Chapter 185 (อ่านฟรีทุกตอนที่ลงท้ายด้วย 5-6)
ในวันต่อมา ซอดก็โล่งใจมาก
มันอาจไม่ใช่เรื่องดีที่มนุษย์ที่กลัวความตายได้จิตใจพังทลายลง?
อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็วๆนี้ซอดรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติกับร่างกายของเขา.
ความรู้สึกนี้ซอดรู้สึกคุ้นเคยเมื่อครั้งที่เขาได้พลังใหม่ครั้งที่สอง.
ความรู้สึกนี้ทำให้ซอดรู้สึกอึดอัดมาก ไม่ว่าจะนั่งหรือยืน.
ราวกับว่ามีบางอย่างกำลังเดือดอยู่ในร่างกายของเขา.
"ซอด คุณเป็นอะไรไป?"
ทีฟ่าสังเกตุเห็นว่าซอดมีบางอย่างผิดปกติและถามด้วยความห่วงใย.
"ไม่มีอะไร."
ซอดส่ายหัว ทีฟ่าและคนอื่นๆก็ช่วยเขาระบายความอึดอัดนี้ไม่ได้.
ทีฟ่าไม่พูดอะไรอีก แต่นำซอดมานอนหนุนตักของเธอ เธอเห็นว่าซอดไม่อยากจะเล่าหรือจะบอกไม่ได้ตอนนี้ แต่ต่อไปก็ไม่แน่.
แต่ทีฟ่ายังคงอ่อนโยนและเธอรู้สึกว่ามีเพียงแค่เรื่องนี้ที่เธอจะทำได้.
ซอดก็สบาย นอนบอบตักทีฟ่าและหลับไปหลังจากนั้นไม่นาน.
ขณะหลับ ร่างกายของเขาก็เริ่มเปลี่ยนแปลง.
พลังแม่เหล็กไฟฟ้าเริ่มกระจายออกมารอบๆตัว ตามมาด้วยแรงโน่มถ่วง,ดูดซับพลังงานจนล์และนิวเคลียสแบบอ่อนๆก็เริ่มเปลี่ยนแปลง.
แต่ในฝันของซอด เขาเห็นบางอย่างที่น่ากลัวที่กำลังสังหารโลกและทำลายสิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วน.
สัตว์ประหลาดตัวก็เห็นเขาเช่นกัน ซอดต่อสู้กับสัตว์ประหลาดตัวสิ้นหวัง การต่อสู้ของทั้งสองได้ทำลายแกนกลางของโลกและทำให้เกิดการระเบิดซูปเปอร์โนวาบนโลก แต่การระเบิดนี้ก็ยังไม่อาจฆ่าสัตว์ประหลาดตัวนี้ได้.
ซอดมีพลังแม่เหล็กไฟฟ้าและการป้องกันแรงโน้มถ่วง ควบคู่ไปกับพลังที่ท่วมท้นของเขา และสัตว์ประหลาดนั่นก็ตายและฟื้นคืนชีพทันที.
หลังจากฟื้นคืนชีพขึ้นมาแล้ว สัตว์ประหลาดก็แข็งแกร่งขึ้น ซอดพบว่าเขาไม่อาจใช้พลังมังกรและฟินิกซ์ได้ พลังทั้งสองนี้ดูเหมือนว่าจะไม่มีอยู่จริง.
เขาทำได้แค่พึ่งพาความแข็งแกร่งของเขาตัวเขาในการต่อสู้กับสัตว์ประหลาดเท่านั้น.
หลังจากที่เกิดระเบิดซุปเปอร์โนวา ตำแหน่งเดิมของโลกก็ไม่สมดุลและยากสำหรับทั้งคู่ที่จะหนีจากแนงโน้มถ่วงนี้.
แต่สัตว์ประหลาดนั่นก็ไม่ยอมแพ้ที่จะโจมตี.
ซอดกับสัตว์ประหลาดก็หลุดออกมาจากแรงโน้มถ่วงอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ไปที่ดวงจันทร์เพื่อต่อสู้กันต่อ.
ตึ้ม! ตูม! ตึ้ม! ตูม!----
ทุกหมัดเต็มไปด้วยพลังที่น่ากลัว พื้นดินสั่นสะเทือนและราบเป็นหน้ากลอง ทั้งสองยังคงต่อสู้ต่อไป เศษหิน,ดิน,ทรายลอยคละคลุ้งเต็มไปทั่วการต่อสู้ของพวกเขาทั้งสอง.
คลื่นกระแทกกวาดไปทุกสารทิศ มันพัดพาเอาฝุ่นดวงจันทร์มากมายตลบอบอวล.
พื้นผิวที่แต่เดิมก็เป็นหลุมเป็นบ่ออยู่แล้ว ในตอนนี้ตามมาด้วยเสียงที่ดังกันอย่างแต่เนื่อง หลุมบ่อแต่เดิมก็ยิ่งลึกขึ้นไปอีก.
พื้นดินแตกเป็นเสี่ยงๆและทลายลงจนเป็นวงกว้างก่อนจะลามไปทั่วดวงจันทร์.
แสงสีแดงพุ่งออกจากตาของซอดมันทะลุใบหน้าของสัตว์ประหลาด.
ตามมาด้วยเสียง 'ปัง!' ควันดำปรากฏขึ้นบนใบหน้าของสัตว์ประหลาดและแสงสีแดงก็ถูกป้องกันด้วยมือใหญ่ๆของมันก่อนที่จะผลักมือนั้นเข้าหาและปิดดวงตาของซอดตรงๆ.
ฝ่ามือของมันสั่นสะท้าน และแสงสีแดงจากตาของซอดที่ไหลล้นออกมาตามง่ามผ่ามือก็กระจายออกไปทำลายทุกทิศทาง.
มุมปากของสัตว์ประหลาดยกยิ้ม และนิ้วทั้งห้าของมันก็คว้าใบหน้าของซอดเอาไว้ มันพยายามทำให้เขาเงยหน้าเพื่อให้เขาเผยลำคอที่เปราะบาง
จากนั้นมืออีกข้างก็กำหมัดและชกไปที่ลำคอของเขาอย่างแรง.
ปัก! ! !
ซอดมีพลังที่ดูดซับพลังทั้งหมด+สนามชีวภาพ+ร่างเหล็ก+สนามแม่เหล็ก มันเกือบจะทำร้ายเขาไม่ได้เลย และการโจมตีครั้งนี้ก็ไม่อาจทำให้ซอดขมวดคิ้วได้.
ตั้งแต่เริ่มต่อสู้ สัตว์ประหลาดก็แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆและซอดก็ไม่มีข้อยกเว้น พลังดูดซับนั้นช่วยให้เขาดูดซับพลังงานจลน์จากทุกหมัดของสัตว์ประหลาดและเสริมร่างกายของเขาให้แข็งแกร่งได้อย่างถาวรและตามการพัฒนาการของสัตว์ประหลาดทัน.
เมื่อสัตว์ประหลาดคืนชีพอีกครั้ง เขาก็ถูกศอกกลับและซอดก็กระเด็นออกไป ร่างกายของเขาราวกับกระสุนปืนใหญ่ เกิดการระเบิดอย่างรุนแรงและเผยให้เห็นรูขนาดใหญ่ในเวลาต่อมา
สัตว์ประหลาดที่ยืนขึ้นอีกครั้งแสดงใบหน้าที่น่าสะพรึงกลัว และแสงสีแดงที่แขนขวาของมันส่องประกาย พลังนั้นห่อหุ้มหมัดของมันเพื่อสะสมพลังงานที่น่าสะพรึงกลัว และต่อยซอดเข้าไปอย่างแรงราวกับสายฟ้า
ฟิ้วว! ! !
ระหว่างที่หมัดปะทะ มันเร็วจนเห็นเป็นสายฟ้าสีขาวก็พุ่งเข้าใส่กันและกัน หลังจากนั้นก็เงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่พลังที่มองไม่เห็นจะกวาดผ่านไปโดยมีจุดปะทะของหมัดเป็นศูนย์กลางและเกิดระเบิดขึ้นตามมา มันลามไปยังทั่วดวงจันทร์ทันที....
ครึ่นๆๆ
เมื่อดูจากที่สูง จะพบว่าภาพของจุดปะทะรูปวงกลมขยายออกอย่างรวดเร็วจนครอบคลุมไปทั่วดวงจันทร์.
