ตอนที่แล้วตอนที่ 1157-1158 ตำหนิลูกเนรคุณที่ไม่มีบุญ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1161-1162 ค้นพบบางสิ่งที่ไม่อาจคาดคิด

ตอนที่ 1159-1160 เขาสมควรได้รับบทเรียน


กำลังโหลดไฟล์

ซูเจ๋อพูดอย่างเกลียดชัง “ผมบอกว่าพวกเขานี่แหละที่ทำให้บริษัทซูกลายเป็นแบบนี้ ผู้หญิงที่ดีในสายตาของแม่โหดเหี้ยวกับครอบครัวซูของเรา แล้วแม่ยังจะดีกับเธออีกเหรอ? พ่อกับแม่ยังจะทำดีเหมือนเธอเป็นลูกสาวอีกเหรอ?”

ความหึงหวงและความโกรธทำให้ซูเจ๋อสูญเสียเหตุผลของเขาไป “ตอนนี้เธออยู่ข้างเขา ทำไมเธอจะต้องสนใจชีวิตความเป็นความตายของครอบครัวซูของเราด้วย? เธอคงหวังให้พวกเราล้มละลายและหายไปจากโลกนี้ซะมากกว่า”

“ซูเจ๋อหุบปาก อย่าคิดว่าทุกคนจะจิตใจสกปรกเหมือนคุณ ฉันไม่เคยต้องการคิดจะจัดการกับตระกูลซู แม้ว่าสิ่งที่คุณทำจะไร้ยางอายและน่าขยะแขยงขนาดไหน คุณเป็นคนเดียวที่ฉันรังเกียจ ป้าซูและลุงซูยังเป็นเหมือนเดิมในใจของฉัน ฉันไม่เคยคิดจะทำอะไรไม่ดีกับพวกท่านเลย”

“ฉันไม่คิดจะทำอะไรกับตระกูลซูเพียงเพราะคุณหรอก”

“ถ้าฉันจะจัดการกับใครจริง ๆ ก็คงมีแค่คุณคนเดียว”

แม้ว่าเฉียวเมียนเมียนอยากจะแสร้งทำเหมือนว่าซูเจ๋อเป็นอากาศ แต่เธอทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว

เธอมองไปที่เขาด้วยความรังเกียจ “ใคร ๆ ก็พูดว่าฉันเป็นคนไม่ดี แต่คุณ ซูเจ๋อ คุณไม่มีสิทธิ์ ไม่รู้ตัวเหรอว่าตัวเองได้ทำอะไรลงไปบ้าง? ถ้าฉันไม่ใช่คนดี แล้วคุณเป็นอะไร? คุณคงไม่ใช่คนด้วยซ้ำ!”

เฉียวเมียนเมียนไม่อยากพูดจาเช่นนี้ต่อหน้าแม่ซู

แต่ซูเจ๋อทำเรื่องน่าขยะแขยะเกินไป

น่าขยะแขยงเสียจนเธออดทนต่อไปไม่ไหว

ซูเจ๋อไม่คิดว่าเธอจะระเบิดออกมาและพูดจาร้ายกาจเช่นนี้ เขาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกำหมัดด้วยท่าทางน่าเกลียด “คุณบังคับผมเองนะ! ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ...”

“เจ้าบ้า! หุบปาก! ยังอายไม่พออีกหรือไง” แม่ซูตบหน้าเขา เธอโกรธจนหน้าแดง เธอชี้ไปที่ปลายจมูกของลูกชาย “แกกล้าดียังไงมาว่าเมียนเมียนแบบนี้? แกยังมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีอยู่หรือเปล่า? ฉันมีลูกชายเลว ๆ อย่างแกได้ยังไงกัน!”

ด้วยการตบของแม่ซู ทำให้ผู้คนมากมายมามุงดู

เมื่อพวกเขาเห็นซูเจ๋อถูกตบ พวกเขาก็เริ่มพูดกัน

ซูเจ๋อปิดหน้าและมองดูแม่ซูอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง “แม่ แม่..”

เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าแม่ซูจะตบเขาในที่แบบนี้จริง ๆ เธอไม่ไว้หน้าเขาเลย

“แล้วแม่ล่ะ? เย็นนี้ฉันไม่อยากกินอะไรแล้วเนี้ย แกทำให้ฉันโกรธจนกินอะไรไม่ลง” แม่ซูตบเขาอย่างโกรธเคือง จากนั้นก็หันไปหาเฉียวเมียนเมียน พุดด้วยน้ำเสียงประฌามตัวเองว่า “เมียนเมียน เป็นความผิดของป้าเองที่เลี้ยงลูกนอกคอกแบบนี้ แม่ปล่อยให้เขาทำผิดและทำร้ายหนู ป้าซูไม่ได้สอนลูกชายให้เป็นดี ป้าละอายใจจริง ๆ”

ดวงตาของแม่ซูเปลี่ยนเป็นสีแดง

เฉียวเมียนเมียนปลอบโยนเธออย่างรวดเร็ว “ป้าซูคะ ไม่ใช่ความผิดของป้าหรอกค่ะ”

แม่ซูส่ายหน้าและยิ้มอย่างขมขื่น “ตั้งแต่ป้าเกิดเขามา แม่ก็ต้องรับผิดชอบ ไม่นานมานี้...ครอบครัวซูของเราทำให้หนูต้องผิดหวัง ตอนนี้หนูมีครอบครัวใหม่และมีความโดดเด่นเช่นนี้แล้ว ป้าซูก็มีความสุขกับหนูด้วย”

“เมียนเมียน หนูต้องมีความสุข ถ้าวันไหนแต่งงาน ก็ต้องเชิญป้าไปงานแต่งหนูด้วยนะ อย่าลืมส่งการ์ดมาให้ป้าซูด้วยล่ะ” แม่ซูมองดูผู้หญิงคนนี้ที่เธอรักใครราวกับลูกสาวและรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง

__

เธอหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเฉียวเมียนเมียนจะมีชีวิตอยู่ได้เป็นอย่างดี

เฉียวเมียนเมียนสัมผัสได้ถึงความจริงจากแม่และพยักหน้า “ค่ะ ฉันจะส่งไป ถ้าป้าซูเต็มใจมาร่วมงานแต่งของหนู ฉันจะต้องเชิญป้าอย่างแน่นอนค่ะ”

“จ้า ๆ ป้าต้องเต็มใจสิ”

หลังจากที่แม่ซูพูดจบ เธอหันกลับและจากไป โดยไม่แม้แต่จะมองซูเจ๋อ

ซูเจ๋อตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบสนองและไล่ตามเธอไป

เมื่อเขาจากไป เขาก็จ้องมองไปที่เหมาเยซื่อและเฉียวเมียนเมียนอีกครั้ง ก่อนจะวิ่งตามแม่ซูไป

...

“เหมาเยซื่อคะ คุณได้ทำแบบนี้นกับบริษัทซูหรือเปล่าคะ”

หลังจากออกจากร้านอาหารและขึ้นรถ เฉียวเมียนเมียนก็ถามเหมาเยซื่ออย่างตรงไปตรงมา

เธอรู้จักกับซูเจ๋อมาสิบปีแล้ว

เธอมักจะมีปฏิสัมพันธ์กับครอบครัวซู

ดังนั้นเธอจึงรู้เกี่ยวกับพวกเขาค่อนข้างมากทีเดียว

การพัฒนาของบริษัทซูนั้นมีเสถียรภาพมาโดยตลอด และได้มีการพัฒนาให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา วิกฤตเศรษฐกิจดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นได้

ดังนั้นการสูญเสียอย่างกะทันหันของบริษัทซูจึงน่าจะเกิดจากเหมาเยซื่อมากที่สุด

ก่อนหน้านี้เขาเคยให้วิธีเดียวกันจัดการกับเฉิงฮุ่ย ทำให้พวกเขาล้มละลายในชั่วข้ามคืนมาแล้ว

“ใช่ ผมทำ” เหมาเยซื่อคาดเข็มขัดนิรภัยแล้วหันไปมองเธอ สายตาของเขาสงบลง “ผมรู้ว่าคุณต้องการจะบอกอะไร แต่ถ้าผมยังเฉยกับสิ่งที่เขาทำกับคุณ คงไม่ใช่ผมแล้วล่ะ?”

“เขาสมควรได้รับบทเรียนเสียบ้าง”

ถ้าเธอรู้ว่าเขาใช้วีการใดในการจัดการกับคนอื่น เธอจะรู้ว่าครั้งเขายอมให้ซูเจ่ออย่างง่าย ๆ แล้ว

เขาไม่ได้ปล่อยให้บริษัทซูล้มละลาย แต่ให้โอกาสพวกเขาในการพยุงตัวเอง

เขายังไว้หน้ากับพวกเขา เพราะรู้ว่าเธอยังมีความรู้สึกบางอย่างต่อตระกูลซู ดังนั้นเขาจึงไม่ได้คิดจะฆ่าพวกเขา

แต่เขาต้องจัดการกับซูเจ๋อ

“ฉันรู้ว่าเขาสมควรได้รับบทเรียน และฉันเองก็สนับสนุนให้คุณสอนบทเรียนกับเขา ฉันไม่ได้จะขอร้องแทนเขาหรอกนะคะ” เฉียวเมียนเมียนรู้สึกว่าเธอต้องให้เหมาเยซื่อเข้าใจความคิดของเธอ “ฉันไม่ได้คิดว่าคุณต้องปฏิบัติกับเขาอย่างไรหรอกค่ะ”

เธอรู้สึกขยะแขยงที่ต้องเอ่ยชื่อซูเจ๋อ

เธอไม่สนใจว่าชีวิตของอีกฝ่ายจะน่าสังเวชสักเพียงไหน

แม้ว่าเขาจะกลายเป็นขอทานอยู่ข้างถนน เธอก็ไม่สงสารเลยแม้แต่น้อย

แต่เมื่อเธอเห็นท่าทีหดหู่ของแม่ซูในตอนนี้ เธอไม่สามารถทนได้อีกต่อไป

เหมาเยซื่อมองมาที่เธอและเลิกคิ้ว “คุณจะบอกอะไรผมเหรอ?”

“แนแค่รู้สึกว่าซูเจ๋อเป็นคนโง่และสมควรถูกลงโทษ แต่คนอื่น ๆ ไม่ได้ทำอะไรผิด มันไม่จริงจังไปหน่อยเหรอคะที่จะฝังบริษัทซู เพราะเขา?”

“แล้วอยากให้ผมทำยังไงล่ะ?”

“ฉันแค่รู้สึกว่าป้าซูและลุงซูเป็นผู้บริสุทธิ์ พวกเขาดีกับฉันตลอดมา ดังนั้น..คุณปล่อยให้ตระกูลใช้ชีวิตของพวกเขาต่อไปได้ไหมคะ? อย่างน้อย อย่าได้ฆ่าพวกเขาไปเสียทั้งหมด ได้ไหมคะ?”

เธอพูดยอ่างระมัดระวัง กลัวว่าเขาจะไม่มีความสุข

เหมาเยซื่อมองดูเธออย่างเงียบ ๆ

เฉียวเมียนเมียนดูกังวล “ฉันไม่ได้พูดเพื่อซูเจ่อเลยจริง ๆ อย่างเข้าใจผิดสิ.. คุณโกรธหรือเปล่า?”

“เปล่า” หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ในที่สุดเหมาเยซื่อก็พูดขึ้น

“รายฐานของบริษัทซูแข็งแกร่ง เขาไม่ล้มง่าย ๆ หรอก ผมเข้าใจความรู้สึกของคุณที่มีต่อพ่อแม่ของซูเจ๋อ ผมสัญญากับคุณว่าจะไม่ทำลายบริษัทซู”

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด