MMORPG : ตอนที่ 36 วิหารแห่งเผ่าเงือก

ค่าสถานะนี้มัน…

เพื่อพิจารณาจากค่าสถานะของ เผ่าเงือกระดับสูง แล้ว ฉินลั่วเฉิง ก็สูดลมหายใจเข้าลึก

เผ่าเงือกระดับสูงตัวนี้ เปรียบเทียบได้กับบอสระดับทองแดงในเลเวลเดียวกัน!

สัตว์ปีศาจระดับสูง ค่อนข้างอันตรายอย่างแท้จริง

ทว่า…

ตัวละคร : เสียงวิญญาณร่ำไห้

ระดับ : เลเวล 9

อาชีพ : นักรบคลั่ง

ความสามารถ : ราชาแห่งดวงดาว

ชื่อเสียง : 1,950

พลัง : ไม่มี

เงิน : 27 เหรียญทอง 55 เงิน 69 ทองแดง

คุณสมบัติพื้นฐาน : ความแข็งแกร่ง 215,พลังป้องกัน 132,ความว่องไว 105,จิตใจ 100

คุณสมบัติพิเศษ : โชค 0,พรสวรรค์ MAX,การรับรู้ 0,ความทนทาน 0,การเพ่งเล็ง 0

ค่าพลังชีวิต : 6,884/6,884

มานา : 5,099/5,099

การโจมตีทางกายภาพ : 553

การโจมตีทางเวทย์มนตร์ : 132

พลังป้องกัน : 352

พลังป้องกันเวทย์ : 35

ความเร็ว : 126

หลบหลีก : 35%

คริติคอล : 45%

ต้านทานธาตุ : น้ำ 20%,ไฟ 0%,ลม 0%,สายฟ้า 0%,ดิน 0%,แสง 0%,มืด 0%,พิษ 0%

ทักษะ : [การตรวจสอบ] ติดตัว

เมื่อเทียบกันแล้วค่าสถานะของเขากับอีกฝ่ายก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก!

“เอาล่ะนะ!”

ฉินลั่วเฉิง ไม่ได้คิดให้มากความ เขาได้ดึงดาบ[กระหายเลือด]ออกมาโดยตรงและเริ่มต้นการโจมตีในทันที

สัมผัสการรับรู้ของเงือกระดับสูงตัวนี้เฉียบคมมาก ทันทีที่ ฉินลั่วเฉิง เข้ามาในระยะ 8 เมตร มันก็อ้าปากและส่งเสียงร้องคำรามออกมาอย่างรวดเร็ว

“อดีตอัจฉริยะของเผ่าเงือกได้ผันตัวกลายเป็นสัตว์ปีศาจที่สูญเสียเหตุผล ช่างน่าเสียดายอย่างแท้จริง!”

ฉินลั่วเฉิง ได้บ่นพึมพัมออกมาเล็กน้อย และ หลบการโจมตีของเงือกระดับสูงได้อย่างง่ายดาย จากนั้น เขาก็ตวัดดาบวาดฟันออกไปยังผืวหนังที่ดูอ่อนแอของมัน

ค่าพลังชีวิต - 302!

เขาทำความเสียหายได้เพียงเล็กน้อย!

นอกจากนี้ ด้วยผลของ ไข่มุกวิญญาณวารี ทำให้ขอบเขตการมองเห็นใต้น้ำของเขาได้รับการปรับปรุงอย่างรวดเร็ว ภายในบริเวณโดยรอบอย่างน้อย 50 เมตร เขาสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน

1,2,3,4?

แค่ 4 ตัว?

ภายในพื้นที่โดยรอบระยะ 50 เมตร มี เผ่าเงือกทั้งหมด 4 ตัวเท่านั้น?

แต่มันก็ไม่ค่อยน่าแปลกใจเพราะความสามารถของอีกฝ่ายเทียบเท่ากับ BOSS ระดับทองแดงในระดับเลเวลเดียวกัน

หากมีจำนวนน้อยนิดเช่นนี้ก็ยังคงพอจะทำความเข้าใจได้

อีกทั้งในเวลานี้ เขาไม่จำเป็นจะต้องเก็บงำความสามารถของตัวเอง และ สามารถระเบิดมันออกมาได้ตลอดเวลา

“พลังแห่งดวงดาว!”

“กำลังใจ!”

“ปะทุความโกรธ!”

ฉินลั่วเฉิง ได้ใช้ทักษะเพิ่มพลังโจมตีอย่างต่อเนื่อง ทำให้ค่าพลังโจมตีของเขาพุ่งสูงขึ้นในทันที!

“ระเบิดแห่งความโกรธ!”

จากนั้นเขาก็ได้ใช้ดาบ[กระหายเลือด] โจมตีออกไปยังเผ่าเงือกระดับสูงโดยเล็งที่หัวของมันอย่างรวดเร็ว

-155!

-14,800!

ค่าความเสียหายได้ปรากฏขึ้นบนศีรษะของ ฉินลั่วเฉิง และ เงือกระดับสูงพร้อมกัน

แถบค่าพลังชีวิตมากกว่า 6,000 ของ ฉินลั่วเฉิง ได้ถูกหักไปมากกว่า 100 หน่วย ซึ่งมันลดลงเพียงเล็กน้อย และ แทบจะแยกไม่ออกด้วยตาเปล่า

อย่างไรก็ตาม เงือกระดับสูงที่มีค่าพลังชีวิตมากกว่า 8,000 หน่วย กลับถูกลดทอนหายไปอย่างน่าสะพรึงกลัวในทันที

“...”

หลังจากประสบความสำเร็จในการโจมตี ฉินลั่วเฉิง ก็ได้มองหาเป้าหมายตัวต่อไป

“ไม่คิดเลยว่ามันจะง่ายดายขนาดนี้”

เขามองไปที่ เงือกระดับสูงที่ล้มลงกับพื้นเพียงเล็กน้อย และ ไม่ได้เหลียวแลมันอีก

เขาได้เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ด้วยความกระตือรือร้น แต่ศัตรูกลับถูกฆ่าตายอย่างง่ายดายเช่นนี้…

“เมื่อเผชิญหน้ากับพลังแห่งดวงดาว ทุกสิ่งก็ดูเหมือนกับหนอนแมลง!”

หลังจากครุ่นคิดในใจ มุมปากของ ฉินลั่วเฉิง ก็ได้ยกขึ้นในทันที

ผลของพลังแห่งดวงดาว ได้เพิ่มการโจมตีทางกายภาพขึ้น 100%!

ด้วยพลังโจมตีดั้งเดิมที่มากกว่า 500 หน่วย ได้เพิ่มขึ้นสองเท่าโดยตรงมากกว่า 1,000! หน่วย

นอกจากนี้ ยังมี ผลของเอฟเฟกต์ กำลังใจและปะทุความโกรธ เช่นเดียวกับ ความชำนาญอาวุธ ที่ทำให้ความเสียหายทั้งหมดเพิ่มขึ้น 25%

และในที่สุดก็การทำดาเมจ 500% ของความเสียหายทั้งหมด สิ่งนี้ทำให้การโจมตีของเขาแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นหลายเท่า และ บวกกับอัตราคริติคอล ที่ถูกรวมเข้าไปด้วย

สิ่งนี้ทำให้ เงือกระดับสูง ได้ถูกทำลายด้วยการโจมตีที่น่าสะพรึงกลัวเพียงครั้งเดียว

“น่าเสียดายที่ระยะเวลาแสดงผลค่อนข้างสั้นเกินไป มิฉะนั้นฉันคงกลายเป็นเทพเจ้าแห่งสงครามแล้ว!”

