ตอนที่ 5 เจ้าหน้าที่ในตำนาน
ตอนที่ 5 เจ้าหน้าที่ในตำนาน
ทันใดนั้น ชาวบ้านที่อยู่รอบ ๆ ทั้งหมดก็ตกอยู่ในภาพลวงตาของทักษะความหวาดกลัว
แฟลนเดอร์สใช้ [ สะบั้นราตรี ] กับชาวบ้านที่หยุดนิ่งโดยไม่ลังเล
เขาเหวี่ยงเคียวออกไปครั้งแล้วครั้งเล่า การโจมตีแต่ละครั้งนั้นสามารถคร่าชีวิตผู้คนไปได้หลายคน
อย่างไรก็ตาม ความเร่งรีบได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของแฟลนเดอร์ส
นั่นเป็นเพราะผลของ [ ความหวาดกลัว ] สามารถอยู่ได้เพียงสองวินาทีเท่านั้น
เขาต้องฆ่าชาวบ้านให้ได้มากที่สุดในช่วงสองวินาทีนี้
ท้ายที่สุดเขาได้เปิดเผยตัวตนของเขาแล้ว เมื่อเสร็จงานนี้เขาก็ต้องวิ่งหนี
ชาวบ้านได้ล้มลงทีละคน แต่ท้ายที่สุด เขายังไม่สามารถฆ่าพวกเขาทั้งหมดได้ภายในสองวินาที
ชาวบ้านที่ยังไม่ตายต่างฟื้นขึ้นมาทีละคน
เมื่อพวกเขามองเห็นว่ามีชาวบ้านตายอยู่รอบ ๆ พวกเขา ชาวบ้านต่างพากันตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก ในเวลาเดียวกัน สิ่งนี้ก็ได้ทำให้แฟลนเดอร์สได้รับค่าความหวาดกลัวจำนวนมากเช่นกัน
บางคนไม่สามารถควบคุมขาของตัวเองได้ ทำเขาให้ล้มลงกับพื้น
ผู้ที่มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะเอาชีวิตรอดได้เริ่มกลิ้งไปกับพื้นดินและพยายามคลานหนีทั่วทุกทิศทุกทาง
เมื่อมองไปที่ชาวบ้านที่หลบหนีออกไปได้ แฟลนเดอร์สก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาอย่างเย็นชาแต่ก็ไม่ได้ไล่ตามพวกเขาไป
ตามที่เขาได้ยินมาก่อนหน้านี้ ตำรวจจะมาถึงในไม่ช้า
ตำรวจก็หมายความว่าพวกเขามีปืนและรถตำรวจ
ในขณะนี้ แฟลนเดอร์สไม่แน่ใจว่าเขาจะสามารถทนต่อความเสียหายของกระสุนได้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม การตัดสินของระบบเมื่อวานนี้บอกว่าเขาอ่อนแอเกินไป และไม่สามารถตรวจจับความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขาได้
แม้ว่าเขาจะได้รับค่าความหวาดกลัวมามากมายและแข็งแกร่งขึ้นกว่าเมื่อก่อนก็ตาม แต่แฟลนเดอร์สก็ไม่มีเวลามากพอที่จะมาทดสอบความแข็งแกร่งของตัวเขาเอง
สิ่งที่เขาต้องทำตอนนี้ก็คือการใช้ทุกวินาทีเพื่อให้ได้ค่าความหวาดกลัวมากที่สุดเท่าที่ยังหาได้ในตอนนี้
หลังจากนั้นเขาก็ได้หลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ
…
ครึ่งชั่วโมงต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจหนุ่มสองคนก็ได้มาถึง
เมื่อพวกเขาได้เห็นซากศพที่นอนกองอยู่เต็มพื้น ชายหนุ่มสองคนก็อาเจียนออกมาอย่างรุนแรงเป็นเวลาสองนาทีเต็มในทันที
จากนั้นพวกเขาก็ได้แจ้งสำนักงานใหญ่ด้วยที่เสียงสั่นเครือ
“มี... คดีฆาตกรรมที่ร้ายแรงมากได้เกิดขึ้นที่นี่”
“ส่วนคนตาย... มีคนตายนับไม่ถ้วน อย่างน้อยก็ร้อยคน! ขอกำลังเสริมด้วย!”
หลังจากนั้นอีกครึ่งชั่วโมง “เจ้าหน้าที่” สองคนที่สวมแว่นกันแดดก็ได้มาถึงที่เกิดเหตุและเข้าควบคุมคดี
แม้ว่าเจ้าหน้าที่ทั้งสองนี้จะไม่มีการระบุตัวตนก็ตาม แต่เจ้าหน้าที่ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาทั้งสองก็ได้ออกจากที่เกิดเหตุโดยปราศจากคำถามเพิ่มเติมหลังจากที่พวกเขาได้รับการอนุมัติจากผู้อำนวยการ
พวกเขาไม่สามารถทนอยู่ที่นี่ได้อีกต่อไป
พวกเขาไม่ต้องการอยู่ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยซากศพอีกต่อไปแม้แต่วินาทีเดียว
หลังจากที่รถตำรวจออกไป ทั้งสองคนก็เริ่มพูดคุยด้วยสีหน้าจริงจัง
“บาดแผลเรียบมาก เหยื่อทั้งหมดถูกสังหารในคราวเดียวและเสียชีวิตในทันที”
“ความแข็งแกร่งของสิ่งมีชีวิตประหลาดตัวนี้ไม่ควรอ่อนแอเกินไป แต่ก็ไม่ควรแข็งแกร่งเกินไปเช่นกัน”
“อย่างน้อยที่สุดก็ควรมีออร่าที่ดุร้ายหรือกรงเล็บที่แหลมคม”
“สีหน้าของเหยื่อดูหวาดกลัวเป็นอย่างมาก และใบหน้าของพวกเขาก็บิดเบี้ยว ซึ่งหมายความว่ารูปลักษณ์หรือวิธีการของสิ่งมีชีวิตประหลาดตัวนี้น่ากลัวมาก”
“ซากศพกระจายอยู่อย่างหนาแน่น ซึ่งหมายความว่าเหยื่อไม่ได้ตายทีละคน พวกเขาน่าจะตายเป็นชุด หรือแม้กระทั่งในเวลาเดียวกัน!”
“ดังนั้น อาวุธหรือร่างกายของสิ่งมีชีวิตประหลาดตัวนี้จึงมีแนวโน้มที่จะมีขนาดใหญ่มาก”
เจ้าหน้าที่ทั้งสองมีความแตกต่างจากเจ้าหน้าที่ตำรวจคู่ก่อนหน้า หลังจากพวกเขามาถึงที่เกิดเหตุ ไม่เพียงแต่พวกเขาจะไม่รู้สึกอึดอัดใด ๆ เท่านั้น แต่พวกเขายังคงสังเกตที่เกิดเหตุอย่างใจเย็นอีกด้วย
พวกเขาได้วิเคราะห์สถานการณ์ออกมาคร่าว ๆ ทีละคน
อย่างไรก็ตาม ตรรกะบางส่วนของพวกเขาถูกต้อง แต่คำตอบนั้นผิด
ขนาดของแฟลนเดอร์นั้นไม่ได้มีขนาดใหญ่นัก และเขาก็ไม่มีอาวุธหรือกรงเล็บแหลมคมขนาดใหญ่อย่างที่พวกเขาคาดเดา
เคียวที่เขาใช้จะปรากฏขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเขาต้องการมันใช้มัน โดยธรรมชาติแล้วเขาจะไม่พกมันติดตัวไปตลอดเวลา
และรูปร่างหน้าตาของแฟลนเดอร์ก็ไม่ได้น่ากลัวมากนัก เพราะเขาเป็นเพียงแค่หุ่นไล่กาที่แสนธรรมดา
เมื่อเขายืนนิ่งตามปกติ รูปลักษณ์ของเขาก็ดูตลกเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าข้อมูลนี้จะทำให้ทั้งสองคนเข้าใจผิด แต่ก็เป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น
ในไม่ช้า เจ้าหน้าที่ทั้งสองก็ได้พบกับชาวบ้านที่รอดตายและขอข้อมูลที่ต้องการ
“ฆาตกรคือหุ่นไล่กา?”
“สูงประมาณ 1.5 เมตร เขาสามารถเสกเคียวได้เหรอ?”
“เขายังสามารถทำให้คนเห็นภาพหลอน เป็นภาพลวงตาที่น่าสะพรึงกลัวได้ด้วยอย่างนั้นเหรอ”
เจ้าหน้าที่คนหนึ่งถามขณะจดบันทึก ในขณะเดียวกันเขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
เป็นเวลานานแล้วที่เขาไม่ได้คาดเดาผิดเช่นนี้
เห็นได้ชัดว่าสิ่งมีชีวิตประหลาดในครั้งนี้ดูเหมือนจะแตกต่างจากปกติบ้าง
อย่างน้อย ปกติแล้วสิ่งมีชีวิตพวกนี้ไม่มีความสามารถในการเสกอาวุธ
นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับสิ่งมีชีวิตประหลาดที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนหุ่นไล่กา
เมื่อมองดูท่าทางที่สงบของเจ้าหน้าที่ชายที่อยู่ข้างหน้าพวกเขา ชาวบ้านก็ได้นึกถึงคำพูดของเฉียวอีกครั้ง
“มันควรจะมีแผนกหนึ่งในโลกที่เชี่ยวชาญในการจัดการกับเรื่องเหนือธรรมชาติ แต่เรื่องนี้อาจเป็นแค่ตำนานก็ได้”
ชาวบ้านคนหนึ่งถามอย่างสงสัย
“ขอโทษนะ พวกคุณเชี่ยวชาญในการจัดการกับสิ่งเหนือธรรมชาติหรือเปล่า”
ชายที่กำลังจดบันทึกอยู่นั้นตกตะลึงเล็กน้อยและพยักหน้า
“ถูกต้อง คุณรู้ได้อย่างไร”
“เมื่อเราพบศพเมื่อเช้านี้ เฉียวบอกเรา”
“เฉียว?”
