ข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 4 โรงสีจานหิน
ข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 4 โรงสีจานหิน
การได้พบเพื่อนเก่าในต่างแดน เป็นหนึ่งในสามความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต
แต่เวลานี้คงหนิงไม่มีความสุขเลย
เพราะสิ่งที่เขาได้พบคือศัตรู......
เมื่อมองไปที่ไหดินเผาที่ลอยอยู่ในตันเถียนของเขา ปฏิกิริยาแรกของคงหนิงคือต้องการทุบสิ่งนี้
แต่แล้ว เขาก็ตระหนักว่ามีบางสิ่งผิดปกติ
ไหสีดำนี้เชื่อมโยงเข้ากับคงหนิงอยู่ก่อนแล้ว หลังจากที่คงหนิงสัมผัสถึงมันได้ เขาก็รู้จุดประสงค์ของสิ่งนี้ขึ้นมาเสียอย่างนั้น
สูบกลืนและขัดเกลา......
ไหดินเผาสีดำนี้สามารถกลืนกินและขัดเกลาจิตวิญญาณให้กลายมาเป็นพลังวิญญาณภายในร่าง จากนั้นจึงป้อนที่เหลือกลับสู่อากาศ
และวิธีที่มันใช้กลืนกินก็ง่ายมาก ตราบใดที่คงหนิงสังหารเป้าหมายได้ ก็สามารถกลืนกินได้
หลังจากได้รับรู้เรื่องนี้ ท่าทีของคงหนิงก็ตกใจเล็กน้อย
ไหดินเผานี้......เป็นของพรรคอธรรมหรืออย่างไร?
ตอนนั้นเขาถูกสังหารด้วยสิ่งชั่วร้ายหรือไม่?
อย่างไรก็ตาม มันดูดกลืนสิ่งมีชีวิตอื่นๆ มาหล่อเลี้ยงคงหนิง...... วัตถุชั่วร้ายนี้ แต่เดิมกระแทกคงหนิงจนตาย แต่ตอนนี้คงหนิงได้เห็นแสงริบหรี่ในชีวิตของเขาแล้ว
ในฐานะที่เป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่ง เขาไม่สามารถต่อสู้กับปีศาจที่อยู่ในบ้านได้จริงๆ
แต่ถ้าสามารถพึ่งพาไหประหลาดภายในจุดตันเถียนนี้ได้ สถานการณ์ก็อาจจะต่างออกไป
ภายในร่างกายที่มีพลังงานจิตวิญญาณ......นี่คือของภูตผีปีศาจหรือ? หรือหมายถึงของผู้ฝึกยุทธ?
คงหนิงยืนอยู่ใต้ต้นไม้ พูดอะไรไม่ออก ในเมืองเล็กๆ ภายในเขตชานหลานแห่งนี้จะไปหาสิ่งมีชีวิตที่มีพลังวิญญาณได้ที่ไหน?
แม้ว่านอกจากจะกลืนกินและขัดเกลาแล้ว ไหใบนี้ยังสามารถค้นหาเป้าหมายได้ เพียงเติมพลังปราณเข้าไปในไห ก็สามารถค้นหาเป้าหมายที่อ่อนแอกว่าในบริเวณใกล้เคียง
แต่คงหนิงสงสัยว่ามันจะมีปีศาจอยู่ในบริเวณนี้หรือไม่
หลังจากที่สูดลมหายใจเข้าเต็มที่ เขาก็ถ่ายเทพลังปราณทั้งหมดลงไปในตันเถียน แพร่เข้าไปในไหสีดำ ในไม่ช้าไอพลังที่ไร้ตัวตนและไม่สามารถมองเห็นได้ก็กระจายออกไปทุกทิศทางโดยมีคงหนิงเป็นจุดศูนย์กลาง
สิ่งต่างๆ ในวิสัยทัศน์ของคงหนิงก็เปลี่ยนไปเช่นกัน
เมืองเล็กๆ ที่อยู่ท่ามกลางแสงแดดอันร้อนแรง ดูเหมือนจะปกคลุมไปด้วยหมอกสีฟ้าจางๆ เมื่อมองไปรอบๆ ทั่วทั้งเขตก็อบอวลไปด้วยควันสีน้ำเงินแปลกประหลาด
เมื่อคงหนิงเห็นสถานการณ์เช่นนี้ ลูกตาของเขาก็หดตัวลงเล็กน้อย
เพราะหมอกสีฟ้าที่ลอยอยู่ในเขตเมืองนั้นสื่อถึงปราณอสูรของเหล่าปีศาจ!
ในเขตชานหลานเล็กๆ แห่งนี้ กลับมีปราณอสูรอยู่ทั่วทุกแห่งหน? เป็นไปได้อย่างไร!
เป็นไปได้ไหมว่าปีศาจในเขตเมืองนี้ไม่ได้มีแค่ปีศาจแมงป่องอย่างซูหยานเท่านั้น? แต่กลับมีปีศาจอยู่ทั่วทุกที่?
ฮง!
คงหนิงตะลึงงัน ภายในใจสั่นสะท้านรุนแรง ถูกบังคับออกจากสถานการณ์อันแปลกประหลาดและลึกลับนั้น
---ไหสีดำได้พบเป้าหมายแล้ว!
ท่าทีของคงหนิงตกตะลึงงุนงง สิ่งที่เกิดทั้งในตอนกลางวันและตอนกลางคืนได้พลิกกลับความเข้าใจทั้งหมดในอดีตของเขาไปจนสิ้น
แม้ว่าควันสีน้ำเงินแปลกที่ลอยอยู่ในลานสายตาจะหายไปหมดแล้ว เหลือแต่เขตเมืองที่สว่างจ้าภายใต้แสงอาทิตย์อันร้อนฉ่าดังเดิม แต่ฉากอันน่าสยดสยองที่เห็นในตอนค้นหาเป้าหมายนั้น ก็ทำให้คงหนิงตระหนักถึงอันตรายร้ายแรงในเขตที่ตนอาศัยอยู่
นอกจากปีศาจสาวภายในบ้านของตนเองแล้ว ยังมีปีศาจตนอื่นๆ อยู่ภายในเมือง และจำนวนที่เห็นก็ดูเหมือนจะค่อนข้างมาก แทบจะมีปราณอสูรอยู่ทุกหนทุกแห่งภายในเขตเมือง......
หัวใจของคงหนิงเย็นยะเยือกในทันใด
มีปีศาจจำนวนมากซุ่มซ่อนอยู่ในเขตชานหลานเล็กๆ แห่งนี้ ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมถึงมีการหายตัวไปอย่างลึกลับมากมายทุกปี
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้ไปแล้วเนี่ย!
โลกยุคโบราณที่ดูสงบสุขและเงียบสงบกลับซ่อนอันตรายที่น่าสะพรึงกลัวไว้ขนาดนี้เชียวหรือ?
แล้วเหล่าเทพ องค์ยูไล และเซียนอมตะเล่า? ในเมื่อมีภูตผีปีศาจเหมือนในตำนานเช่นนี้ แล้วเหล่าผู้วิเศษจากสำนักลี้ลับที่น่าจะต้องอยู่คู่กันนั้นหายหัวไปไหนหมด? ทำไมถึงมีปีศาจมากมายที่นี่ราวกับไม่มีใครสนใจเลย......หรือเป็นเพราะว่าเขตชานหลานตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลเกินไปจึงไม่ได้รับการปกป้องจากผู้วิเศษสำนักลี้ลับ เหล่าปีศาจจึงเตร็ดเตร่ยั้วเยี้ยถึงเพียงนี้?
คงหนิงผู้ไม่เคยออกจากเขตชานหลานไปเห็นโลกกว้าง ไม่สามารถเข้าใจสถานการณ์ความเป็นไปบนโลกในตอนนี้ได้
อย่างไรก็ตาม ความจริงเกี่ยวกับเขตชานหลานซึ่งถูกเปิดเผยต่อหน้าต่อตา กลับกลายเป็นเรื่องลึกลับอย่างยิ่ง ทั้งยังอันตรายมากอีกด้วย
โชคดีที่ตอนนี้ตัวเขานั้น ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสต่อต้าน......
คงหนิงสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดพร้อมกับลุกขึ้น เดินไปที่ม้าสีเหลืองพุทราตัวผอม ดึงบังเหียนแล้วขึ้นไปนั่งบนม้า จากนั้นเขาจึงขี่ม้าสีเหลืองเคลื่อนตัวออกจากริมฝั่งแม่น้ำโดยมีมีดสั้นโบราณคาดเอวเอาไว้
ในลานสายตาของคงหนิงเวลานี้ มีกลุ่มควันสีขาวจางๆ ปรากฏขึ้น ควันสีขาวที่เหมือนกับลำแสงนี้แผ่ขยายไปตามสถานที่ภายในเขตเมือง นำทางไปยังเป้าหมายของคงหนิง
หลังจากที่เขาใช้ความสามารถด้านการค้นหาเป้าหมายของไหสีดำ เขาก็ค้นพบเป้าหมายที่เหมาะสม......แม้ว่าควันสีขาวจะนำทางไปสู่จุดหมาย แต่คงหนิงก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นปีศาจประเภทไหน
แต่ในเวลานี้ คงหนิงเหมือนจะไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากจะต้องลองไปดู
คงหนิงนั่งคร่อมม้าสีเหลืองพุทราตัวผอม หันหน้าสู้แสงแดดแผดเผาจากดวงอาทิตย์ เดินไปตามถนนตรอกซอกซอยภายในเขตเมือง ยิ่งมุ่งหน้าไปไกลเท่าไหร่ ถนนหนทางก็ดูยิ่งห่างไกลออกไปและดูร่มรื่นมากเท่านั้น
ในที่สุดก็มาถึงโรงสีจานหินแห่งหนึ่งทางทิศเหนือ
ควันสีขาวจางหายไปเมื่อมาถึงโรงสีจานหินแห่งเล็กๆ แห่งนี้
เมื่อคงหนิงเห็นดังนี้ ก็หยุดม้าและไม่ได้รีบร้อนเข้าไป
โรงสีจานหินแห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำว่างเจียง ทางตอนเหนือของเขตชานหลาน เป็นโรงสีแรงดันน้ำที่เล็กที่สุดในเมือง พนักงานก็มีกันอยู่สามคน เป็นครอบครัวเดียวกัน ประกอบด้วย เจ้าของโรงสีคือฉือหยง ภรรยา และมีน้องชายของฉือหยง ชื่อว่าฉือกุ้ย
เดิมทีเคยมีน้องสาวอีกคนหนึ่งภายในครอบครัวนี้ แต่หญิงสาวได้หายตัวไปเมื่อหลายปีก่อน
มีการหายตัวไปในเขตชานหลานทุกปี แต่ถ้าสมาชิกในครอบครัวไม่มาร้องทุกรายงานคดีที่ศาลาว่าการ เหล่าข้าราชการที่ศาลาว่าการก็เกียจคร้านเกินกว่าจะเข้าไปยุ่ง เว้นแต่งานนั้นจะได้ผลกำไร
คงหนิงไม่ได้คิดถึงการหายตัวไปของน้องสาวของฉือหยงมาก่อน แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะเกี่ยวข้องกับปีศาจ?
คงหนิงที่อยู่บนม้าสีเหลืองพุทราเฝ้าดูโรงสีจานหินอย่างเงียบๆ ท่ามกลางแสงแดดแผดเผา
หลังจากมาถึงที่นี่ ควันสีขาวที่เป็นตัวนำทางของคงหนิงก็หายไป แต่ตอนนี้โรงสีจานหินแห่งนี้ก็ถูกจับตำแหน่งไว้แล้ว คงหนิงจึงไม่รีบร้อนเข้าไป
ในเวลานี้ก็ใกล้เที่ยงแล้ว แดดร้อนแผดเผา ผู้คนต่างหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านเพื่อบรรเทาความร้อน บริเวณรอบโรงสีจานหินกลายเป็นว่างโล่งเงียบสงบ ไม่มีผู้คนออกมาเดินให้เห็นบนถนนแคบๆ เส้นนี้เลย
ในยุคที่ไม่มีเทคโนโลยี ไม่มีไฟฟ้า โรงสีถือเป็นแหล่งทำมาหากินสำคัญ คนทั้งเมืองต้องพึ่งโรงสีเพื่อดำรงชีวิต
แม้แต่โรงสีจานหินที่เล็กที่สุดในเมือง สำหรับช่วงที่คนเยอะที่สุดก็ยังมีคนมาเข้าแถวรอกันเป็นวันๆ
แต่ตอนนี้ไม่ใช่ช่วงที่คนเยอะที่สุด นอกโรงสีจานหินพลันว่างเปล่าร้างผู้คน ไม่เห็นใครแม้แต่คนเดียว มีเพียงกังหันน้ำขนาดใหญ่ที่หมุนอย่างช้าๆ ไปตามกระแสน้ำ
คงหนิงนิ่งเงียบ กำลังคิดว่าจะทำอะไรต่อไปดี ในขณะนั้นเอง เสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นด้านหลังของเขา ชายวัยกลางคนเปลือยท่อนบน ใบหน้ามีหนวดเคราเป็นตอๆ เดินเลี้ยวออกมาจากตรอกข้างหนึ่ง ถือถุงข้าวสารใบเล็กๆ เอาไว้ในมือ
บังเอิญว่าเขาคือฉือหยง เจ้าของโรงสีจานหินแห่งนี้
เมื่อเห็นคงหนิงนั่งอยู่บนม้าสีเหลืองพุทรา ฉือหยงก็ตกตะลึงไปชั่วครู่ แล้วส่งยิ้มออกมา “ท่านหนิง ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ลมอะไรหอบท่านมาถึงที่นี่เล่า?”
คงหนิงที่อยู่ในเขตชานหลานทั้งยังสวมใส่ชุดเต็มยศ ไม่มีใครกล้าดูหมิ่นเด็ดขาด ชุดนี้เป็นสัญลักษณ์ของสิทธิพิเศษ ไม่ต้องกล่าวถึงคงหนิงผู้ที่ติดยศมาตั้งแต่อายุยังน้อย เป็นที่โปรดปรานจากผู้ว่าการเขตไม่น้อย
ดังนั้นฉือหยงจึงแสดงความมีความกระตือรือร้นในการให้ความร่วมมืออย่างมาก
ซึ่งนี่ก็ดูจะเป็นเรื่องที่ปกติมาก
หัวใจของคงหนิงกระตุกวูบเล็กน้อย
ทันทีที่เขามาถึง จู่ๆ ฉือหยงก็ปรากฏตัวขึ้น......ฉือหยงเป็นปีศาจที่ซ่อนตัวอยู่ในโรงสีหรือเปล่า?