บทที่ 69 หาเงินเลี้ยงลูกสาว
น้ำเสียงที่ไม่ค่อยสุภาพดังมาจากปลายสาย “ซูเชิ่งจิ่งใช่ไหม? มีรายการโทรทัศน์อยู่ นายอยากมาไหม?”
ซูเชิ่งจิ่งตกตะลึง และมองไปยังเชิ่งจื๋อเหยียนที่อยู่ตรงหน้า
เด็กคนนี้บอกว่าจะช่วยเขาหางานทํา นี่หาได้จริงๆ เหรอ?
เขาพูดโดยไม่รู้ตัว "รายการอะไร?"
"รายการเรียลลิตี้โชว์ เริ่มถ่ายทำตอนบ่ายสองของวันพรุ่งนี้ นายอยากมาไหม?"
รายการเรียลลิตี้โชว์ เป็นรายการวาไรตี้ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดในปัจจุบันและมีผู้ชมจํานวนมาก ซูเชิ่งจิ่งตอบตกลงโดยแทบไม่ต้องคิด "โอเค ผมจะไปให้ตรงเวลา"
"ไปตรงเวลาไม่ได้ นายต้องไปถึงก่อนเวลาครึ่งชั่วโมง"
"ได้" ซูเชิ่งจิ่งตื่นเต้นอยู่บ้าง เขาไม่เคยคิดว่าจะมีคนมาขอให้เขาไปร่วมอัดรายการโชว์
หลังจากที่เขาวางสาย เชิ่งเทียนสื่อก็เลิกคิ้ว “โย่ หรือว่าพี่รองของฉันจะจัดงานให้นายจริงๆ? เป็นยังไงบ้างล่ะ นายมีแผนจะกลับเข้าสู่วงการบันเทิงอีกครั้งไหม? อย่างที่นายบอกไปก่อนหน้านี้ว่ามันเป็นการเดินทางสู่บ่อโคลน”
“ฉันอยากเข้าวงการบันเทิงอีกครั้ง แต่จุดประสงค์คือหาเงินเลี้ยงลูกสาวไม่ใช่เพื่อความฝันเหมือนแต่ก่อน ฉันไม่จำเป็นต้องเป็นอันดับหนึ่งอีกแล้ว ถ้าเงินที่ได้มาสามารถทำให้เสี่ยวจิ่วมีชีวิตที่ดีได้”
ดวงตาของซูเชิ่งจิ่งมองไปยังซูจิ่ว ภายในดวงตาของเขามีความลึกล้ำและเด็ดเดี่ยว
เชิ่งเทียนสื่อรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเขาแตกต่างจากซูเชิ่งจิ่งที่หยิ่งยโสก่อนหน้านี้ ความเสื่อมโทรมและความเลวทรามหลังจากออกจากวงการก็หมดไปแล้วเช่นกัน ตอนนี้เขาเป็นพ่อที่ดีและมีความรับผิดชอบ
"ได้ ฉันสนับสนุนนาย"
เด็กสามคนที่อยู่ตรงหน้าไม่สนใจการสนทนาระหว่างทั้งสอง ความคิดทั้งหมดของเชิ่งจื๋อเหยียนอยู่ที่ซูจิ่ว และตอนนี้เขาก็ทำหน้าบึ้งอีกครั้ง
น้องสาวเสี่ยวจิ่วจูงมือเด็กนั่น เขาอารมณ์เสียจริงๆ❗️
แต่เขาไม่สามารถโกรธได้ เชิ่งจื๋อเหยียนไม่เคยรู้สึกอัดอั้นใจแบบนี้มาก่อน
หลังจากเดินออกไปได้ระยะหนึ่ง เชิ่งเทียนสื่อได้รับโทรศัพท์จากท่านผู้เฒ่าเชิ่ง ตอนแรกเขาถูกตำหนิที่พาเชิ่งจื๋อเหยียนมาเล่นข้างนอก และถูกบอกให้รีบพาเด็กกลับทันที ครูสอนภาษาอังกฤษกำลังรออยู่นานแล้ว
เมื่อได้ยินว่าตนจะต้องกลับไปเรียน เชิ่งจื๋อเหยียนก็อารมณ์เสียมากขึ้น เขากลบเกลื่อนอารมณ์ของตัวเอง “ผมไม่อยากกลับไป ใครจะอยากเรียนเรื่องน่าเบื่อพวกนั้น ผมไม่เอาด้วยหรอก❗️”
เชิ่งเทียนสื่อรู้สึกปวดหัว ขณะที่กําลังจะหิ้วนายน้อยกลับก็เห็นซูจิ่วเขย่งเท้ายื่นมือไปลูบหัวเชิ่งจื๋อเหยียน เหมือนกับกำลังลูบขนให้หมาป่าน้อย* "พี่ชาย เสี่ยวจิ่วไม่มีครูมาสอนที่บ้าน ฉันอิจฉานายจัง นายต้องกลับไปตั้งใจเรียนให้หนักนะ ถ้านายเรียนแล้วก็จะเก่งกว่าคนอื่น ถึงตอนนั้นนายจะได้มาสอนฉัน❗️”
*(小狼狗 หมาป่าน้อย สำนวนจีน เด็กหนุ่มวัยอ่อนอายุประมาณ 20 ปี หน้าตาดี แฟชั่นแหวกแนว มีเสน่ห์ยั่วยวน ต้องการการควบคุม)
หลังจากที่เธอพูดแบบนั้น เชิ่งจื๋อเหยียนก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาก
ใช่แล้ว หลังจากที่เขาเรียนรู้ เขาจะต้องเก่งกว่าเจ้าขอทานตัวน้อยอย่างแน่นอน เขาจะต้องแข่งกับเด็กนั่น❗️
อารมณ์ของเชิ่งจื๋อเหยียนหายไปจนหมด เขาแทบรอไม่ไหวที่จะกลับไปเรียนหนังสือ ซึ่งทำให้เชิ่งเทียนสื่อต้องตกตะลึง
ต้องรู้ว่าสิ่งที่เด็กคนนี้ไม่ชอบมากที่สุดคือการเรียน เขาไม่เคยคิดเลยว่าซูจิ่วจะโน้มน้าวเชิ่งจื๋อเหยียนได้ด้วยคำพูดไม่กี่คำ พรสวรรค์โดยแท้❗️
เขาอดไม่ได้ที่จะพูดกับซูเชิ่งจิ่งว่า "ใครเป็นคนช่วยทำให้ลูกสาวนายเกิดมา ฉันคิดว่าแม่ของเด็กต้องเก่งมากแน่ๆ นายดูสิว่า EQ ของเสี่ยวจิ่วสูงแค่ไหน ไม่เหมือนกับนายเลย❗️”
ซูเชิ่งจิ่งมุมปากกระตุก
แม่เด็ก?
เขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าเป็นใคร
หลังจากที่เกลี้ยกล่อมให้นายน้อยจากไปแล้ว ซูจิ่วและซูเชิ่งจิ่งก็พาหรงซื่อกลับไปที่โรงพยาบาล และแวะดูซ่งหว่านชิว
ซ่งหว่านชิวพักผ่อนบนเตียงหลังจากผ่าตัด ใบหน้าเธอยังคงซีดอยู่แต่ก็ดูดีขึ้นกว่าก่อนหน้านี้ เมื่อเห็นซือจิ่วเข้ามาพร้อมกับหรงซื่อ เธอก็ประหลาดใจเล็กน้อย
อาซื่อต่อต้านการถูกแตะเนื้อต้องตัวของเขาเป็นพิเศษ แต่ตอนนี้เขาถึงกับยอมให้สาวน้อยจูงมือเลยเหรอ?