ตอนที่ 209+210 ไปที่สนามบิน
ตอนที่ 209 ไปที่สนามบิน
ลู่ชิงสีจับมือเจียงเหยา ขณะที่พวกเขาทักทายผู้อำนวยการโรงพยาบาล เขาแนะนำเจียงเหยาให้กับผู้อำนวยการและบอกเขาว่า เจียงเหยาคือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของโรงพยาบาล ก่อนจะบอกให้เขานำทางไปห้องพักพนักงาน
ที่พักพนักงานไม่ได้อยู่ในโรงพยาบาล แต่อยู่อีกฟากของถนน ตรงข้ามกับโรงพยาบาล หอพักเป็นตึกใหม่ที่เพิ่งสร้างได้เพียงสองปี คนที่อาศัยอยู่ที่นี่ล้วนเป็นหัวหน้าแพทย์หรือพยาบาลที่ทำงานมานาน อันที่จริงไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพักอยู่ที่นี่เลย
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ฝากฝังมาเป็นการส่วนตัว ทำให้กรรมการบริหารจึงปฏิบัติกับเขาเป็นพิเศษ แม้ว่าเขาจะเป็นคนพิการ แต่ผู้อำนวยการก็ไม่กล้าโต้แย้งใด ๆ เพราะผู้ถือหุ้นรายใหญ่มีสิทธิ์ที่จะว่าจ้างหรือไล่ใครออกก็ได้ หากเธอจะไล่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลออกก็ยังได้เลย ไม่ต้องพูดถึงแค่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
ไม่เคยได้ยินคำพูดที่ว่า ‘กษัตริย์องค์ใหม่ทุกคน ย่อมมีข้าราชบริพารของตนติดตัวมาด้วย’ หรอกหรือ
เหตุผลที่ตัวเขาเองได้รับตำแหน่งนี้ ก็เป็นเพราะความช่วยเหลือจากตระกูลฉี ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่เจียงเหยาคนนี้ จะกำจัดคนของตระกูลฉี และเอาคนของเธอมาแทนที่
หลังจากที่อู๋จงนั่งลงแล้ว ลู่ชิงสีและเจียงเหยาก็ตรงไปยังห้องพักผู้ป่วยของแม่เฉินจื่อบิ่น
อาการของแม่เฉินเหมือนเดิม ไม่มีวี่แววว่าจะฟื้นคืนสติ แต่โชคดีที่อาการของเธอทรงตัวไม่ได้ทรุดลง
เมื่อรู้ว่าเจียงเหยากลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของโรงพยาบาล และได้จัดหมอที่เก่งที่สุดมาดูแลแม่ของเขา เฉินจื่อบิ่นเข้ามาขอบคุณเจียงเหยา เขายืนกรานว่าจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลด้วยตนเอง เขาได้เห็นจำนวนเงินในสมุดบัญชีแล้ว และมันก็เพียงพอต่อค่ารักษาพยาบาลด้วย ดังนั้นเขาจึงทนไม่ได้ หากจะใช้ประโยชน์จากภรรยาของสหายตนเอง
ลู่ชิงสีและเฉินซวีเหยาอยู่ปลอบเฉินจื่อบิ่นสักพัก ก่อนที่ทั้งสามจะมุ่งตรงออกจากโรงพยาบาล
ลู่ชิงสีต้องกลับไปที่กองทัพ ส่วนเฉินซวีเหยาก็ต้องกลับเมืองจินโดแล้วเหมือนกัน ดังนั้นเขาจึงจองเที่ยวบินเดียวกัน
ทั้งสามคนกลับมายังโรงแรมเพื่อเก็บข้าวของและเช็คเอาท์ หลังจากพากันไปรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารใกล้ ๆ อย่างรวดเร็ว ก่อนจะพากันไปที่สนามบิน
เฉินซวีเหยาเป็นคนขับ ส่วนลู่ชิงสีและเจียงเหยานั่งอยู่ที่เบาะหลัง
“จะขับรถกลับยังไงคะ” แม้ว่าเจียงเหยาจะไม่มีใบขับขี่ในชีวิตก่อนหน้านี้ แต่เธอเคยขับรถได้และสามารถขับรถบนถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อในชนบทในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา ทว่าปัญหาก็คือ หากไม่มีลู่ชิงสีและเฉินซวีเหยาแล้ว เธอไม่สามารถขับรถเตร็ดเตร่ไปทั่วเมืองได้โดยไม่มีใบขับขี่
แม้ว่าเธอจะกล้า ทว่าลู่ชิงสีคงไม่ยอมให้เธอทำอย่างนั้นอย่างแน่นอน
“ผมจะจอดรถไว้ที่ลานจอดรถของสนามบิน ทิ้งกุญแจไว้ที่สำนักงานของสนามบิน เดี๋ยวผู้กำกับเย่จะส่งคนมารับรถไปเอง” ลู่ชิงสียกแขนขึ้นลูบศีรษะเจียงเหยา “คุณเรียกแท็กซี่กลับเองได้ไหม?”
