ตอนที่แล้วWS บทที่ 342 สมรภูมิ PART 1
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปWS บทที่ 344 สมรภูมิ PART 3

WS บทที่ 343 สมรภูมิ PART 2


กำลังโหลดไฟล์

*แคว่ก!*

เสื้อคลุมสีดำบนหัวของพ่อมดลีโอถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยทันที เผยให้เห็นดวงตาที่แดงก่ำกลางหน้าผาก

ในเวลาเดียวกัน เมื่อดวงตาสีแดงมองไปยังตาข่ายยักษ์สายฟ้าที่ตกลงมาจากท้องฟ้า ดวงตาสีแดงเลือดในแนวตั้งที่หน้าผากของพ่อมดลีโอก็เปิดออกและยิงรังสีสีแดงเลือดเข้มข้นออกมา

“ดวงตาแห่งความมืด จงทำลาย!”

รังสีสีแดงเลือดสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงและเหมือนดาบที่ปกคลุมไปด้วยเลือด เจาะเข้าไปในรูในตาข่ายสายฟ้ายักษ์ สายฟ้าและฟ้าร้องที่เหลือด้านบนค่อย ๆ สลายไปในอากาศ

เมอร์ลินหรี่ตาและจ้องไปที่พ่อมดลีโอ เขาทราบดีว่าทักษะที่แสดงโดยพ่อมดลีโอเป็นรูปแบบที่สามของดวงตาแห่งความมืดซึ่งเป็นรูปแบบที่แข็งแกร่งที่สุดที่พ่อมดลีโอควบคุมได้

เมื่อเมอร์ลินยืนหยัดต่อสู้กับปฏิมากรอัคนีบนเรือของนิโคล่า เขาได้ใช้สร้อยข้อมือที่บรรจุพลังงานบางหนึ่งของดวงตาแห่งความมืด เมื่อดวงตาแห่งความมืดใช้งานรูปแบบที่สาม ‘ทำลาย’ เขาก็สามารถเอาชนะปฏิมากรอัคนีได้

ดังนั้น มีเพียงเมอร์ลินเท่านั้นที่รู้ว่าการโจมตีของพ่อมดลีโอไม่ง่ายอย่างที่คิด อันที่จริงมันเป็นหนึ่งในการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของพ่อมดลีโอ

"ดีมาก!"

เมื่อเห็นว่าพ่อมดลีโอสามารถ ‘ต่อต้าน’ เวทย์มนตร์ของมอร์สตันได้อย่างง่ายดาย องค์ชายแปดก็อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา ร่องรอยของความมั่นใจปรากฏบนพระพักตร์ของพระองค์

ตราบใดที่พ่อมดลีโอสามารถต้านทานพ่อมดมอร์สตันและพ่อมดทานนินได้ องค์ชายแปดก็มีโอกาสชนะการต่อสู้

“ฮ่า ๆ พี่สี่ ดูเหมือนว่าราคาที่พี่ต้องจ่ายเพื่อให้ได้พ่อมดทั้งสองคนนั้นมา เห็นทีมันคงจะไร้ประโยชน์! เอาล่ะ ไม่มีที่ว่างสำหรับการประนีประนอมในการต่อสู้เพื่อบัลลังก์ สิ่งนี้ถูกเขียนไว้ในชะตากรรมของเรา!”

ร่างขององค์ชายแปดเริ่มลอยขึ้นไปในอากาศ เมื่อขึ้นไปบนท้องฟ้าได้ครึ่งหนึ่ง เขาจ้องมององค์ชายสี่อย่างท้าทาย

องค์ชายสี่กัดริมฝีปากและพูดอย่างดุเดือดกับทานินและมอร์สตันว่า “รีบฆ่าลีโอให้เร็วที่สุด!”

ด้วยเหตุนี้ เขาจึงกระโดดขึ้นไปในอากาศและทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าเพื่อประจันหน้ากับองค์ชายแปด แม้จะมีระยะห่างระหว่างพวกเขา เจ้าชายทั้งสองก็แสดงความรู้สึกที่น่ากลัว พลังของเจ้าชายทั้งสองไม่ได้ด้อยกว่านักเวทย์ระดับเจ็ดเลยสักนิด

"ตายซะ!" เมื่อเห็นว่าเจ้าชายทั้งสองเริ่มต่อสู้ในสนามรบ นักเวทย์ทั้งสองฝ่ายก็โห่ร้องพร้อมกัน แต่ละคนโจมตีและเริ่มการต่อสู้!

