ตอนที่ 1 การเกิดใหม่ของหุ่นไล่กา
ตอนที่ 1 การเกิดใหม่ของหุ่นไล่กา
เย็นวันหนึ่งในทุ่งข้าวสาลีสีทองอร่าม
มีหุ่นไล่กาที่โดดเดี่ยวได้ยืนอยู่ที่ทุ่งข้าวสาลีนั้นอย่างเงียบ ๆ
วินาทีถัดมา หุ่นไล่กาก็เผยรอยยิ้มแปลก ๆ ออกมา
[ ติ๊ง! ผูกมัดกับระบบปีศาจแห่งความหวาดกลัว ]
[ ติ๊ง! แพ็คกล่องของขวัญสำหรับมือใหม่ได้รับการแจกจ่ายแล้ว! ]
“เกือบหนึ่งเดือนแล้วที่ฉันได้มาเกิดใหม่อยู่ที่นี่ และตัวโกงเช่นระบบเกมก็ได้มาถึงแล้ว!”
แฟลนเดอร์สบ่นอย่างไม่พอใจ
อย่างไรก็ตาม เขารู้สึกดีใจมากกว่าไม่พอใจ
...
เดือนที่แล้ว แฟลนเดอร์สได้กลับมาเกิดใหม่ยังโลกใบนี้ แต่เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลยแม้แต่น้อย
ยกเว้นใบหน้าของเขา...
ใบหน้าของหุ่นไล่กาตัวนี้
สิ่งนี้ได้ให้ความรู้สึกเหมือนคนที่อยากเล่นเกมส์แต่พบว่าเมาส์และคีย์บอร์ดเสีย มีเพียงแต่จอภาพเท่านั้นที่ใช้งานได้
มันเป็นความเจ็บปวดที่เขาอัดอั้นมานานแสนนาน!
อย่างไรก็ตาม เมื่อแฟลนเดอร์สได้รับตัวโกงแล้ว มันอาจจะสร้างความแตกต่างเป็นอย่างมาก
แม้เขาจะไม่มีคีย์บอร์ดและเมาส์ก็ตาม
แต่เขามีกลโกง!
ด้วยเหตุนี้ แฟลนเดอร์สจึงตรวจสอบระบบปีศาจแห่งความหวาดกลัวอย่างตื่นเต้น
[ โฮสต์: แฟลนเดอร์ส ]
[ สายเลือด: ระบบร่างกายที่แปลกประหลาด — หุ่นไล่กา ]
[ ความแข็งแกร่ง: ไม่สามารถตรวจจับได้ ]
[ ทักษะ: ไม่มี ]
[ ไอเทม: กล่องของขวัญสำหรับมือใหม่ ]
[ ค่าความหวาดกลัว: 0 ]
[ บทนำ: ในขณะที่โฮสต์ทำให้ผู้อื่นเกิดความหวาดกลัว สามารถได้รับค่าความหวาดกลัวและสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของโฮสต์ได้ ]
…
แฟลนเดอร์สต้องการเปิดกล่องของขวัญสำหรับมือใหม่
อย่างไรก็ตาม มีข้อความหนึ่งที่ได้ดึงดูดความสนใจของเขา
“ระบบ ความแข็งแกร่งที่ไม่สามารถตรวจจับได้คืออะไร เป็นไปได้ไหมว่าฉันแข็งแกร่งเกินไป”
[ เนื่องจากความแข็งแกร่งของโฮสต์อ่อนแอเกินไป จึงไม่สามารถตรวจจับค่าเฉพาะได้ ]
ใบหน้าที่เป็นหุ่นไล่กาของแฟลนเดอร์สกระตุกอยู่สองสามครั้งโดยที่เขาไม่ได้พูดอะไรออกมา
อันที่จริง หากความแข็งแกร่งของเขาอยู่ที่ 0.000000001 มันคงเป็นเรื่องยากมากที่จะตรวจจับได้
อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ไม่สำคัญอีกต่อไป
แฟลนเดอร์สมองไปที่กล่องของขวัญสำหรับมือใหม่ สิ่งนี้ทำให้จิตใจที่หดหู่ของเขากลับมามีชีวิตชีวามากขึ้น
“เปิดกล่องของขวัญสำหรับมือใหม่ทันที!”
