WS บทที่ 346 ลีโอระเบิดพลัง PART 1
*ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ*
หนามแหลมจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าหาเมอร์ลินราวกับเม็ดฝน อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาเข้าไปในกองเพลิง ลูกศรดูเหมือนจะกระทบกับที่เกราะกำบังที่แข็งแรง ทำให้หนามแหลมหักหรือบินกลับไปในทิศทางตรงกันข้าม
"ไฟ? อุปกรณ์เวทมนต์ของคุณแข็งแกร่งมาก แต่น่าเสียดายที่คุณไม่ควรใช้คาถาธาตุไฟกับฉัน!”
เสียงอันเฉยเมยดังขึ้นจากกองเพลิง ต่อจากนั้น เปลวเพลิงที่อยู่บนร่างของเมอร์ลินก็ลุกเป็นไฟมากขึ้นและเริ่มลุกเป็นไฟไหม้อย่างรวดเร็ว จากนั้นมีบางอย่างที่ทรงพลังดูดเปลวเพลิงทั้งหมดเข้าไปในร่างกายของเขา
*ซวบ ซวบ ซวบ*
ไม่ว่าเปลวเพลิงจะรุนแรงเพียงใดแต่มันก็ถูกระงับโดยแม็กซิมแห่งไฟ ยิ่งไปกว่านั้น มันจะถูกแปลงเป็นพลังเวทย์ทันที เมื่อเปลวเพลิงที่ลุกโชนของเมอร์ลินค่อย ๆ ดับลง เปลวเพลิงสีขาวซีดก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง คาถาธาตุไฟเหล่านี้ไม่ได้เป็นของพ่อมดลำดับที่สี่แต่เป็นของเมอร์ลิน
“มันจะเป็นไปได้อย่างไร? คาถาของฉันใช้อุปกรณ์เวทมนต์แบบเสริมพลัง คาถาของฉันบรรลุถึงจุดสูงสุดของคาถาระดับหกหรือแม้แต่ระดับเจ็ด แต่แกจะไม่ได้รับอันตรายเลยได้อย่างไร?”
สีหน้าของพ่อมดลำดับที่สี่ซีดเล็กน้อย อุปกรณ์เวทมนต์แบบเสริมพลังนี้เป็นไพ่ตายของเขา
เขาเคยได้รับมันมาและใช้เพียงครั้งเดียวก่อนหน้านี้ การใช้งานแต่ละครั้งสงวนไว้สำหรับช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดและจะช่วยเขาให้พ้นจากวิกฤติอันร้ายแรง แม้กระทั่งเขาได้พบกับศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุด เขาก็รอดมาได้
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่พ่อมดลำดับที่สี่ใช้อุปกรณ์เวทมนต์แต่ไม่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ของเขาได้!
