MMORPG : ตอนที่ 35 พื้นที่ลับที่ถูกซ่อนเอาไว้
“ติ๊ง ไอเท็มในปัจจุบันเป็นสมบัติทางจิตวิญญาณแบบพิเศษ ความสามารถของคุณไม่เพียงพอ ไม่สามารถใช้งานปาฏิหาริย์แห่งสตาร์ไลท์ได้!”
ฉินลั่วเฉิง รู้สึกพูดไม่ออก
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินว่าไม่สามารถใช้งาน ‘ปาฏิหาริย์แห่งสตาร์ไลท์’ ได้
ความสามารถพิเศษระดับ SSS ที่โครตจะโกง กลับ ไม่สามารถใช้งานได้ในเวลานี้?
แต่…
สิ่งนี้ก็ได้สร้างแรงจูงใจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนให้กับ ฉินลั่วเฉิง
ไม่มีใครรู้จักปาฏิหาริย์แห่งสตาร์ไลท์ดีไปกว่าเขา
ด้วยข้อกำหนดที่ให้มาเช่นนี้ แสดงว่าขีดจำกัดในการพัฒนาของปาฏิหาริย์แห่งสตาร์ไลท์ยังคงไม่ได้สิ้นสุด
ดังนั้นเขาจะไม่รู้สึกตื่นเต้นได้อย่างไร
อุปกรณ์และอุปกรณ์พิเศษอื่น ๆ ในอดีต เป็นเพียงอุปกรณ์ธรรมดาเพียงเท่านั้น และ ปาฏิหาริย์แห่งสตาร์ไลท์ ก็ได้สร้างความประทับใจให้กับพวกมันได้ทั้งหมด
คราวนี้เผชิญหน้ากับ ไข่มุกวิญญาณวารี ที่เป็นขุมทรัพย์ทางจิตวิญญาณ ความล้มเหลวของการใช้งาน ปาฏิหาริย์แห่งสตาร์ไลท์ ย่อมเป็นที่ยอมรับได้
แต่…
ไม่ใช่ว่าปาฏิหาริย์แห่งสตาร์ไลท์ไม่สามารถใช้งานได้ แต่เป็นเขาที่มีคุณสมบัติยังไม่พอ
ระบบแจ้งว่ามันเป็นการ ‘ขาดความสามารถ’ ซึ่งนำไปสู่ความล้มเหลวในการปรับเปลี่ยน
“หากพรสวรรค์ของฉันได้รับการอัพเกรดอีกครั้งและสามารถเสริมพลังให้กับไข่มุกวิญญาณวารีนี้ได้มันจะแข็งแกร่งมากขึ้นขนาดไหนกัน?”
ฉินลั่วเฉิง ต้องการจะรู้
เขาเคยพบวิธีที่จะยกระดับความสามารถของเขามาก่อน และ มันก็ต้องการเหรียญสัญลักษณ์พิเศษ
“ฉันไม่รุ้ว่าหลังจากที่ฉันอัพเกรดพรสวรรค์อีกครั้ง ปาฏิหาริย์แห่งสตาร์ไลท์ จะสามารถใช้กับ ไข่มุกวิญญาณวารีได้หรือไม่?”
ฉินลั่วเฉิง ได้ครุ่นคิดในใจ“ในดันเจี้ยนแห่งการทดสอบโหมดฝันร้าย มนุษย์งู เป็นบอสระดับเงิน แสดงว่า บอสตัวสุดท้ายของโหมดขุมนรก จะต้องเป็น บอสระดับทองอย่างแน่นอน”
“ถ้าเกิดฉันสามารถผ่านด่านและฆ่าบอสระดับทองได้ ระบบก็ควรจะตอบแทนเหมือนกับบอสสองตัวก่อนหน้านี้ ให้เป็นสัญลักษณ์พิเศษระดับทองแก่ฉัน และ ฉันก็จะสามารถอัพเกรดพรสวรรค์ได้”
“เพียงแต่…”
เมื่อคิดว่าโหมดฝันร้ายนั้นยากลำบากกว่าโหมดยากมากกว่า 2 เท่า ฉินลั่วเฉิง ก็กลายเป็นมืดมน
แม้ว่าเขาจะมีความสามารถที่ค่อนข้างโกง แต่การจัดการโหมดนรกที่ยากกว่าโหมดฝันร้ายถึง 2 เท่าก็ค่อนข้างลำบากอย่างแท้จริง
“นี่มันค่อนข้างแย่เลยแหะ!”
ฉินลั่วเฉิง ได้ยิ้มอย่างขมขื่น
เขาได้สั่นศีรษะ“ลืมไปเถอะ ฉันในเวลานี้ควรคิดหาทางจัดการกับธุรกรรมกับยาถู๋ก่อน จากนั้น ก็ไปพบกับ ตาเฒ่าอู๋ ด้วยดวงตาหมาป่า 8 ล้านดวง ที่ได้รับมา ฉันคิดว่าเขาน่าจะมีสิ่งของที่ดีในการช่วยฉันจัดการกับบอสระดับทองได้”
ฉินลั่วเฉิง ได้ดึงม้วนคัมภีร์กลับเมืองออกมา เขาพร้อมที่จะกลับไปที่หมู่บ้านแห่งการเริ่มต้น
แม้ว่าการเดินทางครั้งนี้จะได้รับเพียงแค่ไข่มุกวิญญาณวารี แต่มันก็คุ้มค่าแล้ว
จะน่าเสียดายก็ตรงที่มันไม่ได้ดรอบหนังสือทักษะหรืออุปกรณ์พิเศษที่มีมูลค่าเทียบเท่ากับดวงตาหมาป่า 8 ล้านดวง ดังนั้นเขาจะต้องมองหาวิธีอื่นดู
หากจะให้เขาขาย ไข่มุกวิญญาณวารี?
ฝันไปเถอะ
แม้ว่าจะต้องเสีย อุปกรณ์เช่น ดาบกระหายเลือด เสื้อคลุมออร่าระดับมหากาพย์ เพื่อไปชำระหนี้ เขาก็จะต้องเก็บ ไข่มุกวิญญาณวารี ไว้จนถึงที่สุด
“ถ้ามันไม่ได้ผล ฉันก็คงทำได้แต่ยอมเป็นหนี้อย่างหน้าด้านเท่านั้น!”
ฉินลั่วเฉิง ขมวดคิ้วแน่น เขาจะไม่ยอมใช้เส้นทางนี้หากไม่ใช่ตัวเลือกสุดท้ายของเขา
การทำธุรกรรมแลกเปลี่ยนก็คือการทำธุรกรรม และ ทั้งสองฝ่ายจะต้องเท่าเทียมและได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน
หากเมื่อเป็นหนี้แล้วจะทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายใจไปเปล่า ๆ
“แต่ถ้ามันไม่ได้จริง ๆ ฉันก็คงทำได้แต่แบกหน้าหนา ๆ อันนี้ยอมเป็นหนี้ล่ะนะ”
ฉินลั่วเฉิง รู้สึกทอะไรไม่ถูก
เขาไม่มีเหรียญทอง เงินหยวน ก็มีไม่พอ ส่วนอุปกรณ์ เขาก็ไม่ต้องการที่จะขาย สิ่งเดียวที่สามารถขายได้ในราคาสูงในตอนนี้ก็คือทักษะ
นี่คือสิ่งที่เขารู้มาจากสาวน้อยมู่มู่ เมื่อวานนี้
ในขั้นต้นตอนนี้ ผู้เล่นส่วนใหญ่ ถูกจำกัดด้านอุปกรณ์และทักษะ ทำให้ยากต่อการผ่านดันเจี้ยนทดสอบในโหมดยาก คงไม่ต้องพูดถึงโหมดฝันร้าย
กระทั่งเขาก็ยังรู้สึกยากลำบากเลยในตอนนั้น
ดังนั้น ทักษะพิเศษ คือโอกาสในการทำธุรกิจมากที่สุด
รางวัลสำหรับการผ่านดันเจี้ยนโหมดฝันร้าย ไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นเขาเชื่อว่า พวกเศรษฐีมั่งมีเหล่านั้น คงจะยินดียอมจ่ายเป็นเงินให้เขาจำนวนมากเป็นแน่
“ถ้าเกิดไม่ไหวจริง ๆ ก็คงต้องเลือกทางนี้อีกทาง!”
มันเป็นเรื่องปกติที่ผู้เล่นจะสามารถขายของที่ได้รับมาได้
อีกทั้งชื่อของเขา ‘เสียงวิญญาณร่ำไห้’ ก็เป็นที่โด่งดังในโลกออนไลน์ในเวลานี้ สิ่งนี้ย่อมสร้างแรงดึงดูดต่อผู้คนอย่างแน่นอน
แน่นอนว่า ฉินลั่วเฉิง ไม่ได้สนใจอะไร ตราบใดที่เขาสามารถทำเงินได้ก็พอ
แต่ถึงอย่างไร เขาก็ไม่ต้องการเปิดเผยสถานะของตัวเองมากนัก เขาไม่ต้องการไปยุ่งเกี่ยวกับบุคคลสาธารณะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนเหล่านี้คือคนแปลกหน้าทั้งหมด เพราะเขาอาจจะถูกหมายหัวได้หากไม่ระวังตัว
“ไว้ค่อยคิดอีกทีละกัน!”
ขณะที่แสงสีขาวสว่างวาบขึ้น การทำงานของม้วนคัมภีร์กลับเมือง ก็ใกล้จะเสร็จสิ้น จู่ ๆ ฉินลั่วเฉิง ก็เก็บม้วนคัมภีร์กลับเมืองคืน และ ถอยกลับไปมองดูแท่นบูชาใต้น้ำอีกครั้ง
เครื่องหมายบนแผนที่ขุมทรัพย์นั้นตรงกับตำแหน่งของแท่นบูชาใต้น้ำนี้
อย่างไรก็ตาม เพราะเขาได้รับไข่มุกวิญญาณวารีมาทำให้เขาไม่ได้สนใจสิ่งต่าง ๆ รอบตัว
เป็นไปได้หรือไม่ว่าจะมีหีบสมบัติอื่นซ่อนอยู่อีก?
มันอาจจะเป็นไปได้!
“เวลาที่ตกลงไว้กับ ยาถู๋ คือ อีก 2 ชั่วโมงต่อมา มันยังเร็วเกินไปที่จะกลับไปในตอนนี้ ดังนั้น ฉันสามารถรั้งอยู่ที่นี่ และ มองหาสิ่งอื่น ๆ ได้ หากไม่พบอะไร ฉันก็แค่เสียเวลาเล็กน้อย แต่หากฉันพบอะไรเพิ่มเติม…”
ด้วย ไข่มุกวิญญาณวารี อุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาได้ถูกกำจัดออกไปแล้ว ดังนั้น ฉินลั่วเฉิง จึงไม่ได้รับผลกระทบจากแรงดันใต้น้ำอีกต่อไป เขาในเวลานี้เสมือนปลาที่ว่ายไปในน้ำได้อย่างอิสระ ดังนั้นเขาจึงได้ตรวจสอบแท่นบูชาใต้น้ำอย่างระวัง
“นี่คือ…”
เขาได้ค้นพบอะไรบางอย่าง อย่างรวดเร็ว
ฉินลั่วเฉิง ได้เงยหน้ามองดูรูปปั้นหินชาวเงือกที่มีหกแขนขนาดใหญอยู่ข้างหน้าเขาและมันมีความสูงมากกว่า 10 เมตร
รูปปั้นหินนี้ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจเลย ที่น่าแปลกก็คือฐานของรูปปั้นหิน
เขาได้จ้องมองดูอย่างพินิจ ก่อนที่จะให้ความสนใจไปที่ หมวกหนังล่าสัตว์ของเขา
มองผ่าน : ใช้มานา 30 หน่วย มีโอกาสที่จะมองทะลุกับดัก เขาวงกต และ ภาพลวงตา ต่าง ๆ ได้ เป็นเวลา 30 วินาที และ ระยะเวลาคูลน์ดาว 5 นาที
เขาได้เปิดใช้งานดู
แต่ทว่าก็ไม่มีการตอบสนอง?
“ฉันไม่เชื่อหรอกว่าจะไม่พบอะไรเลย!”
ฉินลั่วเฉิง ได้โน้มตัวเข้าไปใกล้และมองดูอย่างใกล้ชิดมากขึ้น
แม้ว่าจะดูราบรื่นและไม่มีอะไรเป็นพิเศษ แต่สัมผัสที่หกของเขากำลังบอกว่าที่นี่จะต้องมีอะไรซ่อนอยู่อย่างแน่นอน
5 นาทีต่อมา!
“มองผ่าน!”
ไม่มีการตอบสนอง?
เขายังคงไม่พอใจ!
5 นาทีต่อมา
“มองผ่าน!”
ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก!
???
5 นาทีต่อมา!
ลองอีกครั้ง!
“มองผ่าน!”
ไม่ เขาไม่เชื่อ
ฟุ่บ!
อีก 5 นาทีต่อมา!
“มองผ่าน!”
“ติ๊ง ทักษะของคุณประสบความสำเร็จโดยการ ‘จ้องมองอย่างสับสน’”
มันประสบความสำเร็จ
ฉินลั่วเฉิง ที่กำลังจะยอมแพ้ในตอนท้ายได้กลายเป็นถอนหายใจในทันที
ในตอนแรก เขาได้พบเห็นความผิดปกติบางอย่างที่ฐานแต่ทว่ามันไม่สามารถแยกออกด้วยตาเปล่า ดังนั้นเขาจึงได้ใช้ทักษะมองผ่านอย่างต่อเนื่อง
ฟุ่บ…
เขาได้เอื้อมมือไปแตะครีบบางอย่างสองสามจุด
ทันใดนั้น ก็มีเสียงกระทบกันดังขึ้นอย่างรุนแรง ราวกับว่าประตูหินนับหมื่นได้ถูกเปิดออก ฐานของ รูปปั้นหิน ได้หมุนอย่างช้า ๆ และ เผยให้เห็นทางเดินที่ซ่อนอยู่เบื้องล่าง
“พื้นที่ลับ?”
ฉินลั่วเฉิง ได้สูดลมหายใจเข้าลึก และ ไม่สามารถซ่อนความตื่นเต้นของเขาได้“นี่คือสถานที่ซ่อนสมบัติที่แท้จริง?”
ฉินลั่วเฉิง ได้เดินตามบันไดวนไปทีละขั้นและใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงในการเดินทางไปจนถึงจุดสิ้นสุด
1,080 ขั้น!
จำนวนขั้นของบันไดค่อนข้างเยอะอย่างมาก
“ติ๊ง คุณได้พบสถานที่ลับที่ซ่อนอยู่ : ดินแดนของเผ่าเงือก ค่าชื่อเสียง +100!”
ชื่อเสียง +100?
ใบหน้าของ ฉินลั่วเฉิง ได้กลายเป็นชาด้าน
การฆ่าบอสระดับเงิน เขาได้รับค่าชื่อเสียงเพียงแค่ 20 แต้มเท่านั้น แต่ทว่าหลังจากพบสถานที่ลับที่ซ่อนอยู่กลับได้รับค่าชื่อเสียงมากกว่า 100 แต้ม?
ดินแดนเผ่าเงือก!
สถานที่แห่งนี้จะต้องมีอันตรายร้ายแรงซ่อนอยู่อย่างแน่นอน
และ ข้อเท็จจริงก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าการคาดเดาของ ฉินลั่วเฉิง นั้นถูกต้อง!
ข้างหน้าเขา มีเผ่าเงือกปรากฏตัว และ มันมีแสงสีแดงแปลก ๆ ส่องประกายในดวงตาอย่างน่ากลัว
[เผ่าเงือก(ระดับสูง)]
ระดับ : เลเวล 9
ค่าพลังชีวิต : 8,000
โจมตี : 380
ป้องกัน : 225
ความเร็ว : 135
ทักษะ : ???
บทนำ : อัจฉริยะแห่งเผ่าเงือก เป็นเพราะความสามารถที่สูงส่งของตนเองทำให้ได้รับเลือกเป็นผู้พิทักษ์ทางเข้าดินแดนเผ่าเงือกที่ได้รับสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ เพราะต้องคอยปกป้องเทพแห่งเผ่าเงือกทำให้ได้รับคำสาปชีวิตนิรันดร์และไม่สามารถออกไปข้างนอกได้ หลังจากผ่านมาเป็นเวลานาน ทำให้ละทิ้งตัวตนและกลายเป็นปีศาจไป มันทั้งกระหายเลือดและแสดงความเกลียดชังออกมาอย่างถึงที่สุด