พ่อมดทานนินและพ่อมดมอร์สตันแลกเปลี่ยนสายตากัน จากนั้นเสื้อคลุมสีดำของพวกเขาถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ เผยให้เห็นใบหน้าที่ไม่ได้ดีไปกว่าพ่อมดลีโอมากนัก

พ่อมดมอร์สตันพูดกับพ่อมดทานินว่า “ทานนิน นายจัดการกับนักเวทย์ระดับเจ็ดขององค์ชายแปด ส่วนลีโอปล่อยให้ฉันจัดการเอง!”

พ่อมดทานนินพยักหน้าโดยไม่พูดอะไร ส่วนมอร์สตันเตรียมบินไปหาพ่อมดลีโอ

“ดวงตาแห่งความมืด จงทำลาย!”

รังสีสีแดงเลือดสาดส่องตรงไปยังพ่อมดทานนิน แม้ว่าพ่อมดทานนินจะเป็นนักเวทย์ระดับแปดแต่ชื่อเสียงของดวงตาแห่งความมืดก็ไม่อาจมองข้ามได้ เขาไม่กล้ารับมือการโจมตีโดยตรง ดังนั้นเขาจึงถอยหนีเพื่อหลบหลีก

“เอ๊ะ? แกต้องการที่จะสู้กับพวกเราสองคนพร้อมกันอย่างงั้นเหรอ? นั่นไม่ต่างกับเป็นการขุดหลุมฝังศพของแกเอง! ทานนินไม่ต้องสนใจคนอื่น ฆ่าลีโอก่อนและเอาดวงตาแห่งความมืดมา!”

เมื่อเห็นว่าพ่อมดลีโอหยุดพ่อมดทานนินไม่ให้ออกไป พ่อมดมอร์สตันรู้แผนของลีโอในทันทีซึ่งก็คือการควบคุมทั้งนักเวทย์ระดับแปดเพื่อซื้อเวลาให้กับองค์ชายแปดและคนของเขา

ตัวของพ่อมดลีโอเอง เขายังเป็นเพียงนักเวทย์ระดับหก ระหว่างระดับหกและระดับเจ็ด ช่วงว่างของพลังนั้นห่างไกลกันมาก โดยเฉพาะเมื่อบรรลุระดับเจ็ดเท่านั้นที่นักเวทย์คนนั้นจะมีคุณสมบัติที่จะเรียกว่านักเวทย์ระดับสูง

ทางด้านมอร์สตัน เขาที่กำลังเดือดดาล เขาไม่สนใจคนอื่นอีกแล้ว หน้าที่สำคัญของเขาคือการเข้าร่วมกองกำลังกับพ่อมดทานนินและฆ่าพ่อมดลีโอ ยิ่งกว่านั้น พ่อมดทั้งสองยังต้องการดวงตาแห่งความมืดที่พ่อมดลีโอใช้อย่างหิวกระหาย

ดังนั้น นักเวทย์ระดับแปดสองคนจึงปล่อยคลื่นพลังของคาถาระดับแปดออกมา พลังของคาถานั้นน่ากลัวมากจนทำให้ความผันผวนของพลังธาตุในบริเวณใกล้เคียงหยุดชะงัก นักเวทย์หลายคนที่ต้องการดูดซับธาตุพบว่าพวกเขาไม่สามารถทำได้เนื่องจากการหยุดชะงักของคาถาระดับแปดที่พ่อมดทานนินกับพ่อมดมอร์สตันกำลังจะร่ายออกมา

การเผชิญหน้ากับนักเวทย์ระดับแปดสองคนทำให้การแสดงออกของพ่อมดลีโอกลายเป็นเรื่องจริงจังเป็นพิเศษ ที่หน้าผากของเขา นัยน์ตาแห่งความมืดค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงเลือด รังสีสีแดงเลือดสาดส่องผ่านเข้าไป เกือบจะปกคลุมร่างกายของพ่อมดลีโอ มันทำให้เขาดูแปลกมาก ราวกับหยดเลือดเรืองแสง