ในตอนแรกลู่ชิงสีวางแผนที่จะไปส่งเจียงเหยากลับมหาวิทยาลัยก่อนมาสนามบิน แต่เจียงเหยายืนยันที่จะไปส่งเขากับเฉินซวีเหยาที่สนามบิน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ชายหนุ่มก็ตระหนักว่าอีกตั้งครึ่งเดือนกว่าเขาจะได้พบกับภรรยาอีกครั้ง ดังนั้นเขาจึงอยากใช้เวลาอยู่กับภรรยาให้นานเท่าที่จะทำได้
“ได้สิคะ คุณเห็นฉันมีปัญหาหรือไง” เจียงเหยายิ้มอย่างอ่อนโยน “นายท่านลู่ ฉันอายุยี่สิบแล้วนะ ไม่ใช่สองขวบครึ่ง!”
เธอไม่ต้องการให้เขาจู้จี้ ราวกับเธอเป็นเด็กสองขวบครึ่ง ที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้
“หลังจากที่ผมกลับไปแล้ว ถ้ามีปัญหา ต้องรีบบอกให้ผมรู้ อย่าปล่อยให้ใครรังแกหรือไปรังแกใครเข้าล่ะ” ลู่ชิงสียังคงกังวลเกี่ยวกับเธอ
“ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นจริง แล้วไม่สามารถติดต่อผมได้ คุณก็โทรหาเหวยฉี หรือซวีเหยา หรือจะไปขอความช่วยเหลือจากตระกูลหวงก็ได้ พวกเขาเป็นหนี้คุณอยู่มาก น่าเสียดายออกที่จะไม่รับไว้”
__
ตอนที่ 210 ซ่อน
เฉินซวีเหยาที่นั่งอยู่บนที่นั่งคนขับแทบจะจับพวงมาลัยไม่ถูก
จึ จึ จึ พี่ชายของเขา ยมทูตลู่ เมื่ออยู่ต่อหน้าเจียงเหยา จะเป็นคนสงวนคำพูดไปได้อย่างไร เขาก็เป็นคนช่างพูดเหมือนกันสินะ!
แม้ว่าเขาจะอยู่กับกลุ่มเพื่อน แต่ถ้าไม่มีอะไรจริงจัง พี่ชายของเขาจะเงียบขรึมเสมอ ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตาม เขาจะทำหน้าเฉยเมยราวกับว่า ถ้าพูดเพียงแค่สองประโยคเขาจะตายอย่างไรอย่างนั้น แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าภรรยา คำพูดที่เขาพูดภายในไม่กี่นาที นั้นเกือบเท่ากับจำนวนคำพูดของเขาที่ใช้พูดทั้งสัปดาห์ก็ว่าได้!
นั่นคือเหตุผลที่เฉินซวีเหยา คิดว่าพี่ชายของเขาให้คุณค่ากับภรรยาของเขามากกว่าเพื่อนของเขาเสียอีก! หากเขาอยู่ในสมัยโบราณ เขาคงได้กลายเป็นผู้นำที่โง่มากแน่ ๆ!
“มีอีกเรื่องที่คุณต้องจำไว้นะที่รัก” ท่าทางของลู่ชิงสีเริ่มจริงจังมากขึ้น และเขากล่าวว่า “คุณไม่อยู่ที่จินโด คุณมาที่นี่เพื่อเรียนเท่านั้น เราไม่สามารถยึดเมืองหนานเจียงทั้งหมดด้วยความสามารถของเราได้ ดังนั้น คุณอาจต้องปิดบังความจริงที่ว่าคุณเป็นภรรยาของผมชั่วคราว”
ความสามารถของสหายของเขา เหมือนกับนากอินทรีหนุ่มที่ขนยังขนไม่เต็มตัว แต่ละคนยังอยู่ในช่วงเติบโต
พวกเขาสามารถยึดเมืองจินโดได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นถ้าเจียงเหยาอยู่ที่เมืองจินโด เขามั่นใจว่าเขาสามารถรับรองความปลอดภัยของเธอได้ ทว่าเจียงเหยาอยู่ที่เมืองหนานเจียง ดังนั้นควรจะปลอดภัยไว้ดีกว่าต้องมาเสียใจในทีหลัง ลู่ชิงสีไม่กล้าเอาเรื่องความปลอดภัยของเจียงเหยามาล้อเล่น เพราะอย่างนั้นตัวตนของเจียงเหยาในฐานะภรรยาของเขา จึงไม่สามารถแพร่งพรายออกไปได้ ผู้คนที่เขาพบเมื่อเขามาถึงหนานเจียงในครั้งนี้ถูกเขาเตือนไปเช่นนี้ด้วย และเขาเชื่อว่าคนเหล่านั้นไม่น่าจะกล้าแพร่งพรายเรื่องนี้ออกไป
ด้วยเหตุนี้ลู่ชิงสีจึงสาบานกับตัวเองว่าเขาต้องมีพลังให้มากกว่านี้
“เจียงเหยา พี่เขาพูดถูก ทั้งหมดก็เพื่อคุณทั้งนั้น” เฉินซวีเหยากล่าวเสริมว่า “คงจะดีถ้าคุณอยู่ที่จินโด แม้ว่าชิงสีจะอยู่แต่ในกองทัพ ก็ยังมีพวกเราอยู่ที่จินโด พวกเรายังพอดูแลคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นการให้ผู้คุมกันดูแลคุณอย่างลับ ๆ หรืออะไรก็ง่ายมากกว่าด้วย เราพอจะมีอำนาจในเมืองจินโดอยู่บ้าง แต่ไม่ใช่ทั้งประเทศ ชิงสีมีอำนาจในเมืองจินโดและในกองทัพของเขา ดังนั้นเพื่อป้องกันตัวเอง ต่อไปถ้าคุณติดต่อกับคนอื่น ๆ ในเมืองหนานเจียง พูดถึงชิงสีให้น้อยลง ยิ่งกับคนไม่สำคัญอะไรก็ไม่ต้องพูดถึงเขานะ”
เจียงเหยาเข้าใจส่วนหนึ่งของสิ่งที่พวกเขากำลังพูด แต่เธอไม่แน่ใจนักเช่นกัน
“ภรรยาของผม ผมเป็นทหารมาหลายปี ไปปฏิบัติภารกิจมานับไม่ถ้วน มือของผมเปื้อนชีวิตและเลือดของผู้คนมากมาย ส่วนมากเป็นพวกนอกกฎหมายทั้งนั้น ผมไม่รู้ว่าใครกำลังรอให้ผมตาย แม้ว่าระหว่างทำภารกิจผมจะใช้ชื่ออื่นและคนทั่วไปไม่สามารถรู้ข้อมูลของผม แต่ผมไม่สามารถรับประกันได้ว่าไม่มีใครจะค้นหาตัวตนของผมในฐานะลู่ชิงสีผ่านชื่อแฝงของผมได้หรือเปล่า” ลู่ชิงสีอธิบายกับเจียงเหยาอย่างละเอียดในขณะที่เขากลัวว่าเธอจะเข้าใจเขาผิดไป
“หากมีใครตรวจสอบข้อมูลผม พวกเขาจะไม่มีทางรู้ว่าบ้านเกิดของผมอยู่ที่ไหน พวกเขาจะได้เพียงข้อมูลปลอมเท่านั้น และถ้าใครแอบติดตามสืบค้นข้อมูลผม กองทัพของผมจะรู้ข่าวทันที แต่ถึงอย่างนั้น หากตัวตนของคุณในฐานะภรรยาของผมเป็นที่รู้จักในที่สาธารณะ คนที่มีเจตนาไม่ดีอาจจะพุ่งเป้าไปที่คุณแทนได้ ถ้าพวกเข้าล้มเหลวในการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับตระกูลลู่”
แม้แต่ข้อมูลของเจียงเหยาก็เป็นความจริงเพียงบางส่วนเท่านั้น ไม่ต้องพูดถึงข้อมูลของลู่ชิงสี หากใครก็ตามตรวจสอบสถานะนักศึกษาของเจียงเหยาจริง ๆ พวกเขาก็จะสามารถค้นพบข้อมูลปลอมที่ลู่ชิงสีจัดเตรียมไว้ให้เท่านั้น
ข้อมูลของลู่ชิงสีและครอบครัวของเขาถูกเก็บเป็นความลับสูงสุดและได้รับการปกป้องอย่างสูงจากกองทัพ นี่คือการปกป้องลู่ชิงสีและครอบครัวของเขา เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยของคนในตระกูลลู่ทั้งหมด