WS บทที่ 345 สมรภูมิ PART 4
รูปแบบที่สามของดวงตาแห่งความมืดที่แม้แต่ปฏิมากรอัคนีบนเรือของนิโคล่าก็ไม่สามารถต้านทานได้ ดังนั้นมันไม่ใช่สิ่งที่สามารถมองข้ามได้เลย แม้แต่นักเวทย์ระดับแปดก็อาจไม่สามารถต้านทานรูปแบบที่สามของดวงตาแห่งความมืดได้ หากพวกเขาใช้แต่เวทมนตร์ปกติเท่านั้น
ก่อนหน้านี้ พ่อมดลีโอและพ่อมดระดับแปด มอร์สตันกับทานนินได้ต่อสู้กันเป็นเวลานานมาก ความจริงที่ว่าทั้งสองฝ่ายมีชัยเหนือพลังของดวงตาแห่งความมืด
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ รังสีสีแดงเลือดจากดวงตาแห่งความมืดส่องตรงมาที่ม่านน้ำสีขาวของพ่อมดมอร์สตัน ชั้นของระลอกคลื่นค่อย ๆ เรียบออกไปอย่างรวดเร็ว
ดวงตาแห่งความมืดรูปแบบที่สามที่ทำลายทุกอย่างในตอนแรก ตอนนี้ไม่สามารถทำลายการป้องกันที่บอบบางของม่านน้ำสีขาวได้
เมื่อเห็นว่าม่านน้ำสีขาวยังคงปกติดี ใบหน้าของมอร์สตันก็แสดงรอยยิ้มที่พอใจ เขาอุทานเสียงดัง “เฮ้ เฮ้ ลีโอ ฉันพนันได้เลยว่าแกต้องคาดไม่ถึงถึงพลังของมันแน่ ๆ! แกอาจมีพลังปีศาจแพนโดร่า พวกเราก็มีเหมือนกัน ถึงแม้ว่ามันจะไม่ทรงพลังเท่ากับดวงตาแห่งความมืดแต่พลังปีศาจแพนโดร่าของเรามีความสามารถอันทรงพลังที่หลอมรวมกับเวทมนตร์ได้ นอกจากนี้ เมื่อเราสร้างคาถาระดับเจ็ดของเรา เราได้ฝึกฝนรูปแบบที่สามของมันแล้ว ดวงตาแห่งความมืดของแกมีเพียงแค่รูปแบบที่สามเท่านั้น มันไม่สามารถทำลายการป้องกันของเราได้!”
พ่อมดมอร์สตันและทานนินต่างก็มีพลังปีศาจแพนโดร่าที่สามารถหลอมรวมเป็นเวทมนตร์ได้
แม้ว่าพลังปีศาจแพนโดร่าธาตุน้ำแต่เมื่อได้รับการฝึกฝนถึงรูปแบบที่สามแล้ว ความสามารถของมันก็ไม่มีใครเทียบได้ ยิ่งกว่านั้น ทั้งคู่เคยใช้เวทมนตร์ระดับแปดที่มีพลังป้องกันที่น่าตกใจ แม้แต่รูปแบบที่สามของดวงตาแห่งความมืดก็ไม่สามารถเอาชนะการป้องกันของพวกเขาได้
ไม่น่าแปลกใจเลยที่ทานนินกับมอร์สตันจะมีความโหดร้ายที่ไม่มีใครเทียบได้ ครั้งหนึ่งเคยทำลายครอบครัวของนักเวทย์ พวกเขาก็สามารถเอาชีวิตรอดมาได้หลายร้อยปีจนถึงปัจจุบัน พวกเขามีไพ่ตายที่ซ่อนไว้ในมือ
เมื่อมอร์สตันพูดจบ เขาก็เผยใบหน้าที่โลภ เขาจ้องเขม็งไปที่ลีโอ เห็นได้ชัดว่าอยากได้ดวงตาแห่งความมืดของลีโอ
“ลีโอ ถ้าเราได้ดวงตาแห่งความมืดของแกมารวมกับพลังปีศาจแพนโดร่าของเราล่ะก็…หึหึ…พวกเราจะไร้เทียมทานอย่างสมบูรณ์!”
