ตอนที่ 50 รวมตัวกับทีม(อ่านฟรี)
ตอนที่ 50 รวมตัวกับทีม
อีกนิดเดียว...
ตอนนี้เรย์อยู่ห่างจากด้านบนหน้าผาไม่มาก เขาจึงรีบปืนขึ้นไปอย่างสุดกำลังเท่าที่มี ส่วนซอมบี้ซากศพอีก 4 ตัวที่อยู่ด้านบนต่างก็ร้องคำรามก่อนที่นอนแนบตัวชิดกับพื้นพยายามก้มลงมาคว้าตัวของเรย์
เราต้องจัดการพวกซอมบี้ซากศพด้านบนก่อน...แต่ขณะที่เรย์คิดจะจัดการกับซอมบี้ซากศพกระสุนที่ยิงมามั่ว ๆ ก็โดนตัวที่แผ่นหลังของเรย์หลายนัด ยังดีที่ชุดเกาะยุทธวิธีที่เรย์ใส่อยู่นี้เป็นระดับสูงจึงกันกระสุนได้ แต่ถึงกระนั้นแรงกระแทกจากกระสุนปืนก็ทำเอาเรย์ร้องครวญครางในลำคอด้วยความเจ็บ
“เจ็บเป็นบ้าเลย” เรย์กัดฟันแน่นสบถออกมามาก
เขาอดทนต่อความเจ็บ ปีนขึ้นต่อไปก็ดูเหมือนว่าเหล่าซอมบี้นั้นจะอดใจไม่ไหวที่จะค้าตัวเรย์ที่ห่างออกไปไม่ถึงเมตร มีซอมบี้ซากศพตัวหนึ่งกระโดดลงมาใส่ตัวของเรย์ที่กำลังปีนขึ้นไปด้านบน
ซอมบี้คำรามและกระโดดลง เรย์เห็นเช่นนั้นก็ถึงกับหน้าถอดสีพลิกตัวหลบสุดชีวิตทำให้รอดจากซอมบี้ตัวนั้นที่โดดลงมาอีกครั้งได้
อีกสามตัวก็กำลังจะทำตามเช่นกัน
สถานการณ์กดดันเรย์จากทุกทิศทาง เขามีเวลาให้คิดไม่กี่วินาทีเท่านั้น เรย์ตัดใจแล้วจึงลงมือก่อนที่จะรอซอมบี้กระโจนลงมาใส่ตัวเขา
ชายหนุ่มใช้มือเพียงข้างเดียวเกาะที่หน้าผา ส่วนมืออีกข้างก็ชักปืนพก ออกมา ก่อนจะลั่นไกยิงใส่ซอมบี้ทั้งสามตัวด้วยกระสุนชำระล้างสามนัด
ทำให้ซอมบี้ที่กระโจนลงมาตายไปทั้งสามตัว ไม่อาจจะคว้าจับตัวของเขาได้ เรย์มองตามซอมบี้ซากศพทั้งสามที่ตกลงไปด้านล่างหุบเหว
แต่ก็ไม่มีเวลาให้เขาหยุดพักหายใจนานนัก เนื่องจากดวงตาที่มองไม่เห็นของสาวกลัทธิมืดทั้งสองได้ฟื้นคืนการมองเห็นกลับมาจนสามารถมองเห็นเรย์ราง ๆ ในความมืด
“เห็นมันแล้ว ยิงมัน” เสียงร้องตะโกนของสาวกลัทธิมืดดังมาจากด้านล่าง พร้อมกับไฟฉายที่ส่องมายังร่างของเรย์ ก่อนที่จะมีกระสุนสาดยิงใส่ไม่ยั้ง ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่เรย์เอื้อมมือขึ้นจับขอบผา ดึงตัวเองขึ้นมาด้านบนพื้นได้พอดี
ทำให้รอดจากการโดนยิงรอบสองมาได้ กระสุนถล่มยิ่งใส่ดินตรงขอบผา เรย์ยกแขนขั้นกันตามสัญชาตญาณ แต่พอรู้ว่าไม่โดนเรย์ก็ทิ้งตัวลงตรงนั้นในทันที
“ในที่สุดก็ขึ้นมาได้” เรย์นอนหงายหน้าหอบหายใจอย่างแรงข้างขอบหน้าผา ก่อนจะรีบพลิกตัวคลานไปดูที่ขอบผา
“มันอยู่นั้นยิงเลย”
ปัง! ๆ ๆ
