ข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 15 เรื่องเล่าขานตำนานหอนางโลม
ข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 15 เรื่องเล่าขานตำนานหอนางโลม
บนสะพานหินที่มีแม่น้ำไหลผ่านข้างใต้ คงหนิงค่อยๆ ลืมตาขึ้น
มือของเขาค่อยๆ คลายออกจากขมับของหมาลิ่ว
ที่แขนขวามีรอยแผลที่มองเห็นได้ลึกลงไปถึงกระดูก เลือดไหลรินออกมาตลอดเวลา ไหล่ขวาแตกออกจนหมด เผยให้เห็นอวัยวะภายในที่บิดเบี้ยวและสีขาวของชั้นกระดูก
โชคดีที่พลังปีศาจภายในร่างนั้นไหลเวียนอยู่ตลอด บาดแผลน่ากลัวนั้นค่อยๆ ขยับไปมาแล้วค่อยๆ สมานตัวอย่างรวดเร็ว สุดท้ายก็ไม่เหลือร่องรอยบาดแผลอะไรไว้
จากนั้นคงหนิงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ทรุดตัวลงบนสะพานหิน หอบหายใจเล็กน้อยใต้แสงจันทร์เย็นยะเยือก
การต่อสู้ภายในฝันร้ายนั้นอันตรายกว่าที่คิด
แม้ว่าเขาจะได้เปรียบ การโต้กลับของปีศาจจนตรอกก็ยังทำให้คงหนิงได้รับบาดเจ็บไม่เบา
โชคดี ตราบใดที่บาดแผลไม่ได้ร้ายแรงมาก พลังปีศาจก็สามารถซ่อมแซมรักษาได้ทัน เขาจับแก่นพลังของปีศาจเอาไว้และหลอมเข้ามาในร่าง ท้ายที่สุดปีศาจก็ถูกฟันจนดับดิ้นอยู่ในฝันของหมาลิ่ว
ตอนนี้หมาลิ่วเต็มไปด้วยอาการบาดเจ็บ กำลังนอนตะแคงข้างใบหน้าซีดเซียว การหายใจค่อยๆ ช้าลง
และไหดำลึกลับภายในตันเถียนก็สั่นสะเทือน แสดงให้เห็นว่ากลั่นพลังเสร็จสมบูรณ์ จากนั้นกระแสพลังปีศาจก็ไหลออกอย่างต่อเนื่องไปยังแขนขาและกระดูกของคงหนิง
คงหนิงสังเกตเห็นว่าพลังปีศาจภายในร่างกายเริ่มทะยานสูงขึ้นอีกครั้ง
สุดท้ายพลังปีศาจในร่างของคงหนิงก็เพิ่มขึ้นมาอีกเท่าตัว จากพลังบ่มเพาะสี่สิบปีกลายเป็นพลังบ่มเพาะเจ็ดสิบปี
หือ? เจ็ดสิบปี?
หลังจากรับรู้เรื่องนี้ คงหนิงก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
พลังตบะเพิ่มขึ้นเพียงสามสิบปี......
การกลั่นพลังปีศาจจากตัวกินวิญญาณเมื่อตอนกลางวันยังเพิ่มพลังตบะให้เขาตั้งสี่สิบปี แต่ตอนนี้การกลั่นวิญญาณฝันร้ายซึ่งแข็งแกร่งกว่าตัวกินวิญญาณกลับเพิ่มพลังตบะมาได้เพียงสามสิบปี?
ดูเหมือนว่าพลังของภูตอสูรปีศาจนั้น ยิ่งฝึกฝนมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งก้าวหน้าได้ยากขึ้นเท่านั้น
เนื่องจากคงหนิงมีพลังปีศาจถึงเจ็ดสิบปีแล้ว เขาจึงรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าพลังต่อสู้ของเขาเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวเมื่อเทียบกับตอนที่พลังบ่มเพาะอยู่ที่สี่สิบปี
หนทางยังอีกยาวไกลกว่าที่เขาจะต่อสู้กับปีศาจที่อยู่ในบ้านได้ ท้ายที่สุดแล้ว ปีศาจสาวตนนั้นก็สามารถแปลงกายเป็นมนุษย์ได้......
