MMORPG : ตอนที่ 39 สิ้นหวัง
นี่มันน่ารังเกียจเกินไปแล้ว!
ฉินลั่วเฉิง รู้สึกปวดหัว
ค่าพลังป้องกันเวทย์มนตร์ของเขาต่ำเกินไปจริง ๆ แม้ว่าจะมีทักษะ BUG อย่าง ร่างศักดิ์สิทธิ์ ที่เพิ่มค่าพลังป้องกันเป็นสองเท่า ก็ไม่ได้ช่วยอะไร ค่าพลังป้องกันเวทย์มนตร์ 74 หน่วย จะสามารถต้านทานดาเมจจากอีกฝ่ายได้งั้นหรือไม่?
“ฉันต้องมีจุดจบที่นี่งั้นหรือไม่?”
ฉินลั่วเฉิง รู้สึกไม่ค่อยดี
การถูกใครทุบตีด้วยดาเมจที่รุนแรงเช่นนี้ย่อมทำให้ตัวเขารู้สึกสั่นสะท้านเป็นพิเศษ
โดยเฉพาะการโจมตีทางเวทยมนตร์ที่กินค่าพลังชีวิตของเขาไป 1 ใน 6 ของทั้งหมดตั้งแต่เริ่ม
สิ่งนี้มันค่อนข้างยากลำบากสำหรับเขามาก
“เจ้ากล้าที่จะคิดฟุ้งซ่านในการต่อสู้ มนุษย์ ดูเหมือนว่าการที่เจ้าบุกเข้ามาในวิหารแห่งนี้ได้เป็นเพราะเจ้าโชคดีเพียงเท่านั้น!”
ขณะที่ ฉินลั่วเฉิง กำลังลังเล เสียงของ ราชินีเงือก ก็ได้ดังขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมกับ หนามน้ำแข็ง ที่ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
เชี่*เอ้ย!
ฉินลั่วเฉิง รู้สึกตกใจมากจนเขาแทบจะไม่สนใจเรื่องมารยาทอันดีงามอีก เขาได้กลิ้งตัวไปรอบ ๆ เพื่อหลบการโจมตีของ หนามน้ำแข็ง อย่างหวุดหวิด ทำให้หนังศีรษะของเขารู้สึกชาด้านในทันที
“ฮ่าฮ่า…”
เสียงหัวเราะที่สะใจได้ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สิ่งนี้ทำให้ สีหน้าของ ฉินลั่วเฉิง ดูมืดมนอย่างมาก
นับตั้งแต่เข้าสู่ มิติแห่งโชคชะตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากได้รับพรสวรรค์ระดับ SSS ราชาแห่งดวงดาว เขาก็รู้สึกลำพองตัวเป็นอย่างมาก ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เขาเผชิญหน้ากับความยากลำบากและความอัปยศเช่นนี้?
“เผ่าเงือกโบราณ ราชินีเงือก เป็นเพียงแค่สุนัขที่วิ่งหนีหางจุกตูดจากมหาสงครามยังกล้าที่จะมาเห่าเสียงดังที่นี่งั้นหรือไม่?”
ฉินลั่วเฉิง ได้ลุกขึ้นมาอย่างช้า ๆ เขามองไปที่ ราชินีเงือก ด้วยหัวใจที่กำลังเดือดพล่านของเขา“ก็แค่เผ่าเงือกที่รักตัวกลัวตาย ชอบหดหัวอยู่ในกระดอง และ เลือกที่จะหลบซ่อนตัวด้วยความขาดขลาด หากไม่ใช่เพราะฉันบังเอิญมาเจอสถานที่แห่งนี้เข้า เกรงว่าแม้แต่ฉันก็คงคิดว่าเผ่าเงือกนั้นสูญเผ่าพันธุ์ไปจากหน้าประวัติศาสตร์แล้ว”
น้ำเสียงของ ฉินลั่วเฉิง ได้ดังขึ้น
เขาได้กล่าวออกมาด้วยความดูถูก
การพ่นคำสบประมาทเช่นนี้นับเป็น หนึ่งในนิสัย เกรียนคีย์บอร์ด อย่างไม่ต้องสงสัย
ถูกต้องแล้ว ในอดีต เขาเคยเป็นเกรียนคีย์บอร์ดมาก่อน
เขาในเวลานั้น แทบจะด่าคนไปทั่วจนทำให้คนอื่น ๆ แทบจะจำหน้าพ่อหน้าแม่ไม่ได้ด้วยซ้ำ
สำหรับ ราชินีเงือก ที่เป็นเพียงแค่ ตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นมาตัวหนึ่ง อีกฝ่ายจะมาประชันหน้าในเรื่องคำพูดกับเขาได้งั้นหรือไม่?