*หวู่ม*
ณ ตอนนี้ แม่มดลำดับที่ห้าได้กลายร่างเป็นเม่นยักษ์อีกครั้ง จากนั้นเธอได้หมุนตัวเป็นลมหมุนและกวาดตรงไปยังเมอร์ลิน พลังที่บรรจุอยู่ภายในการโจมตีนั้นมหาศาลอย่างเห็นได้ชัด
*บูม!*
ร่างที่แท้จริงของแม่มดลำดับที่ห้ากระแทกเข้ากับเมอร์ลินอย่างไร้ความปรานี อย่างไรก็ตาม ความพยายามนี้ไม่ได้ราบรื่นเหมือนความพยายามครั้งก่อน ๆ เมื่อร่างที่แท้จริงของแม่มดลำดับที่ห้าพบกับเกราะสัมบูรณ์แบบของเมอร์ลินและเปลวเพลิงสีขาวซีดซึ่งมันเริ่มลุกไหม้และลุกลามไปสู่ร่างของแม่มดลำดับที่ห้า
เปลวเพลิงสีขาวซีดเหล่านี้ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของเพลิงวินาศอันน่าสะพรึงกลัว แม่มดลำดับที่ห้าได้ทำพลาดที่เธอย่ามใจจนเกินไป เธอไม่เหมือนพ่อมดลำดับที่สี่ที่เข้าใจเปลวเพลิงเหล่านี้อย่างสมบูรณ์
เมื่อเปลวเพลิงสีขาวซีดเริ่มลุกไหม้บนร่างกายของเธอ ทำให้เธอเพิ่งจะตระหนักได้ อย่างไรก็ตาม มันก็สายเกินไปแล้ว
เปลวเพลิงสีขาวซีดลุกลามมาตามหนามแหลมบนร่างกายของเธออย่างรวดเร็ว และเพียงพริบตาเปลวไฟสีขาวก็ปกคลุมเม่นยักษ์ทั้งตัว
แม่มดลำดับที่ห้าส่งเสียงร้องอย่างทรมาน พลังของเพลิงวินาศไม่ใช่สิ่งที่ใคร ๆ จะต้านทานได้ แม้ว่าแม่มดลำดับที่ห้าจะเป็นเผ่าสัตว์อัลไพน์และมีร่างกายที่ทนทานแต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะทนต่อพลังการเผาไหม้ของเพลิงวินาศได้
"ไม่ดีแล้ว!"
เมื่อพ่อมดลำดับที่สี่เห็นว่าแม่มดลำดับที่ห้าถูกไฟสีขาวซีดกลืนไป สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป ตอนนี้ พกวเขาได้ใช้ทุกอย่างที่มีแต่ไม่สามารถเอาชนะเมอร์ลินได้ ตรงกันข้าม ดูเหมือนว่าแม่มดลำดับที่ห้าจะตายด้วยมือของเมอร์ลิน
พ่อมดลำดับที่สี่เป็นนักเวทย์ที่มีชีวิตอยู่หลายร้อยปี จากประสบการณ์ หากอยู่ต่อไปเขาต้องตายไปด้วยอีกคน ดังนั้นเขาจึงเตรียมพร้อมที่จะจากไปในทันที
*หวู่ม*
ขณะที่ร่างของพ่อมดลำดับที่สี่เริ่มเคลื่อนไหว สายลมกระโชกของความผันผวนของพลังธาตุลมได้ปรากฏขึ้นรอบตัวเขา ร่างของเมอร์ลินอยู่ตรงหน้าพ่อมดลำดับที่สี่แล้ว
“จะหนีไปไหน? เสียใจด้วย มันสายเกินไปแล้ว!”
หลังจากดูดซับพลังธาตุไฟจำนวนมากจากพ่อมดลำดับที่สี่และแปลงเป็นพลังเวทย์มนตร์ด้วยความช่วยเหลือของแม็กซิมแห่งไฟ เมอร์ลินก็เต็มไปด้วยพลังเวทย์มนตร์ที่ไม่สามารถจินตนาการได้
*บูมบูมบูม!*
ลูกเพลิงที่ควบแน่นระเบิดในทันที เปลี่ยนท้องฟ้าให้กลายเป็นทะเลเพลิง แม้แต่พ่อมดลำดับที่สี่ก็ไม่สามารถทนต่อคลื่นพลังที่ไม่มีที่สิ้นสุดของเพลิงวินาศได้ คาถาป้องกันระดับหกที่เขาใช้ในขณะนั้นกำลังใช้พลังเวทย์ของเขาอย่างรวดเร็ว...
มันเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้น หากพลังเวทย์ของเขาหมด เขาก็จะถูกไฟคลอกตายทันที
เมอร์ลินไม่ได้รีบร้อนแม้แต่น้อย เขามีสายลมแสงวาบ ดังนั้นเขาจึงไม่กลัวพ่อมดลำดับที่สี่หลบหนี เมื่อเปรียบเทียบกับแม่มดลำดับที่ห้า พ่อมดลำดับที่สี่นั้นเอาชนะได้ยากกว่าอย่างปฏิเสธไม่ได้
คาถาป้องกันระดับหกของพ่อมดที่สี่นั้นค่อนข้างทรงพลัง นอกจากชุดป้องกันที่เขาสวม แม้แต่เมอร์ลินก็ไม่สามารถปราบพ่อมดลำดับที่สี่ได้อย่างง่ายดาย
อย่างไรก็ตาม ด้วยพลังเวทย์มนตร์ที่ไม่จำกัด เมอร์ลินอาจจะสามารถทำให้พ่อมดลำดับที่สี่ถึงตายได้ นั่นคือกลยุทธ์การต่อสู้ของเขา ซึ่งก็คือการใช้พลังเวทย์มนตร์ของพ่อมดลำดับที่สี่จนหมด เมื่อพลังเวทย์มนตร์ของเขาหมดลง เขาจะถูกฆ่า
แม้ว่าพ่อมดลำดับที่สี่จะเข้าใจแผนการของเมอร์ลินแล้ว แต่เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องอดทนกับมันอย่างขมขื่น
เมอร์ลินเห็นว่าสถานการณ์อยู่ภายใต้การควบคุมอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนความสนใจไปยังส่วนอื่น ๆ ของสนามรบ
ณ ตอนนี้ มีการต่อสู้อย่างต่อเนื่องหลายแห่ง โดยเฉพาะการต่อสู้อันน่าทึ่งระหว่างองค์ชายแปดกับองค์ชายสี่ คาถาระดับสูงมีหลายธาตุรวมไปถึงพลังปีศาจแพนโดร่า ผลพวงของการต่อสู้ทำให้ป่าโดยโล่งเตียนด้วยพลังขององค์ชายทั้งสอง
ในฐานะสมาชิกของราชวงศ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมาชิกที่โดดเด่นซึ่งมีโอกาสได้ครองบัลลังก์ องค์ชายสี่และแปดต่างก็มีพลังอันยิ่งใหญ่ ด้วยทรัพยากรของราชวงศ์ ความสามารถทั้งสองไม่ได้ด้อยไปกว่านักเวทย์ระดับเจ็ดที่ทรงพลังเลย
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันองค์ชายสี่และองค์ชายแปดมีความเท่าเทียมกัน ทั้งคู่ไม่สามารถมีชัยชนะเหนืออีกฝ่าย เมอร์ลินเลื่อนสายตาไปที่การต่อสู้ที่เหลือ
บนเนินเขาที่มีหญ้าเขียวขจีเบ่งบาน มีเศษหินปลิวว่อนและลมหมุนวนอยู่รอบ ๆ มีเมฆหมอกและฝุ่นละอองกระจายออกเป็นครั้งคราว มันเต็มไปด้วยพลังธาตุที่วุ่นวายมากมาย
เมอร์ลินหรี่ตาของเขาและใช้พลังจิตจำนวนมากเพื่อกำหนดทิศทางการมองเห็นของเขาไปสู่การต่อสู้ในบริเวณนั้น เมอร์ลินสามารถเห็นสถานการณ์ท่ามกลางความโกลาหลได้อย่างชัดเจน
ปรากฎว่านี่คือการต่อสู้ระหว่างนักเวทย์ระดับเจ็ดสามคู่ พวกเขาเป็นนักเวทย์ระดับเจ็ดสามคนภายใต้องค์ชายแปดล้วนเป็นนักเวทย์ชั้นยอดทั้งหมด ในทางกลับกัน พ่อมดลำดับที่หนึ่ง สองและสามภายใต้องค์ชายสี่ก็ทรงพลังมากเช่นกัน
ในบรรดาพวกเขา พ่อมดลำดับที่สามก็เป็นเผ่าสัตว์อัลไพน์และสามารถแปลงร่างเป็นเสือโคร่งยักษ์ได้ เสือโคร่งดูดุร้ายอย่างยิ่งและเสียงคำรามของเขาอาจทำให้จิตใจสั่นคลอนส่งผลให้การร่ายเวทย์ล้มเหลว
เขาอาจเป็นหนึ่งในเผ่าสัตว์ที่มีพลังสูงสุด มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถจับคู่พลังของนักเวทย์ระดับเจ็ดได้ เหล่าเผ่าสัตว์อัลไพน์ดังกล่าวก็น่ากลัวเช่นกันเมื่อพวกเขาเปิดเผยรูปลักษณ์ที่แท้จริงของพวกเขา พลังของพวกเขาก็น่าประหลาดใจ
ในตอนนี้ นักเวทย์ระดับเจ็ดทั้งสามที่อยู่ภายใต้องค์ชายแปดดูเหมือนพวกเขาจะด้อยกว่า อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าพวกเขาจะยังไม่ได้ใช้ไพ่ตายของเขา ดังนั้นจึงยังมีโอกาส มันไม่ง่ายเลยที่จะเอาชนะนักเวทย์ระดับเจ็ด เว้นแต่จะมีผู้มีพลังที่แท้จริง ดังนั้น มันจึงเป็นการต่อสู้ที่วัดความอดทนของแต่ละฝ่าย
การต่อสู้ระหว่างนักเวทย์ระดับเจ็ดคงจะทรง ๆ อย่างนี้ไปชั่วระเวลาหนึ่ง ดังนั้นเมอร์ลินจึงหันมาเพ่งมองไปทางอื่นอีกครั้ง คราวนี้ตกลงมาที่พ่อมดลีโอ
ทันใดนั้น เมอร์ลินก็หรี่ตาลง เขาเห็นว่าดวงตาแห่งความมืดของพ่อมดลีโอดูเหมือนจะไม่มีผลกับพ่อมดมอร์สตันกับทานนิน นักเวทย์ระดับแปดสองคนนี้ในที่สุดก็ได้ผายไพ่ตายของเขาออกมา เห็นได้ชัดว่าพวกเขามีพลังปีศาจแพนโดร่าสายป้องกันที่ทรงพลังอย่างมากซึ่งสามารถหลอมรวมเป็นคาถาได้
สิ่งเดียวที่ทำให้พ่อมดลีโอได้เปรียบคือดวงตาแห่งความืดรูปแบบที่สามแต่ตอนนี้มันไม่สามารถทำร้ายพ่อมดมอร์สตันกับทานนินได้ ดังนั้นสถานการณ์ของเขาจึงกำลังเข้าสู่ช่วงวิกฤติ
ดังนั้น เมอร์ลินจึงสั่งการทันทีโดยไม่ลังเลเลย เขาสั่งพ่อมดแบมมูผ่านสัญญาทาสว่า “แบมมู ลงมือเดี๋ยวนี้! ถ้าพ่อมดลีโอตาย คุณจะต้องนอนในโลงเดียวกับเขา!”
“บ้าเอ๊ย!”
ใบหน้าของพ่อมดแบมมูอดไม่ได้ที่จะมืดลง สถานการณ์ปัจจุบันของพ่อมดลีโอนั้นไม่ปลอดภัยอย่างยิ่ง เขาไม่เพียงแต่ถูกห้อมล้อมด้วยนักเวทย์ระดับแปดสองคนที่มีพลังปีศาจแพนโดร่า แม้แต่ดวงตาแห่งความมืดของเขาก็ใช้ไม่ได้ผลกับพวกเขาด้วย อาจกล่าวได้ว่าอันตรายรออยู่หน้าประตูของเขา
ตอนนี้เขาจะต้องต่อสู้กับพ่อมดระดับแปดถึงสองคน แต่ยังต้องรับมือพลังปีศาจแพนโดร่าของพวกเขาอีกด้วย ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ พ่อมดแบมมูคงไม่เข้าไปยุ่งในสถานการณ์อันตรายเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาเป็นทาสของเมอร์ลินและไม่มีทางที่จะขัดคำสั่งของเขาได้
หากมีบางอย่างเกิดขึ้นกับพ่อมดลีโอจริง ๆ ตามความเข้าใจของแบมมู เขาจะต้องตกนรกอย่างแน่นอน
แม้จะลังเลมากเพียงใจแต่แบมมูก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องลงมือ
*หวู่ม...*
ไม่มีใครสังเกตเห็นว่ามีลมเล็กน้อยพัดผ่าน อันที่จริงไม่มีพลังธาตุที่ผันผวน เป็นเพียงลมที่พัดเบา ๆ ในขณะนั้น มอร์สตันได้เพ่งสมาธิเต็มที่มุ่งไปยังพ่อมดลีโอ ข้างหลังเขา พ่อมดทานนินก็คอยดูแลเขาอย่างระมัดระวังเช่นกัน
“ฮ่าฮ่าฮ่า ลีโอ คราวนี้แกไม่รอดแน่!”
*บูม!*
นักเวทย์ระดับแปดสองคนเปิดใช้งานคาถาระดับแปด ทลายปฐพี ระดับของพลังจากคาถาสามารถเคลื่อนฟ้าและทำลายแผ่นดินได้ ความผันผวนอันเป็นเอกลักษณ์แผ่กระจายไปทั่วทุกทิศทุกทางในบริเวณใกล้เคียง
*ครึ่ก ครึ่ก*
ต้นไม้และหินทั้งหมดที่กระทบโดยความผันผวนถูกบดเป็นผงทันที แม้แต่นักเวทย์สองสามคนที่หนีไม่พ้นก็กลายเป็นหมอกสีเลือด
นี่คือผลของคาถาระดับแปด หากนักเวทย์ระดับแปดอันทรงพลังได้ปลดปล่อยคาถาโจมตีในวงกว้างออกมา แม้แต่เมืองที่พลุกพล่านซึ่งมีประชากรนับแสนคนก็อาจกลายเป็นเถ้าถ่านได้ในพริบตา!
“อาจารย์ลีโอ!”
สายตาของเมอร์ลินจับจ้องไปที่ผงฝุ่นที่เกิดจากคาถาอันน่าสะพรึงกลัวนั้น พลังเวทย์ระดับนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถเข้าไปแทรกแซงได้อีกต่อไป แม้ว่าเขาจะมั่นใจในทั้งแบมมูและลีโอ เขาก็อดไม่ได้ที่จะกังวลเกี่ยวกับพวกเขา
แบมมูและลีโอจะสามารถเอาชนะคาถาอันทรงพลังนี้ได้หรือไม่?
“ได้โปรด อย่าตายนะ!”
เมอร์ลินสวดภาวนาในใจอย่างสิ้นหวัง ภายในดินแดนมนต์ดำ บุคคลที่เมอร์ลินใกล้ชิดและขอบคุณมากที่สุดคือพ่อมดลีโออย่างไม่ต้องสงสัย โดยธรรมชาติแล้ว เขาไม่ต้องการให้เกิดอะไรขึ้นกับเขา
“ใช่แล้ว สัญญาทาส!”
เมอร์ลินกังวลมากจนเกือบลืมสัญญาทาสไปแล้ว ด้วยสัญญาทาส เขาสามารถตรวจพบอาการของพ่อมดแบมมูได้
ดังนั้นเมอร์ลินจึงรีบตรวจสอบสัญญาทาส เขาสามารถสัมผัสได้ถึงพลังชีวิตของพ่อมดแบมมูอย่างชัดเจน
“แบมมูยังไม่ตาย! แล้วอาจารย์ลีโอล่ะ?”
หัวใจของเมอร์ลินเต้นด้วยความปิติยินดี เขารีบแหงนมองขึ้นไปบนท้องฟ้าในระยะไกลที่ซึ่งร่างของพ่อมดลีโอถูกคาถาทลายปฐพีโจมตี