ข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 7 นี่คือปีศาจรึ?
ข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 7 นี่คือปีศาจรึ?
คงหนิงตกใจกับความทรงพลังของไหดำลึกลับ ซึ่งในโลกแห่งความจริงผ่านไปเพียงไม่กี่สิบวินาที
ฉือกุ้ยนักพนันผู้ฟอนเฟะที่ถูกคงหนิงเตะอัดกำแพงจ้องมองไปที่ศพของปีศาจพร้อมกับกรีดร้องอย่างเจ็บปวด
“หลานเอ๋อ! หลานเอ๋อของข้า!”
ฉือกุ้ยซึ่งมีใบหน้าสิ้นหวังและโกรธแค้น กรีดร้องออกมาอย่างน่าสมเพช เขาโกรธมากจนคำรามออกมา แล้วพุ่งเข้าหาคงหนิงอีกครั้งด้วยใบหน้าที่ดุร้าย “เจ้าสุนัขชั่ว! ข้าจะจัดการเจ้า!”
ในตอนนี้ฉือกุ้ยบ้าคลั่งเสียยิ่งกว่าภรรยาปีศาจที่เสียชีวิตไปแล้วเสียอีก
อย่างไรก็ตาม ร่างกายที่แสนจะบอบบาง แขนที่ไม่ต่างไปจากตีนไก่ ไม่แม้แต่จะสัมผัสคงหนิงได้เลย
ขณะที่ชายบ้าคลั่งกรีดร้องพุ่งเข้าใส่ คงหนิงก็กระทืบเขาลงด้วยเท้าเพียงข้างเดียว รองเท้าหุ้มส้นกดเขาที่ศีรษะของฉือกุ้ยพร้อมกับพูดอย่างเย็นชาว่า “หลานเอ๋อหรอ? นี่ใช่หลานเอ๋อของเจ้าหรือเปล่า?”
คงหนิงกำรอบเข้าไปที่กระจุกผมกระเซอะกระเซิงและมันเยิ้มของฉือกุ้ยด้วยมือข้างหนึ่ง แล้วลากนักพนันฟอนเฟะที่กรีดร้องพร้อมกับดิ้นรนอยู่ตลอดเวลาไปยังแอ่งเลือด กดใบหน้าของฉือกุ้ยลงข้างๆ ซากศพของปีศาจ
เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า “นี่คือหลานเอ๋อของเจ้าหรือ? ปีศาจตัวนี้น่ะหรือ?”
“มันดูดเลือดเนื้อของเจ้าทุกวี่วัน! ด้วยร่างกายในปัจจุบันของเจ้า อีกไม่กี่วันมันคงดูดเลือดเนื้อเจ้าจนตาย!”
“ยังเป็นหลานเอ๋อของเจ้าอยู่อีกหรือ? เจ้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไอ้ปีศาจนี่มันกำลังทำร้ายเจ้าอยู่!”
คงหนิงตะโกนด้วยความโกรธจัด ฉือกุ้ยที่บ้าคลั่งอยู่นั้นกลายเป็นหวาดกลัวโดยสมบูรณ์
“ไม่......หลานเอ๋อ......หลานเอ๋อของข้า......มันไม่จริง........ไม่ใช่เรื่องจริง......”
