ตอนที่ 1163-1164 คุณดูถูกเสน่ห์ของคุณเกินไป
ใบหน้าไร้อารมณ์ของเขาช่างน่ากลัวจริง ๆ
บางครั้งเมื่อเขาโกรธ เขาจะเย็นชากับเธอ หน้าตาของเขาช่างน่ากลัวจริง ๆ
ไม่ว่าใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาจะดึงดูดเพียงใด เธอก็ยังถูกคุกคามด้วยออร่าเย็นเยียบของเขาและจะหลีกเลี่ยงเขาโดยอัตโนมัติ
ท้ายที่สุด ผู้ชายที่หล่อเหลานั้นมีค่า แต่ชีวิตของพวกเขาก็มีค่ามากกว่า
กุหลาบที่มีหนามจะสวยงามสักแค่ไหน หากหนามแหลมเกินไป คงไม่มีใครกล้าเด็ดดอกของมัน
ดังนั้นไม่ใช่ว่าไม่มีใครส่งจดหมายรักให้เขา
เป็นเพราไม่มีใครกล้าส่งจดหมายรักให้กับเขาต่างหากเล่า!
“แล้วถ้ามีคนส่งจดหมายรักให้กับคุณ คุณจะรับไหม” เฉียวเมียนเมียนอดไม่ได้ที่จะถาม
“แล้วถ้ามีคนให้จดหมายรักกับคุณ คุณจะรับไหม” เฉียวเมียนเมียนอดไม่ได้ที่จะถาม
แม้ว่าทั้งหมดจะเป็นคำถามสมมุติ
แต่เมื่อเธอนึกถึงวิธีที่เหมาเยซื่อรับจดหมายรักจากสาว ๆ คนอื่น ๆ เธอเองก็รู้สึกอึดอัดไม่น้อย
ในที่สุดเธอก็เข้าใจว่าทำไมเหมาเยซื่อถึงได้สนใจซูเจ๋อมากนัก
ถ้าเขามีแฟนเก่าที่รู้จักกันมาสิบปีและคบกันหากันถึงสองปี เธอคงจะเสียใจเช่นกัน
“ไม่” เหมาเยซื่อคิดก่อนจะตอบ
เขาไม่เคยตอบคำถามของเฉียวเมียนเมียนอย่างไม่เต็มใจ
เขาตอบมันทั้งหมดอย่างจริงจัง
ดังนั้น ถ้าเขาบอกว่าเขาจะไม่รับ ก็หมายความว่าเขาจะไม่รับจริง ๆ
เฉียวเมียนเมียนถามด้วยความสงสัย “ทำไมล่ะคะ? คุณไม่ชอบที่มีผู้หญิงมาให้จดหมายรักเหรอ?”
เหมาเยซื่อมองเธอและพูดว่า “ถ้าคุณให้จดหมายรักผม ผมจะรับ ผมครับแต่จดหมายรักจากคนที่ผมชอบเท่านั้น ผมไม่รับจากคนอื่น”
เฉียวเมียนเมียนพูดไม่ออก
หัวใจของเธอเต้นผิดจังหวะ
ทำไมจู่ ๆ เหมาเยซื่อถึงเจ้าชู้ขึ้นมา หัวใจของเธอไม่สามารถรับมือกับการหยอกล้อเป็นครั้งคราวของเขาได้
“คุณพูดไร้สาระอะไร”
เฉียวเมียนเมียนรู้สึกหวานไปถึงข้างในและจ้องมองเขาอย่างเขินอาย
“ถ้าเราอยู่โรงเรียนเดียวกัน คุณคงไม่ได้รับจดหมายรักจากฉันหรอก คุณคงไม่สนใจฉันและเดินผ่านฉันไปอย่างไร้ความรู้สึก”
“ไม่สิ ไม่ถูกต้อง คุณไม่เพียงแต่ไม่รับจดหมายรักจากฉัน แต่คุณคงพูดกับฉันหน้าตายว่า ‘เพื่อนร่วมชั้น เธอไม่ใช่สเปคของฉัน ต่อไปอย่าได้ส่งจดหมายให้ฉันอีก สิ่งที่เธอทำ มันทำให้ฉันลำบากใจ’ พูดจบก็หันเดินจากไปอย่างไร้ความรู้สึก”
เหมาเยซื่อพูดไม่ออก
ภรรยาของเขาช่างเป็นคนที่จินตนาการไปไกลเสียจริง
เธอดูถูกเสน่ห์ของเธอที่มีต่อเขาต่ำไปหรือเปล่า?
“ผมไม่ทำแบบนั้นหรอก” เขายังจำครั้งแรกที่เขาพบเธอได้
คืนนั้นเขาไม่ได้ต่อต้านเธอ นอกจากความจริงที่ว่าเธอเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ทำให้เขาไม่แพ้ เธอยังมีเสน่ห์ดึงดูดเขาด้วย
นี่คือสิ่งที่เขาคิดได้ในภายหลัง
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเธอดึงดูดเขา เขาคงไม่หายจากอาการแพ้ และเขาคงไม่ตกหลุมรักเธอ
สิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้นก็จะไม่เกิดขึ้นเช่นกัน
เขาปฏิเสธไม่ได้ว่ามีบางอย่างที่พิเศษเกี่ยวกับเธอ แต่ถ้ามีผู้หญิงที่พิเศษแบบนี้ เขาจะตกหลุมรักผู้หญิงคนนั้นด้วยไม่นะ?
เหมือนเซินโย่ว
เขาคิดเกี่ยวกับมันอย่างจริงจัง และรู้สึกว่าเขาจะไม่ทำ
เหมาเยซื่อมองเธออย่างจริงจังและพูดว่า “ถ้าคุณเป็นยื่นจดหมายให้กับผม ผมจะรับมัน เฉียวเมียนเมียนเชื่อไม่? คุณน่ะมีแรงดึงดูดพิเศษสำหรับผม มันทำให้ผมไม่ปฏิเสธคุณ”
___
เฉียวเมียนเมียนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเขินอาย “พิเศษอะไรกัน? เป็นเพราะฉันเป็นคนเดียวที่ไม่ทำให้คุณมีอาการแพ้เถอะ?”
“เปล่าสักหน่อย” เหมาเยซื่อปฏิเสธ
“แล้วยังไง”
“คุณอาจไม่เชื่อ แต่ผมเพิ่งรู้เมื่อไม่นานมานี้เอง” เหมาเยซื่อเงียบไปครู่หนึ่ง ใบหน้าหล่อเหลาของเขาแดงก่ำราวกับว่าเขามีอะไรจะพูด
หลังจากนั้นไม่นาน เขาจ้องมองเข้าไปในตาของเธอ และพูดว่า “ผมรู้ทีหลังว่าผมตกหลุมรักคุณตั้งแรกพบ”
เพราะเขาเป็นคนที่ช้าในเรื่องความสัมพันธ์ ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็ตระหนักว่าเขาตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกที่พวกเขาพบกัน
แต่ในตอนนั้น เขาไม่รู้ว่าเขาตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น
เขาตัดสินใจแต่งงานกับเธอเพราะเขาชอบเธอและอยากจะอยู่กับเธอ
ไม่อย่างนั้น คงไม่เหตุผลที่เขาจะเสียสละชีวิตการแต่งงานเพราะข้อบกพร่องของตนเอง
และเขาไม่ได้อยากจะบังคับเธอให้แต่งงานกับเขาด้วยการผ่าตัดเฉียวเฉิน
นี่ไม่ใช่นิสัยปกติของเขา
โชคดีที่ถึงแม้จะค้นพบความรู้สึกที่มีต่อเธอได้ในภายหลัง แต่เขาก็ไม่เสียใจเลย
ตอนนี้เธออยู่เคียงข้างเขาและกลายเป็นภรรยาของเขา
ในขณะนี้เหมาเยซื่อรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เขาเคย ‘ทำเรื่องน่ารังเกียจ’ ในตอนนั้น ถ้าเขาเป็นสุภาพบุรุษในคืนนั้น เขาและเฉียวเมียนเมียนก็คงไม่ได้มาอยู่ด้วยกันในวันนี้
แล้วเขาจะต้องเสียใจจริง ๆ
รักแรกพบ...
หัวใจของเฉียวเมียนเมียนเริ่มเต้นเร็ว ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดง และร้อนผ่าว
ก๊อก ก๊อก ก๊อก...
ในขณะนี้ มีคนาเคาะกระจกรถด้านนอก
เฉียวเมียนเมียนนั่งบนที่นั่งคนขับและมองออกไป เมื่อเธอเห็นเฉียวเฉินยืนอยู่ข้างนอก เธอปิดหน้ที่กำลังร้อนผ่าวและสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อทำให้ตัวเองสงบลงก่อนจะเลื่อนกระจกหน้าต่างรถลง
“พี่ฮะ”
กระจกถูกเลื่อนลง ใบหน้าซีดขาวที่บ่งบอกว่ากำลังป่วยของเฉียวเฉินได้สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจน
เมื่อเขาพบเฉียวเมียนเมียน เขาทักทายหญิงสาวด้วยรอยยิ้ม
“เฉินเฉิน ขึ้นรถ คืนนี้จะไปทานข้าวบ้านคุณย่ากัน”
เฉียวเมียนเมียนกล่าวถึงเพียงคุณผู้หญิงเหมาอาวุโสเท่านั้น
เธอไม่ชอบคุณผู้หญิงเหมาจริง ๆ
เธอยอมแพ้ในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับอีกฝ่ายแล้ว
เธอเพียงหวังว่าพวกเขาจะอยู่ร่วมกันในอนาคตได้
“ครับ”
เหมาเยซื่อปลดล็อคประตูรถ และเฉียวเฉินก็เข้ามาบนรถ
พอเด็กหนุ่มขึ้นมานั่งบนรถเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เหมาเยซื่อมองอีกฝ่ายผ่านกระจกมองหลังและคิดคิดถึงตนที่เป็นไปได้ของเฉียวเฉิน เขาอดที่จะรู้สึกแปลกไม่ได้
เขาเป็นน้องเขยของเขา
ถ้าเรื่องนั้นได้รับการยืนยัน เขาจะกลายเป็นลูกพี่ลูกน้องกับอีกฝ่าย
ความรู้สึกของน้องเขยกลายเป็นลูกพี่ลูกน้อง...
เหมาเยซื่อไม่ใช่คนเชื่อเรื่องโชคลาง
แต่หลังจากได้พบกับเฉียวเมียนเมียน และเฉียวเฉิน เขาก้เริ่มเชื่อในเรื่องโชคชะตา
ในคืนนั้น ผู้หญิงที่ควรถูกส่งมาที่ห้องของเขา กลับประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ และเฉียวเมียนเมียนก็ถูกส่งตัวเข้ามาแทน
เขาไม่สนใจผู้หญิงคนไหน เขาจะปฏิเสธผู้หญิงทั้งร่างกายและจิตใจ แต่ไม่ใช่กับเธอคนนี้
และเพราะเธอ เขาถึงได้รู้ว่าเฉียวเฉินอาจเป็นของของตระกูลเหมา
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ หลายสิ่งหลายอย่างเป็นเรื่องบังเอิญอย่างยิ่ง
เป็นเรื่องบังเอิญที่เหมือนกับพระเจ้าจงใจเขียนบทนี้ขึ้น....