มอร์สตันตระหนักดีถึงพลังของดวงตาแห่งความมืด ดูได้จากพ่อมดลีโอ เขาเป็นเพียงพ่อมดระดับหกแต่ด้วยรูปแบบที่สามของดวงตาแห่งความมืด เขาสามารถต่อสู้อย่างเท่าเทียมกันกับพ่อมดระดับแปดสองคน จนถึงขณะนี้ ไม่มีฝ่ายใดเอาชนะอีกฝ่ายได้
หากฝึกฝนดวงตาแห่งความมืดให้ได้รูปแบบที่สี่หรือห้า ไม่มีใครรู้ว่าพลังของมันจะน่ากลัวขนาดไหน บางทีพลังของดวงตาแห่งความมืดอาจถูกจำกัดให้อยู่ในระดับเดียวกับพ่อมดลีโอและไม่สามารถฝึกฝนในรูปแบบขั้นสูงได้ ในฐานะพ่อมดระดับแปด พวกเขาหวังว่าจะได้ฝึกฝนดวงตาแห่งความมืดให้ได้รูปแบบที่สี่และห้าและอาจถึงขั้นขั้นสูงกว่านั้นด้วยซ้ำ
เมื่อเห็นว่าทานนินและมอร์สตันเข้าใกล้มากขึ้นโดยไม่เกรงกลัวดวงตาแห่งความมืดอีกต่อไป ในที่สุด พ่อมดลีโอก็พูดขึ้นมาว่า “แม้ว่าพวกเจ้าจะได้รับวิธีการฝึกฝนดวงตาแห่งความมืดไป มันก็ไม่มีประโยชน์ เพื่อที่จะฝึกฝนดวงตาแห่งความมืด พวกเจ้าต้องสร้างคาถาธาตุมืดเสียก่อน!”
“คาถาธาตุมืด? ใครบอกว่าเราไม่ได้สร้างคาถาธาตุมืดกัน?”
รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้นที่มุมปากของพ่อมดมอร์สตัน ต่อจากนั้น ร่องรอยของพลังธาตุมืดก็เริ่มผันผวนไปทั่วร่างกายของเขา
การเปลี่ยนแปลงในร่างกายของพ่อมดมอร์สตันทำให้พ่อมดลีโอประหลาดใจ
ก่อนหน้านี้ มอร์สตันได้เปิดเผยเวทมนตร์ธาตุลม, น้ำและไฟไปแล้ว ด้วยการเพิ่มคาถาธาตุมืด นั่นหมายความว่ามอร์สตันเป็นนักเวทย์สี่ธาตุ!
“ข้าเข้าใจแล้ว สาเหตุที่พวกเจ้าซ่อนคาถาธาตุมืดไว้อย่างดี!”
ใบหน้าของพ่อมดลีโอเผยให้เห็นการเยาะเย้ย ทานนินกับมอร์สตันต่างก็รู้จักกันดีในเรื่องความโหดเหี้ยมของพวกเขา ในฐานะนักเวทย์ระดับหกในดินแดนมนต์ดำ แน่นอนว่าพ่อมดลีโอทราบเรื่องราวของพวกเขาที่อยู่โลกภายนอก
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่านักเวทย์ที่น่ารังเกียจพวกนี้จะปกปิดคาถาธาตุมืดและพลังปีศาจแพนโดร่าอันทรงพลังเอาไว้
“ฮ่าฮ่าฮ่า พวกเรามีศัตรูมากมาย ถ้าเราไม่ปิดบังความสามารถบางส่วนและเก็บไพ่ตายเอาไว้ แกคิดว่าเราจะอยู่รอดได้นานขนาดนี้ได้อย่างไร? ในทางกลับกัน แกเป็นเพียงนักเวทย์ระดับหก แต่แกตามล่าอสสซีอุสเป็นระยะทางหลายพันกิโลเมตรและฆ่าเขาและตอนนี้แกกำลังเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของราชวงศ์ แกคิดว่าแกสามารถจัดการเรื่องทุกอย่างด้วยดวงตาแห่งความมืดอย่างเดียวได้หรือไง? ทานนินโจมตีมันซะ!”
