บทที่ 80 คนแซ่ซูนี้ยอดเยี่ยมจริงๆ❗️
ช่างภาพเห็นว่าเด็กหญิงตัวน้อยกำลังเอนตัวลงบนไหล่ของซูเชิ่งจิ่ง พร้อมกับขยี้ดวงตาที่ง่วงนอนของเธอ
ใบหน้าเล็กๆที่ขาวเนียนราวกับสามารถบีบน้ำออกมาได้ ทําให้คนที่เห็นเธอก็รู้สึกใจอ่อนลงได้อย่างง่ายดาย
ไม่แปลกใจเลยที่ซูเชิ่งจิ่งได้ถูกเลือกให้มาออกรายการนี้ ซึ่งการเชิญเขามาในครั้งนี้จะต้องถูกคนด่าเป็นจำนวนมากอย่างแน่นอน แต่ผู้กํากับหยางก็ยังยืนกรานที่จะเชิญเขามาให้ได้
และเมื่อคนอื่นเห็นซูจิ่ว พวกเขาก็ต้องบอกว่าเธอน่ารักเหมือนกัน
## ???????
ไม่ ไม่ ไม่ ทำไมคนอย่างซูเชิ่งจิ่งถึงได้มีห่านตัวเมีย*น่ารักขนาดนี้❗️
(ห่านตัวเมีย* ลูกสาว)
เมื่อเห็นผู้คนมากมายอยู่ในบ้านของตัวเอง เด็กหญิงตัวน้อยก็รู้สึกเขินอายเล็กน้อย ตอนแรกเธอยิ้มให้พวกเขาอย่างเขินอาย จากนั้น เธอก็ซ่อนตัวอยู่ในอ้อมแขนของซูเชิ่งจิ่ง และดวงตากลมโตที่ใสกระจ่างของเธอ ก็แอบมองพวกเขาเป็นครั้งคราว
พนักงานหญิงสองคนถึงกับตกใจในความน่ารักของเด็กหญิงตัวน้อย และพวกเธอก็อยากจะตะโกนว่า : น้องสาวไม่ต้องกลัว พี่สาวไม่ใช่เป็นคนเลว และช่วยยิ้มให้พี่สาวอีกครั้งจะได้ไหม❗️
ซูเชิ่งจิ่งเดินเข้ามาใกล้กล้อง พร้อมกับอุ้มซูจิ่วไว้ในอ้อมแขนของตัวเอง “ลูกรัก มาทักทายทุกคนหน่อย”
ซูจิ่วรู้ว่าตัวเองน่ารักพอ ดังนั้น เธอจึงขยับใบหน้าเล็กๆไปที่กล้องและมองมันด้วยความสงสัย
จากนั้น เสียงน้ำนมก็ทําการแนะนําตัวเอง “สวัสดีทุกคน หนูคือเสี่ยวจิ่ว ตอนนี้อายุเกือบจะสี่ขวบแล้ว ส่วนคนนี้คือป๊ะป๋าของหนูชื่อว่าซูเชิ่งจิ่ง และนี่ก็คือบ้านของหนูเอง เดี๋ยวหนูจะพาทุกคนไปเยี่ยมชม❗️”
หลังจากที่พูดจบ เธอก็ลงมาจากอ้อมแขนของซูเชิ่งจิ่ง จากนั้น เธอก็กระโดดโลดเต้นและเดินไปข้างหน้า ซึ่งเธอมีท่าทีราวกับจะพาพวกเขาไปชมบ้านของตัวเองจริงๆ
ช่างภาพตามซูจิ่วไปติดๆ และในหัวของเขาก็เต็มไปด้วยคําว่า "น่ารักจัง น่ารักจัง" และเมื่อใบหน้าของเธอหันมาหากล้อง เด็กหญิงตัวน้อยก็ยิ่งน่ารักน่าชังมากขึ้นไปอีก❗️
เขาจงใจถามขึ้นว่า “เสี่ยวจิ่ว บ้านหลังนี้เล็กมากใช่ไหม?”
ซูจิ่วกระพริบตาปริบๆ จากนั้นเธอก็พยักหน้า “ใช่”
“แล้วอาศัยอยู่ที่นี่ หนูรู้สึกยังไงบ้าง?”
ซูจิ่วคิดเพียงแค่สองวินาที จากนั้น เธอก็ยิ้มและตอบว่า “มีความสุข❗️”
ช่างภาพตะลึงงัน “มีความสุขงั้นเหรอ?”