ฉือกุ้ยนอนอยู่บนพื้น ส่ายหัวด้วยความสิ้นหวัง ร้องไห้ริมฝีปากสั่นเทา น้ำตาไหลหยดลงมาที่พื้น
คงหนิงปล่อยตัวนักพนันชั้นเลวคนนี้ที่กำลังกลายเป็นบ้า ทิ้งเขาไว้ตามลำพัง
เพราะเขาพบว่ามีก้อนทรงกลมสีฟ้าสองลูกอยู่ภายในตันเถียนของเขา ลูกบอลสีฟ้าใสสองลูกนี้เป็นของรางวัลจากไหสีดำลึกลับหลังจากกลั่นปีศาจเรียบร้อยแล้ว
คงหนิงมัวแต่ตกใจกับพลังปีศาจที่เพิ่มพูนขึ้นในร่าง ในตอนนี้จึงเพิ่งสังเกตเห็นลูกบอลสีฟ้าสองลูกที่ดูไม่โดดเด่นเท่าไหร่นัก
หลังจากจมดิ่งอยู่ภายในจิตใจสักครู่ คงหนิงก็เข้าใจหน้าที่ของลูกบอลสีฟ้าทั้งสองลูกนี้
นี่เป็นของรางวัลที่ได้มาจากการกลั่นปีศาจจริงๆ มันเป็นพลังพิเศษเหนือธรรมชาติที่ติดตัวปีศาจตนนั้นมาตั้งแต่เกิด
ตอนนี้มันถูกกลั่นเป็นเม็ดโอสถเรียบร้อยแล้ว เพียงแค่คงหนิงคิด ลูกบอลสีฟ้าทั้งสองลูกก็สลายเข้าไปในร่างกายของเขา และกลายเป็นไอพลังเย็นๆ ไหลเข้าสู่เส้นชีพจรของคงหนิง
พลังพิเศษเหนือธรรมชาติทั้งสองที่คงหนิงได้รับนั้น ไม่ใช่พลังที่สามารถครอบครองได้โดยมนุษย์
พลังพิเศษชนิดแรกเรียกว่า เคล็ดเข้าสู่ความฝัน เป็นพลังพิเศษที่สามารถแอบเข้าไปในความฝันของผู้อื่นได้
พลังพิเศษอย่างที่สองมีชื่อว่า ดอกไม้ในกระจกพระจันทร์บนผิวน้ำ[1] ถ้ากล่าวให้ง่ายเข้า มันคือศาสตร์แห่งการสะกดจิต สามารถสร้างภาพลวงตาทำให้ผู้คนสับสนได้
ดูเหมือนว่าพลังพิเศษเหนือธรรมชาติทั้งสองนี้ดูจะธรรมดามาก ท้ายที่สุดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นความฝันหรือภาพมายา มันเป็นสิ่งปกติมากในนิทานพื้นบ้านต่างๆ แม้แต่วิญญาณธรรมดาๆ ยังสามารถเข้าฝันญาติของตนเองได้
แต่คงหนิงรู้ว่าพลังพิเศษเหนือธรรมชาติทั้งสองที่เขาได้รับมานั้นแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากเคล็ดเข้าฝันและภาพลวงตาทั่วๆ ไป
เพราะปีศาจที่เขาสังหารนั้นเป็นปีศาจแปลกๆ ที่มีชื่อว่า สมเสร็จห้วงฝัน
ปีศาจชนิดนี้มีร่างกายที่อ่อนแอ แต่มันเป็นปรมาจารย์ด้านพลังมายาโดยธรรมชาติ ทักษะการเข้าฝันและพลังลวงตาที่พวกมันมีนั้นแข็งแกร่งมาก
คงหนิงไม่เพียงแต่จะเข้าฝันได้เท่านั้น ยังฆ่าสังหารในความฝันได้ด้วยซ้ำ!
คงหนิงยืนอยู่ภายในห้องที่มืดมิด ตกอยู่ในความงุนงง ค่อยๆ พลิกหมุนดูเศษเสี้ยวความทรงจำของสมเสร็จห้วงฝันอย่างต่อเนื่อง
ในตอนที่ไหดำลึกลับกลั่นปีศาจให้กลายเป็นพลังงานและไหลบ่าเข้าสู่ร่างของคงหนิง คงหนิงก็ได้รับความทรงจำบางส่วนของปีศาจมาด้วยเช่นกัน
เมื่อมองผ่านชิ้นส่วนความทรงจำที่กระจัดกระจายเหล่านี้ คงหนิงก็รู้ที่มาของปีศาจตนนี้
นี่คือสมเสร็จห้วงฝันที่เกิดขึ้นในความฝันของมนุษย์ หรือที่เรียกว่าปีศาจกินวิญญาณ มันจะซ่อนตัวอยู่ในความฝันของมนุษย์ ใช้ชีวิตโดยการกินเศษเสี้ยววิญญาณที่กระจัดกระจายตอนที่มนุษย์หลับ ร่างกายมันอ่อนแอ แต่พลังพิเศษเหนือธรรมนั้นทรงพลัง
และพี่สาวของปีศาจกินฝันตนนี้ เป็นปีศาจไร้ตัวตนที่รู้จักกันในนาม วิญญาณฝันร้าย
ปีศาจตัวน้อยๆ สองตัวนี้ดูเหมือนจะอ่อนแอและไม่กล้ารุกรานปีศาจที่แสนน่ากลัวภายในเมือง ดังนั้นพวกมันจึงรวมกลุ่มกันเพื่อสร้างเสริมขุมกำลัง ซ่อนตัวอยู่ในความมืดเพื่อกัดกินผู้คน
ในเศษเสี้ยวความทรงจำของปีศาจกินวิญญาณ วิญญาณฝันร้ายตนนั้นก็ดูเหมือนจะมีความสามารถในการเข้าสู่ความฝัน แม้ว่าจะไม่ทรงพลังเท่าปีศาจกินวิญญาณก็ตาม แต่เมื่อเทียบกับร่างกายที่อ่อนแอของสมเสร็จห้วงฝัน ร่างกายของวิญญาณฝันร้ายนั้นแข็งแกร่งและป่าเถื่อนมาก ถ้าเป็นคงหนิงก่อนหน้านี้เข้าสู้กันตัวต่อตัว เกรงว่าเขาคงจะถูกฆ่าตายภายในไม่กี่อึดใจ......
