ตอนที่ 141 สู้อย่างสิ้นหวัง(อ่านฟรี)
ตอนที่ 141 สู้อย่างสิ้นหวัง
สีหน้าของทั้งสามคนเข้มขรึมขึ้นมาในทันที พวกเขาทั้งสามคนนั้นเคยได้ยินว่ามีศิลปะการต่อสู้ที่สามารถปลดปล่อยขีดจำกัดของร่างกายได้ แต่ด้วยความที่พวกเขาเป็นเพียงพลทหาร และยังเป็นนักรบฝึกหัดเท่านั้นจึงไม่มีโอกาสได้เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ประเภทนี้
แน่นอนว่าถ้าพวกเขารอดจากภารกิจแฝงตัวมาที่ทุ่งหญ้ากิราและกลับไปได้ ด้วยผลงานที่ทำสำเร็จก็สามารถให้พวกเขาแลกเปลี่ยนคะแนนผลงานกับศิลปะการต่อสู้ ปลดล็อกขีดจำกัดได้
แต่ตอนนี้มันคงยากแล้ว
กายแสยะยิ้มก่อนจะเคลื่อนไหวด้วยความเร็วที่มากกว่าเดิมถึง 2 เท่า
“มาแล้ว” โจรผู้ใช้โล่กล่าวออกมาด้วยความตกใจ เพราะกายนั้นรวดเร็วมาก
“ข้าจะสกัดเขาไว้เอง”
“ศิลปะการต่อสู้ ปัดป้อง ขั้น 2”
โจรผู้ใช้โล่คิดจะหยุดการเคลื่อนไหวของกายก่อน เขายกโล่เหล็กขึ้นมาเสมอกับตัวและดาบที่อยู่อีกมือก็ยกขึ้นขนาดกับพื้นชี้ปลายดาบไปที่กาย
“ศิลปะการต่อสู้ ทุบ ขั้น 2”
กายใช้มือซ้ายที่จับด้ามค้อนสั่นสะเทือนแน่นจากนั้นก็ทุบลงไปที่โจรผู้ใช้โล่เต็มแรง
ปัง!
เสียงการปะทะระหว่างค้อนและดังสั่นไหวเกิดเป็นระลอกพลังที่สังเกตเห็นอย่างชัดเจน โจรผู้ใช้โล่กัดฟันแน่น พยายามฝืนรับการโจมตีไว้ แต่แม้ใจจะสู้เท่าใด แต่สังขารและโล่เหล็กของเขาไม่อาจจะต้านทานไหวได้อีก
โล่เหล็กแตกออกจากกันเป็นเสียง ๆ ขณะที่ตัวของโจรผู้ใช้โล่ลอยขึ้นกลางอากาศ แขนที่จับโล่เหล็กแตกหักเลือดสาดกระเซ็น และหลังจากนั้นในวินาทีต่อมาตัวของโจรผู้ใช้โล่ก็กระเด็นออกไปราวกับลูกปืนใหญ่หล่นลงพื้นห่างไป 20 เมตรแน่นิ่งไป
ตั้งแต่กายลงมือจนถึงตอนนี้มันผ่านไปแค่ 3 วินาทีเท่านั้น กายก็สามารถจัดการไปได้ 1 คนแล้ว
โจรผู้ใช้หอกสองคนดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจมือของทั้งสองสั่นไหวด้วยความกลัว แต่ในเมื่อรู้ว่าไม่สามารถถอยได้แล้วจึงกัดฟันคำรามลั่นและจู่โจมกาย
“ไปตายซะ!”