ทันใดนั้น มอร์สตันก็คำรามเสียงดัง ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าและร่างกายของเขาโอบล้อมด้วยธาตุลมขณะที่เขาเข้าประชิดตัวพ่อมดลีโอ นอกจากนี้ เปลวเพลิงที่ดูน่ากลัวก็เริ่มปรากฏขึ้นบนร่างกายของเขาเช่นกัน
ทางด้านพ่อมดทานนินก็เช่นเดียวกัน ร่างกายของเขาเหมือนยักษ์อัคคีพุ่งเข้าหาพ่อมดลีโอจากด้านหลัง ท่ามกลางความผันผวนอันทรงพลังของธาตุไฟ พ่อมดลีโอจึงตกอยู่ในอันตรายอย่างแท้จริง
…
*แคว่ก*
เสื้อคลุมของแม่มดลำดับที่ห้าถูกฉีกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เผยให้เห็นร่างสีขาวน้ำนมที่อยู่ข้างใต้
ร่างกายที่เปลือยเปล่าของแม่มดลำดับที่ห้ากลายเป็นสิ่งดึงดูดใจน้อยที่สุดสำหรับทุกคน แต่หลังจากนั้นภายในไม่กี่วินาที ผิวสีขาวน้ำนมของเธอก็เริ่มแตกหน่อสีดำจำนวนมากทั่วร่างกายของเธอ ในเวลาเดียวกัน ร่างเพรียวของเธอในตอนแรกก็เริ่มพองขึ้นจนจำไม่ได้ เธอดูน่าเกลียดมาก
ไม่นานหลังจากนั้น แม่มดลำดับที่ห้าก็เปิดเผยรูปร่างที่แท้จริงของเธอ มันแตกต่างจากผู้เฒ่างูและคนอื่น ๆ รูปร่างที่แท้จริงของเธอมันคือเม่นดำขนาดยักษ์
เมื่อเห็นว่าแม่มดลำดับที่ห้าเปิดเผยรูปร่างที่แท้จริงของเธอ พ่อมดลำดับที่สี่ก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ และดึงสร้อยข้อมือสีดำออกจากแหวนของเขา ภายใต้แสงแดด สร้อยข้อมือสีดำเปล่งประกายระยิบระยับ
เขาลูบสร้อยข้อมือเบา ๆ สีหน้าของเขาดูเสียดายที่จะใช้งานมันอย่างมาก เขาพึมพำเบา ๆ “ฉันคิดว่าฉันจะไม่ใช้สร้อยข้อมือหินออบซิเดียนสีดำนี้แต่ใครจะรู้ว่าฉันต้องใช้มันเร็ว ๆ นี้…”
พ่อมดลำดับที่สี่ขบฟันของเขาและธาตุไฟเริ่มผันผวนไปทั่วร่างกายของเขา
"จงแผดเผา!"
หลังจากพ่อมดลำดับที่สี่พูดจบ เปลวเพลิงก็เริ่มลุกไหม้ทุกที่รอบตัวพวกเขา สร้อยข้อมือสีดำดูเหมือนจะปล่อยความผันผวนลึกลับบางอย่าง วินาทีถัดมา เปลวเพลิงก็เริ่มลุกโชนรุนแรงขึ้นมาก
แม้แต่สีหน้าของเมอร์ลินก็มืดลงเล็กน้อย เขาสัมผัสได้ว่าพลังเวทย์มนตร์ของพ่อมดลำดับที่สี่เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหันและแข็งแกร่งขึ้นมาก อันที่จริง พลังของเปลวเพลิงนั้นไม่น้อยไปกว่าเพลิงวินาศของเขาเลย พลังของมันมาถึงจุดสูงสุดของคาถาระดับหกแล้ว
“อืม สร้อยข้อมือสีดำนั่นสามารถเพิ่มพลังของคาถาได้ ดังนั้นมันต้องเป็นอุปกรณ์เวทมนต์แบบเสริมพลัง…ฉันไม่นึกเลยว่าพ่อมดลำดับที่สี่จะมีอุปกรณ์เวทมนต์ที่ล้ำค่าเช่นนี้!”
