ตอนที่ 1161-1162 ค้นพบบางสิ่งที่ไม่อาจคาดคิด
“ตอนนี้ก็สบายใจขึ้นได้หรือยัง”
เฉียวเมียนเมียนยังคงดูเป็นกังวล เธอเหลือบขึ้นมองเขา “ไม่โกรธจริง ๆ ใช่ไหมคะ?”
“ผมไม่ได้โกรธจริง ๆ”
เหมาเยซื่อลูบศีรษะของเธอและพูดเบา ๆ ว่า “ผมดูเป็นคนใจแคบในสายตาคุณอย่างงั้นเหรอ? ถ้าผมบอกว่าไม่โกรธก็คือไม่โกรธจริง ๆ”
เฉียวเมียนเมียนพูดไม่ออก
เธออยากจะบอกว่าเขานะใจแคบสุด ๆ
เขาเป็นคนขึ้หึง
เขายังหึงแม้กับเจียงหลัวลี่ เธอจะไม่กังวลว่าเขาจะโกรธได้อย่างไรกัน?
นี่ซูเจ๋อคืออดีตคู่หมั้นของเธอเลยนะ!
..
เหมาเยซื่อยุ่งตลอดทั้งวัน
ระหว่างทำงานเขายุ่งตั้งแต่เช้าจรดค่ำ
เฉียวเมียนเมียนติดตามเขามาที่บริษัทเหมาอยู่หลายครั้ง ก่อนจะตระหนักได้ว่าแม้เขาจะเป็นเจ้านาย แต่งานของเขาไม่ได้ง่ายเลย
เขายุ่งยิ่งกว่าพนักงานระดับล่างเสียอีก
เมื่อเปิดเข้าสู่โหมดทำงาน เขาเป็นเหมือนลูกข่าง ที่หมุนอยู่ตลอดเวลา
เธอไม่รู้ว่าเหมาเยซื่อลดภาระงานของเขาลงได้อย่างไร หลังจากที่แต่งงานกับเธอ
เขาแทบไม่ได้ทำงานล่วงเวลาอีกเลย และเขามีวันหยุดงาน
ก่อนแต่งงาน เขาทำงานล่วงเวลาเกือบทุกวัน วันหยุดสุดสัปดาห์เขาก็ขลุกอยู่ในที่ทำงาน
หลังจากกลับมาที่บริษัท ต่างฝ่ายต่างแยกกันทำงานของตัวเอง ไม่รบกวนกันและกัน บางครั้งจะมีบ้างที่เงยหน้าขึ้นมาแลกเปลี่ยนสายตาซึ่งกันและกัน
เฉียวเมียนเมียนคุ้นคิดกับปฏิสัมพันธ์ดังกล่าว
เธอยังชอบวิธีที่พวกเขาโต้ตอบกัน
ในขณะที่เหมาเยซื่อกำลังทำงาน เธอก็ไม่ได้อยู่เฉย ๆ เช่นกัน เธอหยิบสคริปต์ออกมาอ่าน
พูดถึงเรื่องนี้ ละครเรื่องนี้เพิ่งถ่ายทำไปได้ไม่นาน แต่กลับมีเหตุการณ์พลิกผันมากมาย
อย่างแรกคือนางเอก ตอนนี้เป็นตัวละครพระเอก
หลังจากถ่ายทำไปได้สักพัก พวกเขาก็ต้องถ่ายทำฉากใหม่ซ้ำทั้งหมด
เธอสงสัยว่าใครกันจะเป็นนักแสดงนำชายคนใหม่ของไป่ซู่
ในชั่วพริบตา เกือบจะถึงเวลาที่เลิกงานของเหมาเยซื่อแล้ว เหมาเยซื่อเคลียร์งานให้แล้วเสร็จก่อนเลิกงานและกำลังคุยกับเฉียวเมียนเมียนเรื่องอาหารค่ำ
พวกเขาเพิ่งคุยกันไปได้ไม่นาน เหมาเยซื่อปิดคอมพิวเตอร์และกำลังจะจากไป โทรศัพท์ก็ดังขึ้น
เฉียวเมียนเมียนไม่รู้ว่าใครโทรหาเขา
แต่การแสดงออกของเหมาเยซื่อเปลี่ยนไป หลังจากที่เขารับสาย
สักพักเขาก็วางสาย
เขาหันกลับมามองเฉียวเมียนเมียนอย่างแปลกใจ
เฉียวเมียนเมียนอดไม่ได้ที่จะถาม “เกิดอะไรขึ้น? ใครโทรมาค่ะ?”
เหมาเยซื่อมองดูเธออย่าเงียบ ๆ สักครู่ก่อนที่จะพูดว่า “เรื่องเกี่ยวกับงานน่ะ”
เฉียวเมียนเมียนรู้สึกว่าชายหนุ่มกำลังโกหกเธอ
สายที่โทรมานั้น ไม่เกี่ยวกับงานอย่างแน่นอน
แต่เธอไม่ได้ถามต่อ
“ที่รัก ทำไมเราไม่กลับไปทานข้าวเย็นที่บ้านล่ะ? ชวนเฉินเฉินไปด้วย คุณก็รู้นี่ว่าคุณย่าชอบเขามาก เราเพิ่งกลับมาไม่กี่วัน ท่านก็ส่งข้อความมาขอให้ผมกลับไปบ่อยขึ้น”
เหมาเยซื่อคิดถึงการโทรเมื่อสักครู่ สายตาแปลก ๆ แวบผ่านดวงตาของเขา
ในทีแรก เขาต้องการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างชัดเจนเพื่อผู้อาวุโส จะได้ไม่ปล่อยให้ท่านคิดไปเองอีก
เขาไม่คาดหวังว่าจะพบบางสิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจ
แม้ว่าเขาจะยังไม่แน่ใจ 100% ตามข้อมูลที่เขารวบรวมมาได้ ทว่ามีโอกาสไม่น้อยกว่า 60% เลย
ดังนั้นต้องพาเฉียวเฉินกลับไปและตรวจสอบอีกครั้ง
นี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ
เฉียวเมียนเมียนรู้สึกประหลาดใจ “กลับไปทานข้าวเหรอคะ? ทำไมกะทันหันแบบนี้ล่ะ? คุณย่าขอให้คุณกลับไปเหรอ?”
__
ทั้งสองตกลงถึงร้านอาหารที่จะไปทานกันได้แล้ว
จู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนใจและขอให้กลับไปทานที่บ้าน
เฉียวเมียนเมียนรู้สึกว่าการเปลี่ยนใจอย่างกะทันหันของเขาอาจเกี่ยวข้องกับสายที่โทรเข้ามาก่อนหน้า
ใครกันนะโทรหาเขาและพูดอะไรกับเขากันแน่?
เหมาเยซื่อเงียบไปสักพักก่อนจะพยักหน้า “ใช่ คุณย่าบอกแบบนั้น เฉินเฉินก็ต้องไปด้วย เราไปรับเขาเถอะ”
คืนนั้นคุณผู้หญิงอาวุโสชอบเฉินเฉินมาก
ดังนั้นเมื่อเหมาเยซื่อแนะนำให้พาเฉียวเฉินกลับไปที่บ้านตระกูลเหมา เฉียวเมียนเมียนจึงไม่ได้คิดอะไรมากเกี่ยวกับเรื่องนี้
...
โรงเรียนที่เฉียวเฉินเรียนอยู่ไม่ไกลจากบริษัทเหมานัก
สิบนาทีต่อมาเหมาเยซื่อและเฉียวเมียนเมียนก็มาถึงหน้าประตูโรงเรียน
เฉียวเมียนเมียนโทรหาเฉียวเฉินและรอเขาอยู่ในรถ
หลังจากรอประมาณสิบนาที ร่างสูงและผอมของเฉียวเฉินก็ปรากฏขึ้น
เฉียวเฉินเป็นที่รู้จักของนักเรียนคนอื่น ลักษณะของเขาหล่อเหล่าและสมบูรณ์แบบ ราวกับชายหนุ่มรูปงามที่หลุดมาจากการ์ตูน
เมื่อรวมกับความสูง 1.8 เมตรของเขา เขาถือว่าโดดเด่นท่ามกลางฝูงชน
เฉียวเฉินเดินออกจากโรงเรียนและเห็นเหมาเยซื่อจอดรถอยู่ใต้ต้นไทรไม่ไกลนัก
เฉียวเฉินกำลังเรียนอยู่ในโรงเรียนมัธยมชื่อดังของเมืองหยุนเฉิง
เด็กหลายคนจากครอบครัวที่ร่ำรวยก็มาเรียนที่นี่
เซินโย่วเองก็จบจากโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ด้วย
นั่นคือเหตุผลที่เบนลีย์คอนติเนนตัลของเหมาเยซื่อ ที่ถือว่าเป็นรถรุ่นต่ำสุดในบรรดารถยนต์หรูหราทั้งหมดที่เขามี ไม่ได้รับความสนใจมากนัก
ในทางกลับกัน เฉียวเฉินเป็นคนที่โด่งดังที่สุดในโรงเรียนมาโดยตลอด
ระหว่างทางมีสาว ๆ หลายคนแอบมองมาที่เขา
ขณะที่เขากำลังจะถึงรถ จู่ ๆ ก็มีเด็กสาวคนหนึ่งปรากฏตัวต่อหน้าเขา เธอก้มหน้างุ้มลงในมือถือจดหมายสีชมพู ยื่นให้กับเขา
หญิงสาวไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองเขา ในขณะที่หน้าของเธอแดงก่ำ “นักเรียนเฉียว นี่จดหมายรักที่ฉันเขียนให้นาย หากมีเวลาก็เปิดอ่านหน่อยเถอะนะ”
ด้วยเหตุนี้ เธอจึงยัดจดหมายลงในมือของเฉียวเฉิน ยกมือขึ้นปิดหน้าและวิ่งหนีไป
เฉียวเฉินดูเหมือนจะคุ้นเคยกับเรื่องแบบนี้ เขามองลงไปที่จดหมายรูปหัวใจในมือ และยัดจดหมายนั้นลงในกระเป๋า โดยไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ
ภายในรถ
เหมาเยซื่อและเฉียวเมียนเมียนต่างก็เห็นว่าเฉียวเฉินได้รับจดหมายรัก
เฉียวเมียนเมียนยิ้มและพูดกับเหมาเยซื่อ “ฉันไม่รู้ว่าเฉียวเฉินได้รับจดหมายรักกี่ฉบับแล้ว ตอนที่ฉันยังเรียนอยู่ เขาได้รับจดหมายรักมากมายทุกวัน”
เฉียวเฉินหน้าตาดีมาก
คิดว่าเขาค่อนข้างคล้ายกับเหมาเยซื่อ เฉียวเมียนเมียนพูดติดตลก “ตอนที่คุณเรียน คุณเคยได้รับจดหมายรักมากมายด้วยหรือเปล่าคะ?”
“ไม่” เหมาเยซื่อคิดอยู่ครู่หนึ่งและตอบอย่างตรงไปตรงมา “ผมไม่โด่งดังอย่างเฉินเฉินหรอก มีคนไม่มากที่ส่งจดหมายรักให้ผม”
เฉียวเมียนเมียนไม่เชื่อเขา “มีผู้หญิงไม่มากที่ส่งจดหมายให้คุณเหรอ? เป็นไปได้อย่างไรกัน?”
เธอสามารถจินตนาการได้ว่าเหมาเยซื่อจะต้องเป็นคนที่มีชื่อเสียงในโรงเรียน
มาว ๆ หลายคนแอบชอบเขา
เธอไม่เชื่อว่าเขาไม่เคยได้รับจดหมายรัก
“ผมไม่ได้โกหก” สายตาของเหมาเยซื่อสงบลง “หยางที่สามบอกว่าผมเหมือนราชานรก ผู้หญิงไม่กล้าแม้แต่จะเข้าใกล้ผม ผมเลยไม่รู้สึกว่าการได้รับจดหมายรักมันเป็นยังไง”
เฉียวเมียนเมียนพูดไม่ออก