“เอาชีวิตเจ้ามาซะ เจ้าปีศาจ”
สองโจรหนึ่งฟาดหอกเข้าใส่หนึ่งทิ่มแทงยังจุดตายด้วยความเร็วสูง แต่กายก็ตอบโต้ทั้งสองไปอย่างตรงไปตรงมา ด้วยการใช้ค้อนสั่นสะเทือนและดาบหักสังหาร ทุบและฟาดฟันไปที่หอกเพื่อทำลายหอกที่จู่โจมเข้ามา
ในบางครั้งกายยังส่วนหลับไปโดยไม่สนใจว่าฝั่งนั้นจะโจมตีเขา
สุดท้ายด้วยรูปแบบโจมตีที่ป่าเถื่อนของกายทำให้สองโจรผู้ใช้หอกกลับกลายเป็นเสียเปรียบและถอยร่นอย่างต่อเนื่อง
“เกราะนั้นมันอะไรกัน” โจรผู้ใช้หอกคนหนึ่งพูดออกมาด้วยความตกใจ เพราะเมื่อครู่ตนแทงเข้าไปที่ไหลของกายอย่างเต็มแรง แต่หัวหอกกลับไปสามารถแทงทะลุเกราะไปได้
“โจมตีซ้ำ ๆ จุดเดียว เราต้องเจาะการป้องกันเขาให้ได้โดยเร็ว” โจรผู้ใช้หอกอีกคนตะโกนพร้อมกับยกมือขึ้นมาเช็ดเลือดที่มุมปาก แต่แล้วในตอนนั้นเสียงคู่หูก็ร้องเตือนดังขึ้น
“หลบเร็ว”
“สายไปแล้ว” กายกล่าวออกมาก่อนจะใช้ค้อนสั่นสะเทือนทุบลงไปใส่โจรผู้ใช้หอก มันรีบปิดตัวหลบค้อนที่เหวี่ยงเข้ามา แต่แล้วพอหลบค้อนสั่นสะเทือนผล ก็ปรากฏว่ากายหมุนตัวโดยการอาศัยแรงเหวี่ยงของค้อนเมื่อครู่ฟันใส่โจรผู้ใช้หอกด้วยดาบหักสังหาร
“ศิลปะการต่อสู้ ฟาดฟัน ขั้น 2! ขาดสะบั้นไปซะ!!”
“ม่ายยย!!!”
ฉับ!
ดาบหักสังหารฟันตักร่างของโจรผู้ใช้หอกไปพร้อมกับหอกในมือของโจร
ทันทีที่เท้าของกายแตะพื้นอีกครั้ง ร่างของโจรผู้ใช้หอกก็แยกออกจากกันเป็นสองท่อนเลือดพุ่งไหลละเลงราวกับดอกไม้ไฟสีเลือดด้านหลังของกาย กายไม่สนใจเลือดที่ไหลอยู่ข้างหลังเขาหันกลับมาสนใจคู่ต่อสู้ด้านหน้าแทน
ตอนนี้เหลือโจรผู้ใช้หอกอีกคนที่เขาต้องจัดการ
ดวงตาของโจรผู้ใช้หอกแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงเพราะความโกรธแค้น ก่อนจะแหกปากออกมาดังลั่นว่า “น้องชายข้า...น้องชายข้า เจ้าฆ่าเขา! ข้าจะฆ่าเจ้า!! ข้าจะฆ่าเจ้า!!!”
โจรผู้ใช้หอกอีกคนดูเหมือนจะเป็นพี่น้องกับโจรผู้ใช้หอกที่เขาพึ่งฆ่าไปเมื่อครู่ แต่กายในตอนนี้กลับไม่รู้สึกเห็นใจแม้แต่น้อย
“ในเมื่อการต่อสู้เป็นตายข้าไม่ตายเข้าก็ตาย ดังนั้นเจ้าต้องตาย” กายพึมพำออกมาก่อนจะพุ่งเข้าหาโจรผู้ใช้หอกที่คำราวเสียสติไปแล้ว
โจรผู้ใช้หอกเองกพุ่งเข้าหากายและฝืนใช้ศิลปะการต่อสู้ทิ่มแทง แต่ด้วยความเร็วที่มากกว่าของกาย ทำให้เขาหลบการโจมตี ก่อนจะเข้าประชิดตัวโจรผู้ใช้หอก
กายและโจรผู้ใช้หอกพุ่งผ่านกันไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะมีเสียงดัง ฉึบ! และทั้งสองก็หยุดนิ่งไป
ตุบ! หอกในมือของโจรผู้ใช้หอกจะขาดออกจากกันเป็นสองท่อนและหลุดมือลงกระทบพื้น แต่ยังไม่หมดแค่นั้นเลือดยังคงพุ่งออกมาจากร่างของมัน ก่อนจะฟุบลงกับพื้นไปตามหอกเหล็ก นอนตายแน่นิ่งไป
กายในตอนนี้หลังจากพึ่งใช้ดาบหักสังหารฟันโจรร่างขาดไปสองคน เขากลับยืนนิ่งอยู่กับที่กำลังจับจ้องไปที่โลหิตสีแดงฉาน
ในตอนนั้นเองก็มีเสียงร้องครวญครางของโจรผู้ใช้โล่ ซึ่งก่อนหน้านี้โดนค้อนของกายทุบทำลายจนโล่แตกกระจายไป ดูเหมือนโจรผู้นั้นจะพึ่งได้สติและพยายามฝืนลุกขึ้นมาด้วยร่างกายที่บาดเจ็บสาหัส แถมยังเหลือแขนเพียงข้างเดียวเท่านั้น