เมอร์ลินไม่กล้าที่จะดูถูกนักเวทย์ตรงหน้าอีกต่อไป แม้ว่าพ่อมดลำดับที่สี่จะเป็นพ่อมดพเนจรแต่มันไม่ง่ายเลยที่พ่อมดพเนจรจะกลายเป็นนักเวทย์ระดับหก ดังนั้นเขาต้องมีสมบัติซ่อนอยู่ที่ก้นหีบของเขา
สมบัติที่ซ่อนอยู่ของพ่อมดที่สี่หรือไพ่ตายสุดท้ายของเขา เห็นได้ชัดว่ามันเป็นสร้อยข้อมือสีดำ มันเป็นอุปกรณ์เวทย์มนต์ที่หายากและมีค่าอย่างยิ่ง
*ครึ่ก*
เมื่อเปลวเพลิงแผดเผาแรงขึ้นเรื่อย ๆ รอยร้าวเล็กๆ เริ่มปรากฏบนสร้อยข้อมือสีดำในมือของพ่อมดลำดับที่สี่ สุดท้ายก็แหลกสลายไป
มีอุปกรณ์เวทย์มนต์เสริมพลังหลายประเภท เนื่องจากเป็นของหายากและมีค่าอย่างยิ่ง จึงเป็นเรื่องยากมากที่จะสร้างจึงเป็นผลให้ส่วนใหญ่สามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียวและจะถูกทำลายหลังจากนั้น
สร้อยข้อมือสีดำในมือของพ่อมดลำดับที่สี่เองก็เช่นกัน มันเป็นอุปกรณ์เวทย์มนต์แบบใช้ครั้งเดียว
เมอร์ลินรู้สึกว่าอุณหภูมิของเปลวไฟรอบ ๆ เพิ่มขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้ แม่มดลำดับที่ห้าได้เปิดเผยรูปร่างที่แท้จริงของเธอ แม้จะมีเกราะสัมบูรณ์แต่เขาก็ไม่ต้องการเผชิญหน้ากันทั้งคู่โดยตรง
ดังนั้นเขาจึงเตรียมร่ายสายลมแสงวาบเพื่อล่าถอยชั่วคราว อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าพ่อมดลำดับที่สี่ได้ทำนายการเคลื่อนไหวของเขาไว้แล้ว ด้วยการโบกมือเพียงครั้งเดียว คาถาผูกมัดระดับหกก็ปรากฏขึ้นและดักจับเมอร์ลินไว้ในพื้นที่แคบ
*หวือ*
แม้ว่าเมอร์ลินอาจเพลิงวินาศเพื่อเอาชนะคาถาผูกมัดนี้ แต่มันก็สายเกินไป เมื่อเขาถูกมัดแล้ว แม่มดลำดับที่ห้าก็ใช้โอกาสนี้หมุนร่างของเธอให้เป็นลูกบอลขนาดมหึมาอย่างรวดเร็วซึ่งปกคลุมไปด้วยหนามแหลมคมและแข็งทั้งหมด เธอลอยขึ้นไปในอากาศพุ่งไปทางเมอร์ลิน
นี่คือร่างที่แท้จริงของแม่มดลำดับที่ห้าซึ่งเป็นรูปแบบที่ทรงพลังที่สุดของเธอด้วย ด้วยการใช้หนามแหลมบนร่างกายของเธอ เธอได้ฆ่านักเวทย์ผู้ทรงพลังนับไม่ถ้วน รวมถึงนักเวทย์ระดับหกด้วย
ยิ่งกว่านั้น พ่อมดลำดับที่สี่และห้าก็เข้ากันได้ดีอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาอาศัยจังหวะที่เมอร์ลินถูกมัดไว้ ทั้งสองจึงเปิดการโจมตีที่รุนแรงที่สุด
มันค่อนข้างน่ากลัวที่มีนักเวทย์ระดับหกโจมตีประสานกัน!
