บทที่ 391 วีลแชร์บินได้
บทที่ 391 วีลแชร์บินได้
เหวินหงมองไปที่มือของตัวเอง จากนั้นก็เปิดใช้ทักษะอาชีพ นักรบสงครามหญิงของเธอ
ถูกแล้ว ทักษะอาชีพของเธอก็คือนักรบสงครามหญิง ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา เธอได้รับการอัพเกรดอาชีพ และกลายเป็นแม่ทัพสงครามหญิง
ร่างกายสูงขึ้นเป็นประมาณ 3 เมตร มีดาบเหล็กขึ้นสนิมสองเล่มปรากฏขึ้นในมือ แต่ในค่ำคืนอันมืดมิด มันกลับเปล่งแสงที่ไม่อาจละเลยได้
นี่คือความสามารถพิเศษที่ปรากฏขึ้นเมื่อเปิดใช้อาชีพนี้ มันมาพร้อมกับอาวุธที่เกี่ยวข้อง
“พวกแกพร้อมที่จะตายหรือยัง?” เหวินหงหัวเราะ “พร้อมที่จะตายตามผู้นำที่หายตัวไปของพวกแกแล้วหรือยัง? หลังจากที่พวกเราทำให้ตี้หวงหวันได้รับบาดเจ็บสาหัส พวกแกจะทำอะไรได้อีก?”
แม้น้ำเสียงของเหวินหงที่อยู่ในร่างนักรบสงครามหญิงผู้แข็งแกร่งจะฟังดูงี่เง่าเล็กน้อย แต่แรงกดดันที่เกิดขึ้นนั้นกลับทำให้ โม่เย่ เซี่ยไป๋ และเซิ่งหยวนรู้สึกตกใจ
ในบรรดาพันธมิตรต่อต้านอวิ๋นติ่ง กองทัพเหยาเป็นแกนหลักอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่มีทางเลือก เพราะก่อนหน้าที่ลูกพี่ของพวกเขาจะจากไป เขาไม่เพียงจะฆ่ากองทัพเหยา แต่ยังเข้าไปในดินแดนของผู้อื่นเพื่อสังหารอีกด้วย ซึ่งไม่เพียงทำให้กองทัพที่เก้าของเสี่ยวจิ่วเกอเหลืออยู่เพียงครึ่งเดียวแล้ว เขายังปล้นทรัพยากรของกองทัพเหยาไปมากมาย
ด้วยสาเหตุนี้ ความกระตือรือร้นของกองทัพเหยาในการดำเนินการต่อต้านอวิ๋นติ่งวิลล่าเกือบจะมีสูงสุด
กองทัพเหยาจึงมาถึงอย่างรวดเร็วที่สุด และเข้าโจมตีตี้หวงหวัน ซึ่งต่อสู้เพื่ออวิ๋นติ่งวิลล่ามานานกว่าครึ่งปี
ในฐานะที่เป็นพลังการต่อสู้สูงสุดของอวิ๋นติ่งวิลล่า หลังจากที่เย่จงหมิงจากไป จนถึงทุกวันนี้ตี้หวงหวันเกือบจะเป็นสัญลักษณ์ของอวิ๋นติ่งวิลล่า
เมื่อเวลาผ่านไป ระดับวิวัฒนาการและความแข็งแกร่งของผู้รอดชีวิตอื่นๆ ได้พัฒนาขึ้น ความได้เปรียบด้านระดับของตี้หวงหวัน ซึ่งดูแลอวิ๋นติ่งวิลล่าอยู่เริ่มไม่ชัดเจน กองกำลังจำนวนมากจึงคิดที่จะฆ่ามัน แต่ท้ายที่สุด ตี้หวงหวันยังคงแข็งแกร่ง ไม่มีใครประสบความสำเร็จ
หลังจากกองทัพเหยาเสร็จสิ้นการยึดครองและเก็บเกี่ยวในพื้นที่ลึกลับปู้เหอ พอพวกเขาฟื้นกำลัง ก็ตรงมายังอวิ๋นติ่งวิลล่าและเข้าโจมตีอย่างไม่ทันให้ตั้งตัว
เป้าหมายคือตี้หวงหวันที่ทรงพลังที่สุดในอวิ๋นติ่งวิลล่า
พวกเขาวางกับดักและเกือบจะฆ่าสุนัขสีทองตัวใหญ่ที่ออกมาล่าได้
แม้ว่าจะทำตามเป้าหมายไม่สำเร็จ แต่ก็ทำให้ตี้หวงหวันได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งในสายตาของพวกเขา มันแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะรักษา แม้จะมีอาชีพที่สามารถรักษาสุนัขตัวใหญ่นี้ได้ก็ตาม แต่มันจะไม่สามารถฟื้นตัวอย่างเต็มที่ได้ หากไม่ใช้เวลา 1-2 เดือน
ช่วงเวลานี้เพียงพอแล้วที่จะทำให้อวิ๋นติ่งวิลล่าสูญเสียพลังการต่อสู้ที่น่าเกรงขามที่สุดไป ซึ่งเป็นการวางรากฐานสำหรับชัยชนะของพันธมิตรต่อต้านอวิ๋นติ่ง
แม้จะพูดได้ว่าอวิ๋นติ่งวิลล่ายังไม่ได้ถูกทำลายโดยพันธมิตร แต่หลังจากนี้ 1-2 เดือน เมื่อผู้นำจำนวนมากของกองกำลังขนาดใหญ่ได้กลายเป็นผู้วิวัฒนาการระดับ 5 ดาว ผลของการยับยั้งที่มาจากตี้หวงหวันก็จะหายไป เมื่อถึงเวลานั้น อวิ๋นติ่งวิลล่าก็จะถูกกองกำลังที่มุ่งร้ายเหล่านี้บดขยี้จนตาย!
เมื่อกองทัพเหยาเสร็จสิ้นการโจมตีตี้หวงหวัน พวกเขาก็คาดการณ์ว่าอวิ๋นติ่งวิลล่าจะต้องโต้กลับอย่างแน่นอน ไม่เพียงเพื่อล้างแค้นให้กับตี้หวงหวันเท่านั้น แต่ยังเพื่อลดแรงกดดันของสงครามที่จะดำเนินต่อไปในอนาคตอันใกล้นี้ให้ได้มากที่สุดอีกด้วย
จากนั้นอวิ๋นติ่งวิลล่าจะต้องใช้ความแตกต่างระหว่างเวลาที่กองกำลังพันธมิตรต่อต้านอวิ๋นติ่งเดินทางไปยังจุดรวมพลต่างๆ เพื่อสังหารบางคน หรือรวบรวมกองกำลังเพื่อฆ่ากองกำลังบางส่วนก่อน ซึ่งสิ่งเหล่านี้กลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับอวิ๋นติ่งวิลล่า
และถ้าเป็นเช่นนั้น พวกเขาจะใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ได้อย่างไร?
ดังนั้นเหวินหงจึงเปิดโอกาสให้คนของอวิ๋นติ่งวิลล่าเข้ามาโจมตีเธอ เพราะเธอมั่นใจว่านอกจากตี้หวงหวันระดับ 5 แล้ว ไม่มีใครในอวิ๋นติ่งวิลล่าจะสามารถคุกคามเธอได้!
ยิ่งกว่านั้นเธอยังมีตัวช่วย!
ร่างของเสี่ยวจิ่วเกอที่ซ่อนอยู่หลังต้นไม้โผล่ออกมา ยืนกอดอกมองดูสมาชิกหลักทั้งสามของอวิ๋นติ่งวิลล่าด้วยสีหน้าที่มืดมน
มีเสียงลมดังขึ้นอย่างผิดปกติบนท้องฟ้า วิลแชร์ที่เปล่งแสงสีเงินโฉบมายังที่นี่และลอยอยู่เหนือฝูงชน ชายร่างผอมในชุดคลุมสีขาว มองลงมายังผู้คนของอวิ๋นติ่งวิลล่าบนพื้นด้วยสายตาที่เย็นชา แม้ว่าใบหน้าของเขาจะดูสงบและเย็นชา แต่ความเกลียดชังบนร่างของเขาพุ่งทะลุขึ้นสู่ท้องฟ้า
ไป๋เผา!
ชายผู้ที่ถูกเย่จงหมิงทำให้สูญเสียขา ได้ค้นพบชิ้นส่วนของอุปกรณ์สีเงิน และได้ ‘ยืนขึ้น’ อีกครั้งด้วยวิธีนี้
“ฉันบอกแล้วว่าวันนี้พวกแกต้องตาย!”
เหวินหงยิ้มและพูดเสียงดังอย่างดุร้าย “ตอนนี้ฉันหวังให้เย่จงหมิงจะยังไม่ตาย เพื่อที่ฉันจะได้ชื่นชมกับสีหน้าของมันตอนที่ได้รับข่าวการตายของพวกแก”
“อาหง หยุดพูดได้แล้ว ลงมือเลย”
ไป๋เผาที่อยู่บนฟ้าพูดเบาๆ แม้ในใจจะรู้สึกเกลียดชังมาก แต่เขาไม่อยากเสียคำพูดไปกับกุ้งปลาตัวเล็กๆเหล่านี้ ตอนนี้เขากลายเป็นผู้วิวัฒนาการระดับ 4 ดาวแล้ว สิ่งที่เขาหวังมากที่สุดก็คือ ชีวิตของคนที่เอาขาของเขาไปและทำให้เขาผูกติดอยู่กับวิลแชร์ราวกับสัตว์ เขาหวังให้หัวหน้าของผู้คนที่มาดักเหวินหงเหล่านี้จะยังไม่ตาย เพื่อที่เขาจะได้สังหารมันด้วยมือตัวเอง
หัวใจของโม่เย่ เซี่ยไป๋ และเซิ่งหยวน แทบจะจมดิ่งลงสู่ก้นบึ้ง วันนี้พวกเขาถูกจัดฉาก หากพวกเขาทำอะไรผิดพลาด พวกเขาทั้งหมดจะตายอยู่ที่นี่
“พวกเธอหนีไป”
เซิ่งหยวนกระซิบบอกหญิงสาวทั้งคู่ และถือโล่ในมือเคลื่อนไปทางเหวินหง
ตอนนี้สถานการณ์ชัดเจนมาก หากทุกคนพยายามต่อสู้ร่วมกัน ทั้งสามคนอาจตายอยู่ที่นี่ เพราะเสี่ยวจิ่วเกอกับเหวินหงเป็นผู้วิวัฒนาการระดับ 5 ดาว มีเพียงไป๋เผาคนเดียวเท่านั้นที่เป็นผู้วิวัฒนาการระดับ 4 ดาว แต่คนผู้นี้กำลังลอยตัวอยู่ในอากาศ ด้วยวิลแชร์สีเงิน ซึ่งดูเหมือนจะเป็นอุปกรณ์ที่ทรงพลังมาก ด้วยความแข็งแกร่งของคนทั้งสามนี้ เพียงพอจะบดขยี้พวกเซิ่งหยวนทั้งสามคนที่เป็นเพียงผู้วิวัฒนาการระดับ 4 ดาวได้
เซิ่งหยวนพูดแบบนั้นไปเพราะเขาคิดที่จะเสียสละตัวเอง ตายคนเดียวดีกว่าตายสามคน! หากอวิ๋นติ่งวิลล่าสูญเสียสมาชิกหลักทีเดียวสามคนอย่างกะทันหัน นั่นเกือบจะทำให้แน่ใจว่าวิลล่าจะไม่สามารถต้านทานการโจมตีที่จะเกิดขึ้นในครั้งต่อไปได้
“ไปด้วยกัน!”
เซี่ยไป๋กล่าวพร้อมกับพุ่งไปหาเหวินหง แม้ว่าเธอจะไม่สนใจอะไรในวิลล่า แต่ทุกคนก็รู้ดีถึงความแข็งแกร่งของเธอ ยาวิวัฒนาการระดับ 5 ดาวหลอดเดียวในอวิ๋นติ่งวิลล่า กับผลึกวิเศษส่วนใหญ่ ได้รับมาจากเธอและตี้หวงหวัน เธอมีคุณสมบัติมากที่สุดที่จะเป็นผู้วิวัฒนาการระดับ 5 ดาว แต่เธอกลับมอบยานี้ให้กับผูซิ่วหยิง ผู้ช่วยเหลือทีมได้มากที่สุดแทน ทำให้ครูสาวคนสวยกลายเป็นผู้วิวัฒนาการระดับ 5 ดาวเพียงคนเดียวในอวิ๋นติ่งวิลล่า
นี่คือสิ่งที่เซี่ยไป๋ต้องการทำ ซึ่งโดยปกติแล้วเซี่ยไป๋จะไม่สนใจอะไรมาก และตอนนี้เธอก็ได้ตัดสินใจแล้ว โม่เย่กับเซิ่งหยวนจึงทำได้เพียงกัดฟันกรอดเท่านั้น!
“แส่หาที่ตาย!”
ดาบคู่ของเหวินหงถูกเหวี่ยงเข้าหากันอย่างกะทันหัน จนเกิดเสียงระเบิดดังกึกก้อง แล้วระลอกคลื่นที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าก็เริ่มแผ่กระจายไปทั่ว เซี่ยไป๋ซึ่งแต่เดิมมีความสามารถในการซ่อนตัวในเงามืด แต่ภายใต้ระลอกคลื่นนี้ ร่างของเธอได้ปรากฏขึ้นให้เห็นอย่างชัดเจน และ ความเร็วที่เธอพึ่งพามากที่สุดก็กลายเป็นช้าลง
“นี่คือคลื่นแห่งสงคราม ไปลงนรกซะ!” เหวินหงตะโกนอย่างโกรธจัด และเดินเข้าไปหาเซี่ยไป๋
ทางอีกด้าน เสี่ยวจิ่วเกอกับไป๋เผาก็เปิดฉากโจมตีเช่นกัน ผู้คนของอวิ๋นติ่งวิลล่าทั้งสามคนตกอยู่ในสถานะต้านรับ
ในเวลานี้เองที่มีเสียงวุ่นวายดังขึ้นจากส่วนลึกของป่า ซึ่งดึงดูดความสนใจของคนทั้งหกที่กำลังต่อสู้กันในทันที