“ใช่ เขาเคยเป็นตำรวจและเคยได้ยินเกี่ยวกับตำนานเช่นนี้ เมื่อเราได้ยินสิ่งที่เขาพูดตอนเมื่อเช้านี้ เราคิดว่ามันเป็นแค่ข่าวลือเท่านั้น แต่เราไม่ได้คาดหวังเลยว่ามันจะเป็นเรื่องจริง”
ชาวบ้านคนอื่นพยักหน้าเห็นด้วย
ไม่มีใครคาดคิดว่าหุ่นไล่กาที่ยืนอยู่ในทุ่งข้าวสาลีมานานหลายทศวรรษจะเป็นสิ่งมีชีวิตประหลาด
เจ้าหน้าที่ชายพยักหน้าและถามต่อไปว่า
“เฉียวอยู่ที่ไหน ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน”
“เฉียวตายแล้ว เขาถูกหุ่นไล่กาประหลาดตัวนั้นฆ่า”
เมื่อชาวบ้านได้พูดเช่นนี้ ใบหน้าของพวกเขาก็แสดงถึงความหวาดกลัวออกมา
ดูเหมือนว่าพวกเขาจะยังไม่ฟื้นจากความหวาดกลัวที่พวกเขาได้รับจากเหตุการณ์ตอนนั้น
“ถ้าอย่างนั้น คุณเป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวในที่อยู่เกิดเหตุงั้นเหรอ มีใครอีกไหม?”
ชาวบ้านคนนั้นหันศีรษะมองดูชาวบ้านรอบ ๆ แล้วพยักหน้าและกล่าวว่า
“พวกเราทั้งหมดอยู่ที่นี่ แต่โธมัสไม่ได้เห็นหุ่นไล่กาฆ่าใครเลย...”
“นั่นไม่สำคัญ” เจ้าหน้าที่ชายพูดด้วยรอยยิ้ม
จากนั้นเจ้าหน้าที่หญิงซึ่งเดินกลับมาออกมาจากฝูงชน เธอได้หยิบลูกบอลลูกเล็ก ๆ ออกมาจากอกของเธอแล้วทุบลงกับพื้นอย่างแรง
ปัง!
หลังจากที่ลูกบอลขนาดเล็กกระทบพื้น มันก็ได้ส่งเสียงออกมาเบา ๆ และปล่อยแสงสีขาวออกมา
จากนั้น ดวงตาของชาวบ้านก็เปลี่ยนเป็นสีขาว จากนั้นพวกเขาก็แสดงสีหน้าที่ดูสับสนออกมา
เจ้าหน้าที่หญิงพูดเบา ๆ ว่า
“เมื่อเช้านี้มีนักฆ่าโรคจิตได้มาที่นี่และได้ใช้เลื่อยยนต์ฆ่าคนในหมู่บ้านเป็นจำนวนมาก”
ชาวบ้านยังคงสับสน แต่ก็พึมพำออกมา
“นักฆ่า... โรคจิต... เลื่อยไฟฟ้า...”
เจ้าหน้าที่หญิงก็พูดอีกว่า
“พวกคุณสองสามคนหลบหนีมาได้ค่อนข้างเร็วและไม่ถูกฆ่า หลังจากที่นักฆ่าโรคจิตฆ่าคนเสร็จ เขาก็หลบหนีออกไป”
“พวกเรา... หนีเร็ว... นักฆ่าโรคจิตหนีไปแล้ว...”
เจ้าหน้าที่ทั้งสองมองหน้ากันและพยักหน้า
จากนั้นพวกเขาก็ขับรถออกไปจากที่เกิดเหตุ
“เราต้องรายงานเรื่องนี้ต่อสมาคมนักเวทย์ การเกิดของสิ่งมีชีวิตประหลาดที่สามารถทำให้เราต้องปวดหัวได้เกิดขึ้นแล้ว”