กระสุนสาดใส่เรย์ทันทีที่เขาโผล่หน้าออกมา แสงสว่างจากการยิงปืนสว่างวูบวาบราวกับมีใครมาเปิดปิดสวิตช์ไฟเล่นไม่หยุด ทำให้เรย์ต้องถอยหลังกลับมาหลบด้านบนอีกครั้ง
ที่จริงแล้วเรย์จะหนีไปตอนนี้เลยก็ได้เพราะเขาขึ้นมาด้านบนได้แล้ว แต่ถ้าทำเช่นนั้นเขาจะโดนสองคนนี้ตามล่าไม่หยุด สุดท้ายไม่มีทางเลือกเรย์ตัดสินใจโจมตีกลับ
“ตาฉันบ้างแหละ” เรย์คว้าหนังสือเวทมนตร์ขึ้นมา ก่อนจะร่ายคาถาบอลเพลิงอย่างรวดเร็ว
“คาเซเบธ (บอลเพลิง) เอาไปกินซะ!” เพลิงถูกปล่อยออกมาจากเรย์ก่อนจะพุ่งลงไปที่อุโมงค์ระบายอากาศ ก่อนจะระเบิดดัง ‘ตูม!’
ตามมาด้วยเสียงของดินและหินที่ปากทางอุโมงค์ระบายอากาศถล่มลงมา เรย์ไม่มีทางเลือกจึงถอยออกห่างจากหน้าผา เพราะกลัวพื้นที่ยืนอยู่จะถล่มลงไปด้วย จนทำให้เขาตกลงไปในหุบเหวได้
และก็เป็นอย่างที่คิดขอบหน้าผาเหนืออุโมงค์ระบายอากาสถล่มลงไปซ้ำอีกครั้ง สร้างฝุ่นและควันฟุ้งกระจายไปทั่ว
...
หลังเสียงการพังถล่มหยุดลง ทุกอย่างรอบตัวเรย์ก็กลับสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง
ทางออกอุโมงค์ระบายอากาศระเบิดไปแล้ว พวกมันคงจะตามมาไม่ได้สักพัก เรย์ยื่นหน้าออกไปดูอุโมงค์ระบายอากาศที่เขาหนีออกมาเมื่อครู่
“ฟาลัน (บอลแสง)”
บอลแสงปรากฏขึ้นมาก่อนจะลอยลงไปด้านล่าง
ปากอุโมงค์ถล่มลงมาโดยสมบูรณ์ที่ซากพวกนั้นยังมีเลือดสีแดงสดไหลออกมาด้วย เรย์คาดการณ์ว่าน่าจะเป็นเลือดของสาวกลัทธิมืดสองคนนั้นที่โดนซากอุโมงค์และหน้าผาทับตาย
“ในที่สุดก็ออกมาได้ จริงสิ” เรย์รีบควานหาวิทยุสื่อสารที่เอามาด้วยความตกใจ
“ยังดีที่มันยังไม่พัง” เรย์ถอนหายใจอย่างโล่งอกขณะที่ถือวิทุสื่อสารในมือ และแล้วในตอนนั้นเองก็มีเสียงดังมาจากวิทยุสื่อสาร
“เรย์...เรย์”
“เรย์ ได้ยินหรือไม่ เรย์ ตอบกลับมาหน่อยถ้ายังรอดอยู่”
เสียงวิทยุขาด ๆ หาย ๆ แต่เรย์จำเสียงนี้ได้ มันคือเสียงของฟาริส เขารีบยกวิทยุขึ้นมาก่อนจะตอบกลับฟาริส
“ผมยัง เฮ้ได้ยินหรือเปล่า” เรย์พยายามกตอบกลับ
“เรย์นั้นคุณเหรอ เสียง...เสียงคุณขาด ๆ หาย ๆ” เสียงฟาริสดังมาจากวิทยุอีกครั้ง
“รอสักครู่” เรย์ลุกขึ้นอย่างเหนื่อยหอบ ก่อนจะรีบถอยออกจากหุบเหวและยังเนินที่สูงที่สุด ก่อนจะติดต่อกลับไปอีกครั้ง
“ได้ยินผมไหม”
“พระเจ้าช่วย ในที่สุดก็ติดต่อคุณได้สักที เรย์คุณไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่”
“ไม่เป็นอะไรมา ฟาริสคุณเจอใครอีกหรือไม่ ผมตามหาคนอื่น ๆ ไม่เจอเลย”
