ตอนที่ 181+182 การจับกุม
ตอนที่ 181 การจับกุม
ลู่ชิงสีเปิดประตูยืนอย่างสง่างามที่หน้าประตู และพูดกับตำรวจ “คนเหล่านี้ถูกตั้งข้อหาขัดขวางกระบวนการยุติธรรม คุมขังพวกเขาไว้ 24 ชั่วโมง!”
แม้จะเป็นคำพูดที่เรียบง่าย ฉับพลันและแข็งทื่อ พ่อแม่ของจางซีชิงและทนายของพวกเขาต่างตกตะลึงตัวแข็งทื่อราวกับถูกเมดูซ่าสาป
เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการอย่างรวดเร็วตามคำสั่งของลู่ชิงสี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าหน้าที่ที่ถูกโจมตีโดยตรงจากคุณนายจาง ทำให้ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยขีดข่วน เขาจับเธอและคนอื่น ๆ อย่างรวดเร็ว
ตระกูลจางอยู่เหนือคนอื่นมาตลอดเพราะความมั่งคั่งร่ำรวยและความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับผู้บังคับการตำรวจ พวกเขาถูกมองว่าเป็นครอบครัวที่ไร้กฎหมายในเมืองหนานเจียง เนื่องจากความพยายามในการทำลายกฎหมายไม่รู้จบและยังก่ออาชญากรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งจางซีหนานผู้ฉาวโฉ่ ตัวการสำคัญที่สุดในบริเวณนี้
ไม่ใช่ว่าเจ้าหน้าที่ไม่ต้องการนำคนเหล่านี้ไปลงโทษตามกฎหมาย เพียงแต่ไม่กล้า แต่ตอนนี้ มีบุคคลที่มีตำแหน่งสูงมายังพื้นที่ของเขาและให้เหตุผลอันสมควรแก่พวกเขาในการจับกุมคนเหล่านี้ พวกเขาเต็มใจทำตามคำสั่งของเขาเพื่อตอบแทนการดูหมิ่นและการล่วงเกินที่พวกเขาได้รับจากตระกูลจาง
หลังจากที่พ่อและแม่ของจางซีชิงพร้อมกับทนายความถูกพาตัวออกไป ลู่ชิงสีหันไปมองเด็กเหลือขอสองคนที่นั่งหวาดกลัวอยู่ในห้องและพูดกับเจ้าหน้าที่ที่เหลือว่า “ส่วนสองคนนี้จับตัวพวกเขาด้วย แจ้งหัวหน้าของพวกคุณ อย่าให้เขาปกป้องตระกูลจางอีก! จัดการให้เรียบร้อยก่อน 4 ทุ่ม! ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่ที่ให้เสียใจ ถ้าฉันลงมือเอง!”
ในทีแรกลู่ชิงสีตั้งใจจะจัดการกับเรื่องนี้เพื่อเห็นแก่ศักดิ์ศรีของทุกฝ่าย แต่จากรูปการณ์แล้ว เขาเปลี่ยนใจ เมื่อตัดปมทายาทอันดับสองของเศรษฐีที่ร่ำรวยออกไปแล้ว วิธีนี้เป็นวิธีแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
เขาแน่ใจว่าตระกูลจางต้องเสียหาย แม้ว่าเขาจะไม่แน่ใจว่าจะมากน้อยเพียงใด อย่างไรก็ตามเขามั่นใจว่าคงเป็นเรื่องยากหากจะลบตระกูลจางออกจากตระกูลร่ำรวยของเมืองหนานเจียง แต่ถ้าเขาพบว่าหัวหน้าตำรวจกำลังผ่อนปรนต่อพวกนี้ เขาจะตัดสินใจจัดการเรื่องนี้ด้วยมือของเขาเอง เขาจะไม่เพียงแต่เขย่ารากฐานของตระกูลจางเท่านั้น
หัวหน้าตำรวจเองก็ต้องมีความผิดพอ ๆ กับตระกูลจาง สำหรับบทที่เขาปกป้องตระกูลจางมาอย่างยาวนานหลายปี
ตระกูลจางคงเหนื่อยกับการมีชีวิตที่นานเกินไป เพราะพวกเขาได้ขยายกรงเล็บอันชั่วร้ายมายังภรรยาของเขา ภรรยาของลู่ชิงสี!