ระยะเวลาแสดงผล 30 วินาที ต่อ คูลดาวน์ 5 นาที ถือว่าระยะค่อนข้างสั้น

อย่างไรก็ตามประสิทธิภาพของมันในช่วงระยะเวลาในการระเบิดพลังเหล่านี้ก็ไม่อาจมองข้ามได้ง่าย

นอกจากนี้หากว่ากันตามตรง เงือกระดับสูง ก็มีค่าสถานะค่อนข้างแกร่ง เพียงแต่อีกฝ่ายได้มาจับคู่กับศัตรูที่ผิดไปก็เท่านั้นเอง

หลังจากนี้…

ฉินลั่วเฉิง ก็มองหา เงือกระดับสูงตัวต่อไปอย่างรวดเร็ว

ระยะเวลาการแสดงผลของทักษะเสริมของเขาได้หมดลง แต่ทว่า ฉินลั่วเฉิง ก็ไม่ได้รอเป็นเวลานานกว่า 5 นาทีก่อนจะลงมืออีกครั้ง

เขาได้อาศัยคุณลักษณะและค่าสถานะของตัวเองในการบดขยี้มันอย่างรุนแรง

การรับมือกับศัตรูเช่นนี้ยังง่ายกว่าการเผชิญหน้ากับ BOSS ด้วยซ้ำ

เพราะโดยปกติแล้ว BOSS จะมีสถานะพิเศษ และ ทำให้ยากต่อการเผชิญหน้าคนเดียว ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องจับทีมกันเพื่อรุม BOSS เพียงตัวเดียว

แต่ ฉินลั่วเฉิง ที่คิดจะกลายเป็นผู้เล่น โซโล่ เขาจำเป็นจะต้องอัพเกรดค่าสถานะของเขา และ ไม่ได้หวังพึ่งพาแต่ทักษะพิเศษมากเกินไป

ด้วยค่าพลังชีวิตมากกว่า 6,000 หน่วยของเขา ทำให้ ฉันลั่วเฉิง ไม่ได้เกรงกลัวว่า เงือกระดับสูง จะสามารถฆ่าเขาได้ เขาได้ใช้พวกมัน ให้กลายเป็นหินลับคมของตัวเองแทน

…

ดินแดนเผ่าเงือกค่อนข้างกว้างใหญ่เป็นอย่างมาก

แต่ที่นี่ได้ถูกทิ้งร้างไปนานแล้ว

ยกเว้นสัตว์ปีศาจที่ถูกเนรเทศมาอยู่ภายใน ก็แทบจะไม่มีเผ่าเงือกตัวอื่นอีกเลย

เขาได้จัดการเผ่าเงือกระดับสูงเหล่านี้อย่างรวดเร็ว

แน่นอนว่า ฉินลั่วเฉิง ได้ใช้เวลาเกือบ หนึ่งชั่วโมง ในการสังหารเผ่าเงือกที่มีน้อยกว่า 20 ตัว และ ในที่สุด เขาก็สามารถเคลียร์พื้นที่โดยรอบได้

“ดูเหมือนว่าเผ่าเงือกจะตกต่ำลงอย่างแท้จริง มีเพียงแค่หมาแมวตัวเล็กและตัวใหญ่เพียงไม่กี่ตัวที่คอยปกป้องดินแดนบรรพบุรุษแห่งนี้!”

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ เผ่าเงือกคือเผ่าโบราณ ที่เป็นหนึ่งในราชวงศ์ใต้น้ำ มันเทียบเท่าได้กับเผ่าพันธุ์มนุษย์ และ เคยรุ่งเรืองในช่วงระยะเวลานึง

แต่น่าเสียดายที่พวกมันทั้งหมดกลับตกต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด

แม้ว่าสถานที่แห่งนี้จะเป็นเพียงดินแดนย่อยของพวกมัน แต่ เผ่าเงือกทั้งหมดที่เสื่อมถอยลง ก็เกรงว่าคงจะไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านี้

“มันค่อนข้างง่ายดายสำหรับฉันอย่างมาก!”

ฉินลั่วเฉิง ไม่ได้สนใจ เผ่าเงือกมากนัก แน่นอนว่า เขาค่อนข้างรู้สึกขอบคุณเผ่าเงือกที่ตกต่ำ ทำให้เขาง่ายต่อการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ในสถานที่แห่งนี้ ทว่าเผ่าเงือกที่ตกต่ำ ก็หาใช่บางสิ่งที่ ผู้เล่นมือใหม่ จะสามารถเทียบเคียงได้ เพราะ ผู้เล่นเหล่านี้ ยังไม่มีความสามารถมากพอที่จะดำลึกลงมาและบุกโจมตีเข้าไปในดินแดนแห่งบรรพบุรุษ

“อูฐผอมก็ยังตัวใหญ่กว่าม้า สัตว์ปีศาจแต่ละตัว ก็ได้ดรอบอุปกรณ์อย่างน้อยนึงชิ้น อย่างน้อยอัตราดรอบของพวกมันก็ค่อนข้างสูงกว่าที่คิดเอาไว้”

เมื่อเขาฆ่า เผ่าเงือกตัวสุดท้าย ฉินลั่วเฉิง ก็มองไปที่ สร้อยคอทองสัมฤทธิ์

น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถระบุค่าสถานะหรือสวมใส่ในเวลานี้ได้

“เอาล่ะ หลังจากเก็บกวาดพื้นที่นี้เสร็จแล้ว ให้ฉันดูหน่อยว่า บอสใหญ่ของสถานที่แห่งนี้หน้าตาเป็นอย่างไร!!!”

หลังจากทำความสะอาดและเก็บของที่ได้รับมาเสร็จ ฉินลั่วเฉิง ก็ไม่ได้รอช้า และ รีบตรงเข้าไปยังส่วนลึกของดินแดนแห่งนี้

เพราะเขาเหลือเวลาที่นัดกับ ACTO ไว้อีกไม่นาน ดังนั้นเขาจะต้องรีบจบการต่อสู้ทั้งหมดโดยเร็วที่สุด

“สมแล้วที่ครั้งนึงเคยเป็นราชวงศ์ใต้น้ำที่รุ่งเรือง อารยธรรมของพวกเขาในอดีต ค่อนข้างงดงามเป็นอย่างมาก”

ฉินลั่วเฉิง รู้สึกประทับใจ

สิ่งปลูกสร้างใต้น้ำต่าง ๆ ถูกประดับด้วย เงิน,หยก และ ทอง…

แทบจะเป็นสิ่งของมีค่าทุกอย่าง

สิ่งเหล่านี้ควรจะเป็นสิ่งของมีค่าบนบก แต่เมื่อมันอยู่ใต้น้ำ กลับกลายเป็นเพียงแค่ก้อนหินประดับประดาไปทั่ว

เพียงแต่ก้อนหินประดับประดาเหล่านี้กลับแสดงให้เห็นถึงความรุ่งเรืองในอดีตของพวกมัน

และน่าสิ่งที่ตกใจมากที่สุดก็คือ พระราชวังที่สร้างจากหยกขาวใสที่ไม่เป็นที่รู้จัก

มันคล้ายกับคริสตัลใส ที่เป็นพระราชวังที่มีอยู่ในตำนาน!

เขาได้ก้าวขึ้นบันไดหยกขาว และ ผลักประตูแก้วออก เพื่อเข้าสู่พื้นที่พระราชวังอันรุ่งโรจน์

ที่นี่ค่อนข้างเรียบง่ายกว่าที่เขาคิดเอาไว้

“หลายพันปีผ่านไป ข้าไม่คิดเลยว่าจะมีคนที่แข็งแกร่งบุกเข้ามาในวิหารแห่งเผ่าเงือกของข้า!”

ทันใดนั้น เสียงที่แผ่วเบาก็ได้ดังขึ้นภายในพระราชวังที่งดงามแห่งนี้

ฉินลั่วเฉิง ได้จ้องมองไปที่มัน

ด้านหน้าเขา มี บัลลังก์ที่ดูหรูหราตั้งไว้อยู่ และ บนบัลลังก์มีร่างผอมบางนั่งอยู่ที่นั่น ในเวลานี้ ดวงตาที่มืดมนของมันได้ส่องประกายเจิดจ้าและจ้องมองมาที่เขาอย่างใกล้ชิด!