WS บทที่ 349 ทำตามสัญญา PART 1
มีข่าวลือว่าดวงตาแห่งความมืด มีเจ็ดรูปแบบ สร้างขึ้นโดยมหาจอมเวทย์แห่งความมืดโอลาส
ปัจจุบัน พ่อมดลีโอได้แสดงดวงตาแห่งความมืด สี่รูปแบบ ลวงตา สลาย ทำลายและควบคุม รูปแบบที่สี่สามารถควบคุมพลังธาตุรวมถึงคาถาที่ร่ายโดยพ่อมดมอร์สตันและพ่อมดทานนินผู้ซึ่งเป็นนักเวทย์ระดับแปดและเอาชนะพวกเขาได้ทันที นี่คือพลังอันยิ่งใหญ่ของดวงตาแห่งความมืดที่ปรากฏต่อหน้าทุกคน
อย่างไรก็ตาม น้อยคนนักที่จะรู้ว่า ดวงตาแห่งความมืดเป็นพลังที่ต้องสาป นอกจากพ่อมดแบมมูที่เคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ แม้แต่องค์ชายแปดยังเคยกล่าวไว้ ดวงตาแห่งความมืดเป็นพลังต้องสาปสำหรับทุกคนที่ฝึกฝนมัน นอกเหนือจากมหาจอมเวทย์โอลาสแล้ว ก็ไม่มีนักเวทย์คนใดสักคนเดียวที่ฝึกฝนมันได้สำเร็จเนื่องจากส่วนใหญ่เสียชีวิตด้วยความรุนแรงอันเนื่องมาจากอุบัติเหตุทุกประเภท
เมอร์ลินยังรู้ถึงข่าวลือที่ว่าดวงตาแห่งความมืดเป็นพลังต้องสาป ดังนั้นหลังจากรับรู้การเปลี่ยนแปลงของดวงตาแห่งความมืดบนหน้าผากของพ่อมดลีโอ เขาก็เฝ้าระวังมันทันที
“เมอร์ลิน เอาหินธาตุมืดมาให้ข้า ข้าต้องการหินเหล่านั้นจำนวนมหาศาล เอามาให้มากที่สุดเท่าที่เจ้ามี!”
สถานการณ์ปัจจุบันของพ่อมดลีโอเลวร้ายมาก ร่างกายทั้งหมดของเขาดูเหมือนซากศพที่สยดสยอง
เมอร์ลินค้นหาหินธาตุมืดทั้งหมดในแหวนของเขาทันทีและมอบมันให้พ่อมดลีโอ หินธาตุมืดแต่ละก้อนกลายเป็นหมอกสีดำ ดูเหมือนจะมีวังวนอยู่ภายในร่างกายของพ่อมดลีโอ กลืนหินธาตุเหล่านี้อย่างบ้าคลั่ง
ขณะที่พ่อมดลีโอดูดซับหินธาตุมืดอย่างเมามัน ดวงตาแห่งความมืดของเขาที่หน้าผากก็โป่งออกด้านนอกราวกับว่ามันต้องการหลุดออกจากหน้าผากของพ่อมดลีโอ
"ผนึก!"
ดวงตาของพ่อมดลีโอเปิดขึ้นและมือของเขาสั่นด้วยความผันผวนของธาตุมืด จากนั้นเขาก็เอามือตบหน้าผากของเขา การระเบิดของสีแดงเข้มและแสงสีดำพราวพร่างพรายทันที มันส่องแสงบิดเบี้ยวและผสานเข้าด้วยกัน
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง พ่อมดลีโอก็ค่อย ๆ ปล่อยมือของเขา ที่หน้าผากของเขา ดวงตาแห่งความมืดสงบลงแล้ว ฃแต่ดูเหมือนว่าพ่อมดลีโอจะแก่ขึ้นอีกหลายปีและระดับพลังงานของเขายังห่างไกลจากที่เคยเป็นเมื่อเขามาถึงเมืองอิมพีเรียลเป็นครั้งแรก
รูปลักษณ์ของเขาซึ่งคล้ายกับซากศพที่แห้งราวกับมัมมี่ ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องหวาดกลัวกับรูปลักษณ์ของเขา
พ่อมดลีโอส่ายหัวเล็กน้อย พูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยตนเองเบา ๆ “อา ช่างเป็นคำสาปที่ร้ายแรงจริง ๆ…ฉันเกือบจะปราบมันก่อนหน้านี้ไม่ได้แล้วแต่เพื่อน้ำตาเทพเจ้าเสี่ยงแค่นี้ก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว!”
ดวงตาของพ่อมดลีโอเป็นประกายเมื่อนึกถึงน้ำตาเทพเจ้า การใช้งานรูปแบบที่สี่ของดวงตาแห่งความมืดในครั้งนี้ทำให้เขาเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าตอนที่เขาต่อสู้กับออสซีอุสมาก
ตอนนั้น พ่อมดลีโอได้เสียสละแขน คราวนี้แม้ว่าเขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บแต่ในความเป็นจริง พ่อมดลีโอต้องพบกับความสูญเสียที่มากขึ้น คนธรรมดาจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่า พ่อมดลีโอก็ต้องยอมจ่ายในราคาเท่าไรเพื่อปลดปล่อยรูปแบบที่สี่ของดวงตาแห่งความมืดออกมา
อย่างไรก็ตาม พ่อมดลีโอเต็มใจที่จะเสียสละครั้งใหญ่เพื่อได้มาซึ่งน้ำตาเทพเจ้า ตราบใดที่น้ำตาเทพเจ้า มันใช้งานได้ผล ทำให้เขาสามารถบรรเทาข้อบกพร่องของการฝึกฝนดวงตาแห่งความมืดและกลายเป็นนักเวทย์ระดับเจ็ดได้ นั่นจะเป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา ราคาเท่าไรก็คุ้มค่า
*หวู่ม*
พ่อมดลีโอลุกขึ้นยืนทันที ร่างกายของเขาเหี่ยวเฉาเหมือนโครงกระดูก มีเพียงเสื้อคลุมบาง ๆ ห่อหุ้มไว้ สาเหตุที่พ่อมดลีโอมีสภาพเช่นนี้เพราะราคาที่เขาต้องจ่ายสำหรับการบังคับให้เปิดใช้งานรูปแบบที่สี่ของดวงตาแห่งความมืด
ในสนามรบ ณ ตอนนี้ สถานการณ์ได้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง นักเวทย์หลายภายใต้คำสั่งขององค์ชายสี่ได้หลบหนีหรือถูกสังหารไป
ทางด้านพ่อมดแบมมู เขาได้ ‘กำจัด’ คู่ต่อสู้ของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง ทุกที่ที่พ่อมดแบมมูไปถึง ไม่มีนักเวทย์คนไหนสามารถต้านทานเขาได้
นอกจากนักเวทย์ระดับแปดสองคนแล้ว ยังนักเวทย์ผู้ทรงพลังที่อยู่ภายใต้องค์ชายสี่ นั่นก็คือพ่อมดลำดับที่หนึ่ง สองและสาม อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ พวกเขาไม่ปรากฏให้เห็น
“แบมมู!” เมอร์ลินใช้สัญญาทาสเพื่อเรียกพ่อมดแบมมู
"ขอรับ นายท่าน!" พ่อมดแบมมูเหลือบมองเมอร์ลินและกล่าวออกมาด้วยความเคารพ
“พ่อมดลำดับที่หนึ่ง สองและสามภายใต้คำสั่งขององค์ชายสี่อยู่ที่ไหน?”
พ่อมดทั้งสามคนนี้เป็นนักเวทย์ระดับเจ็ดและเมอร์ลินก็ไม่เห็นร่างของพวกเขานอนอยู่ตรงไหนเลย ดังนั้นเมอร์ลินสอบถามทันที
เมื่อได้ยินดังนั้น แบมมูจึงได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่น “นายท่าน พ่อลำดับมดที่หนึ่ง สองและสามค่อนข้างฉลาด ก่อนที่ข้าจะไปหาพวกเขา พวกเขาชิงหนีไปก่อนแล้ว”
“พวกเขาหนีไปแล้ว?”
เมอร์ลินค่อนข้างตกใจ อย่างไรก็ตาม หลังจากครุ่นคิด มันก็ดูสมเหตุสมผล นักเวทย์ระดับเจ็ดสามคนจะสร้างพลังที่น่าเหลือเชื่อ แต่เมื่อพวกเขาเผชิญหน้ากับพ่อมดลีโอและแบมมู พลังพวกนั้นไม่ช่วยอะไรเลย
องค์ชายสี่พ่ายแพ้อย่างเห็นได้ชัด มันคงเป็นเรื่องงี่เง่าที่สุดที่จะมาตายที่นี่เพื่อองค์ชายสี่!
“ก็ดีเหมือนกันที่พวกเขาหนีไป มันช่วยเราประหยัดเวลาให้เรา เอาล่ะ ไปกันเถอะ ตอนนี้เหลือเพียงองค์ชายสี่เท่านั้น!”
เมอร์ลินเห็นว่านักเวทย์ส่วนใหญ่ภายใต้องค์ชายแปดได้เริ่มรวมตัวกันแล้ว พวกเขามาเฝ้าดูการต่อสู้ระหว่างองค์ชายสี่กับองค์ชายแปดอย่างเงียบ ๆ จากระยะไกล
แม้ว่าเจ้าชายทั้งสองจะเป็นเพียงนักเวทย์ระดับหก แต่พวกเขาก็ได้สร้างคาถาที่แข็งแกร่งที่สุดของราชวงศ์และฝึกฝนพลังปีศาจแพนโดร่า ดังนั้น พลังของการต่อสู้ของพวกเขาจึงไม่ด้อยกว่านักเวทย์ระดับเจ็ดเลย ทำให้นักเวทย์ส่วนใหญ่ไม่กล้าเข้าใกล้
มีเพียงพ่อมดแบมมู พ่อมดลีโอและนักเวทย์ระดับเจ็ดทั้งสามเท่านั้นที่สามารถเข้าใกล้ได้มากกว่าเล็กน้อย สำหรับเมอร์ลิน เขาร่ายเกราะสัมบูรณ์จึงทำให้เขาสามารถยืนเคียงข้างพ่อมดลีโอและคนอื่น ๆ ได้
ดวงตานับไม่ถ้วนจับจ้ององค์ชายสี่ แต่ดูเหมือนเขาจะลืมไปโดยสิ้นเชิงกับสถานการณ์ของเขา ในขณะที่ร่างกายของเขาสั่นไหวด้วยพลังน้ำแข็ง ในทางกลับกัน องค์ชายแปดมีลมพายุที่แผ่วเบา นอกเหนือจากเปลวเพลิงที่ลุกโชนรุนแรงและดูน่าเกรงขามเช่นกัน
ในตอนนี้ เจ้าชายทั้งสองก็ต่อสู้กันอย่างเท่าเทียมกัน และไม่มีใครสามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาคุ้นเคยกับคาถากับพลังปีศาจแพนโดร่าที่อีกฝ่ายสร้างและฝึกฝน ขณะที่พวกเขาต่อสู้ ต่างก็เห็นถึงพลังของกันและกัน
ดังนั้น นอกจากทำให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่แล้ว ในความเป็นจริง เจ้าชายทั้งสองพระองค์แทบจะไม่รับบาดเจ็บใด ๆ เลย
“พี่สี่ พี่แพ้แล้ว!”
องค์ชายแปดยืนอยู่กลางอากาศ เขารู้สถานการณ์ในสนามรบอย่างชัดเจน พ่อมดลีโอปลดปล่อยพลังพิเศษของเขาและเอาชนะพ่อมดมอร์สตันและพ่อมดทานนินในการโจมตีครั้งเดียว นี่เป็นกุญแจสำคัญในการพลิกกระแสของการต่อสู้ทั้งหมด
นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา องค์ชายสี่ก็พ่ายแพ้เรียบร้อยแล้ว!
องค์ชายสี่กวาดสายตาไปทั่วสนามรบอย่างรวดเร็ว เขาไม่เห็นนักเวทย์คนใดภายใต้คำสั่งของพระองค์เลย มีทั้งผู้ที่หลบหนีและผู้ที่ถูกสังหาร
ก่อนที่พระองค์จะออกเดินทางครั้งนี้ องค์ชายสี่ไม่เคยคิดว่ามันจะจบลงแบบนี้
“น้องพูดถูก พี่แพ้แล้ว! นี่คือชะตากรรมของเรา ลูกหลานของราชวงศ์…ฮ่าฮ่า…”
องค์ชายสี่เริ่มหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง การต่อสู้เพื่อบัลลังก์นั้นโหดเหี้ยม มันเหมือนกับตอนที่องค์ราชาเสด็จขึ้นครองราชย์ ใครจะรู้ว่าพระโลหิตของเหล่าราชวงศ์นั้น เปื้อนพระหัตถ์ของพระองค์มากเพียงใด?
*ครืน…*
เปลวเพลิงเริ่มลุกโชนอย่างรุนแรงต่อองค์ชายสี่ ภายกลางเปลวเพลิงที่กำลังแผดเผา เสียงหัวเราะขององค์ชายสี่ก็ดังไปทั่วป่าและดูเหมือนว่าจะไปถึงจัตุรัส…
“นั่น...เสียงองค์ชายสี่งั้นเหรอ?”
จู่ ๆ องค์ราชาก็เงยพระพักตร์ขึ้นและทอดพระเนตรไปทางหนึ่ง พระพักตร์ของพระองค์เต็มไปด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน
…
เปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำแผดเผาพระวรกายขององค์ชายสี่ องค์ชายแปดทอดพระเนตรด้วยท่าทางที่ซับซ้อนที่องค์ชายสี่ที่จมอยู่ในกองไฟ นี่คือชะตากรรมของลูกหลานของราชวงศ์ ทันทีที่เขาเลือกต่อสู้เพื่อบัลลังก์ พวกเขาก็ต้องเตรียมที่จะต้องตายด้วยเช่นกัน
มีเพียงเขาเท่านั้นที่เป็นผู้ชนะในตอนนี้!
“องค์ชายแปด! องค์ชายสี่สิ้นพระชนม์แล้ว ถึงเวลาที่พระองค์ต้องทำตามสัญญา!”
ทันใดนั้น พ่อมดลีโอก็พูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ร่างกายของพ่อมดลีโอในตอนนี้ ดูเหมือนจะกลายเป็นหนังหุ้มกระดูก
ใบหน้าขององค์ชายแปดเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่หลังจากนั้น เขาก็ยิ้มออกมา "แน่นอน ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของเราในครั้งนี้ ต้องขอบคุณพลังอันยิ่งใหญ่ของพ่อมดลีโอที่เอาชนะมอร์สตันและทานนินได้ มิฉะนั้น ฉันกลัวว่าคนที่ถูกเผากลายเป็นเถ้าถ่านคงจะเป็นฉันเอง!”
องค์ชายแปดมองดูกองขี้เถ้าที่เคยเป็นพระวรกายขององค์ชายสี่ เขารู้ดีว่ากองกำลังขององค์ชายสี่ในตอนแรกมีชัยเหนือกว่า แต่ผลสุดท้ายคือชัยชนะขององค์ชายแปด ปัจจัยสำคัญของการพลิกกลับของโชคชะตานี้คือการระเบิดพลังอย่างกะทันหันของพ่อมดลีโอ
ดวงตาแห่งความมืดเป็นพลังปีศาจแพนโดร่าในตำนาน ตามที่คาดไว้ มันเป็นพลังที่แปลกประหลาด ลึกลับและไม่น่าเชื่อถือ แม้แต่องค์ชายแปดที่มีความเข้าใจในดวงตาแห่งความมืด ก็ไม่คิดว่ามันจะทรงพลังขนาดนี้
องค์ชายแปดก็ยังสนใจในพลังของดวงตาแห่งความมืด อย่างไรก็ตาม เมื่อมองดูรูปลักษณ์ที่น่ากลัวของพ่อมดลีโอซึ่งแทบจะไม่เหลือความเป็นมนุษย์แล้ว องค์ชายแปดก็ส่ายพระพักตร์เบา ๆ ถึงดวงตาแห่งความมืดจะได้รับการกล่าวว่าเป็นพลังที่ไร้เทียมทาน แต่มันก็เป็นพลังที่ต้องสาป นักเวทย์คนใดที่ฝึกฝนดวงตาแห่งความมืด ไม่มีจุดจบที่ดีเลยสักคน
ยกเว้นเพียงมหาจอมเวทย์แห่งความมืดโอลาส ผู้สร้างดวงตาแห่งความมืดขึ้นมา ดังนั้นแม้ว่าองค์ชายแปดจะถูกพลังของดวงตาแห่งความมืด แต่เขาก็ไม่คิดไม่ฝึกฝนมัน
ทรัพยากรของราชวงศ์นั้นลึกซึ้งและกว้างขวาง แม้ในทรัพยากรเหล่านั้นจะไม่มีพลังปีศาจแพนโดร่าเฉกเช่นดวงตาแห่งความมืดก็ตาม แต่องค์ชายแปดในปัจจุบันเป็นเพียงเจ้าชายและไม่สามารถเข้าถึงความลับที่ลึกล้ำที่สุดของราชวงศ์ได้ เมื่อพระองค์ขึ้นเป็นกษัตริย์และขึ้นครองราชย์ เขาจึงจะสามารถได้รับมรดกอันสมบูรณ์ของราชวงศ์มา
“นี่คือน้ำตาเทพเจ้า!” องค์ชายแปดสูดหายใจเข้าลึก ๆ และหยิบน้ำตาเทพเจ้าออกมา
สำหรับคนอื่น ๆ น้ำตาเทพเจ้าเป็นเพียงเครื่องประดับที่สวยงามแต่สำหรับพ่อมดลีโอ ผู้ซึ่งได้รับความทุกข์ทรมานจากข้อบกพร่องที่เกิดจากการฝึกฝนดวงตาแห่งความมืด มันถือว่าเป็นสมบัติอันล้ำค่า
พ่อมดลีโอยื่นแขนที่เหี่ยวแห้งทันทีและจับน้ำตาเทพเจ้า เขากวาดพลังจิตของเขาวางมันไว้ในแหวนของเขาอย่างรวดเร็ว
องค์ชายแปดพูดด้วยเสียงต่ำว่า “ไปกันเถอะ เรากำลังตามล่ากวางอยู่ในขณะนี้ มาดูกันว่าเราจะหาราชากวางเอลค์นั้นเจอได้หรือไม่!”
หลังจากเอาชนะคู่ต่อสู้หลักขององค์ชายแปดแล้ว องค์ชายแปดก็เข้าใกล้เป้าหมายในการขึ้นครองราชย์ขึ้นไปอีกก้าว ดังนั้น รอยยิ้มของเขาจึงดูไร้กังวลเป็นพิเศษและเสียงหัวเราะของเขาก้องกังวานไปทั่วป่าเป็นเวลานาน…