“ไม่ต้องห่วง พวกเราสามคนปลอดภัยดี ว่าแต่คุณอยู่ไหน”
“ตอนนี้นะเหรอน่าจะห่างจากจุดที่รอยแยกมิติเกิดน่าจะมาแถวทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ผมไม่แน่ใจเท่าไหร่ แต่ก็ไม่น่าจะคาดเคลื่อนไปจากนั้น จริงสิ ผมขอคุยกับหัวหน้าหน่อยมีเรื่องต้องรายงานด่วน”
เรย์นั่งลงเพราะความเมื่อย ขณะที่กล่าว
หลังจากเรย์ขอคุยกับคอนราด ผ่านไปไม่กี่วินาที เสียงของคอนราดก็ดังขึ้น “คุณปลอดภัยดีใช่ไหม”
“ครับหัวหน้า หัวหน้าผมมีเรื่องจะรายงาน ที่นี่มันเป็นกับดักครับหัวหน้า ผมเจอกับฐานใต้ดินของลัทธิมืดและได้ยินการสนทนาของพวกมันด้วย หัวหน้าเราต้องรีบออกไปจากที่นี่กันก่อนเลย ผมเจอทางออกแล้ว” เรย์อธิบายให้คอนราดฟัง
“ใจเย็นก่อน คุณรออยู่แถวนั้นไปก่อน พวกผมจะตามไปสมทบแล้วค่อยเล่ารายละเอียด”
“ครับหัวหน้า”
หลังจากจบการสนทนา เสียงของคอนราดก็หายไป เรย์จึงหยุดการติดต่อไว้ตรงนี้และมองหาสถานที่ซ่อนตัวชั่วคราว เนื่องจากว่าเหตุระเบิดของอุโมงค์ระบายอากาศและการแอบเข้าไปของเขา สาวกลัทธิมืดน่าจะรู้ตัวกันแล้ว
ตรงนั้นแล้วกัน...เรย์ตรงไปยังซากอาคารสองชั้น เขาปีนขึ้นไปด้านบนชั้นสองที่มีหลังคาเพียงครึ่งเดียว ก่อนจะหรี่แสงของบอลแสงให้น้อยที่สุดและนั่งลง
เรย์หยิบปืนพกเอ็ม1911เอ1 ออกมา ก่อนจะปลดแม็กกาซีนออกมาดู
“เหลือแค่สองนัด”
เมื่อมองดูกระสุนชำระล้างที่เหลือสองนัด เรย์ก็ยิ้มด้วยความขื่นขม ก่อนจะใส่แม็กกาซีนกลับไปที่เดิมขึ้นลำและเก็บกลับเข้าไปที่ซองปืนข้างเอว
เรย์ถอดหมวกเกราะออกอย่างระวัง เพราะเขายังรู้สึกปวดบริเวณที่ถูกยิงทำให้ขยับตัวไม่ค่อยถนัด หลังจากวางหมวกเกราะไว้ข้างตัวเรย์ก็สูดเอาอากาศเย็นชื้นรอบเรย์เข้าไป แม้จะไม่บริสุทธิ์เท่าบนดิน แต่ก็พอจะให้หายใจได้ทั่วท้อง
“ฟู่...วันนี้หนักสุด ๆ เลย” เรย์ถอนหายใจกับประสบการณ์เสียงตายวันนี้ เขารอดมาได้ก็เพราะจังหวะและโชค เรย์คิดภาพไม่ออกเลย ถ้าเขาโดนหินทับขาแหลกไปตอนที่ตื่นขึ้นมา มันคงยากที่จะรอดมาถึงตรงนี้
เรย์หันไปหยิบกระติกน้ำสนามที่แย่งมาจากหนึ่งในสวกลัทธิมืดที่เขายิงตายไปก่อนหน้า เขาบิดเปิดก่อนจะมองและลองดมดู
มันคือน้ำเปล่า
เรย์ไม่รอชาเริ่มดื่มน้ำในกระติกน้ำสนามอย่างกระหาย ก่อนจะเทใส่มือเหล็กน้อยและลูปหน้าพอให้สดชื่น เนื่องจากพอหยุดพักก็รู้สึกง่วงซึม มันไม่ได้แปลกเพราะเรย์ยังไม่มีเวลาหยุดพักแม้แต่ครั้งเดียวตั้งแต่มาถึงที่เหมืองเมฟเคีย
เรย์พยายามตั้งสติไม่ให้หลับ
...
ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์ที่ไม่รู้เผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมกับที่มือจับไปที่ปืนข้างเอวตามสัญชาตญาณ แต่พอมองไปรอบ ๆ ก็พบว่ามันไม่มีใครนอกจากเสียงวิทยุสื่อสารที่วางอยู่ข้างตัวดังขึ้น
“เรย์ คุณได้ยินหรือไม่...เรย์อยู่หรือเปล่าตอบด้วย”
เรย์สะบัดหัวไล่อาการง่วงซึมออกไป ก่อนจะคว้าวิทยุสื่อสารมาและตอบกลับไป
“ผมยังอยู่ ปลอดภัยดีครับ”
“ดีมาก ตอนนี้เรามาถึงแล้วคุณอยู่ที่ไหน”
“หนึ่งในอาคารห่างจากจุดก่อนหน้าไม่มาก”
...
หลังจากนั้นห้านาที เรย์ก็เห็นแสงไฟสามดวงซึ่งมาจากไฟฉายส่องมาทางเขา แสงไฟฉายกะพริบเป็นสัญญาณลับที่คนนอกยากจะเข้าใจ แต่ในทีมคอนราดนั้นพวกเขารู้ว่ามันคือการยืนยันตัวตน
เรย์สั่งให้บอลแสงลอยขึ้นและหรี่แสงลงสลับไปมาเป็นสัญญาณตอบกลับ
เมื่อยืนยันตัวตนกันได้แล้วพวกเขาก็เข้ามารวมตัวกันในทันที
“พระเจ้าช่วย ฉันนึกว่านายจะตายแล้ว เป็นยังไงบ้างเพื่อน” โบเวนที่สภาพเต็มไปด้วยดินและฝุ่นเดินเข้ามากอดเรย์อย่างเป็นกันเอง ก่อนจะตบไปสองสามครั้งทำเอาเขาร้องออกมาเพราะอาการปวดจากโดนปืนยิงก่อนหน้า
“ขอโทษ” โบเวนปล่อยเรย์พลางขอโทษที่ทำแรงไปหน่อย
“ไม่เป็นไร” เรย์กล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม
ในตอนนั้นเองคอนราดก็เดินเข้ามาหาเรย์ และถามออกมา “ไม่เป็นอะไรแน่นะ”
“ครับผมไม่เป็นอะไรมา แค่ปวดบริเวณที่โดนยิง ยังดีที่ชุดเกราะป้องกันได้”
“อืมถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้ว”
“หัวหน้าเราต้องรีบกลับไปที่เมืองเรซี เพราะพวกที่สาวกลัทธิมืดเรียกว่า ‘เจ้านาย’ ดูเหมือนจะมีแผนการบางอย่างที่จะทำกับเมืองเรซี เราต้องไปเตือนทุกคน”
“อืม ผมจะคุยกับคุณเรื่องนี้พอดี ช่วยเล่ารายละเอียดในสิ่งที่คุณเห็นให้ผมฟังหน่อย”
หลังจากนั้นเรย์ก็เล่าเรื่องตั้งแต่หนีรอดมาจากซากตึกที่ถล่มลงและจัดการซอมบี้นักกล้ามไปตัวก่อนจะมาเจออุโมงค์ระบายอากาศที่เชื่อมต่อเข้าไปยังฐานใต้ดินของลัทธิมืด
เขายังบอกเรื่องรถและทางออกที่เห็นมารวมทั้งตอนที่หนีออกจากที่นั่นจนมาอยู่ตรงนี้
คอนราด ฟาริสและโบเวนได้ฟังก็เงียบไป แต่สีหน้าของทั้งสามก็แสดงออกอย่างชัดเจนถึงความกังวลจากสิ่งที่เรย์เล่าให้ฟัง