บทที่ 77 สาวน้อยคนนี้แข็งแกร่งมาก❗️
เสี่ยวจิ่วน่ารักมาก และเธอก็สามารถเทียบกับเด็กคนอื่นๆได้อย่างแน่นอน สุดท้ายเขาก็คงจะรั้งเธอเอาไว้ไม่ได้ใช่ไหม?
เขาไม่อยากเห็นใครพูดถึงเกี๊ยวน้อยว่า “การมีพ่อแบบนี้ มันช่างเป็นเหมือนเชื้อราจริงๆ”
ดังนั้นในวันถัดมา ซูเชิ่งจิ่งจึงพาซูจิ่วไปที่บ้านตระกูลเชิ่งตั้งแต่เช้าตรู่ และเขาก็ยืมโรงยิมของเชิ่งเทียนสื่ออย่างไร้ยางอาย จากนั้น ก็เริ่มออกกำลังกายเป็นเวลาหลายชั่วโมง
ยังเหลือเวลาอีกครึ่งเดือนกว่าก่อนจะเริ่มถ่ายหนังนําร่อง ซึ่งเขาจะพยายามลดน้ำหนักให้ได้สิบกิโลกรัม และจะลดอีกสิบกิโลกรัมก่อนจะเริ่มการบันทึกรายการอย่างเป็นทางการ
เชิ่งเทียนสื่อรู้ว่าซูเชิ่งจิ่งกำลังจะเปลี่ยนภาพลักษณ์ของตัวเอง เขาจึงให้โค้ชมืออาชีพมาแนะนําซูเชิ่งจิ่งเป็นการส่วนตัว และเขาก็ใช้โอกาสนี้เพื่อทำให้ตัวเองกลายเป็นป๊ะป๋าของซูจิ่วอย่างแนบเนียน
ซูจิ่วรู้สึกตื้นตันใจอยู่บ้างเล็กน้อย เมื่อเห็นป๊ะป๋าของตัวเองออกกำลังกายจนเหงื่อไหลราวกับสายฝนอยู่ในโรงยิมแทบทุกวัน
ป๊ะป๋าได้ตัดสินใจแล้ว และความมุ่งมั่นนี้ไม่จําเป็นต้องคิดก็รู้ว่ามันมาจากเธออย่างแน่นอน
เขากำลังพยายามอย่างหนักเพื่อเธอ
ซูจิ่วคงจะช่วยอะไรเขาไม่ได้มากนัก นอกจากจะให้กําลังใจเขาเท่านั้น จะว่าไปก็เป็นเรื่องแปลกอยู่เหมือนกัน เพราะทุกครั้งที่ซูเชิ่งจิ่งฝึกจนเกือบหมดแรง แต่พอได้ยินกําลังใจจากเด็กหญิงตัวน้อย เขาก็รู้สึกเหมือนจะมีแรงฮึดขึ้นมาอีกครั้ง และเขาก็สามารถยืนหยัดขึ้นมาได้อย่างปาฏิหาริย์
และโค้ชก็ชื่นชมในความเพียรพยายามของเขา
ซูจิ่วมาที่บ้านตระกูลเชิ่งทุกวัน และคนที่มีความสุขมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้นเชิ่งจื๋อเหยียน
เขาวิ่งไปที่โรงยิมและมองเข้าไปข้างใน จากนั้น เขาก็ดึงซูจิ่วออกไปข้างนอกและถามอย่างสงสัยว่า “น้องสาว ฉันได้ยินอาบอกว่าเธอจะไปบันทึกรายการกับป๊ะป๋าของเธอเหรอ ฉันขอไปด้วยได้ไหม?”
ไม่ต้องรอให้ซูจิ่วตอบ เชิ่งเทียนสื่อที่เดินตามมาก็เหลือบมองไปที่หลานชายตัวเองแล้วพูดขึ้นว่า “แกจะไปไหน แล้วพ่อของแกอนุญาตแล้วงั้นเหรอ?”