“เจ้าหนู กล้ามาดูถูกเผ่าเงือกของข้างั้นหรือไม่?”
เผ่าเงือก ก็คือทุกสิ่งอย่างสำหรับ ราชินีเงือก ในฐานะ ราชินีผู้นำเผ่าพันธุ์ เธอมีภาระที่ต้องแบกรับจำนวนมาก โดยเฉพาะการเสื่อมถอยในอดีต สิ่งนี้ทำให้ เธอรู้สึกอ่อนไหวมากยิ่งขึ้น เพียงแค่ไปแตะต้องบางสิ่งที่เป็นทุกอย่างสำหรับเธอเบา ๆ มันก็สามารถกระตุ้นอารมณ์โกรธของเธอได้
“ตายซะ!”
หนามน้ำแข็ง ได้ถูกยิงออกไปอีกครั้ง แต่ ฉินลั่วเฉิง ที่เตรียมพร้อมก่อนหน้านี้ ได้หลบได้อย่างง่ายดาย
เวทย์มนตร์นั้นค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่การโจมตีในระยะไกล ค่อนข้างเป็นปัญหา และ มันง่ายต่อการหลีกเลี่ยง เพราะท้ายที่สุด เป้าหมายของคุณ ก็ไม่ใช่เป้านิ่งที่ไม่สามารถเคลื่อนที่และปล่อยให้คุณโจมตีได้ฟรี
“ตาย?”
ฉินลั่วเฉิง ได้หัวเราะออกมา“ฉันก็อยากจะเห็นนักว่า ระหว่างฉันกับเธอ ใครจะตายกันแน่ในวันนี้!”
ราชินีเงือกยังคงหัวเราะเยาะออกมา
“ในตอนแรก เธอบอกว่าเธอถูกทรยศจนทำให้เลือกที่จะมาหลบซ่อนตัวอยู่ที่นี่ใช่หรือไม่?”
ฉินลั่วเฉิง ยังคงแซวออกมา“ทั้งที่เธอบอกว่าตนเองถูกทรยศ แต่กลับไม่กล้าที่จะต่อต้าน สิ่งที่เธอทำให้กับเผ่าเงือกได้จริง ๆ นั้น มีอะไรบ้าง? กล้าที่จะต่อสู้? กล้าที่จะต่อต้านเผ่ามนุษย์?”
ลมหายใจของ ราชินีเงือก ได้กลายเป็นรุนแรง กระทั่งรูม่านตาของเธอยังหดตัวลงอย่างเห็นได้ชัด
“เปล่าเลย สิ่งที่เธอทำได้ในฐานะราชินีของเผ่าเงือก ก็คือการรับผิดชอบหน้าที่ไร้สาระไปโดยเปล่าประโยชน์ เธอไม่เพียงแต่จะไม่สามารถช่วยเหลือพวกเขาแต่ยังพาพวกเขาหลบหนีออกมาและเลือกที่จะกลบฝังตัวเองไปพร้อมกับความตาย ไม่แปลกใจเลยที่หลายปีผ่านไปเธอจะไม่ประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูความรุ่งโรจน์ในอดีตของเผ่าพันธุ์ตัวเอง”
นั่นแหละ!
ทั้งหมดเป็นความผิดของเธอ!
