ตอนที่ 69 ไปสวนสาธารณะเพื่อเปิดภารกิจ
วิลล่าB1 อ่าวอิมพีเรียล หญิงสาวสองสามคนนั่งดื่มน้ำผลไม้คุยกันอยู่และบรรยากาศค่อนข้างกลมกลืนกัน
“พี่ชายกลับมาแล้ว” ในฐานะผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ สวีเหว่ยเหว่ยจึงมีหูและสายตาที่ดีกว่า เมื่อได้ยินเสียงดังเอี๊ยดที่คุ้นเคยของรถสามล้ออยู่นอกประตู สวีเหว่ยเหว่ยก็รีบลุกขึ้นแล้วออกไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อมาถึงประตู ปรากฎว่านั่นคือเย่เทียนจริงๆ
“สวัสดีเหว่ยเหว่ย”
“สวัสดี”
เย่เทียนลงจากรถด้วยรอยยิ้ม เขามองหยางจิ่นลี่ที่อยู่ในฝูงชน “เจอกันอีกแล้วนะ”
“อืม...” หยางจิ่นลี่พยักหน้า
“ไปคุยกันข้างในเถอะ”
เย่เทียนบอกให้พวกเธอเข้าไปในห้อง ในขณะที่คุยกัน เจียงเซิ่งเฟิง ผางเหว่ยและฉินเยี่ยนก็มาถึงทีละคน ผางเหว่ยตะโกนทันทีที่เข้าไปในประตู “ตอนนี้เรากลายเป็นที่ค้นหายอดนิยมอีกแล้วพี่เย่ พี่นี่โหดจริงๆถึงขนาดไปเอาตัวสาวเกิร์ลกรุ๊ปอันดับหนึ่งมาได้”
เย่เทียนจิบแชมเปญแล้วยิ้มโดยไม่พูดอะไรสักคำ
เห็นได้ชัดว่าผางเหว่ยไม่เห็นหยางจิ่นลี่อยู่ที่นี่ด้วย เขาพูดอย่างไม่ใส่ใจ “ทุ่มเงินไป 400 ล้าน?...มันมากเกินไปหรือเปล่า ถึงฉันจะชอบจิ่นลี่มากแต่เธอก็เพิ่งเดบิวต์ได้แค่สองปี แบบนี้มันจะไม่คุ้มกับราคานะ”
เย่เทียนยกมือขึ้นและชี้ไปที่หยางจิ่นลี่ “ระวังคำพูดหน่อยผางเหว่ย นายไม่เห็นหรือไงว่าเธออยู่ที่นี่ด้วย”
ในตอนนั้นเองผางเหว่ยก็ได้รู้ตัวแล้ว เขาถอนใจและตบปากตัวเอง “คุณชุนฮวา...ฉันแค่พูดเล่นน่ะ อย่าไปคิดจริงจังเลย!”
หยางจินลี่ยิ้ม “จริงๆแล้วฉันเองก็อยากถามแบบนั้นเหมือนกัน ฉันมีค่าตัวถึง 400 ล้านเลยหรอ? ทำไมประธานเย่ถึงซื้อตัวฉันในราคาที่สูงแบบนั้น?”
แม้ว่าหยางจิ่นลี่จะอยู่ในวงการบันเทิงอันสกปรกแค่สองปีแต่เธอก็รู้ในหลายๆเรื่อง เป็นไปไม่ได้เลยที่จะบอกว่าไม่ต้องระวังตัวกับเย่เทียน
“อย่าใช้เงินวัดค่าของใคร ทุกคนที่อยู่ล้วนประเมินค่าไม่ได้ แม้แต่คนอ้วนคนนี้” เย่เทียนเอื้อมมือไปตบไหล่ผางเหว่ย นั่นทำให้ผางเหว่ยรู้สึกเขินเล็กน้อย
“การให้เธอมาเซ็นสัญญาเป็นความคิดของเสี่ยวเหยา เธอบอกว่าคุณถูกโรงห่านบังคับให้ทำงานหนัก มีเรื่องแบบนั้นจริงเปล่า?” เย่เทียนพูดด้วยรอยยิ้ม
หยางจิ่นลี่ถอนหายใจ “ฉันเป็นศิลปินที่ออกมาจากรายการวาไรตี้ ความนิยมที่ฉันมีในวันนี้ล้วนมาจากโรงห่าน พวกเขาทุ่มทรัพยากรเพื่อเพิ่มความนิยมของฉัน ดังนั้นฉันจึงต้องทำงานมให้พวกเขาซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่พวกเขาให้งานมากเกินไป ขอบอกตามตรงเลยว่าฉันเหนื่อยจริงๆและมีเวลาพักน้อยมาก...”