[ ติ๊ง! เปิดกล่องของขวัญสำหรับมือใหม่ ได้รับค่าความหวาดกลัว 100 คะแนน ]
[ ติ๊ง! เนื่องจากโฮสต์ได้รับค่าความหวาดกลัว อินเทอร์เฟซการเรียนรู้ทักษะจึงเปิดใช้งาน! ]
หลังจากได้รับการแจ้งเตือนนี้ แฟลนเดอร์สได้เปิดอินเทอร์เฟซการเรียนรู้ทักษะขึ้นมาในทันที
ปัจจุบันมีเพียงสามทักษะที่เขาสามารถเรียนรู้ได้
[ ความหวาดกลัว: ต้องการค่าความหวาดกลัว 100 คะแนน]
สามารถสร้างภาพลวงตาแห่งความหวาดกลัวแล้วฝังเข้าไปในจิตใจของเป้าหมายเป็นเวลา 2 วินาที
[ ร่างเทพปีศาจ: ต้องการค่าความหวาดกลัว 100 คะแนน]
เพิ่มความแข็งแกร่งของร่างกาย หลังจากพยายามลองครั้งแรก โฮสต์จะสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ
[ สะบั้นราตรี: ต้องการค่าความหวาดกลัว 100 คะแนน ]
เสกเคียวทมิฬออกมาเพื่อสร้างความเสียหายให้กับเป้าหมาย
เมื่อพิจารณาจากทักษะทั้งสามแล้ว โดยธรรมชาติแล้วแฟลนเดอร์สต้องการเปิดใช้งานร่างกายของเทพปีศาจในทันที
อย่างไรก็ตาม เขายังคงลังเล
เนื่องจากระบบตรวจจับได้บอกว่าความแข็งแกร่งของเขานั้นอ่อนแอเกินไป
แฟลนเดอร์สยังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าตอนนี้เขาอยู่ในโลกแบบไหนกันแน่
หากโลกนี้เต็มไปด้วยผู้ที่แข็งแกร่ง แสดงว่าที่นี่เป็นที่ที่อันตรายมากสำหรับเขาที่จะเดินเตร็ดเตร่ไปมา
ยิ่งไปกว่านั้น หากเขาไม่สามารถได้รับค่าความหวาดกลัว มันก็จะไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง แม้ว่าเขาจะขยับตัวได้ก็ตาม
หลังจากครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ แฟลนเดอร์สก็สามารถตัดสินใจได้
เขาได้ใช้ค่าความหวาดกลัว 100 คะแนนเพื่อเรียนรู้ทักษะ [ความหวาดกลัว]
ค่าความหวาดกลัวกลายเป็นเลขศูนย์ในทันที แต่อย่างไรก็ตามแฟลนเดอร์สไม่ได้รู้สึกปวดใจเลยแม้แต่น้อย
เพราะมีเพียงทักษะนี้เท่านั้นที่จะทำให้เขาได้รับค่าความหวาดกลัวอย่างต่อเนื่องและเขายังสามารถแข็งแกร่งขึ้นได้โดยไม่มีขีดจำกัด!
หลังจากนี้ ทั้งหมดที่เขาต้องทำคือรอให้เหยื่อมาเคาะประตูบ้าน
...
ขณะที่เขากำลังครุ่นคิดอยู่นั้น อีกาสีดำก็ได้กระพือปีกและร่อนลงมายืนอยู่บนไหล่ของแฟลนเดอร์ส
ในขณะนี้ แฟลนเดอร์สนั้นดูเหมือนหุ่นไล่กาทั่วไป
ถ้าเป็นนกตัวอื่น ๆ พวกมันอาจเข้าใจผิดว่าแฟลนเดอร์สเป็นมนุษย์และไม่กล้าเข้าใกล้เขา
นี่คือจุดประสงค์ของหุ่นไล่กาที่แสนธรรมดาทั้งหลาย
อย่างไรก็ตาม อีกานั้นแตกต่างออกไป
มันเป็นนกที่ฉลาดมาก และมันสามารถบอกได้ทันทีว่าแฟลนเดอร์สไม่ใช่มนุษย์ในทันที
อย่างไรก็ตาม สำหรับแฟลนเดอร์สแล้วสิ่งนี้ช่วยอำนวยความสะดวกให้เขามากขึ้นเท่านั้น
ในขณะที่เขากังวลว่าจะไม่มีเหยื่อมาหาเขา แต่อีกาก็ได้เข้ามาหาเขาด้วยความสมัครใจแทน
…
ในขณะนี้ อีกาได้ยืนอยู่บนไหล่ของแฟลนเดอร์ส มันกำลังหวีขนของมันด้วยจะงอยปากอันแหลมคม
แต่ในวินาทีถัดมา หุ่นไล่กาที่อยู่ข้าง ๆ ก็เผยรอยยิ้มแปลก ๆ ออกมา
อีการู้สึกตกใจ แต่ในขณะที่มันกำลังจะบินหนีไป มันรู้สึกว่าตัวมันนั้นขยับไม่ได้
[ ค่าความหวาดกลัว + 10 ]
“ความหวาดกลัว!”
หลังจากที่ใช้ทักษะนี้ ฉากที่น่าสะพรึงกลัวก็ปรากฏขึ้นในจิตใจของอีกาทันที
มันเห็นตาข่ายขนาดใหญ่ได้ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า ซึ่งมีขนาดใหญ่เพียงพอที่จะบดบังท้องฟ้าและบังดวงอาทิตย์
ในขณะเดียวกัน มันได้ถูกล้อมรอบไปด้วยตาข่ายขนาดใหญ่จำนวนนับไม่ถ้วน
ในวินาทีต่อมา เปลวเพลิงก็ได้ปรากฏขึ้นในตาข่าย
อีกาจำนวนนับไม่ถ้วนได้คร่ำครวญออกมาด้วยความเจ็บปวดขณะพวกมันติดอยู่ในตาข่าย แต่พวกมันก็ไม่สามารถหนีหายนะครั้งนี้ได้
[ ค่าความหวาดกลัว + 20 ]
แฟลนเดอร์สยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจเมื่อเห็นว่าค่าความหวาดกลัวของเขาได้เพิ่มขึ้นมา
สองวินาทีต่อมา อีกาได้ฟื้นคืนสติ แต่มันไม่กล้าที่จะอยู่ที่นี่อีกต่อไป
แม้แต่นกก็ยังสังเกตได้ว่าหุ่นไล่กาตัวนี้แปลกมาก!
แฟลนเดอร์สทำได้แค่ปล่อยให้อีกากระพือปีกและจากไปโดยไม่ได้คิดหยุดยั้ง
เหตุผลหนึ่งก็คือทักษะความหวาดกลัวนี้มีข้อจำกัดเช่นกัน
[ ความหวาดกลัว ] สามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียวกับเป้าหมายเดียวกันภายในสิบวินาที
ดังนั้นแม้ว่าแฟลนเดอร์สจะต้องการเก็บอีกาไว้ แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้
อีกเหตุผลหนึ่งก็คืออีกาให้ค่าความหวาดกลัวน้อยเกินไป
“ดูเหมือนว่าฉันจะต้องเก็บเกี่ยวค่าความหวาดกลัวของมนุษย์!”
จินตนาการของมนุษย์ไม่ใช่สิ่งที่อีกาจะสามารถเปรียบเทียบได้
ยิ่งมีจินตนาการมากเท่าใด ความหวาดกลัวก็จะยิ่งรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น
เมื่อพิจารณาจากค่าความหวาดกลัวของเขา ตอนนี้เขาได้มาถึง 30 คะแนนแล้ว
เห็นได้ชัดว่าแฟลนเดอร์สได้ค้นพบปัญหาบางอย่าง
นั่นคือก่อนที่เขาจะใช้ทักษะของเขา แฟลนเดอร์สได้รับค่าความหวาดกลัวมา 10 คะแนน
ดูเหมือนว่าจะเป็นเพราะการที่เขายิ้ม ซึ่งทำให้อีกาหวาดกลัวก่อน
“ดูเหมือนว่าแท้จริงแล้วค่าความหวาดกลัวไม่จำเป็นต้องได้รับจากทักษะเสมอไป”
แฟลนเดอร์สได้รับข้อมูลสำคัญอีกชิ้นหนึ่ง
เขาค่อนข้างพอใจกับการทดลองครั้งนี้
หลังจากนั้น เขาก็เพียงแค่รอให้เหยื่อรายต่อไปมาเคาะประตูบ้านอีกตามเคย
จะดีกว่านี้ถ้าเป็นมนุษย์!
...
ท้องฟ้าค่อย ๆ มืดลงและแสงยามกลางคืนก็ได้ตกลงมา
ชาวนาที่มีกลิ่นแอลกอฮอล์ติดได้ถือขวดเหล้ามอลต์และเดินไปบนทุ่งข้าวสาลีอย่างไม่มั่นคง
“ภรรยาของคนงานเหมืองที่ไม่เคยมองเห็นทะเล”
“ควันและฝุ่นปกคลุมท้องฟ้า”
“แสงจันทร์พร่ามัวและดวงตาของฉันเต็มไปด้วยน้ำตา”
“ถนนในชนบท โปรดพาฉันกลับบ้านที”
ชาวนาขี้เมากำลังฮัมเพลงพื้นบ้านอย่างอารมณ์ดี ขณะที่เขากำลังเดินอยู่บนเส้นทางท่ามกลางทุ่งข้าวสาลี เขาดูพึงพอใจเป็นอย่างมาก
วินาทีถัดมา เขาได้ชนเข้ากับวัตถุบางอย่างที่ค่อนข้างแข็ง
“บัดซบ อะไรกันที่กระแทกฉัน!”
ชาวนาถูใบหน้าของเขาอย่างรีบร้อน ซึ่งหน้าของเขาได้เปลี่ยนเป็นสีแดงเพราะความเมามาย จากนั้นจึงจ้องไปที่ชายผิวดำที่อยู่ข้างหน้าเขา
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเดินเข้ามาใกล้อีกสองสามก้าวเพื่อสังเกตผู้ชายคนนี้ เขาก็ตระหนักได้ว่าจริง ๆ แล้วมันคือหุ่นไล่กา ไม่ใช่คนเหมือนที่เขาคิด
ชาวนาเกาหัวและหัวเราะออกมาอย่างไม่เต็มใจนัก
“สหาย นายดื่มเยอะเกินไปจริง ๆ แม้กระทั่งมีอารมณ์มาร้องเล่นกับหุ่นไล่กา”
ขณะที่เขากำลังจะจากไป เขาก็ได้ยินเสียงบ่นพึมพำดังขึ้นมา
“ใช่ ฉันดื่มเยอะเกินไปแล้ว”
แต่ใครกันที่กำลังพูดอยู่กับเขาในทุ่งข้าวสาลีที่ว่างเปล่าแห่งนี้?
ทันใดนั้นเอง ชาวนาคนนั้นก็ดูตกใจไม่น้อย
[ ค่าความหวาดกลัว + 20 ]