เธอไม่สามารถแก้ไขอะไรได้
คำพูดที่บาดหูยังคงดังกึกก้องในหูของราชินีเงือกอย่างต่อเนื่อง สิ่งนี้ทำให้การเคลื่อนไหวของเธอดูเฉื่อยชาไปทั้งหมด
ซึ่งเรื่องนี้ ฉินลั่วเฉิง ก็ไม่ได้แปลกใจ
ความสามารถในการตัดสินใจของเธออยู่ในระดับเกณฑ์ที่ค่อนข้างต่ำ อาจเป็นเพราะ เธอยังไม่บรรลุนิติภาวะหรือไม่เหมาะที่จะเป็นราชินี หรือไม่ก็เธอได้สูญเสียเหตุผลในอดีตไปเพราะความเกลียดชังที่ฝังรากลึก
ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด มันก็พิสูจน์แล้วว่าเธอเป็นแค่มือใหม่อย่างแท้จริง
นอกจากความแข็งแกร่ง วิสัยทัศน์ กลยุทธ์ ทักษะ และ อื่น ๆ ทั้งหมดล้วนล้มเหลว
“มนุษย์ เจ้ากำลังท้าทายความโกรธของข้า!”
โอ้ว
แม้แต่ ‘ราชินีเงือก’ ผู้เย่อหยิ่ง ก็ยังไม่ลังเลที่จะเรียกตนเองว่า ‘ข้า’ ในเวลานี้
โกรธใช่หรือไม่?
ก็ดีแล้ว!
สิ่งที่ฉันกลัวก็คือเธอจะไม่โกรธมากกว่า
เพราะถ้าเธอไม่โกรธฉันจะมีโอกาสได้อย่างไร
ฟุ่บ!
ฟุ่บ!
ฟุ่บ!
ด้วยความโกรธ ราชินีเงือก ได้โบกมืออย่างรวดเร็ว หนามน้ำแข็ง จำนวนมาก ได้พุ่งเข้าหา ฉินลั่วเฉิง อย่างต่อเนื่อง
“มาต่อสู้กันอย่างตรงไปตรงมาดีกว่า!”
ร่างกายของ ฉินลั่วเฉิง รู้สึกเดือดพล่าน
“ก้าวย่างเทพ!”
ร่างกายของเขาได้หายตัวไปอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้น ความเร็วของเขาก็เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในทันที และ รวดเร็วกว่าการโจมตีของราชินีเงือกที่ปลดปล่อยหนามน้ำแข็งออกมา
ฟุ่บ ฟุ่บ!
ด้วยความเร็วในปัจจุบันของเขา ฉินลั่วเฉิง ได้พุ่งเข้าใส่ ราชินีเงือกอย่างบ้าคลั่ง!
ต่อให้เป็นบอสระดับทอง และ เป็นอดีตเผ่าเงือกที่แข็งแกร่ง แล้วอย่างไร? เพราะมันไม่สามารถเปลี่ยนคุณสมบัติอาชีพของตัวเองได้
ลักษณะทางอาชีพของนักเวทย์นั้นคืออะไร?
การเว้นระยะ!
การร่ายเวทย์!
ด้วยการรักษาระยะห่างทำให้นักเวทย์มีประสิทธิภาพในการโจมตีที่สูงทำดาเมจได้เป็นอย่างดี
แต่ทว่าข้อจำกัดก็เห็นได้ชัดเจนเกินไป
นักเวทย์ จะต่อสู้ได้อย่างยากลำบากในระยะประชิด โดยเฉพาะการถูกขัดจังหวะการร่ายเวทย์ ทำให้ ไม่สามารถตอบสนองต่อการโจมตีที่เข้ามาได้
“ตั้งแต่ที่ ฉันเข้ามาที่พระราชวังแห่งนี้ จนถึงตอนนี้ เธอก็ไม่เคยลุกออกจากบัลลังก์ที่นั่งเลย เป็นเพราะอะไรกันนะ?”
ขณะที่ ฉินลั่วเฉิง หลบเลี่ยงการโจมตี เขาก็เริ่มตอบโต้การโจมตีที่เข้ามาเรื่อย ๆ “เป็นเพราะความภาคภูมิใจของเธอในฐานะราชินีของเผ่าเงือก ที่ ไม่จำเป็นจะต้องสนใจฉันที่ไม่ต่างไปจากมด เพราะเธอคิดว่าเธอสามารถฆ่าฉันได้แม้จะนั่งอยู่บนบัลลังก์ก็ตาม”
ราชินีเงือก ไม่ได้หวั่นไหว
มุมปากของ ฉินลั่วเฉิง ได้กระตุกเล็กน้อย กระทั่งเขาได้ตะโกนออกมาอย่างรุนแรง“หรือไม่ก็…เพราะเธอไม่สามารถลุกขึ้นมาจากบนบัลลังก์นี้ได้!”
