ข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 20 วิถีทางบนโลกนี้ช่างยากลำบาก
ข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 20 วิถีทางบนโลกนี้ช่างยากลำบาก
ดวงตาของคงหนิงเร่าร้อนเป็นอย่างมาก
หญิงสาวชุดขาวที่เรียกตนเองว่าหว่านเอ๋อตกตะลึงไปชั่วครู่ เธอรู้สึกแปลกๆ นิดหน่อย “หนิง.......หัวหน้ามือปราบ? ทำไมท่านถึงมองข้าเช่นนั้น? ข้าดูประหลาดงั้นหรือ?”
เมื่อหญิงสาวพูดออกมาเช่นนี้ก็แอบขยับกระโปรงของตนเอง กลัวว่าภาพลักษณ์ของนางอาจจะมีอะไรผิดแปลกไปหรือไม่
คงหนิงยืนขึ้น ใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้ม พูดขึ้นว่า “แม่นางหว่านเอ๋อมาจากที่ไหนเล่า? เจ้ามาที่นี่เพื่อกำจัดและขับไล่ปีศาจใช่หรือไม่? รู้ชื่อข้าได้อย่างไร?”
เป็นไปได้ไหมว่านางรู้เรื่องที่ปีศาจแมงป่องทำ? คราวนี้จึงมาหาคงหนิงเพื่อให้ความร่วมมือ?
คงหนิงนึกไปถึงเรื่องราวที่ฝาไห่มาเยี่ยมเยียนฉวี่เซียน[1]ในตำนานพื้นบ้านได้ ซึ่งเขานั้นแตกต่างจากฉวี่เซียน หากมีคนอย่าง'ฝาไห่'ต้องการมาสังหารปีศาจในบ้านของเขา คงหนิงคงเต็มใจให้ความร่วมมืออย่างดีเป็นหมื่นเท่า
แต่คำตอบของหว่านเอ๋อไม่เหมือนกับที่คงหนิงคาดเดา
“เป็นเช่นนี้เองสินะ” เด็กสาวชำเลืองมองอาหารมื้อใหญ่บนโต๊ะพร้อมกับกล่าวว่า “ข้าได้พบจางหรงและคนอื่นๆ ระหว่างทาง และเห็นพวกเขาพาร่างปีศาจไป ข้าจึงเดินไปถามพวกเขาด้วยความอยากรู้อยากเห็น ข้าคุยกับพวกเขาสักพักใหญ่ และได้รู้เกี่ยวกับท่านจากพวกเขา ดังนั้นจึงเดินทางเพื่อมาพบท่านหัวหน้ามือปราบหนิงเป็นการพิเศษ”
หลังจากที่หญิงสาวพูดจบ นางก็แอบชำเลืองมองอาหารบนโต๊ะ กลืนน้ำลายลงคอ
ในตอนนั้นเองก็มีเสียง “อึกๆ” ดังขึ้นมาอย่างชัดเจนภายในห้องส่วนตัวแห่งนี้
ใบหน้าของหญิงสาวเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อทันที
คงหนิงยิ้มออกมา รีบกล่าวว่า “แม่นางหว่านเอ๋อเดินทางมาไกล คงจะเหนื่อยไม่น้อย รีบนั่งลงเถอะ กินอะไรเสียหน่อย”
พูดจบคงหนิงก็ดึงเก้าอี้ตัวที่ว่างออกมาแล้วเรียกหญิงสาวให้นั่งลง
ผู้ฝึกตนคนนี้ ดูไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่นัก......
คงหนิงให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น หญิงสาวก็นั่งลงด้วยความพอใจ เมื่อมองดูอาหารอันโอ่อ่าที่อยู่ตรงหน้า นางลังเลครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ข้ากินได้จริงหรือ?”
ใบหน้าของคงหนิงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “แน่นอน แม่นางหว่านเอ๋อเป็นแขกจากแดนไกล เอาเลย อย่าได้มากพิธี”
เมื่อพูดออกไปเช่นนั้น คงหนิงก็กลับไปนั่งบนเก้าอี้อีกครั้ง ไม่ได้เข้าใกล้หญิงสาวมากจนเกินไป เพื่อไม่ให้หญิงสาวรู้สึกว่าเขาเข้าหามากเกิน ตอนนี้ดูเหมือนว่าหญิงนางนี้จะไม่ได้อึดอัดอะไร แต่เหมือนจะเป็นคนเก็บเนื้อเก็บตัวนิดหน่อย? และยังดูไม่ทึ่มๆ อีกด้วย.......
คงหนิงคิดอยู่ภายในใจ แต่ใบหน้ายังประดับด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่นและเป็นมิตร
รอยยิ้มนั้นทำให้หญิงสาวคลายความกังวลไปได้
นางยกตะเกียบขึ้นมาและกำลังจะคีบอาหาร จู่ๆ ก็เหมือนจะนึกบางอย่างออก แล้วพูดกับคงหนิงด้วยท่าทีจริงจังว่า “หว่านเอ๋อจะไม่กินอาหารมื้อนี้เปล่าๆ คราวหน้าข้าจะตอบแทนให้อย่างแน่นอน!”
หลังจากพูดจบ กำแพงในใจของหญิงสาวก็เหมือนจะพังทลาย ไม่สนใจปฏิกิริยาของคงหนิง ไม่มีความระมัดระวังอีกต่อไป ขยับตะเกียบในมืออย่างรวดเร็ว
อาหารแต่ละจานถูกนางจัดการอย่างรวดเร็ว ตะเกียบที่โบยบินอยู่บนโต๊ะอาหารรวดเร็วจนเกือบจะกลายเป็นภาพติดตา เด็กสาวเคี้ยวอาหารในปากอย่างรวดเร็ว
บนโต๊ะที่มีจานอาหารกว่าหนึ่งโหลถูกหญิงสาววัยรุ่นกวาดเรียบจนหมดภายในเวลาไม่ถึงสิบนาที
เมื่อเห็นฉากนี้ คงหนิงก็ตกตะลึงไปเล็กน้อย
นี่......ผู้ฝึกตนมักจะกินอาหารอย่างดุเดือดเช่นนี้เลยหรือ?
ตะเกียบของหญิงสาวหยุดลงเมื่อตอนที่อาหารทุกจานบนโต๊ะถูกกวาดจนเกลี้ยง นางวางตะเกียบลง หยิบผ้าขึ้นมาเช็ดปาก และถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก
กล่าวว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้กินอาหารที่หรูหราเช่นนี้......หัวหน้ามือปราบหนิง ขอบคุณสำหรับการต้อนรับของเจ้า เจ้าเป็นคนดีมากๆ”
หญิงสาวของคุณด้วยใจจริง
คงหนิงพูดไม่ออกไปครู่หนึ่ง แค่อาหารบนโต๊ะนี้ก็นับว่าเป็นอาหารมื้อหรูหราแล้ว? เพียงแค่เลี้ยงเจ้าด้วยอาหารธรรมดาๆ ก็ได้รับเหรียญตราคนดีมาประดับกาย.......แม่นางผู้นี้ นางไปเจอคืนวันอันแสนโหดร้ายเช่นไรมา?
ในใจของเขา นึกถึงเรื่องความประหลาดของหญิงสาวผู้นี้ แต่ใบหน้ายังคงไว้ซึ่งรอยยิ้มที่มีเมตตา จากนั้นจึงกล่าวว่า “แม่นางหว่านเอ๋อมาที่เขตชานหลานเพื่อพบเจอข้าในครั้งนี้ เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือไม่?”
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อย แน่นอนว่าต้องถึงเวลาคุยธุรกิจ
หญิงสาวนั่งตัวตรง แล้วพูดอย่างจริงจังว่า “หัวหน้ามือปราบหนิง เจ้ารู้หรือไม่ว่าสถานการณ์ในปัจจุบันของเจ้าอันตรายมากเพียงไร?”
“โอ้?” คงหนิงยืดตัวตรงแล้วถามกลับไป “แม่นางหว่านเอ๋อ ได้โปรดบอกกล่าวโดยละเอียดเถิด”
หญิงสาวพูดด้วยใบหน้าจริงจัง “แม้ว่าหัวหน้ามือปราบหนิงจะมีวิชาการต่อสู้สูงส่ง สังหารปีศาจถึงสองตนติดต่อกัน แต่ปีศาจสองตนนี้ก็เป็นเพียงปีศาจตัวจ้อยธรรมดาๆ ที่มีฐานการบ่มเพาะต่ำ พวกมันไม่ใช่ตัวตนที่โหดร้ายอะไร”
“และในเขตชานหลานเล็กๆ แห่งนี้ มีปีศาจกลุ่มหนึ่งที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าปีศาจตัวจ้อยสองตัวนั้น”
“ตอนที่ข้ายังอยู่นอกเมือง ข้าก็ได้เห็นมาแต่ไกลว่าไอปีศาจได้พวยพุ่งทะยานขึ้นไปถึงท้องฟ้า และพลังงานปีศาจนี้ก็น่ากลัวยิ่ง หลังจากเข้ามาภายในเขตเมือง ข้าก็รู้สึกหดหู่มากขึ้นทุกขณะ ทุกที่ที่ข้าเห็นเต็มไปด้วยไอปีศาจ”
“ข้าคิดว่าคงมีปีศาจอาศัยอยู่ในเขตนี้อย่างน้อยๆ ก็สิบตัว และอาจมีปีศาจระดับสูงที่มีพลังตบะมากกว่าสามร้อยปี!”
“หัวหน้ามือปราบหนิงอยู่ในสถานที่อันตราย และได้ปลิดชีพปีศาจไปถึงสองตน ดึงดูดความสนใจจากส่วนรวม และอาจถูกปีศาจเข้าโจมตีเมื่อไหร่ก็ได้!”
“นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าเดินทางมาเขตชานหลานในครั้งนี้ เพื่อพาหัวหน้ามือปราบหนิงออกจากสถานที่อันตรายนี้ ลี้ภัยไปที่อื่น”
“นิกายกระบี่สวรรค์ลี้ลับของข้าเป็นสำนักเซียนฝ่ายธรรมะ เคล็ดวิชากระบี่สวรรค์นั้นมีความเฉียบคมที่เหนือชั้น และด้วยฝีมือของหัวหน้ามือปราบหนิงซึ่งยังไม่ได้ฝึกฝนวิชา แต่ก็ยังปราบปีศาจชั่วร้ายได้ด้วยร่างกายของมนุษย์ปกติ จะต้องมีพรสวรรค์อย่างมากแน่นอน หากเจ้ายินดีเข้าร่วมกับนิกายกระบี่สวรรค์ลี้ลับและฝึกฝนวิชากระบี่สวรรค์ เจ้าจะต้องมีอนาคตอันสดใส การล่าสังหารปีศาจจะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป”
“ข้าใคร่รู้ว่าหัวหน้ามือปราบหนิงจะยอมติดตามไปกับหว่านเอ๋อหรือไม่?”
หญิงสาวมองคงหนิงด้วยความคาดหวัง
คงหนิงมองนางด้วยความประหลาดใจ คาดไม่ถึงว่าหญิงสาวคนนี้จะเดินทางมาเพื่อรับลูกศิษย์เข้าสำนัก
แต่นิกายกระบี่สวรรค์ลี้ลับงั้นหรือ? ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน และไม่รู้ว่าเป็นนิกายระดับไหน
คงหนิงลังเลแล้วพูดกลับไปว่า “แม้ว่าข้าต้องการจะไปกับแม่นาง แต่ตอนนี้ข้ายังจัดการปัญหาของตนเองไม่ได้ ยังจากไปตอนนี้ไม่ได้”
คงหนิงถอนหายใจ “ข้าจะไม่ปิดบังต่อแม่นางหว่านเอ๋อ ก่อนที่เจ้าจะมาถึงเมืองนี้ ข้าได้ถูกปีศาจแมงป่องโจมตีเข้าให้แล้ว ปีศาจแมงป่องที่ไม่ทราบต้นกำเนิดหลอกข้าจนได้แต่งงานกัน จากนั้นก็ย้ายเข้ามาอยู่บ้านข้า ทั้งยังฝังไข่ปีศาจเข้ามาในร่างของข้าอีก”
“ถ้าข้าออกจากที่นี่ไป ปีศาจแมงป่องจะต้องโกรธเกรี้ยวและหาทางระบายความโกรธกับผู้อาวุโสสองคนในตระกูลของข้าเป็นแน่ แต่ถ้าแม่นางสามารถเชิญผู้อาวุโสในนิกายของเจ้าให้มาปราบปีศาจร้ายนี้ได้ สถานการณ์ก็จะแตกต่างออกไป”
คงหนิงสามารถเห็นได้ว่าหญิงสาวที่อยู่เบื้องหน้ามีระดับการบ่มเพาะไม่สูง และเมื่อดูจากไอพลังของนาง มันควรจะไม่ต่างไปจากเขามากนัก แม้จะแข็งแกร่งกว่าตัวเขา แต่ความแข็งแกร่งนั้นก็ยังมีจำกัด
มือใหม่ที่เพิ่งฝึกฝนบ่มเพาะไม่สามารถต่อสู้กับปีศาจได้แน่ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงขอให้ผู้อาวุโสของอีกฝ่ายมาดำเนินการเรื่องนี้แทน
หากนิกายกระบี่สวรรค์ลี้ลับสามารถสังหารปีศาจแมงป่องและช่วยคงหนิงให้หลุดพ้นจากทะเลแห่งความทุกข์นี้ไปได้ ก็ไม่มีเหตุผลใดที่เขาจะไม่เข้าร่วมกับนิกายนี้
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่คงหนิงกล่าวจบ ใบหน้าของหญิงสาวก็นิ่งค้างไปเล็กน้อย
“ถูก......ถูกทำร้ายหรือ?” หญิงสาวถามต่อ “หัวหน้ามือปราบหนิง เกิดอะไรขึ้นไข่ปีศาจทำร้ายเจ้าได้อย่างไร สถานการณ์เป็นเช่นไร? ช่วยอธิบายให้ฟังมากกว่านี้ได้หรือไม่?”