เป็นเรื่องจริงหรือเท็จกันแน่?❗️
ซูจิ่วพยักหน้าอย่างจริงจังแล้วพูดว่า “ถึงแม้ว่าบ้านหลังนี้จะเล็ก แต่ก็มีความสุขมากที่ได้อยู่กับป๊ะป๋า❗️ และในอนาคตเมื่อหนูโตขึ้น หนูจะทํางานอย่างหนักเพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูป๊ะป๋า และก็จะซื้อบ้านหลังใหญ่ๆให้ป๊ะป๋าด้วย❗️”
ทุกคนในที่นี้ต่างก็รู้สึกตกตะลึงทันที ซึ่งเด็กในวัยเพียงเท่านี้แต่สามารถพูดแบบนี้ออกมาได้นั้น มันช่างเป็นความรู้สึกที่รู้สึกอบอุ่นหัวใจเสียจริงๆ
ซูเชิ่งจิ่งรู้สึกอบอุ่นหัวใจ จากนั้น เขาก็ลูบหัวเล็กๆของเกี๊ยวน้อยแล้วพูดว่า “ผิดแล้ว ต้องเป็นป๊ะป๋าสิ ที่จะเป็นคนหาเงินมาเลี้ยงลูก”
ในขณะที่ซูเชิ่งจิ่งกำลังพูด ภายในดวงตาของเขาช่างดูอ่อนโยนและผ่อนคลาย จนแทบจะล้นออกมานอกกล้อง
ขณะที่ช่างภาพมองไปรอบๆ เขาก็สังเกตเห็นว่า แม้บ้านจะได้รับการตกแต่งแบบเรียบง่ายและไม่มีอะไรเป็นพิเศษก็ตาม แต่นมผงที่ซูเชิ่งจิ่งซื้อให้ลูกสาวของเขานั้นราคาไม่ถูกเลย เพราะมันเป็นสินค้านําเข้ามาทั้งหมด
ซูเชิ่งจิ่งล้างหน้าให้ซูจิ่ว จากนั้น เขาก็ถักเปียสองข้างให้เกี๊ยวน้อย แล้วอุ้มเธอกลับไปที่ห้องนั่งเล่นและชงนมให้กับเธอ
ช่างภาพพูดในขณะที่ถ่ายทำไปด้วยว่า “นมผงนี้ราคาแพงมากเลยใช่ไหม?”
ตอนนี้ซูเชิ่งจิ่งชํานาญเรื่องนมผงมาก ในขณะที่กำลังทดสอบอุณหภูมิด้วยหลังมือ เขาก็พูดว่า “ใช่ ราคาไม่ใช่เล่นๆเลย แต่นี่สําหรับเด็กที่จะดื่มทุกวัน ดังนั้น ผมไม่สามารถสุ่มเลือกได้”
หลังจากที่พูดจบ เขาก็เดินไปที่ซูจิ่วแล้วส่งแก้วนมให้กับเธอ
ทุกคนในที่นี้มองซูจิ่วด้วยความรักอย่างหาที่เปรียบมิได้ และคิดว่าขนาดเธอดื่มนมก็ยังน่ารักมาก
เมื่อซูจิ่วดื่มนมจนหมดแก้วแล้ว ช่างภาพก็มานั่งข้างซูเชิ่งจิ่ง และสัมภาษณ์เขาอีกเล็กๆน้อยๆ
ซูเชิ่งจิ่งไม่ได้นั่งข้างซูจิ่ว แต่เขาจับเกี๊ยวน้อยมานั่งไว้บนตักของตัวเอง และภาพนั้นก็ช่างเป็นภาพที่งดงามมากจริงๆ
ช่างภาพถามว่า “เสี่ยวจิ่ว หนูคิดว่าป๊ะป๋าของหนูเป็นคนแบบไหน?”
ซูจิ่วเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยและมองไปที่ซูเชิ่งจิ่ง ส่วนซูเชิ่งจิ่งก็ก้มหน้าลงมาแล้วส่งยิ้มให้กับเกี๊ยวน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนอย่างเอ็นดู
พนักงานหญิงที่อยู่ในที่เกิดเหตุ หัวใจของพวกเธอก็รู้สึกเต้นเร็วขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่
คนแซ่ซูนี้ยอดเยี่ยมจริงๆ❗️