“งั้นเธอก็ต้องขอบคุณโรงห่านสินะ”
“อืม...ถ้าฉันไม่โดดเด่นจากเวทีนั้น ฉันคงไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้อีกในอนาคต ฉันหวงแหนอาหารที่พระเจ้ามอบให้ฉัน” หลังจากหยางจิ่นลี่ก็พูดว่า “ฉันขอดูสัญญาหน่อยได้ไหมประธานเย่? วันนี้ฉันขอหยุดหนึ่งวันแล้วเริ่มทำงานพรุ่งนี้ตอนบ่ายได้ไหม?”
เมื่อเห็นว่าหยางก้อยต่อสู้อย่างหนัก เจียงเซิ่งเฟิงจึงยื่นสัญญาให้หยางจิ่นลี่ “นี่เป็นสัญญาที่แก้ไขโดยคุณเย่ ลองเอาไปดูสิ”
หยางจิ่นลี่ถอนหายใจและอ่านมันอย่างรวดเร็ว จาของหยางจิ่นลี่เบิกกว้างและเต็มไปด้วยความสงสัย เธอไม่เคยเห็นสัญญาแบบนี้มาก่อน อัตราเงินส่วนการแบ่งคือ 1:9 เงินทั้งหมดที่ได้จากการร่วมมือได้รับถึงเก้าส่วน
? ? ?
หากคุณไม่พอใจกับงานที่บริษัทจัดให้ คุณสามารถปฏิเสธงานได้
? ? ?
ชั่วโมงการทำงานต่อสัปดาห์ต้องไม่เกินห้าสิบชั่วโมง
? ? ?
นี่...นี่มันเรื่องหลอกลวงอะไร?
สัญญาแบบนี้มีด้วยเหรอ?
ถ้าจะพูดในทางที่แย่หน่อย คนรวยที่มีเมียน้อยยังมีกฎมากกว่านี้อีก
โหยวฉินเสี่ยวเหยา “จิ่นลี่ พี่ชายของฉันเซ็นสัญญากับเธอเพื่อไม่ให้เธอทำเงินให้กับบริษัท เขาทำแบบนี้ก็เพราะอยากให้ฉันมีความสุข”
“เอ่อ...ว่าไงนะ?” หยางจิ่นลี่สับสนขึ้นไปอีก
โหยวฉินเสี่ยวเหยาหัวเราะ “ในไม่ช้าเดี๋ยวเธอก็รู้เอง เธอเหนื่อยมากก็ไปพักก่อนเถอะ ไว้พรุ่งนี้ค่อยมาคุยกัน”
“หาว!”
เย่เทียนหาว “ฉันก็ง่วงเหมือนกัน ขอไปนอนก่อนนะ ไว้พรุ่งนี้เจอกัน”
“เดี๋ยวก่อนพี่เย่”
“ว่าไง”
ผางเหว่ยไปกระซิบกับเย่เทียน “เรื่องที่พี่เย่ให้หยางจิ่นลี่มาเซ็นสัญญาด้วยทำให้พวกนักลงทุนสนใจมาก เราจะทำยังไงต่อไปดี?”
“สนใจแล้วไงล่ะ? ฉันแค่ใช้เงินเพื่อความสนุก พวกนายสามคนไปจัดการกันเองได้เลย ถ้ามีเงินไม่พอแล้วค่อยมาหาฉัน ไม่ต้องมารบกวนฉันด้วยเรื่องไร้สาระพวกนี้อีก” เย่เทียนพูดอย่างเกียจคร้าน
“เข้าใจแล้ว...”
ผางเหว่ยถอนหายใจในใจแล้วมองเย่เทียนที่จากไป
ฉินเยี่ยนเดินมาข้างๆผางเหว่ยข้าง “นายเห็นไหม นั่นเป็นทัศนคติของคนรวย มีความมั่นใจและเย่อหยิ่ง พวกเราคงไม่มีวันตามเขาทันหรอก”
เจียงเซิ่งเฟิงก็มาถึงอีกข้างหนึ่งของผางเหว่ย ในทางกลับกันดวงตาของเขาลุกเป็นไฟ “อย่าว่าแต่ 400 ล้าน เลยต่อให้เป็น 4,000 ล้านก็คงเป็นแค่เงินกินขนมของคุณเย่ เงินและชื่อเสียงที่เราไล่ตามกัน ในสายตาของคุณเย่คงเป็นแค่เครื่องมือที่ทำให้เขามีความสุข”
“ฟึบ...”
ทั้งสามพูดออกมาจากใจ พวกเขากำมือขวาแล้ววางไว้ที่หัวใจ “ขอมอบหัวใจนี้ให้คุณเย่!”
หยางจิ่นลี่ที่อยู่บนระเบียงบนชั้นสองมองทั้งสามคนในลานบ้านที่ทำตัวแปลกๆ เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่รู้ว่าการเซ็นสัญญากับเอ็มเพอร์เรอร์เอ็นเตอร์เทนเม้นท์จะเป็นพรหรือคำสาปกันแน่...
เย่เทียนไม่สนใจสิ่งที่หยางจิ่นลี่คิด
เขาเหนื่อยจากการขายของทั้งวันจนหลับไปทันทีที่หัวแตะหมอน
หลังจากตื่นนอน เขาก็นับเงินจนมือเป็นตะคริว
นี่แหละคือความสมบูรณ์แบบของชีวิต
วันต่อมา
[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้สำเร็จ ได้รับบัตรประสบการณ์ชีวิตมหาเทพx1]
[เวลาในการลงชื่อเข้าใช้อีกครั้งคือ 47 ชั่วโมง 59 นาที 59 วินาที]
ทำไมถึงได้ภาระกิจอีกล่ะ?
เย่เทียนอึ้งอยู่พักหนึ่ง เขาเพิ่งทำภารกิจเสร็จไปเมื่อวันก่อนและวันนี้เขาก็ได้รับภารกิจอีกรอบ
ระบบพยายามจะบอกว่าไม่มีของฟรีในโลกใช่ไหม?
เย่เทียนส่ายหัวไม่ได้คิดอะไรมาก เขาใช้บัตรภารกิจประสบการณ์ชีวิตมหาเทพทันที
[ติ๊ง! ไปให้ถึงสวนสาธารณะก่อน 10 โมงเพื่อเปิดภารกิจ!]
แปรงฟัน ล้างหน้าและทานอาหารเช้า
เมื่อทุกอย่างพร้อม เย่เทียนก็ขับเคอนิกเส็กก์ไปที่สนามกีฬา
เสียงเครื่องยนต์ดังระเบิดและการออกแบบตัวถังที่ตระการตาได้รับความสนใจจากผู้คนมากมายตลอดทาง
“เท่ห์จัง...”
“นายกำลังพูดถึงรถหรือคน?”
“ทั้งสองอย่างนั้นแหละ ถ้าฉันได้แฟนแบบพี่คนนี้ได้ ฉันจะยอมเสียเวลาชีวิต 10 ปีเลย...”
“แต่นายเป็นผู้ชาย”
“ฮึ่ย! เป็นผู้ชายมีความฝันไม่ได้หรือไง”
“เชี่x...ศักดิ์ศรีล่ะเห้ย!”
สวนสาธารณะ
สวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในไห่จิงครอบคลุมพื้นที่กว้างขวาง ตั้งแต่เช้าจรดค่ำมีคนมาออกกำลังกายในสวนสาธารณะตลอด 24 ชั่วโมง
เย่เทียนจอดรถและเดินเข้าไป
ในพื้นที่เครื่องเล่นอุปกรณ์ เขาก็เห็นคนหน้าคุ้นจากไกลๆ หลังจากไปมองใกล้ๆก็พบว่าเป็นหลิวหรูเยียน
ผู้หญิงคนนี้น่าจะเพิ่งวิ่งเสร็จตอนเช้าและกำลังฝึกบนบาร์คู่ การเล่นบาร์ของเธอได้มาตรฐานมาก แน่นอนว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่จะฝึกได้ในวันสองวัน
ไม่แปลกใจเลยที่หลิวหรูเยียนหุ่นดีแบบนั้น
[ติ๊ง! เปิดภารกิจ! ได้รับ 10,000 คะแนนบูชาภายใน 24 ชั่วโมงและทำภารกิจที่ข้ามไป]
คะแนนบูชา?
มันคืออะไร?
เย่เทียนสับสนเล็กน้อย หลังระบบอัพเกรดก็เริ่มให้ทำอะไรนอกลู่นอกทาง