ตอนแรกเขาได้สินใจที่จะจับใครก็ตามที่ทำผิดในคดีแม่ของเฉินจื่อบิ่น แต่ตอนนี้ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ตระกูลจางไม่จำเป็นต้องอยู่รอดหรอก!
ตระกูลจางคิดว่าพวกเขาสามารถสูงส่งและยิ่งใหญ่ในเมืองได้เพราะอิทธิพลและความมั่นคงของพวกเขา – ดี เขาจะทำให้พวกเขากลายเป็นคนที่ถูกผู้อื่นดูถูกที่สุด
หลังจากคำสั่งนั่นจบลง เขาของให้เจียงเหยาและเฉินซวีเหยา รอเขาห้านาที ก่อนที่เขาจะตามเจ้าหน้าที่ออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว
หญิงสาวยืนอยู่ในความงุนงงในขณะที่เหตุการณ์ทั้งหมดคลี่คลาย เจียงเหยาฟื้นคืนสติของเธอแม้ว่าจะยังมึนงงอยู่เล็กน้อย
“เจียงเหยา เป็นไงบ้าง? ตกใจใช่ไหม?” เฉินซวีเหยาสังเกตเห็นการแสดงออกที่น่าตกใจของเจียงเหยา และหัวเราะเบา ๆ “คุณคิดว่าพี่ชิงสีเขาเป็นคนอ่อนโยนใช่ไหม?”
เจียงเหยาพยักหน้า ในความเป็นจริง เธอคิดว่าลู่ชิงสีไม่มีอารมณ์อะไรเลยในชีวิตก่อนหน้านี้ของเธอ ไม่ว่าเธอจะปฏิบัติต่อเขารุนแรงเพียงใด เขาไม่เคยขึ้นเสียงใส่เธอเลย แต่เขากลับดูแลเธอและดูแลเธออย่างสุดซึ้ง
“ใช่ เขาเป็นแบบนั้นต่อหน้าคุณเท่านั้น พูดตามตรง เขาเป็นคนอารมณ์ร้อน”
เฉินซวีเหยาถอนหายใจ “เราทุกคนต่างเห็นพ้องกันว่า ชิงสีทุ่มเทความอดทนอดกลั้นทั้งหมดของเขาให้กับคุณ และนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาไม่มีอารมณ์นั้นให้กับคนอื่น ฉันเชื่อว่าคุณคงไม่เคยเห็นเขาโกรธมาก่อน”
เฉินซวีเหยาหยุดชั่วครู่หนึ่งก่อนจะถามว่า “เจียงเหยา ตอนนี้คุณกลัวพี่ชิงสีหรือเปล่า?”
เจียงเหยาส่ายหน้า เขาคือลู่ชิงสีของเธอ เธอจะกลัวเขาได้อย่างไร? เธอกลับตระหนักว่าความเข้าใจของเธอที่มีต่อเขานั้นตื้นเขินนัก เธอรู้จักเขาเพียงผิวเผินเท่านั้น เฉพาะส่วนที่เขาต้องการให้เธอรู้
“วงจรชีวิตของเราไม่ได้สงบและผ่อนคลายอย่างที่เห็นหรอกนะ พี่ชิงสีผ่านอะไรมาอย่างยากลำบาก” เฉินซวีเหยาถอนหายใจอีกครั้ง “นี่คือเหตุผลที่ฉันเลือกไปเรียนต่อต่างประเทศและเป็นนักออกแบบภายในหลังจากเรียนจบจากสถาบันการทหาร”
__
ตอนที่ 182 บทลงโทษที่อ่อนเกินไป
การเดินทางของลู่ชิงสีนั้นยากและโหดร้ายเกินไป เขาไม่คิดว่าตัวเขาจะแข็งแกร่งพอที่จะเดินบนเส้นทางเดียวกันได้
ทางเดินที่เต็มไปด้วยขวากหนามและกับดัก ใครอยากจะจบการเดินทางโดยไม่มีรอยฟกช้ำและบาดแผลได้?