เมื่อคิดถึงพ่อที่ดุร้ายของตัวเอง เชิ่งจื๋อเหยียนก็เบ้ปากทันที
ทันใดนั้น เขาก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เชิ่งจื๋อเหยียนจึงดึงชายเสื้อของเชิ่งเทียนสื่อแล้วพูดว่า “พ่อคงจะไม่ให้ผมไปหรอก ถ้าอย่างนั้น อาพาผมไปหน่อยได้ไหม แล้วมันจะใช้เวลานานไหมในการบันทึกรายการ? เพราะถ้าผมไม่ได้เจอน้องสาวหลายวัน ผมจะคิดถึงเธอมาก”
เชิ่งเทียนสื่อทําหน้าสยดสยองทันที “ให้อาพาแกไปที่นั่นงั้นเหรอ? ไม่มีทาง ถ้าพ่อของแกเห็นอาล่ะก็ พ่อของแกได้ฆ่าอาแน่นอน❗️”
แต่เชิ่งจื๋อเหยียนไม่เชื่อฟัง “แต่ผมอยากให้อาพาผมไป❗️”
“อย่ามาเกลี้ยกล่อมอาซะให้ยาก แกเป็นเด็กผู้ชายไม่อายบ้างเหรอไง?”
“แต่ผมอยากอยู่กับน้องสาว…”
เมื่อเห็นเชิ่งจื๋อเหยียนไม่มีความสุข ซูจิ่วจึงรีบพูดว่า “พี่ชาย การบันทึกรายการลําบากมาก ไม่ใช่ว่าอยากจะไปก็ไปได้หรอกนะ แต่นายวางใจได้เลย การบันทึกรายการคงใช้เวลาไม่นานหรอก และเสี่ยวจิ่วก็ให้สัญญา ว่าพอบันทึกรายการเสร็จฉันจะรีบกลับมาหานายทันทีเลย โอเคไหม? และจะเอาของขวัญมาให้นายด้วย”
“จริงเหรอ? เธอจะรีบกลับมาหาฉันใช่ไหม?”
“จริงสิ” ซูจิ่วยื่นนิ้วโป้งไปทางเชิ่งจื๋อเหยียน
“โอเค❗️ ถ้าน้องสาวโกหกฉัน แสดงว่าเธอเป็นลูกสุนัข❗️”
“อือ❗️”
เมื่อนิ้วของทั้งสองประสานเข้าด้วยกัน อารมณ์ของเชิ่งจื๋อเหยียนก็ถูกปลอบประโลมในทันที และเขาก็รู้สึกมีความสุขขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้น เขาก็ดึงซูจิ่วไปดูของเล่นชิ้นใหม่ของเขา
เชิ่งเทียนสื่ออดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา สาวน้อยคนนี้แข็งแกร่งมาก❗️
…
ครึ่งเดือนต่อมา ซูเชิ่งจิ่งก็สามารถลดน้ำหนักไปได้สิบกิโลกรัมจริงๆ และมันก็เป็นไปตามแผนของเขาทุกอย่าง
และซูจิ่วก็พบว่าหน้าท้องส่วนเกินของเขาได้หายไปแล้ว ส่วนใบหน้าของเขาก็เฉดคมขึ้น ซึ่งโดยรวมถือว่าความหล่อทั้งตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าหนึ่งระดับ❗️
“ป๊ะป๋า หล่อขึ้นมาก❗️” ซูจิ่วกอดขาของซูเชิ่งจิ่ง และสรรเสริญเขาด้วยดวงตาที่สดใส
ซูเชิ่งจิ่งก้มหน้ามองเกี๊ยวน้อยที่ดูเหมือนเหล่าแฟนคลับตัวน้อย จากนั้น เขาก็ยิ้มและอุ้มเธอขึ้นมา “ถ้าป๊ะป๋าหล่อกว่านี้ ลูกจะชอบป๊ะป๋ามากกว่านี้ไหม?”
ซูจิ่วพึมพํา “ถึงป๊ะป๋าไม่หล่อ หนูก็ยังชอบเหมือนกัน”
สําหรับป๊ะป๋าของเธอ เธอไม่เคยตัดสินเขาด้วยรูปลักษณ์ภายนอก แต่เธอแค่หวังว่าเขาจะเปลี่ยนกลับไปเป็นเหมือนเดิม เพื่อเป็นการวางรากฐานที่ดีสําหรับเขาที่จะกลับเข้าสู่วงการบันเทิงอีกครั้ง
ซูเชิ่งจิ่งก้มศีรษะลงและลูบศีรษะเกี๊ยวน้อยด้วยความรัก “ป๊ะป๋า ต้องขอบคุณลูกจริงๆ เพราะถ้าไม่ได้กําลังใจจากลูก ป๊ะป๋าก็คงจะทนไม่ไหวแล้ว”