตื้นเกินไปที่คิดว่าจะได้รับคาถาใหม่มาง่าย ๆ…”
ด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น เมอร์ลินลุกขึ้นอย่างช้า ๆ และเดินตามหลังพ่อมดฟอสส์ไป พวกเขาเดินผ่านทางเดินหินลึกลับและลึกเข้าไปอีกครั้ง
“บี๊บ กระบวนการรวมข้อมูลสำเร็จ!”
เสียงจักรกลของหญิงสาวดังขึ้นอีกครั้งในหัวของเมอร์ลิน อย่างไรก็ตาม คราวนี้เมอร์ลินตัวสั่นไปทั้งตัวและสีหน้าบ่งบอกถึงความยินดีอย่างเขาไม่อาจระงับมันได้