สีหน้าของ ราชินีเงือก ได้เปลี่ยนไปในทันที
เขาคาดเดาถูก
ราชินีเงือก ได้ถูกผนึกเอาไว้ ทำให้ เผ่าเงือกระดับสูง ที่อยู่ข้างนอก ไม่ได้เข้ามาถวายการรับใช้เธอ
แน่นอนว่ายังคงมีอีกเหตุผลนึง
เพราะเผ่าเงือกระดับสูงเหล่านั้นได้รับพลังลึกลับบางอย่างทำให้เป็นนิรันดร์แต่ทว่าก็ไม่สามารถออกไปจากดินแดนบรรพบุรุษเผ่าเงือกแห่งนี้ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง และ ความแค้นที่พุ่งขึ้นสูง ทำให้เปลี่ยนกลายเป็นสัตว์ปีศาจ ที่ไม่ต่างไปจากหุ่นเชิด คอยทำหน้าที่อารักษ์ขาทางเข้าเอาไว้
ดินแดนบรรพบุรุษแห่งนี้ กระทั่ง พระราชวังคริสตัลทั้งหมด ล้วนเป็นเพียงภาพลวงตา
ทั้งหมดทั้งมวลล้วนถูกสร้างขึ้นจากแสงของบัลลังก์ที่ผนึกราชินีเงือกเอาไว้
“ก็ถูก แม้ว่าข้าจะถูกผนึกไว้กับบัลลังก์ทำให้สามารถเคลื่อนไหวได้เพียงเล็กน้อย ทว่าความพยายามของข้าในช่วงหลายปีมานี้ก็ไม่ได้สูญเปล่า เพราะ ความแข็งแกร่งของข้ากำลังฟื้นฟูกลับมามากขึ้นเรื่อย ๆ”
“มนุษย์เจ้ามีความสามารถมากกว่าที่ข้าคิดเอาไว้”
“ต้องบอกว่าสมแล้วที่เป็นทายาทของเจ้าพวกน่ารังเกียจพวกนั้น แม้แต่บางสิ่งที่เล็กน้อยเช่นนี้ ก็ยังสามารถมองผ่านมันได้”
“แต่แล้วอย่างไร…”
“ต่อให้ราชินีคนนี้ลุกจากบัลลังก์ไม่ได้ เจ้าก็ไม่มีทางจัดการข้าได้”
“มนุษย์ เจ้าดูถูกเผ่าเงือกของข้ามาเกินไป”
“ในฐานะราชวงศ์ใต้น้ำที่มีชื่อเสียงในอดีต และ ในฐานะราชินีเผ่าเงือกที่ยิ่งใหญ่ คิดหรือว่าข้าไม่สามารถฆ่าเจ้าได้?”
“ราชินีคนนี้ จะแสดงให้เจ้าเห็นเอง!”
“เพื่อเป็นการยกย่องกล้าหาญและสติปัญญาของเจ้า ราชินีคนนี้จะจัดงานศพที่ยิ่งใหญ่ให้กับเจ้า เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้กับอิสระของข้าในไม่ช้านี้ และ การปกครองโลกในอนาคต”
“ทักษะลับเผ่าเงือก…ผนึกน้ำแข็งนิรันดร์!”
ทันใดนั้น พื้นที่ทั้งหมดก็สั่นสะเทือน
ปริมาณธาตุน้ำได้เพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง และ ภายใต้การจ้องมองที่น่าสะพรึงกลัว ของ ฉินลั่วเฉิง น้ำแข็งจำนวนมากได้ก่อตัวขึ้นรอบตัวเขาจากทั่วทุกทิศทาง
หนามน้ำแข็งก้อนเดียวก่อนหน้านี้ทำให้ค่าพลังชีวิตของเขาลดลงไป 1 ใน 6 จากทั้งหมด
หากมีหลักร้อยถึงหลักพันล่ะ?
ฉินลั่วเฉิง รู้สึกหวาดกลัวและสิ้นหวัง
นี่คือ…
เกมที่เดิมพันด้วยชีวิตอย่างแท้จริง