ตอนที่ 217+218 การล่มสลายของตระกูลจาง
ตอนที่ 217 การล่มสลายของตระกูลจาง
“ฉันได้ยินมาว่าจางซีชิงลาออกจากมหาวิทยาลัยไปแล้ว คนอย่างหูหยวนที่เข้ามาเรียนเพราะจางซีชิงก็ถูกให้ออกไปด้วยกัน” หลินเสียวอยู่อุทาน “กระดานข่าวในมหาวิทยาลัยยังจัดการลบประวัติตัวแทนนักศึกษาใหม่ของจางซีชิง เหลือเพียงของเธอ”
จางซีชิงลาออกไปจากมหาวิทยาลัยก็ไม่น่าแปลกใจสำหรับเจียงเหยา เธอรู้ว่าด้วยการล่มสลายของตระกูลจาง จางซีชิงสูญเสียการสนับสนุนทั้งหมดของเธอและด้วยความภาคภูมิใจในตัวเองเกินกว่าที่จะอยู่ในมหาวิทยาลัยหนานเจียง ซึ่งเธอรู้ตัวเองว่าหากอยู่ต่อจะต้องถูกเยาะเย้ยอย่างต่อเนื่อง
ทัศนคติที่เฉียบแหลมและบุคลิกที่ก้าวร้าวของเธอทำให้เธอมีศัตรูมากมายตลอดทางที่เธอเดิน เธอฉลาดพอที่จะเข้าใจเรื่องนี้และเลือกที่จะจากไป
“ฉันล่ะสงสัยว่าตระกูลเจียงไปเหยียบหางใครเข้า ถึงต้องรับเคราะห์ขนาดนี้ ตระกูลจางมั่นคงในหนานเจียงมาตั้งนาน จะหายไปภายในสองวันได้อย่างงั้นรึ!” โจวเสี่ยวเซี่ยลูบคางพรางใช้ความคิด “พวกเขาร่ำรวยมากจนไม่มีอะไรที่พวกเขาไม่สามารถหาทางออกได้ ฉันยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าบริษัทใหญ่ ๆ อย่างตระกูลจางจะหายไปภายในพริบตา!”
เธอกล่าวต่อว่า “โลกของคนรวยและคนมีอำนาจนั้นน่ากลัวเกินไป ขอบคุณพระเจ้าที่เราทุกคนเป็นเพียงคนธรรมดา เราอาจไม่ได้ร่ำรวยแต่อย่างน้อยเราก็สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสงบสุข”
“ใช่ ตระกูลจางนั้นร่ำรวย แต่จำไว้ว่าในเมืองหนานเจียงมีคนที่ร่ำรวยและมีอำนาจมากกว่า คนที่พวกเขาโกรธเคืองจะต้องมีสถานะทางสังคมที่สูงกว่าที่พวกเขามีอยู่” เหวินเสวี่ยฮุ่ยลดเสียงของเธอและกล่าวเสริม
สาว ๆ ต่างใช้สมองพยายามคิดว่าใครคือบุคคลที่ร่ำรวยและมีอำนาจมากกว่าตระกูลจางคนนั้น
เจียงเหยายืนอยู่ข้าง ๆ และฟัง พร้อมกับขบขันกับการสนทนาที่เกิดขึ้น
พวกเขาไม่ได้ตระหนักว่าแท้จริงแล้วผู้ที่พวกเขากำลังสนใจนั้นได้ยืนอยู่ข้าง ๆ และฟังบทสนทนาของพวกเขาอยู่ข้างพวกเขานี่เอง
ก่อนค่ำเล็กน้อย เมื่อเจียงเหยาได้รับข่าวว่าลู่ชิงสีกลับถึงกองทัพอย่างปลอดภัย เขาไม่ได้โทรหาเธอก่อนหน้านี้เพราะมีงานที่ทำงานเร่งด่วน
เช้าวันรุ่งขึ้นเจียงเหยาตื่นสาย ดูเหมือนว่าเรื่องไร้สาระในช่วงสุดสัปดาห์ของเธอจะทำให้เธอเหน็ดเหนื่อยไม่ใช่เล่น
“โย่! หลี่หรงฮุ่ยกำลังรอเธออยู่ที่ชั้นล่างแหนะ”