ในตอนแรก องค์ชายแปดและคนของเขาค่อนข้างกังวลว่าพ่อมดลีโอจะต้านทานนักเวทย์ระดับแปดอย่างทานนินกับมอร์สตันได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาพวกเขาตระหนักได้ว่า คาถาใด ๆ ที่พ่อมดระดับแปดสองคนร่ายออกมา พวกมันทั้งหมดสามารถสลายได้ด้วยดวงตาแห่งความมืดของพ่อมดลีโอ

นี่เป็นรูปแบบที่สามของดวงตาแห่งความมืด หลังจากฆ่าออสซีอุส  พ่อมดลีโอก็เข้าใจพลังของมันมากขึ้น

ด้วยเหตุนี้ พ่อมดลีโอจึงสามารถปลดปล่อยพลังของรูปแบบที่สามของดวงตาแห่งความมืดได้อย่างต่อเนื่อง ตอนนี้เขาแข็งแกร่งกว่ามากเมื่อเทียบกับตอนที่เขาฆ่าออสซีอุส

เมื่อพวกเขาเห็นว่าพ่อมดลีโอสามารถต้านทานพ่อมดระดับแปดได้ องค์ชายแปดก็มีความมั่นใจมากขึ้น ประกายแห่งความหวังผุดขึ้นในหัวใจของพวกเขาและพวกเขาสามารถต่อสู้ในการต่อสู้ได้อย่างไม่เกรงกลัว ทำให้ความได้เปรียบขององค์ชายสี่ได้ตอนแรกค่อย ๆ ลดลง จนสถานการณ์ของทั้งสองฝ่ายเริ่มกลับมาเท่ากันแล้ว

“เมอร์ลิน ตายซะ!”

ตั้งแต่เริ่มต้นของการต่อสู้ พ่อมดลำดับที่เก้าโอเดนจับตาเมอร์ลินไว้แล้ว เมื่อการต่อสู้เริ่มต้นขึ้น เขาก็รีบวิ่งไปหาเมอร์ลินทันที อย่างไรก็ตาม เขารักษาระยะห่างระหว่างตัวเขากับเมอร์ลินอย่างมาก ไม่เข้าใกล้มากเกินไป เขาร่ายคาถาใส่เมอร์ลินจากระยะไกลเท่านั้น

ดูเหมือนว่าโอเดนยังคงกลัวคาถาธาตุมืดของเมอร์ลินและกลัวว่าจะถูกหลอกหลอนในภาพลวงตาอีกครั้ง

“ไสหัวไป!”

เมอร์ลินพึมพำอย่างเย็นชา โดยไม่ละสายตาจากโอเดนแม้แต่นิดเดียว เขาก็ร่ายสายลมแสงวาบและบินไปข้างหน้า เป้าหมายของเขาคือพ่อมดลำดับที่สี่และห้าจากพ่อมดแกนหลักทั้งเก้า!

พ่อมดลำดับสี่เป็นชายชราผมสีเงิน ในขณะที่พ่อมดลำดับที่ห้าเป็นแม่มดสาวสวยมีเสน่ห์ เดิมทีพวกเขาทั้งสองตั้งใจที่จะรวมทักษะของพวกเขาเข้าด้วยกันและกลายเป็นพลังอันทรงพลัง กวาดล้างนักเวทย์จำนวนมากที่นำโดยองค์ชายแปด

นอกจากนักเวทย์ระดับเจ็ดแล้ว ไม่มีนักเวทย์คนไหนที่อยู่ภายใต้องค์ชายแปดที่สามารถต่อต้านความแข็งแกร่งที่รวมกันของพ่อมดลำดับที่สี่และห้าได้

*หวู่ม!*

เมอร์ลินที่เปิดใช้งานสายลมแสงวาบหลบเลี่ยงการโจมตีของโอเดนทันที เขาหยุดอยู่ตรงหน้าพ่อมดลำดับที่สี่และห้า และประกาศอย่างใจเย็นว่า “คู่ต่อสู้ของพวกคุณคือฉัน!”