มือของโจรผู้นั้นจับไปที่ดาบในมือของตนเอง ซึ่งเป็นอาวุธชิ้นสุดท้ายของมันนอกจากโล่ที่โดนทำลาย
“แม้ข้าจะเป็นเพียงทหารต่ำต้อย แต่อูทันก็ต้องเห็นข้าอย่างแน่นอน อูทันได้โปรดมอบพลังให้ข้าด้วย ชีวิตนี้ข้าสละให้อูทัน” โจรผู้นั้นเงยหน้ามองดูดวงตะวันที่สาดแสงอยู่กลางศีรษะ ก่อนจะวิ่งเข้าหากาย
แต่พอมันวิ่งมาถึงกับไม่สามารถฟันกายได้แม้แต่เพียงครั้งเดียว
เนื่องจากกายหันกลับมาก่อนจะใช้ดาบหักสังหารแทงเข้าที่ท้องของโจรผู้นั้นอย่างเลือดเย็น ก่อนจะตวัดดาบขึ้นบนผ่าร่างของโจรผู้นั้นตั้งแต่ท้องจนทะลุไหล
ดวงตาของโจรผู้นั้นเบิกกว้างก่อนจะสิ้นแสงของชีวิตตายไปทั้งแบบนั้น
“ม่ายยย! เจ้ากล้าสังหารคนในทีมของข้า ข้าจะฆ่าเจ้า” โจรผู้ใช้ดาบและเป็นหัวหน้าของโจรกลุ่มนี้ที่เหลือรอดคนสุดท้ายและกำลังรับมือกับมีอาก็ร้องออกมาด้วยความโกรธแค้น
มันรีบผละออกจากมีอาก่อนจะจู่โจมเข้าหากาย
“ตายซะ! ไอ้สารเลว!!”
“พูดมาก” กายกล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น จากนั้นก็โยนดาบหักสักหารขึ้นเบื้องหน้า ก่อนจะใช้ค้อนสั่นสะเทือนเหวี่ยงฟาดเข้าไปที่ด้ามจับของดาบหักสังหาร ดาบหักสังหารพุ่งออกไปด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ แม้แต่โจรผู้ใช้ดาบก็ยังตอบสนองไม่ทัน กว่าจะตอบสนองได้ทันก็รู้สึกว่าที่ท้องมีบางอย่างหายไป
มันก้มมองไปที่ท้องก็เห็นว่าที่ท้องตนนั้นมีรูขนาดใหญ่มาก ๆ ลำไส้และเครื่องในทั้งหมดหายไป เมื่อมองผ่านรูที่ท้องจะเห็นว่าด้านหลังห่างไปไม่กี่เมตรมีดาบชุ่มเลือดปักคาอยู่ที่พื้น
“ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ ข้ายัง...” เสียงสุดท้ายของประโยคเบามากขณะที่มันล้มลงไปตายกับพื้น ไม่มีใครได้ยินประโยคสุดท้ายว่าชายผู้กล่าวอะไรและก็ไม่มีใครสนใจด้วย
หลังจากการตายของโจรทั้งหมด ตอนนี้ทั้งสนามรบก็เหลือเพียงสามคนเท่านั้นที่ยังเหลือรอดอยู่
มีอาที่หลังจากฝืนบีบตัวเองเข้าสู้นักรบฝึกหัดขั้น 3 ก็เริ่มจะแสดงสัญญาณของความเหมื่อยล้าออกมาอย่างรุนแรงจนแทบจะทรงตัวไม่ไหว หญิงสาวต้องใช้ดาบในมือค้ำยันตัวเองเอาไว้
“เดวิน” มีอาเรียกกายที่ยืนอยู่ไม่ไกล แต่แล้วพอกายหันกลับมาสบตาแววตาของชายตรงหน้ากับทำให้มีอารู้สึกตกใจ เพราะมันมีจิตสังหารอยู่อย่างรุนแรง มันไม่ได้พุ่งมาที่มีอาแต่เป็นทุกสิ่งรอบ ๆ
กายที่พึ่งตระหนักว่าตนทำอะไรลงไป เขาก็รีบตั้งสติ
“ขอโทษที” กายพูดจบก็เดินผ่านดาบหักสังหารและเข้ามาพุ่งมีอาไว้
“ไม่เป็นไร” มีอายิ้มออกมาด้วยใบหน้าซีดขาว เธอพยายามยืนด้วยตนเอง ตอนนั้นลิลี่ที่หลออกไปก่อนหน้าก็ฝืนตัวเองเขามาหามีอาและกาย
“เราควรจะรีบไปที่ป้อมปราการตะวันออก ที่นั่นอยู่ไม่ไกลและน่าจะปลอดภัย” มีอาหันไปมองอาการบาดเจ็บของลิลี่ด้วยความเป็นห่วง
“ม้าพวกเจ้าสองคนอยู่ไหน” กายถาม
มีอายิ้มขื่นขมและส่ายหัวเบา ๆ “พวกมันไม่รอด...”
กายพยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนจะผิวปากเรียกเจ้าหมอกออกมา ซึ่งด้านหลังยังมีเจ้าถึกที่ผูกสายบังเหียนไว้กับเจ้าหมอกออกมาด้วย
“เจ้าถึกรับน้ำหนักลิลี่ได้ ส่วนเจ้าขึ้นมากับข้าเถอะ” กายกล่าว
“อืม” มีอาพยักหน้ารับด้วยความเต็มใจ
กายหันไปช่วยลิลี่ขึ้นหลังเจ้าถึก จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปด้านหลังมีอามือทั้งสองข้างจับไปที่เอวเล็ก ๆ ของเธอ
มีอาที่ตอนนี้แม้จะหน้าซีดเพราะความเหนื่อยล้า แต่พอโดนชายหนุ่มจับเข้าที่เอวก็หน้าแดงขึ้นมาในทันที ตั้งแต่เกิดมาเธอไม่เคยใกล้ชิดผู้ชายคนใดเท่านี้มาก่อน
“เจ้าจะทำอะไร” มีอาถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ทำเอากายที่อยู่ด้านหลังรู้สึกหวิวอย่างบอกไม่ถูกเขารีบตั้งสติก่อนจะกระซิบไปที่ข้างหูของมีอาว่า
“ข้าจะอุ้มเจ้าขึ้นหลังม้าเท่านั้น”
“อืม” มีอาพยักหน้าตอบไม่ได้ขัดขืนอะไร
กายรู้สึกเกร็ง ๆ เล็กน้อย แต่ก็รีบอุ้มมีอาขึ้นไปบนหลังเจ้าหมอก เมื่อมีอานั่งบนหลังม้าแล้วเขาก็รีบไปเก็บดาบหักสังหาร ในตอนนั้นก็เหมือนจะฉุกคิดอะไรขึ้นได้จึงเดินไปค้นตัวของหัวหน้าโจรคนนั้น
ซึ่งก็มีเหรียญตราตัวตนอยู่จริง ๆ ในนี้มีชื่อและระดับยศทางทหารอยู่
“นี่คือ” มีอาเห็นกายเดินเข้ามาพร้อมกับถือของบางอย่างมาด้วยจึงเอ่ยปากถาม
“พวกเขาคือทหารจากนครแสงเทวา นี่คือตราทหารคงไว้ใช้ยืนยันตัวเวลาติดต่อกับทหารฝั่งนั้น ตอนนี้ข้าคิดว่ากระทิงเขียว อดีตรองหัวหน้ากองโจรโลหิตก็เป็นพวกทหารของนครแสงเทวาแอบแฝงตัวเข้ามาที่ทุ่งหญ้ากิราด้วย ตอนนี้นครแสงเทวามีโอกาสเปิดศึกกับนครดาราฟ้าด้วย” กายอธิบายสั้น ๆ ให้มีอาฟัง
พอมีอาได้ยินหญิงสาวก็ปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดได้ไม่มากก็น้อย
“ถ้าอย่างนั้นเราควรต้องรีบออกจากที่นี่และไปที่ป้อมปราการตะวันออกใช่ไหม”
“ใช่ พวกเรารีบไปกันเถอะ”
มีอาพยักหน้าเข้าใจ แต่แล้วในตอนนั้นเองก็มีเสียงดังขึ้นมา
“เจ้าจะหนีไปไหนกัน!!!”
......
Witterry : ตอนนี้ไรท์มีเพจเฟสบุ๊คแล้วนะ มากดติดตามเพื่อคอยรับข่าวสารหรือเข้ามาพูดคุยกันได้นะ จะมาติดตามทวงนิยายก็ได้ https://www.facebook.com/witterry.writer/ หรือพิมพ์ค้นหาในเฟสบุ๊ค witterry writer ได้เลยนะ