เมอร์ลินสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขาไม่มีเวลาที่จะทำลายการผูกมัดอีกต่อไป เขาทำได้เพียงเผชิญหน้ากันตรงๆ
“ได้ มาดูกันว่าพวกคุณจะทำลายเกราะสัมบูรณ์ของฉันได้ไหม!”
ดวงตาของเมอร์ลินยังแสดงให้เห็นร่องรอยของความจริงจัง ตอนนี้เขาไม่มีทางเลือก ยิ่งกว่านั้น เขามีความมั่นใจในเกราะสัมบูรณ์ ตราบใดที่คาถาไม่เกินพลังของนักเวทย์ระดับหก เกราะสัมบูรณ์ก็น่าจะสามารถต้านทานมันได้
*ฟิ้ว!*
ร่างที่แท้จริงของแม่มดลำดับที่ห้า นั่นคือเม่นยักษ์ที่อัดแน่นไปด้วยพลังอันน่าสะพรึงกลัว หนามแหลมคมปะทะเข้ากับเกราะสัมบูรณ์อย่างไรความปรานี พื้นผิวของเกราะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แสงสีเหลืองของมันกะพริบเป็นช่วง ๆ ราวกับว่ามันจะถูกทำลายเมื่อใดก็ได้
อย่างไรก็ตาม ด้วยการฉีดพลังเวทย์อย่างบ้าคลั่งของเมอร์ลิน เกราะสัมบูรณ์กลับมาคืนสภาพเดิมอีกครั้ง
“มันไม่แตกอีกเหรอ?”
แม่มดลำดับที่ห้าประหลาดใจเล็กน้อย นี่เป็นพลังที่แข็งแกร่งที่สุดของเธอแล้ว โดยปกติ เมื่อเธอเปิดเผยร่างที่แท้จริงของเธอ ไม่ว่าคู่ต่อสู้จะแข็งแกร่งแค่ไหน พวกเขาก็ไม่อาจต้านทานการโจมตีของเธอได้
*บูม!*
ทันทีหลังจากการโจมตีของแม่มดลำดับที่ห้า ก็มีเปลวไฟที่ร่ายโดยพ่อมดลำดับที่สี่ ด้วยความช่วยเหลือของอุปกรณ์เวทมนต์ขั้นสูง มันจึงบรรลุพลังสูงสุดของคาถาระดับหกซึ่งพลังของมันไม่น้อยไปกว่าเพลิงวินาศของเมอร์ลินเลย
แม้แต่แม่มดลำดับที่ห้าซึ่งอยู่ห่างออกไปพอสมควรก็สามารถสัมผัสได้ถึงความร้อนสูงที่เล็ดลอดออกมาจากเปลวเพลิง เธอทนไม่ไหวแล้วถอยหลังไปสองสามก้าว
“แม่มดลำดับที่ห้า อย่าเสียสมาธิ โจมตีต่อไป!”
พ่อมดลำดับที่สี่มองไปที่แม่มดลำดับที่ห้าที่ไม่เคลื่อนไหวและพูดด้วยท่าทางที่รุนแรง
แม่มดลำดับที่ห้าพยักหน้า เธอสัมผัสได้ว่าแม้เปลวเพลิงอันทรงพลังจะลุกโชนอย่างรุนแรง เธอยังสัมผัสได้ถึงพลังชีวิตของเมอร์ลินท่ามกลางเปลวเพลิงอันร้อนแรง นี่แสดงให้เห็นว่าเมอร์ลินยังคงมีชีวิตอยู่
*หวือ หวือ หวือ*
แม่มดลำดับที่ห้ายิงหนามสีดำออกจากร่างกายของเธอโดยใช้วิธีการพิเศษ เหมือนกับฝนลูกธนูที่พุ่งจากพื้นดินขึ้นไปบนฟ้า พวกมันบินตรงไปยังเมอร์ลินซึ่งติดอยู่ในเปลวเพลิง