คงหนิงพลิกดูเศษเสี้ยวความทรงจำของปีศาจกินฝัน ใบหน้าของเขามืดครึ้มอย่างยิ่ง
และตรงกันข้ามกับฉือหยงที่รู้สึกประหม่าอย่างยิ่ง คงหนิงไม่พูดอะไร เขาก็ไม่กล้าจะรบกวนเช่นกัน
ผ่านไปครู่หนึ่ง คงหนิงก็ถอนหายใจยาว ปาดเลือดบนมีดสั้นแล้วใส่กลับเข้าไปในฝัก ก่อนจะพูดขึ้นว่า “หาเกวียนมา แล้วนำร่างปีศาจตนนี้ไปที่ศาลาว่าการ”
คงหนิงออกคำสั่งกับฉือหยงที่นั่งนิ่งอยู่บนพื้นห้อง
การสังหารปีศาจภายในเขตเมือง นับเป็นเรื่องใหญ่ เป็นไปไม่ได้ที่เลยที่จะปิดข่าว หากมีคงหนิงคนเดียวในที่เกิดเหตุ เขาสามารถเลือกทำลายศพอย่างเงียบๆ ได้
แต่ตอนนี้คงหนิงไม่ได้อยู่คนเดียว......ต่อให้เขาไม่ได้อยากพูด แต่จากที่ได้พูดคุยกับฉือหยงก่อนหน้านี้ ก็ดูจะไม่ใช่คนปากแข็ง
ถ้าตาเฒ่าในที่ว่าการเขตรู้ว่าคงหนิงได้สังหารปีศาจไปอย่างเงียบๆ และบังคับทุกคนให้เก็บเรื่องเงียบเรื่องนี้......ก็ไม่รู้ว่าตาเฒ่าคนนั้นจะเข้าใจเรื่องราวเกี่ยวกับวิญญาณร้ายนี้ไปว่าอย่างไร คงหนิงทำได้เพียงส่งร่างปีศาจตนนี้ไปที่ศาลาว่าการก่อน แล้วค่อยส่งไปให้ตาเฒ่าในที่ว่าการเขตหาวิธีจัดการกับมันอีกที
ไม่นาน ฉือหยงก็พาจ้าวซานเหนียง ภรรยาของเขาซึ่งหน้าซีดขาสั่นมาที่ห้อง ทันทีที่จ้าวซานเหนียงเห็นร่างของปีศาจบนเตียง ขาของนางก็สั่นสะท้านยิ่งขึ้นไปอีก
โชคดีที่ฉือหยงได้บอกสถานการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้ว ทำให้หญิงผู้นี้ไม่ได้กลัวจนกรีดร้องออกมา
ทั้งคู่กลัวมาก แต่พวกเขาไม่กล้าฝ่าฝืนคำสั่งของคงหนิง พวกเขาห่อร่างปีศาจกินวิญญาณในห้วงฝันอย่างกล้าหาญด้วยผ้าปูที่นอนเปื้อนเลือดซึ่งอยู่บนเตียง แล้วค่อยๆ นำมันไปโรงสีจานหิน วางมันลงบนเกวียนที่ฉือหยงยืมมา
ในเวลานี้พระอาทิตย์เบื้องนอกกำลังส่องแสงจ้า แสงแดดอันร้อนแรงนี้สาดประกายแผดเผาไปตามถนนตรอกซอกซอยภายในเขตชานหลาน ผู้คนพากันหลบซ่อนตัวอยู่ใต้ร่มไม้ และคลายร้อนอยู่ภายในบ้านของตน ไม่ได้ออกมาเที่ยวเล่นภายนอก
ดังนั้นฉือหยงและภรรยาของเขาจึงสามารถเข็นร่างของปีศาจกินวิญญาณได้โดนไม่ได้ดึงดูดความสนใจของผู้คนมากนัก ท้ายที่สุด ศพก็ถูกห่อด้วยผ้าปูที่นอน ทำให้มองไม่เห็นว่ามีอะไรอยู่ด้านใน
ไม่ต้องพูดถึงคงหนิงที่ขี่ม้าสีเหลืองพุทราอยู่ข้างๆ คอยมองอยู่ตลอด ใครเล่าจะกล้าเข้ามาหาเรื่องตาย?