คงหนิงถอนหายใจ เล่าเรื่องราวคร่าวๆ ที่เขาถูกหลอกให้ตกหลุมรักและสุดท้ายก็แต่งงานกัน จากนั้นก็โดนวางไข่ปีศาจเข้ามาในร่าง
และหลังจากหญิงสาวได้ยินเรื่องนี้ สีหน้าของนางก็ดูสิ้นหวังเล็กน้อย
“ถ้าแปลงกายเป็นมนุษย์ได้ อย่างน้อยๆ ก็ต้องสั่งสมพลังตบะมาสักหนึ่งร้อยปี”
“ทั้งยังสามารถวางไข่ในร่างของคนที่มีชีวิตอยู่ได้ และวิธีการสืบทอดเผ่าพันธุ์เช่นนี้ ถ้าไม่มีพลังตบะถึงสองร้อยปี ไม่มีทางทำได้”
“ข้าไม่รู้ว่านางสามารถโบยบินบนท้องฟ้าได้ไหม......ถ้านางสามารถโบยบินไปบนท้องฟ้าได้ นางก็ต้องมีพลังตบะอย่างน้อยสามร้อยปี”
“หัวหน้ามือปราบหนิง ปีศาจแมงป่องที่โจมตีเจ้า......เป็นปีศาจยักษ์ใหญ่! หว่านเอ๋อไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาง จึงไม่อาจช่วยเหลือเจ้าได้”
ความสิ้นหวังของหญิงสาวทำให้คงหนิงประหลาดใจเล็กน้อย
แม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของปีศาจแมงป่อง แต่เรื่องนั้นคงหนิงก็รู้อยู่แล้ว
ถึงสู้ไม่ได้ ก็ยังเรียกผู้อาวุโสมาได้ ทำไมถึงดูหมดหวังเช่นนั้น? ใช่ไหม.......
คงหนิงพลันรู้สึกไม่สบายใจแล้วพูดขึ้นว่า “แม่นางหว่านเอ๋อ ขออนุญาตถามได้หรือไม่ว่าภายในนิกายกระบี่สวรรค์ลี้ลับของเจ้า.........มีสมาชิกอยู่กี่คน?”
หญิงสาวยกนิ้วชี้ขึ้นแล้วพูดอย่างขมขื่นว่า “คนเดียว.......ตอนนี้นิกายกระบี่สวรรค์ลี้ลับเหลือเพียงหว่านเอ๋อเท่านั้น ดังนั้นหว่านเอ๋อจึงไม่มีศิษย์พี่หรือผู้อาวุโส.......ขออภัยหัวหน้ามือปราบคงหนิง ดูเหมือนว่าหว่านเอ๋อจะมาสายจนเกินไป”
หญิงสาวรู้สึกผิดเล็กน้อย แต่คงหนิงก็ยังไม่เลิกหวัง ถามต่อไปว่า “แม่นางหว่านเอ๋อ เจ้ารู้จักผู้อาวุโสในโลกของผู้ฝึกตนอีกหรือไม่? ถ้าเจ้าสามารถใช้ความสัมพันธ์ระหว่างนิกายเชื้อเชิญอาวุโสที่เป็นมิตรกับนิกายกระบี่สวรรค์ลี้ลับให้มาที่นี่เพื่อกำจัดปีศาจ พอจะเป็นไปได้หรือไม่?”