มันสายเกินกว่าจะคิดว่าเหตุใดจึงมีเสียงและอากาศบนดวงจันทร์ เมื่อทั้งสองแยกกัน กล้ามเนื้อทั้งสองก็พองขึ้น ขณะที่ทั้งสองกำลังปล่อยพลังของตนเองอย่างเต็มที่ รังสีที่น่ากลัวก็แผ่ออกมา ทำให้พิ้นดินสั่นสะเทือน หินก้อนใหญ่ก้อนเล็กหล่นร่วงตามแรงโน้มถ่วงของโลกและกลายเป็นฝุ่นเมื่อเข้าในชั้นบรรยากาศ.
พลังที่น่ากลัวที่จู่ๆก็พุ่งลงตามเท้าของทั้งสองและหลังจากเกิดการระเบิด มันก็เกิดร่องลึกและขยายจากจุดที่ทั้งสองยืนอยู่ซึ่งรอยแตกได้เดินทางเร็วกว่าเสียง
แกร๊กๆ ซ่า ซ่า
รอยแยกที่น่ากลัวกว้างขึ้นๆและยาวขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับรอมยิ้มของมารร้าย รอยแยกนั้นแผ่ขยายไปทั่วดวงจันทร์และแยกให้มันออกเป็นสองเสี่ยง
ซอดไม่สนใจเรื่อยใดๆ เขายังคงโจมตีสัตว์ประหลาดเรื่อยๆ บ่อยครั้งเมื่อสัตว์ประหลาดโจมตีเขาครั้งหนึ่ง ซอดจะต่อยออกไปสิบหรือยี่สิบครั้ง
แม้ว่าสัตว์ประหลาดจะมีการโจมตีที่เขาไม่อาจเทียบได้ แต่มันก็ทำให้ซอดถอยหลังไม่ได้เช่นกัน
แม้จะตกอยู่ในแรงกดดันของสัตว์ประหลาด ซอดก็ค่อยๆเชี่ยวชาญพลังนิวเคลียสของเขา ด้วยการมีพลังพื้นฐานทั้งสี่ที่ปกป้องเขา แม้จะเป็นดร.แมนฮัตตัน....ช่างเถอะ ก่อนที่สนามพลังจะรวมกัน เขาน่าจะทำแบบดร.แมนฮัตตันไม่ได้
ปฏิกิริยาสะท้อนกลับของพลังพื้นฐานทั้งสี่ทำให้สัตว์ประหลาดรับมือกับเขายากขึ้น.
หลังจากนั้น สัตว์ประหลาดก็ถูกซอดบดขยี้ และซอดก็ไม่ลำบากอีก เขายังเห็นด้วยว่าสัตว์ประหลาดตัวนั้นดูเหมือนจะพัฒนาอีกครั้งและทุ่มการโจมตีเข้ามาทั้งหมด
แต่นี่คือพลังพื้นฐานทั้งสี่ ต่อให้พัฒนาได้ ซอดก็เล่นกับมันได้นับครั้งไม่ถ้วน และถ้าเขาทำได้ เขาจะจัดการทุกคนด้วยพลังทั้งหมด!
ต่อสู้กับสัตว์ประหลาดทั้งกลางวันกลางคืน ทำลายระบบสุริยะด้วยเคลื่อนย้ายตำแหน่งของระบบสุริยะ สู้กันในแกนกลางของดวงอาทิตย์ ทุกที่ๆสัตว์ประหลาทั้งสองต่อสู้จะเกิดหลุมดำขึ้นจากนั้นก็ทำลายรอบๆและหายไป ซอดอาศัยกำลังพื้นฐานทั้งสี่ หยั่งรากอย่างมั่นคงแม้อยู่ต่อหน้าหลุมดำ แต่สัตว์ประหลาดไม่เหมือนกัน มันถูกดูดและฉีกเป็นชิ้นๆ.
หลังจากสัตว์ประหลาดถูกฉีก ซอดก็ตื่นขึ้น.
"เวร นั่นมันวันล้างโลกชัดๆ!"
ทันทีที่ซอดตื่น เขาก็รู้ทันทีว่าสัตว์ประหลาดในความฝันตัวนั้นคืออะไร.
มีบางอย่างผิดปกติ ฉันจะฝันเพื่อต่อสู้กับดูมเดย์? ฉันยังต้องวามฝันอีกหรือ?
แล้วเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของฉัน ความรู้สึกที่พลังเริ่มคงที่...
"เกิดอะไรขึ้น?"
ทีฟ่านรู้สึกว่าซอดลืมตาขึ้นมาแล้วหลังจากหลบไปไม่กี่ชั่วโมง ราวกับว่าเขาฝันร้าย เธอจึงถามอย่างเป็นห่วง.