ภายในศาลาว่าการ เมื่อเห็นศพของปีศาจบนเกวียน ผู้ว่าการเขตก็เบิกตากว้าง แทบไม่อยากจะเชื่อ
“นี่......นี่คือปีศาจงั้นรึ?”
เห็นได้ชัดว่ามันเป็นหมูป่าไร้ขน มีเขี้ยวแหลมและมีจมูกที่ยาวเท่านั้น
ฉือหยงและภรรยาของเขารีบคุกเข่าลงเพื่อรายงานสถานการณ์ ในตอนนี้ฉือหยงไม่กลัวอีกต่อไป หลังจากความกลัวหายไป สิ่งที่เหลืออยู่ก็มีเพียงความตื่นเต้นที่ได้เห็นปีศาจและการสังหารปีศาจกับตาตนเอง
เขาพูดออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นภายในโรงสีจานหิน และยกย่องประสาทสัมผัสอันเฉียบแหลมของคงหนิง โดยกล่าวว่าคงหนิงนั้นมีพลังมากและผ่าปีศาจออกเป็นสองส่วนด้วยการตวัดมีดเพียงครั้งเดียว คำอธิบายที่ทั้งชัดเจนและออกจะเกินจริงไปเล็กน้อยนี้ทำเอาคงหนิงพูดไม่ออก
แต่คนที่ได้ฟังเรื่องราวก็เหมือนจะชอบมาก รับฟังอย่างตั้งใจ ดูตื่นเต้นเป็นที่สุด
ผู้ว่าการเขตนั่งยองๆ อยู่ข้างร่างของปีศาจกินวิญญาณและมองอย่างละเอียดอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็ลุกขึ้นยืน มองที่คงหนิงด้วยใบหน้าจริงจังพร้อมกับกล่าวว่า “คงหนิง เจ้าแน่ใจหรือว่านี่คือปีศาจจริงๆ?”
คงหนิงโค้งคำนับ “เรียนใต้เท้า ในตอนที่ข้าได้เห็นสิ่งนี้ เดิมทีมันเป็นแค่นกกระจอกขนาดเท่าฝ่ามือ แต่ขนหางของมันเป็นสีม่วงอ่อนๆ”
“หลังจากที่ข้าเห็นมัน สิ่งนี้ก็กลายร่างเป็นรูปลักษณ์เฉกเช่นปัจจุบันและต้องการจะวิ่งหนีไป แต่ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ข้าจึงฟันมันจนตาย ไม่ทราบจริงๆ ว่าเป็นปีศาจหรือไม่”
“แต่มันใช้มนตร์บางอย่างที่ทำให้ฉือกุ้ย น้องชายของฉือหยงสับสน ทุกวันนี้ฉือกุ้ยอยู่แต่ในบ้านไม่ยอมออกไปไหน เขาผอมแห้งและอ่อนแรงราวกับถูกสูบเลือดเนื้อไป”
“หลังจากข้าสังหารสิ่งนี้ ฉือกุ้ยก็ยังเอาแต่เรียกหาหลานเอ๋อ......กล่าวว่านี่คือหลานเอ๋อของเขา......บางทีฉือกุ้ยอาจจะรู้สถานการณ์ดีกว่าข้า”
คงหนิงไม่ได้เล่ารายละเอียดทุกอย่าง แต่ก็รายงานทุกอย่างตามความเป็นจริง
ผู้ว่าการเขตรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “โอ้? เช่นนั้นรึ? แล้วตอนนี้ฉือกุ้ยอยู่ที่ไหน?”
“เรียนใต้เท้า ฉือกุ้ยอยู่ที่นอกประตูแล้ว”
“งั้นปล่อยให้เขาเข้ามา ข้าอยากจะถามสถานการณ์”
หลังจากที่ส่งผ่านคำสั่งของผู้ว่าการเขตออกไป ในไม่ช้าฉือกุ้ยก็ถูกนำตัวเข้ามา
ผอมแห้ง หน้าตอบ ซีดเซียว ดวงตาแดงก่ำ ทุกคนที่เห็นฉือกุ้ยในสภาพเช่นนี้ก็ประหลาดใจเล็กน้อย
ฉือกุ้ย นักพนันเลวทรามผู้นี้โดนนำตัวเข้ามาที่นี่หลายครั้งแล้ว และผู้คนในที่ว่าการเขตก็รู้จักเขาเป็นอย่างดี แม้แต่ผู้ว่าการเขตที่ไม่ได้มีท่าทีสนใจสิ่งใดมากนักก็ยังจำนักพนันคนนี้ได้
บัดนี้ได้เห็นสภาพร่างกายที่คล้ายกับซากศพเช่นนี้ หัวใจของทุกคนก็แข็งค้างไป เรื่องปีศาจที่พูดคุยกันเมื่อครู่กลายเป็นน่าเชื่อถือมากขึ้นทันที
ทันทีที่ฉือกุ้ยคุกเข่าลง เขาก็เริ่มร้องไห้และพูดว่า “ใต้เท้า! หลานเอ๋อของข้า......หลานเอ๋อของข้า......”
ผู้ว่าการเขตขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “หลานเอ๋ออะไร? กล่าวให้ข้าฟังให้มันชัดเจน!”
จากนั้นฉือกุ้ยก็ค่อยๆ เริ่มพูดออกมาพร้อมกับน้ำหูน้ำตาที่ไหลพราก
อันที่จริง เมื่อดูจากรูปลักษณ์ของนักพนันผู้นี้ เขาก็คงจะรู้ว่าสิ่งที่อยู่ในบ้านของตนเป็นปีศาจ แต่ปีศาจตนนี้คงจะสวมบทบาทเป็นสาวงาม ใช้เวลายามค่ำคืนอันสุขเกษม ดื่มด่ำราคะ พร่ำบอกคำหวานว่าจะรักและใช้ชีวิตร่วมกันไปตลอดชีวิตพร้อมๆ กันกับเขา
ดังนั้นฉือกุ้ยจึงเต็มไปด้วยความสุข
ฉือกุ้ยร้องไห้แล้วตะโกนให้กับความอยุติธรรม “หลานเอ๋อไม่เคยทำร้ายใคร นางแค่อยู่ในบ้านกับข้า และเราไม่ได้ไปไหนทั้งนั้น! แต่ทันทีที่ไอ้สารเลวคงหนิงมาถึงในวันนี้ มันก็สับหลานเอ๋อจนตายโดยไม่ถามอะไรสักคำ!”
“ใต้เท้า ท่านต้องให้ไอ้บัดซบนี่รับผิดชอบ!”
เสียงร้องของฉือกุ้ยทำให้ใบหน้าของฉือหยงซีดเผือด
ชายร่างกำยำรีบตะโกนด่า “ฉือกุ้ย เจ้าพูดบ้าอะไร! มันคือท่านหนิงที่ช่วยเจ้าไว้! ถ้าไม่มีท่านหนิงที่ช่วยเหลือ เจ้าคงโดนดูดพลังหยางไปจนหมดตัว แล้วในที่สุดเจ้าก็คงต้องตาย!”
ฉือหยงกลัวว่าคงหนิงจะเกลียดครอบครัวของเขาเพราะเหตุนี้
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ฉือหยงพูดก็ตรงกับสิ่งที่ทุกๆ คนในที่แห่งนี้คิด
เมื่อเห็นฉือกุ้ยร้องไห้ร้องขอความยุติธรรม พยายามออกตัวปกป้องปีศาจอย่างสุดใจ แม้แต่ผู้ว่าการเขตก็ขมวดคิ้วดูไม่พึงพอใจนัก
“ช่างเป็นคนโง่เขลามิรู้ความจริงๆ ไม่รู้อะไรถูกอะไรควร! พาตัวชายผู้นี้ไป แล้วปล่อยให้เขาสงบสติในห้องขังซะ”
มือปราบที่อยู่ในตำแหน่งเซ่าป้าน[2]ตอบรับกันอย่างพร้อมเพรียง มือปราบสองคนลากนักพนันผอมแห้งออกไปทันที
ต่อจากนั้น ผู้ว่าการเขตก็บอกให้ฉือหยงและภรรยาออกไปได้ จากนั้นเขาก็มองคงหนิงที่อยู่ภายในห้องโถง พูดด้วยรอยยิ้ม “คงหนิง เจ้าทำได้ดีมากในครั้งนี้ ตามคาด เจ้าเป็นมือหนึ่งในเขตชานหลานของเราจริงๆ......ไม่เลวไม่เลว ถึงกับสังหารปีศาจได้ คุ้มค่ากับการลงทุนของเฒ่าชราอย่างข้าโดยแท้”
“แล้วก็ปีศาจตนนี้.......เฒ่าชราผู้นี้ตัดสินใจว่าจะประกาศเรื่องนี้ออกไป และส่งร่างปีศาจไปที่เมืองเหอเจียน ให้ใต้เท้าขั้นฝู่ไถ[3]จัดการ เหล่าจาง เตรียมตัวให้พร้อม พรุ่งนี้จงพาศพปีศาจและฉือกุ้ยไปที่เมืองเหอเจี้ยนและรายงานสถานการณ์กับใต้เท้าฝู่ไถ”
“สำหรับการขาดงานของเจ้า คงหนิงจะรับผิดชอบกิจการงานด่วนทุกอย่างให้ชั่วคราว”
ผู้ว่าการเขตได้ออกคำสั่ง จางหรงหัวหน้าหน่วยกิจการสายตรงก็ก้มหัวคำนับทันที คนที่เหลือมองคงหนิงด้วยความอิจฉา เพียงแต่ว่ายังอยู่ต่อหน้าผู้ว่าการเขต ไม่ค่อยสะดวกที่จะแสดงความยินดี
ด้วยท่าทีของผู้ว่าการเขต เป็นที่ชัดแจ้งแล้วว่าเขามุ่งมั่นที่จะช่วยให้คงหนิงเข้ารับตำแหน่ง อาจจะเป็นไปได้ว่า เมื่อจางหรงกลับมาจากเมืองเหอเจียน เขาอาจจะถูกย้ายตำแหน่งไปที่อื่นและสละตำแหน่งหัวหน้าหน่วยกิจการสายตรง[4]
กลายเป็นหัวหน้ามือปราบตั้งแต่อายุยังน้อย......นี่ไม่ใช่แค่อนาคตที่สดใส แต่เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จไม่น้อยทีเดียว
คงหนิงเงียบไปเล็กน้อย
ผู้ว่าการเขตคนนี้ต้องการจะเผยแพร่เรื่องนี้ออกไปจริงๆ หรือ?
กลัวว่าวิญญาณฝันร้ายจะไม่รู้ว่าศัตรูอยู่ที่ไหน จะหาทางแก้แค้นไม่เจอหรืออย่างไร!
---------------------------
[1] ดอกไม้ในกระจก พระจันทร์บนผิวน้ำ เป็นสำนวนจีน เดิมหมายถึง แนวคิดทางศิลป์ที่หลากหลายและยากจะเข้าใจในบทกวี ภายหลังใช้สื่อถึงภาพลวงตา
[2] เซ่าป้าน มือปราบที่มีตำแหน่งคอยยืนควบคุมคดีภายในศาลาว่าการ
[3] ฝู่ไถ เป็นตำแหน่งขุนนางท้องถิ่น มักจะใช้กับระดับประมาณผู้ว่าราชการจังหวัด ดำเนินงานในด้านการทหารและพลเรือน
[4] มือปราบหน่วยกิจการสายตรง เป็นสมาชิกหลักของกลุ่มงานภายในศาลาว่าการ ดำเนินงานด้านพิจารณาคดี การยื่นฟ้อง การจับกุม การโอนถ่ายตัวผู้ต้องสงสัย และคุ้มกันการไต่สวน ส่วนงานธุรการก็มีบ้าง เช่น การเลือกตั้ง งานไกล่เกลี่ย ทำรายงาน การเก็บภาษี เก็บอาหาร