โจวเสี่ยวเซี่ยล้อเล่นเหวินเสวี่ยฮุ่ย เมื่อเธอเดินออกมา เธอหยิบแปรงสีฟ้าและเดินไปที่ระเบียง
สิ่งแรกที่เธอเห็นเมื่อเดินออกไปที่ระเบียงก็คือ หลี่หรงฮุ่ยยืนถืออาหารเช้าอยู่ในมือ เห็นได้ชัดว่าเขาเห็นเธอด้วยและเขาก็โบกมือให้เธอ “เฮ้ เจียงเหยา! ช่วยบอกเสวี่ยฮุ่ยทีสิ ว่าฉันกำลังรอเธออยู่ตรงนี้”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นเจียงเหยาก็หัวเราะเยาะ เธอไม่สนใจเขาและมุ่งหน้าไปที่ห้องน้ำ
เหวินเสวี่ยฮุ่ยหายไปตอนที่เจียงเหยาออกมาจากห้องน้ำ “เสวี่ยฮุ่ยไปไหนแล้วล่ะ” เธอถามโจวเสี่ยวเซี่ยที่กำลังเตรียมจะออกจากห้อง
“ฉันเกือบลืม! เสวี่ยฮุ่ยฝากบอกเธอว่า เธอออกไปกับหลี่หรงฮุ่ยก่อนแล้ว เธอจะจองที่นั่งในชั้นเรียนให้ และเจอกันที่นั่น” โจวเสี่ยวเซี่ยผูกเชือกรองเท้าของเธออย่างรวดเร็วและพูดต่อ “ฉันสายแล้ว ไปก่อนนะ!”
พร้อมกับโบกมืออำลาเจียงเหยา และรีบออกไปพร้อมกับหลี่อี้และหลินเสียวอยู่
เจียงเหยาหยิบหนังสือขึ้นมา เธอรู้สึกถึงบางอย่างที่เท้า เมื่อมองลงไป เธอเห็นมัวกำลังดึงขาเธอ
“แกอยากตามฉันไปที่ห้องเรียนด้วยงั้นเหรอ?” เจียงเหยา “เข้ามาในกระเป๋าสิ!” มัวเป็นแมวตัวเล็ก ๆ สามารถซ่อนตัวอยู่ในกระเป๋าของเจียงเหยาได้อย่างง่ายดาย
__
ตอนที่ 218 ไม่จำเป็นต้องจดบันทึก
“ฉันเบื่อที่จะต้องกินปลาแห้งเป็นอาหารกลางวันทุกวันนะ! ฉันจะไม่กินปลาแห้งอีกต่อไป เข้าใจไหม” มัวเอะอะโวยวายเสียงดัง
“แล้วอาหารแมวเล่า? ฉันจำได้ว่ามีเหลืออยู่ในลิ้นชักของฉันนี่” เจียงเหยาชี้ไปที่โต๊ะทำงานของเธอ “ถ้าอยากกินก็ไปเอาสิ เฮ้ ปล่อยฉันนะ ฉันสายมากแล้ว!”
“นั่นมันแย่เสียยิ่งกว่าปลาแห้งอีก ฉันไม่กินอะไรแบบนั้นหรอก!” มัวคิดเกี่ยวกับมันและด้วยการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว มันกระโดดขึ้นไหล่ของเจียงเหยาและยืนอยู่ที่นั่น “ฉันจะไปเรียนกับเธอ ปลุกฉันด้วยล่ะตอนที่เธอกินอาหารกลางวัน ฉันอยากจะดูว่าเธอกินอะไร”
เจียงเหยาไม่สามารถทำอะไรได้ เธอวางมัวลงในกระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องไป เธอรับประทานอาหารเช้าที่โรงอาหารก่อนเข้าไปในห้องเรียน
นี่เป็นครั้งแรกที่เจียงเหยามาถึงชั้นเรียนตรงเวลา เมื่อมองดูผู้คนจำนวนมากในห้องเรียนที่แออัด เธอใช้เวลาสักครู่ก่อนที่จะเจอเหวินเสวี่ยฮุ่ย
“เธอเกือบมาสายแล้วนะ!” เหวินเสวี่ยฮุ่ยบ่นเจียงเหยาที่กำลังนั่งลง “ฉันว่าเธอนอนมากเกินไป วันนี้เป็นคลาสแรกอย่างเป็นทางการของภาคการเรียน เธอมีชื่อเสียงนะ อย่ามาสายล่ะ!”
นักศึกษาทุกคนที่เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยการแพทย์หนานเจียงมีจรรยาบรรณในการทำงานที่ดี ไม่มีใครที่พบว่ามีนักศึกษามาสายทุกคาบเรียน ยิ่งกว่านั้นมหาวิทยาลัยแห่งนี้มีชื่อเสียงมากเสียด้วย
“นั่นก็ต้องขอบคุณมันล่ะนะ!” เจียงเหยายัดกระเป๋าของเธอลงในลิ้นชักด้านล่างโต๊ะของเธอ เธอไล่มัวออกไป วางเขาไว้ข้างกระเป๋าของเธอ
เหวินเสวี่ยฮุ่ยโพล่งออกมา “ทำไมเธอพามันมาที่นี่ล่ะ” ขณะที่เธอกำลังพูดนั้น เธอก็ยื่นมือออกไปและลูบตัวมัวเบา ๆ
คนโปรดของมัวในห้องพักก็คือเหวินเสวี่ยฮุ่ย เมื่อเหวินเสวี่ยฮุ่ยลูบศีรษะมันเบา ๆ มันก็ถูศีรษะเข้ากับฝ่ามือของเธอ
เจียงเหยารู้ดีว่ามัวขอบอยู่ในอ้อมแขนของเหวินเสวี่ยฮุ่ยมากที่สุด
เธอแอบชำเลืองดูหน้าอกของเหวินเสวี่ยฮุ่ยแล้วมองลงมาที่หน้าอกของเธอ
เจ้าแมวบ้า เลือกคนที่หน้าอกใหญ่กว่างั้นเหรอ!
เจียงเหยารำพึง เธอไม่ได้ใส่ใจเลย อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้แบนราบอะไรขนาดนั้น นอกจากนี้ลู่ชิงสีก็ไม่ได้รู้สึกเป็นกังวลกับเรื่องนี้ เขาเลือกเธอมากกว่าคนหน้าอกใหญ่ ๆ เสียอีก
บทเรียนที่สอบในมหาวิทยาลัยนั้นง่ายเกินไปสำหรับเจียงเหยา
เธอจึงเลือกใช้เวลาในชั้นเรียนเพื่อเข้าถึงระบบการแพทย์และเรียนรู้จากระบบนี้แทน เธอต้องการทำความเข้าใจสมุนไพรและส่วนผสมที่สามารถนำมาใช้เป็นยาสำหรับแม่เฉินโดยเร็วที่สุด
สติของเธอหลุดออกจากระบบการแพทย์เมื่อชั้นเรียนจบลง เธอมองไปที่เหวินเสวี่ยฮุ่ยซึ่งกำลังยืดกล้ามเนื้อหลังของเธอ สายตาของพวกเขาสบเข้าหากันและส่งยิ้มให้กัน
“ขอฉันดูบันทึกที่เธอจดหน่อยสิ” เหวินเสวี่ยฮุ่ยหันไปมองสมุดบันทึกของเจียงเหยาที่วางอยู่บนโต๊ะ แปลกใจที่เห็นว่ามันว่างเปล่า แม้ว่าเจียงเหยาจะกำลังฟังบทเรียนที่สอนอย่างตั้งใจ เหวินเสวี่ยฮุ่ยถาม “เดี๋ยวนะ ทำไมเธอถึงไม่จดอะไรลงไปเลยล่ะ?”
“สมุดบันทึกของฉันอยู่ที่นี่ สมองของฉันไง!” เจียงเหยาชี้ไปที่หัวของเธอ
“อีกอย่าง เนื้องหาของคลาสนี้ง่าย พวกเขาเป็นนักศึกษาใหม่ นี่คงเป็นเพียงบทเรียนเบื้องต้นเท่านั้น” เธอกล่าวต่อว่า “ถ้าฉันจำทุกอย่างได้ ฉันก็ไม่จำเป็นต้องจดใช่ไหมล่ะ หากมีคำถามเพิ่มเติม ฉันค่อยไปค้นหาเอาเองก็ได้”
“แล้วนี่เป็นวิธีที่เธอเรียนที่โรงเรียนก่อนที่จะมาที่นี่ด้วยงั้นเหรอ?” เหวินเสวี่ยฮุ่ยมองไปที่เจียงเหยา ทันใดนั้นก็เกิดความปรารถนาที่จะค้นหาว่าสมองของเธอถูกสร้างขึ้นมาได้อย่างไร