“แกคือคนที่ฆ่าพ่อมดเอลส์สินะ!”

พ่อมดลำดับที่สี่หรี่ตามองเขาแต่ไม่ได้รีบเร่งที่จะโจมตี เขาตรวจสอบเมอร์ลินอย่างระมัดระวังแทน

การแสดงออกของเมอร์ลินสงบลง เขายิ้มและตอบว่า “ใช่ ถูกต้อง พ่อมดลำดับที่เจ็ดเอลส์ตายในมือของฉัน ในไม่ช้า คุณทั้งคู่จะจบลงเหมือนกับพ่อมดเอลส์!”

“ไร้สาระ!”

แม่มดลำดับที่ห้าตะโกนใส่เขาอย่างเย็นชา ก่อนจะสะบัดผมสีบลอนด์ยาวของเธอ

*หวู่ม หวู่ม หวู่ม!*

เส้นผมของแม่มดลำดับที่ห้า งอกเร็วขึ้นอย่างน่าตกใจ เส้นผมแต่ละเส้นเหมือนเถาวัลย์พุ่งตรงไปที่เมอร์ลิน

เส้นผมนับไม่ถ้วนปลิวว่อนอยู่บนท้องฟ้า เกือบพันเป็นใยขนาดใหญ่เพื่อดักเมอร์ลินไว้ข้างใน

“เผ่าสัตว์อัลไพน์งั้นเหรอ?”

เมอร์ลินรู้ทันทีถึงตัวตนของแม่มดลำดับที่ห้า เธอต้องเป็นหนึ่งในเผ่าสัตว์อัลไพน์ ไม่เช่นนั้นเธอจะไม่ได้มีพลังประหลาดเช่นนนี้

เส้นผมของเธออาจจะนุ่มหรือแข็งตามที่เธอต้องการ เมอร์ลินสัมผัสได้ถึงพลังที่น่ากลัวของมัน ถ้าผมเข้าไปใกล้เขามากเกินไป บางทีแม้แต่คาถาป้องกันระดับห้าและเสื้อคลุมก็ไม่สามารถปิดกั้นการโจมตีจากมันได้

ยิ่งกว่านั้น ไม่เพียงแต่แม่มดลำดับที่ห้าเริ่มโจมตี ทางพ่อมดลำดับที่สี่ก็เปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นกองไฟและร่ายลูกไฟ จากนั้นเปลวไฟก็พวยพุ่งและกลายเป็นกำแพงไฟขนาดใหญ่สี่ถึงห้าเมตร เสียงเผาไหม้อย่างโกรธจัดเมื่อมันเคลื่อนไปในทิศทางของเมอร์ลิน

สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นคาถาระดับหกที่มีพลังอันน่าสะพรึงกลัว!

“เมอร์ลิน ตอนนี้แกไม่รอดแล้ว!”

ข้างหลังเมอร์ลิน เสียงของพ่อมดโอเดนดังขึ้นอีกครั้ง ความเร็วของเขาไม่เร็วเท่ากับสายลมแสงวาบของเมอร์ลินแต่เขาก็สามารถไล่ตามทันในเวลานี้ ใบหน้าของเขาแสดงท่าทางเจ้าเล่ห์ในขณะที่เขาโบกมือ ผลึกน้ำแข็งเริ่มควบแน่นอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นลูกศรน้ำแข็งอันเดียว มุ่งตรงไปยังเมอร์ลิน

พ่อมดโอเดนเกลียดชังเมอร์ลินสุดหัวใจ ในตอนแรก องค์ชายแปดได้วางแผนที่จะให้นักเวทย์ระดับหกที่เหลือไปจัดการพ่อมดคนอื่น ๆ ยกเว้นพ่อมดลำดับที่สี่กับห้าที่จะผสานพลังใช้การโจมตีวงกว้าง

อย่างไรก็ตาม สายตาของโอเดนนั้นจับจ้องไปที่เมอร์ลิน เป้าหมายของเขามีเพียงเมอร์ลินเท่านั้น เขาต้องฆ่าเมอร์ลินก่อนที่จะทำตามแผนการขององค์ชายสี่

สถานการณ์ของเมอร์ลินในตอนนี้ กลายเป็นเลวร้ายอย่างมาก พ่อมดลำดับที่สี่ ห้าและเก้าไม่ได้เป็นเพียงนักเวทย์ระดับหกเท่านั้น แต่พวกเขายังมีพลังมหาศาลอีกด้วย พ่อมดทั้งสามกำลังร่ายคาถาที่แข็งแกร่งที่สุดจัดการเมอร์ลิน

ประกายความโกรธวาบวาบผ่านดวงตาของเมอร์ลิน เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พ่อมดลำดับที่สี่และห้าได้ทำงานร่วมกัน การโจมตีผสมผสานของพวกเขาน่าชื่นชมอย่างปฏิเสธไม่ได้

โดยแม่มดลำดับที่ห้าเริ่มผูกมัดเป้าหมาย ในขณะที่พ่อมดลำดับที่สี่ปลดปล่อยการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาออกมา แน่นอนว่าไม่ลืมการโจมตีของพ่อมดโอเดนที่มาจากด้านหลัง

เมื่อเผชิญกับสถานการณ์ที่อันตรายเช่นนี้ เมอร์ลินก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ ตามที่เขาคาดการณ์ไว้ สายลมแสงวาบใช้ไม่มีผลกับคาถาผูกมัดที่จำกัดการเคลื่อนที่เช่นนี้

โชคดีที่ครั้งนี้ เมอร์ลินได้สร้างคาถาเกราะสัมบูรณ์แบบซึ่งมันรวมเข้ากับผสานผืนพิภพ เขาคาดว่าคาถาใด ๆ ที่ต่ำกว่าระดับเจ็ด ตราบใดที่ไม่มีพลังของพลังปีศาจแพนโดร่า มันจะไม่สามารถเจาะการป้องกันของเกราะสัมบูรณ์แบบได้

อย่างไรก็ตาม มันเป็นเพียงการคาดเดาของเมอร์ลิน ตอนนี้เป็นเวลาที่ดีที่สุดในการทดสอบพลังป้องกันของเกราะสัมบูรณ์!

“เกราะสัมบูรณ์!”

ร่างกายของเมอร์ลินถูกปกคลุมอย่างรวดเร็วด้วยแสงสีเหลืองสดใส จากนั้นแสงก็หล่อหลอมเป็นเกราะขนาดยักษ์อย่างรวดเร็ว ครอบคลุมทั้งตัวของเมอร์ลินและค่อย ๆ ขยายออกไป ทำให้ตอนนี้เขาดูเหมือนยักษ์สีเหลือง

*บูม!*

เปลวเพลิงของพ่อมดตัวที่สี่ เหมือนกับดวงอาทิตย์ที่แผดเผาห่อหุ้มเมอร์ลินไว้ทั้งหมดและลุกไหม้อย่างเดือดดาล

ในเวลาเดียวกัน ลูกศรน้ำแข็งของพ่อมดโอเดนซึ่งอัดแน่นไปด้วยพลังทะลุทะลวง แทงเกราะสัมบูรณ์แบบของเมอร์ลินอย่างไร้ความปรานี

สำหรับเส้นผมของแม่มดลำดับที่ห้า พวกมันมัดเมอร์ลินและรัดให้แน่นยิ่งขึ้นในทันที เส้นผมยังมีหนามแหลมคมจำนวนมากซึ่งมีความแข็งเป็นพิเศษซึ่งทั้งหมดนั้นทั้งบีบรัดและแทงเกราะสัมบูรณ์ของเมอร์ลิน

ณ ตอนนี้ เกราะสัมบูรณ์ถูกโจมตีอย่างรุนแรงสามครั้งด้วยคาถาระดับหก

*ตูม!!*

ในขณะนั้น ทุกคนสามารถเห็นแสงจ้าได้อย่างชัดเจนจากเปลวเพลิงและสู่ท้องฟ้า วินาทีต่อมา รังสีของแสงก็ขยายออกไปในท้องฟ้าเป็นเกราะขนาดมหึมาซึ่งมีความสูงหลายสิบเมตร

ภายในออร่าแสงชุดเกราะนั้น มีร่างเงาดำที่พร่าเบลอยืนอยู่

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด