ตอนที่ 10 ทำไมในอนาคตไม่ลองเป็นวิดีโอบล็อคเกอร์ดูล่ะ?

ตอนที่ 10 ทำไมในอนาคตไม่ลองเป็นวิดีโอบล็อคเกอร์ดูล่ะ?

ชั่วโมงที่แล้ว ณ เมืองนอร์ด

คนส่วนใหญ่ในสมาคมนักเวทย์สาขานอร์ดได้เลิกงานแล้ว

ยกเว้นลูคัสและไค

“บัดซบ ทำไมฉันตรวจไม่พบตำแหน่งของผู้ชายคนนั้น!”

ลูคัสเริ่มหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่เขากดปุ่มบนเรดาร์ในมือ

ไคซึ่งอยู่ข้าง ๆ เขา ดันก้นบุหรี่เข้าไปในที่เขี่ยบุหรี่ที่อัดแน่น

“เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว ต้องให้ใครสักคนมาช่วยเรา”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลูคัสที่ดูตื่นเต้นก็ดูเหมือนจะสงบลงเล็กน้อย เขาพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “ถ้าเรื่องนี้หลุดออกไป มันจะมีผลตามมา”

“มันง่ายมาก เราก็ไว้เก็บเป็นความลับไม่ได้งั้นเหรอ?”

ไคล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อโค้ท คลำหากล่องบุหรี่ของเขา อย่างไรก็ตาม หลังจากมองดูที่เขี่ยบุหรี่บนโต๊ะที่ดูเหมือนจะอัดแน่นแล้ว เขาก็เปลี่ยนใจในนาทีสุดท้ายและหยิบโทรศัพท์ออกมา

“ลูคัส แอบติดต่อน้องชายของนายแล้วบอกให้เขารีบไปรอ ฉันจะเล่นโทรศัพท์อีกสักพัก”

ลูคัสไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับคำแนะนำของไค

แม้ว่าไคจะเป็นคนที่ดูสบาย ๆ และมีความไร้กังวลอยู่บนใบหน้าของเขาเสมอ แต่อัตราความสำเร็จในภารกิจของเขาจนถึงตอนนี้คือ 100 เปอร์เซ็นต์!

ไม่มีภารกิจใดยากเกินไปสำหรับไค

นอกจากความแข็งแกร่งของไคแล้ว ยังมีเหตุผลสำคัญอีกประการหนึ่งที่ทำให้เขาเป็นเช่นนี้—เขารู้วิธีปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์

กฎเกณฑ์และสามัญสำนึกไม่มีประโยชน์สำหรับเขา

เขาจะทำตามการตัดสินใจของตัวเองเสมอและมีวิธีการทำสิ่งต่าง ๆ ที่ไม่เหมือนใคร

…

หลังจากหยิบโทรศัพท์ออกมา ไคก็หยิบบุหรี่ออกมาแล้วจุดไฟตามสัญชาตญาณ

หลังจากสูดควันเข้าออกเป็นประจำ เขาก็ตระหนักได้ว่าในที่สุดเขาก็ได้สูบบุหรี่ไปอีกมวนหนึ่ง

“มันยากมากที่จะเลิกบุหรี่” ไคยิ้มออกมาอย่างขมขื่น

แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงแจ้งเตือนดังขึ้น ซึ่งได้ดึงดูดความสนใจของไค

นี่เป็นข้อความแจ้งเตือนจากแอปยูทูป

[เกมของชาร์ลีมีจริง?]

ไคอ่านข้อความพร้อมกับขมวดคิ้วไปมา

การดูสิ่งเดียวกันจากมุมมองที่ต่างกันมักจะนำไปสู่ทัศนคติที่แตกต่างกันเกี่ยวกับสิ่งนั้น

เมื่อคนปกติเห็นวิดีโอ ปฏิกิริยาแรกของพวกเขาคือไม่เชื่อและสงสัย

พวกเขาอยากรู้ว่าบล็อกเกอร์วิดีโอนี้จะดึงดูดความสนใจของพวกเขาได้อย่างไร

ผู้คนที่เชื่อในไสยศาสตร์นั้นแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง

พวกเขารู้ความจริงที่ซ่อนอยู่ใต้พื้นผิวโลกนี้

ดังนั้น เมื่อผู้คนที่เชื่อเรื่องไสยศาสตร์มองเห็นบางสิ่งที่เกี่ยวข้องกับโลกเหนือธรรมชาติ พวกเขาจะให้ความสนใจกับมันมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว

เพราะสิ่งเหล่านี้มักจะเกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิตประหลาด

ไคคลิกวิดีโอโดยไม่ลังเล

สำหรับลูคัส เขาพยายามติดต่อกับน้องชายที่แสนดีของเขาซึ่งหลับไปเหมือนกับหมูที่นอนตายอยู่บนเตียงไปแล้ว

“ชาร์ลี ชาร์ลี คุณอยู่ที่นั่นหรือเปล่า...”

เมื่อวิดีโอเริ่มเล่น สายตาที่เกียจคร้านของไคก็เริ่มดุร้ายขึ้นมาในทันที

“ลูคัส ลูคัส มาดูนี่เร็ว!”

เมื่อเห็นว่าโทรศัพท์ดังขึ้นประมาณเจ็ดหรือแปดครั้งแล้วแต่ก็ยังไม่มีใครรับสาย ลูคัสจึงวางสายและเดินไปหาไคอย่างไม่พอใจ

“ไอ้บ้าเอ๊ย! น้องชายของฉันหลับเป็นหมูตายอีกแล้ว! นายอยากให้ฉันดูอะไร?”

ไคไม่สนใจเรื่องที่ลูคัสบ่น แต่เขายื่นโทรศัพท์ให้ลูคัสแทน

เมื่อเห็นการแสดงออกที่จริงจังและผิดปกติของไคลูคัสก็ตกตะลึงเล็กน้อย จากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอย่างจริงจัง

ในไม่ช้า การแสดงออกของเขาก็รุนแรงขึ้น

“นี่... ในวิดีโอ... นั่นอาจเป็นหุ่นไล่กาที่เรากำลังมองหาอยู่หรือเปล่า”

ไคเขี่ยบุหรี่และเผยรอยยิ้มที่แน่วแน่

“อาจจะไม่ใช่ แต่เราสามารถลองดูได้”

ในเวลาต่อมา รูม่านตาของลูคัสก็ขยายออกเล็กน้อย

เขากดปุ่มหยุดอย่างรวดเร็วและยื่นโทรศัพท์คืนให้ไค ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยจิตวิญญาณการต่อสู้

“ไม่ต้องหาแล้ว นั่นแหละเขา!”

รอยยิ้มของหุ่นไล่กาได้ค้างอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ มันคือรอยยิ้มที่ดูเย็นชาและน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก

...

ในฟาร์มร้าง ดวงตาของแฟลนเดอร์สเป็นประกายเล็กน้อย

หลังจากการอดทนรอมาสองสามชั่วโมง ในที่สุดเขาความพยายามของเขาก็ประสบผลสำเร็จ!

หลังจากปล่อยวิดีโอชายหญิงคู่นั้นออกไป แฟลนเดอร์สก็ได้รับค่าความหวาดกลัวเพิ่มขึ้นมาทีละนิด

อย่างไรก็ตาม มันเป็นค่าความหวาดกลัวเพียง 0.1-0.5 คะแนนในแต่ละครั้งเท่านั้น

มันน้อยมาก!

เขารู้สึกผิดหวังมากอย่างไม่ต้องสงสัย

เขาคิดว่าการทำให้คนอื่นกลัวผ่านวิดีโอออนไลน์จะสามารถทำให้เขาได้รับค่าความหวาดกลัวมหาศาล

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าค่าความหวาดกลัวที่ได้จะลดลงเหลือ 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

หากมีคนกลัวเขา ค่าความหวาดกลัว 0.1 จะอยู่ที่ประมาณ 10 คะแนน

แม้ว่าจะน่าผิดหวัง แต่แฟลนเดอร์สก็ไม่ได้จากไปในทันที

เขารู้ว่าข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตนั้นแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว

แม้ว่าแต่ละคนจะมอบค่าความหวาดกลัวให้เขาได้เพียงแค่ 0.1 คะแนนก็ตาม แต่ปริมาณที่มากพอก็ยังทำให้เขาอิ่มท้องได้เช่นกัน!

ถ้ามีคน 10,000 คนหวาดกลัว เขาก็จะได้รับค่าความหวาดกลัวอย่างน้อย 1,000 คะแนน

ถ้ามีคน 100,000 คนหวาดกลัว เขาก็จะได้รับค่าความหวาดกลัว 10,000 คะแนน

จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีคน 1,000,000 คนหวาดกลัวเขาล่ะ หรือแม้แต่ 10,000,000 คน?

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ แฟลนเดอร์สก็เริ่มตั้งหน้าตั้งตารอ

แน่นอนว่าหลังจากที่เขารอคอยมาทั้งวัน ค่าความหวาดกลัวก็เพิ่มขึ้นในที่สุด

[ ค่าความหวาดกลัว + 0.1]

[ ค่าความหวาดกลัว+ 0.2]

[ ค่าความหวาดกลัว + 0.1]

ข้อมูลที่อัดแน่นได้ปรากฏขึ้นในใจของแฟลนเดอร์ราวกับว่าเขากำลังไถหน้าจออยู่

ในขณะเดียวกัน ค่าความหวาดกลัวของแฟลนเดอร์สก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

“ฉันไม่ได้คาดหวังเลยว่าสองคนนี้จะได้ขึ้นหน้าแรกของยูทูปจริง ๆ” แฟลนเดอร์สไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดีในเวลานี้

ในตอนแรก เขาคิดว่าวิดีโอที่ถ่ายโดยสองคนนั้นเป็นแค่เพียงกองอึ

อย่างไรก็ตาม ด้วยความตั้งใจของเขาเอง เขาจึงตัดสินใจฉีกยิ้มผ่านกระจก

ซึ่งมันมีผลที่อัศจรรย์มาก!

“จะเป็นอย่างไรถ้าฉันลองเป็นวิดีโอบล็อกเกอร์ด้วยล่ะ การที่ฉันใช้วิธีนี้เพื่อเพิ่มค่าความหวาดกลัวของฉันนั้นยอดเยี่ยมเกินไป!”

แฟลนเดอร์สอดไม่ได้ที่จะคิดเรื่องนี้ในใจ

อย่างไรก็ตาม นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้

สิ่งที่เขาต้องทำตอนนี้คือคิดว่าเขาจะอัพเกรดทักษะเหล่านี้ได้อย่างไร

แม้ว่าเขามีค่าความหวาดกลัวมากกว่า 10,000 คะแนน แต่เห็นได้ชัดว่าไม่ค่อยดีนักที่จะเพิ่มระดับทักษะทั้งสามในผังทักษะระดับที่สองนี้

นี่เป็นเพราะในผังทักษะระดับที่สอง เขาจะต้องใช้ค่าความหวาดกลัว 5,000 คะแนน เพื่อเพิ่มระดับแต่ละทักษะจากระดับ 2 เป็นระดับ 3

การเพิ่มระดับสามทักษะนี้จะต้องใช้ค่าความหวาดกลัวทั้งหมด 15,000 คะแนน

จำนวนนี้มันมากเกินไป และแฟลนเดอร์สรู้สึกว่ามันยังไม่จำเป็นในตอนนี้

ดังนั้นแฟลนเดอร์สจึงเลือกที่จะเพิ่มระดับทักษะทั้งสามในผังทักษะระดับแรกเป็นระดับ 3—ความหวาดกลัว ร่างเทพปีศาจ และสะบั้นราตรี

ทักษะการปลอมตัวได้รับการอัพเกรดเช่นกัน!

เหตุผลในการอัพเกรดทักษะนี้เพราะว่ามันใช้งานง่ายเกินไป

ชายหญิงที่อยู่ที่นั่นก่อนหน้านี้ยิ้มออกมาเมื่อเห็นแฟลนเดอร์สอยู่ในวิดีโอ แต่พวกเขาไม่ได้สังเกตถึงเขาเลยแม้แต่น้อย

ความสามารถในการพรางตัวแบบนี้น่ากลัวมากจริง ๆ

แน่นอนว่าถ้าแฟลนเดอร์สต้องการได้รับค่าความหวาดกลัว เขาสามารถทำให้พวกเขาสังเกตเห็นตัวเขาได้

ตราบใดที่พวกเขาอยู่ในขอบเขตทักษะการปลอมตัวของเขา ไม่ว่าอีกฝ่ายจะสังเกตเห็นหรือไม่ก็ตาม มันจะถูกควบคุมโดยความคิดของเขา

สำหรับทักษะที่สร้างความเสียหาย แฟลนเดอร์สรู้สึกว่าในตอนนี้เขาไม่ต้องการมันจริง ๆ

เมื่อเขาได้รับค่าความหวาดกลัว มันก็ได้เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับร่างกายของเขาด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ เขายังมีทักษะความหวาดกลัวและการปลอมตัว ซึ่งสามารถลดทอนความแข็งแกร่งของการต่อสู้ของศัตรูได้เป็นอย่างมาก

แม้ว่าจะมีคนมามองหาปัญหาก็ตาม เขาก็มั่นใจว่าเขาสามารถเอาชนะศัตรูได้

ขณะที่เขากำลังคิดเกี่ยวกับสิ่งนั้น เขาก็สังเกตเห็นบางอย่าง

ข้างนอกดูเหมือนว่ามีคนกำลังเดินเข้ามา

แฟลนเดอร์สได้ยิ้มออกมาและเปิดใช้งานทักษะการปลอมตัวของเขา

เหยื่อมาแล้ว!