นอกจากนั้น เมื่อกลั่นวิญญาณฝันร้ายในครานี้ เขาไม่ได้รับพลังพิเศษเหนือธรรมชาติมาเพิ่ม ได้มาเพียงพลังปีศาจ
เห็นได้ชัดว่าไหดำลึกลับที่ใช้กลั่นปีศาจใบนี้ นอกเหนือจากดึงพลังปีศาจมาได้อย่างแน่นอนแล้ว ก็มีโอกาสได้รับพลังพิเศษเหนือธรรมชาติด้วย เพียงแต่ไม่ใช่จะได้รับพลังพิเศษมาเสียทุกครั้ง
แต่ได้พลังพิเศษมาครั้งหนึ่งก็เพียงพอแล้ว!
คงหนิงที่นอนอยู่บนสะพานหินเย็นเยียบ ถอนหายใจยาว กำหมัดของตนแน่น
ในช่วงการเริ่มต้นของทุกๆ สิ่งนั้นยากเสมอ และการเริ่มต้นจากการที่ไม่มีอะไรเลยนับเป็นสิ่งที่ยากที่สุด ตอนนี้เขาได้ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดมาได้แล้ว ในที่สุดเขาก็มีพลังตบะถึงเจ็บสิบปี
จะมากจะน้อยก็ถือเป็นจุดตั้งต้นเล็กๆ เมื่อพิจารณาจากเศษเสี้ยวความทรงจำของตัวกินวิญญาณ แม้ว่าปีศาจที่มีพลังตบะถึงระดับเจ็ดสิบปีจะไม่ได้แข็งแกร่งนัก แทบจะไม่ได้ทรงพลังยิ่งใหญ่ แต่ก็ไม่ใช่ตัวตนเล็กๆ อีกต่อไป
และสำหรับคงหนิง นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น
ต่อจากนี้ เพียงแค่ต้องซ่อนตัวอย่างระมัดระวัง ต่อสู้อย่างมั่นคง และใช้ไหดำลึกลับเพื่อกลืนกินปีศาจตัวอื่นๆ ภายในเมือง ไม่ช้าก็เร็ว จะสามารถเหยียบย่ำปีศาจภายในบ้านได้
แข็งแกร่งให้มากขึ้น จนสามารถโบยบินไปบนท้องฟ้า แผดเผาภูเขาและท้องทะเลจนเดือดพล่าน......ขอบเขตที่พูดถึงนั้น ก็ใช่ว่าจะไปถึงไม่ได้
เพียงแต่ว่าหมอกขาวภายในไหสีดำจำเป็นต้องสะสม คงหนิงไม่สามารถมองหาเป้าหมายตัวต่อไปได้ในทันที
แต่มีเวลาอีกหกเดือน ตอนนี้เป็นเพียงช่วงเริ่มต้น ยังมีเวลาเหลือให้รั้งรอได้
คงหนิงสูดลมหายใจเข้ายาวๆ ค่อยๆ ลุกขึ้น อุ้มหมาลิ่วที่เต็มไปด้วยเลือดเดินทางกลับไปศาลาว่าการ
ในเวลานี้หมาลิ่วได้หลบหนีออกจากภาพลวงตาของวิญญาณฝันร้ายได้นานแล้ว สาเหตุที่ยังไม่ตื่นขึ้นมาเพราะอาการบาดเจ็บนั้นรุนแรงเกินไป และอยู่ในอาการไร้สติ จึงต้องรีบส่งตัวเขากลับศาลาว่าการโดยเร็วที่สุดเพื่อรักษาบาดแผล
และภายในมือของคงหนิง ยังถือศพผีทารกตัวขาวซีดไปด้วย
นี่คือวิญญาณฝันร้ายในดินแดนแห่งความฝันของหมาลิ่ว ปีศาจที่เปลี่ยนร่างไปเพราะความกลัวของหมาลิ่ว ไม่ใช่ใบหน้าที่แท้จริงของวิญญาณฝันร้ายแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม คงหนิงได้ฟันมันจนตายในสภาพนี้ วิญญาณฝันร้ายจึงปรากฏสภาพให้เห็นเป็นร่างศพดังที่เห็น
คงหนิงอุ้มศพผีทารกที่มีแขนขาอ้วนพีและมีหัวที่โตอย่างน่าประหลาด ทั้งยังอุ้มหมาลิ่วที่เต็มไปด้วยเลือด รีบกลับไปยังที่ว่าการเขตชานหลาน
ในเวลานี้ ที่ศาลาว่าการกำลังวุ่นวายทีเดียว เมื่อเหล่ามือปราบตื่นขึ้นมาทีละคนและพบว่าคงหนิงกับหมาลิ่วได้หายตัวไป พวกเขาต่างตกใจเพราะคิดว่าคงหนิงและหมาลิ่วถูกปีศาจลักพาตัวไป
หัวหน้ามือปราบจางหรงกำลังจะส่งคนไปค้นหาร่างของหมาลิ่วและคงหนิง แต่ก็พลันพบคงหนิงซึ่งเต็มไปด้วยเลือดกลับมาพร้อมหมาลิ่วที่โชกเลือดยิ่งกว่า
ดวงตาของทุกคนเบิกกว้าง
“หวา! คงหนิง เกิดอะไรขึ้นกับเจ้าและหมาลิ่ว? ทำไมถึงมีเลือดเต็มไปหมด?”
“เดี๋ยวนะ! สิ่งที่อยู่ในมือของเจ้า......คือผีร้ายหรือ?!”
“เกิดอะไรขึ้น? เจ้าไปไหนมา?”
กลุ่มมือปราบจำนวนมากพากันวุ่นวายสับสน เขารีบนำตัวหมาลิ่วที่บาดเจ็บอยู่ไปทำแผล
คงหนิงที่ไม่ได้รับบาดเจ็บโบกมือแล้วโยนร่างวิญญาณฝันร้ายไปให้กับหัวหน้ามือปราบจางหรงแล้วกล่าวว่า “ลืมมันไปเถอะ ปีศาจตนนี้สามารถทำให้ผู้คนมึนงงได้ด้วยเวทมนตร์ กับดักทั้งหมดที่เราตั้งไว้ล่วงหน้าใช้ไม่ได้ผล มันซ่อนตัวอยู่ด้านนอกแล้วทำให้พวกเราทุกคนสลบไป”
“โชคดีที่เจ้านี่แผ่จิตสังหารออกมา หมาลิ่วที่อยู่ด้านข้างข้าก็ปลุกข้าให้ตื่นขึ้น เมื่อข้าเห็นมันลากหมาลิ่วออกไป ข้าก็ไล่ตามมันทันทีและในที่สุดก็ช่วยหมาลิ่วกลับมาได้”
“แต่เจ้านี่ดูเหมือนจะสนใจหมาลิ่วเป็นพิเศษ ข้าไล่มันไปจนสุดทาง ฟาดฟันเข้าที่ร่างของมัน แต่มันก็ไม่ได้ต่อต้านอะไรมาก มัวแต่ปกป้องร่างของหมาลิ่วไว้เพื่อสวาปาม”
คงหนิงกล่าวว่า “ไม่รู้ว่าหมาลิ่วไปทำอะไรให้มันโกรธเคืองหรือไม่”
ต่อหน้าฝูงชน คงหนิงพูดเรื่องโป้ปดออกมาตรงๆ พูดโกหกออกมาโดยไม่กระดากอาย เพราะเขารู้ว่าหลังจากที่เขาพูดโกหกออกไป มือปราบกลุ่มนี้จะนำมันไปปะติดปะต่อได้เอง
แน่นอนว่าหลังจากที่เหล่ามือปราบวนรอบร่างของผีทารกแล้ว พวกเขาทั้งหมดก็แสดงรอยยิ้มแปลกๆ
จางหรงตบไหล่คงหนิงแล้วขยิบตา พูดออกมาด้วยรอยยิ้ม “เจ้าไม่รู้สาเหตุก็เพราะเจ้าไม่ได้ไปหอสายลมใบไม้ผลิบ่อยนัก......ทุกครั้งที่เจ้าไปจิบสุราดอกไม้[1] ใครใช้ให้เจ้าไม่เข้าไปในห้องกันเล่า? หากเจ้าได้เข้าไปในห้องสักสองสามครั้ง เจ้าจะรู้เองว่าผีเด็กตัวนี้คือสิ่งใด”
มือปราบคนอื่นๆ พากันหัวเราะ
ตำนานผีเด็กที่แพร่กระจายอยู่ในซ่องโสเภณีเขตชานหลาน มือปราบเหล่านี้ล้วนเคยได้ยินกันทั้งนั้น ไม่มีใครไม่รู้จัก
คำพูดของคงหนิงประกอบกับการปรากฏตัวของผีเด็กตนนี้ ทำให้เหล่ามือปราบนึกถึงผีเด็กในซ่องโสเภณีขึ้นมา และมีบางเรื่องเล่าบอกว่าวิญญาณร้ายเกิดจากความแค้นเคืองของทารกในครรภ์ เป็นปกติที่จะให้ความสนใจกับหมาลิ่วที่เยี่ยมเยียนซ่องบ่อยๆ
ท้ายที่สุด ในช่วงหลายต่อหลายปีมานี้ หมาลิ่วก็ทำแท้งทายาทของตนไปไม่น้อย เท่าที่รู้กันก็ประมาณเก้า......
ในไม่ช้า หมาลิ่วซึ่งเต็มไปด้วยผ้าพันแผล และได้รับยาไปก็ตื่นขึ้น ชายผู้นี้ได้ค่อยๆ พยุงตัวลุกขึ้นแล้วเดินออกมา ทันทีที่เขาเห็นร่างผีทารก เขาก็ตกใจมากจนแข้งขาอ่อน ล้มลงไปกับพื้น
หลังจากนั้นไม่นาน หมาลิ่วก็คว้าขากางเกงหัวหน้ามือปราบแล้วพูดว่า “หัวหน้า ข้า......ข้าขอฝังสิ่งนี้ได้หรือไม่? ข้าอยากให้มันได้ไปสู่สุคติ จะกลับบ้านไปมอบใบต่ออายุให้......”
แม้ว่าเขาจะจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นในฝัน แต่หมาลิ่วก็พอจะเดาที่มาของผีทารกตัวนี้ได้
แต่หัวหน้ามือปราบส่ายศีรษะแล้วกล่าวว่า “ไม่มีประโยชน์ที่เจ้าจะพูดเรื่องนี้กับข้า เจ้าต้องให้ใต้เท้าเห็นด้วยกับเจ้า......ข้าได้ส่งคนไปแจ้งใต้เท้าแล้ว เจ้าสามารถบอกท่านเองได้ในภายหลัง”
งานของมือปราบในคืนนี้ ได้ล่วงเลยมาถึงจุดสิ้นสุด
มีเพียงหมาลิ่วเท่านั้นที่มองดูศพร่างซีดด้วยหน้าตาซีดเซียว
---------------------------------
[1] จิบสุราดอกไม้ - นอกเหนือจากหมายถึงสุราที่ใช้ดอกไม้ผสมเป็นส่วนประกอบแล้ว ยังหมายถึงการมีเพศสัมพันธ์กับโสเภณี