คงหนิงเสนอออกไป
หญิงสาวมองเขาโดยไม่ได้พูดอะไร เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดออกมาในที่สุด
“ข้าทำให้หัวหน้ามือปราบหนิงผิดหวังแล้ว หว่านเอ๋อไม่ใช่ศิษย์ที่แท้จริงของนิกายกระบี่สวรรค์ลี้ลับ ในความเป็นจริงนิกายกระบี่สวรรค์ลี้ลับถูกทำลายลงเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว ทั้งนิกายถูกเหล่าปีศาจคร่าชีวิต และผู้นำนิกายก็ยังถูกปีศาจกลืนกินเพื่อเพิ่มพลังตบะ”
“หว่านเอ๋อหลงทางอยู่บนภูเขาเมื่อแปดปีที่แล้ว และบังเอิญพบห้องลับที่ผู้อาวุโสทิ้งเอาไว้ ดังนั้นจึงได้รับมรดกวิชากระบี่สวรรค์ ใช้เวลาแปดปีในการบำเพ็ญตนบนภูเขา และตอนนี้ก็เพิ่งจะลงมาจากภูเขาเป็นครั้งแรกเท่านั้นก็ได้ยินเกี่ยวกับวีรกรรมของหัวหน้ามือปราบหนิงเลย จึงต้องการจะเชิญหัวหน้ามือปราบหนิงมาร่วมกันฟื้นคืนศักดิ์ศรีของนิกายกระบี่สวรรค์ลี้ลับด้วยกัน”
“ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างนิกายหรือผู้อาวุโสที่สนิทสนมกับนิกาย......บางทีคงไม่มี หรือถึงแม้จะมีจริงๆ อาจจะตกตายไปพร้อมกับหายนะที่เกิดขึ้นกับนิกายเมื่อยี่สิบปีก่อนไปแล้ว”
“ตามบันทึกที่นิกายได้ทิ้งเอาไว้ เมื่อยี่สิบปีก่อนเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ขึ้นบนผืนแผ่นดินนี้ กลุ่มปีศาจรวมตัวกัน วิถีมารเติบโตเฟื่องฟู มีสำนักผู้วิเศษหลายแห่งถูกปีศาจล้อมกรอบไม่ก็ถูกทำลาย”
“แม้ว่านิกายกระบี่สวรรค์ลี้ลับจะไม่ใช่สำนักผู้วิเศษแห่งสุดท้ายที่พินาศไป แต่ตอนนี้ก็ผ่านมาถึงยี่สิบปีแล้ว แม้ว่าสำนักผู้วิเศษแห่งอื่นๆ อาจจะยังมีอยู่ แต่สถานการณ์ก็คงไม่ได้ดีเหมือนเช่นเมื่อก่อนอีกแล้ว”
“ไม่เช่นนั้นทำไมในแว่นแคว้นนี้ จึงมีปีศาจออกมาโลดแล่นอยู่มากมายเช่นนี้?”
“หว่านเอ๋อเดาว่าอาจจะมีบางอย่างเกิดขึ้นกับศาลเจ้าเทพประจำเมือง แต่เขตชานหลานตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล บางทีสถานการณ์อาจจะค่อนข้างดี”
“ในเมืองใหญ่ๆ ภายนอก สถานการณ์จะยิ่งวุ่นวายมากขึ้นไปอีก”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ หญิงสาวก็ถอนหายใจอีกครั้ง สีหน้าขมขื่นอย่างยิ่ง “หัวหน้ามือปราบหนิง โลกนี้ช่างยากลำบากนัก ชีวิตของผู้คนล้วนเต็มไปด้วยอุปสรรคขวากหนาม”
---------------------------------
[1] ฉวี่เซียน เป็นตัวละครเอกจากเรื่อง ตำนานนางพญางูขาว (ก็คือพระเอกมีความรักกับงูขาวที่บำเพ็ญเพียรครบหนึ่งพันปี แต่บังเอิญนักพรตฝาไห่ล่วงรู้จึงพยายามกีดกันความรักที่ขัดต่อกฎสวรรค์นี้)