ดังนั้นไม่มีใครอื่นนอกจากลู่ชิงสีที่มีความพากเพียรและทักษะที่ยืดหยุ่นของเขา สามารถเดินทางบนเส้นทางที่ระทมทุกข์ได้
เฉินซวีเหยาไม่ได้พูดเกินจริงไปกว่าคำพูดของเขาเลย ในบรรดาพี่น้องทั้งห้าของเขา ลู่ชิงสีได้เลือกเส้นทางที่ยากที่สุดและอันตรายที่สุด เขายังแบกภาระที่หนักที่สุดไว้บนบ่าของเขาด้วย
เจียงเหยาเอียงศีรษะของเธอขณะที่เธอฟัง ดูเหมือนเธอจะเข้าใจแล้ว แต่ก็รู้สึกไม่ค่อยเข้าใจไปเวลาเดียวกัน
เธอไม่รู้ว่าลู่ชิงสี ซึ่งตอนนี้เป็นสิบเอกได้ละทิ้งสิ่งที่เขาบากบั่นมาอย่างยากลำบากจนเพื่อเธอ ตอนที่เธอจะกลับมาเกิดใหม่ ด้วยทักษะที่ยอดเยี่ยมและการสนับสนุนที่ทรงอิทธิพล เขาเป็นสิบเอกถึง 11 ปีจนถึงวันที่เขาเสียชีวิต เขาทิ้งโอกาสอะไรไปบ้างเพื่อเธอ? เธอไม่เคยรู้อะไรเลย
ในไม่ช้าลู่ชิงสีก็กลับเข้ามาที่ห้อง เขาขมวดคิ้วทันทีที่เข้ามาในห้อง พวกเขาเงียบสนิทและมีท่าทางเคร่งขรึมในการแสดงออกของเจียงเหยา เขาพูดเรียบ ๆ “กลับโรงแรมกันเถอะ”
หลังจากที่รู้ว่าเฉินซวีเหยากำลังจะกลับไปพักที่โรงแรมเดียวกับเขา ลู่ชิงสีทำได้เพียงเหลือบตามองเขา และจับมือเจียงเหยาเดินออกไป พวกเขาเดินออกจากสถานีอย่างเงียบ ๆ และขับรถที่หัวหน้าอวี้เตรียมไว้ให้เขากลับโรงแรม
สิ่งแรกที่ลู่ชิงสีทำทันทีที่พวกเขามาถึงโรงแรมคือการเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดลำลอง เขาไม่ต้องการสวมชุดทหารที่ดึงดูดความสนใจที่ไม่ต้องการออกไปก่อน
เมื่อลู่ชิงสีอยู่ในห้องน้ำ กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า เฉินซวีเหยาเดินไปใกล้เจียงเหยาและกระซิบว่า “ถ้าพี่ชิงสีตีฉัน คุณต้องช่วยฉันนะเจียงเหยา”
“เขาไม่ตีคุณจนตายหรอก ไม่มีอะไรให้กลัวสักหน่อย” เจียงเหยาส่งยิ้มอย่างเย้ยหยันให้กับเขา
ประตูห้องน้ำเปิดออกก่อนที่เขาจะพูดอะไร เขารีบลุกขึ้นทันทีเมื่อได้ยินคำถามที่เย็นชาดังมาจากข้างหลังเขา “ทำไมนายยังอยู่ที่นี่อีก? กลับห้องได้แล้ว”
เฉินซวีเหยายิ้มหวานในขณะที่ชี้ไปที่นาฬิกาของเขา “พี่ชาย นี่มันเวลาอาหารกลางวันนะ เราไปกินข้าวกันก่อนดีไหม?”
“หิวก็ไปหาอะไรกินเองสิ ถ้าไม่หิวก็กลับไปที่ห้องของนายและรออยู่ที่นั่นซะ” ลู่ชิงสีพูดอย่างตรงไปตรงมา โดยบอกเป็นนัยว่าเฉินซวีเหยาได้รับการต้อนรับเกินเวลาแล้ว
เฉินซวีเหยาพยักหน้าอย่างเขินอาย ก่อนที่เขาจะออกจากห้อง เขาหันไปกะพริบตาเพื่ออ้อนวอนเจียงเหยา
เมื่อในห้องเหลือเพียงสองคน ลู่ชิงสีเทน้ำแก้วหนึ่งส่งให้เจียงเหยา และนั่งลงข้างเธอ ถามด้วยเสียงต่ำ “ซวีเหยามาหาคุณทำไม”
ลู่ชิงสีรู้ว่าการเจอกันของพวกเขาไม่ใช่เรื่องบังเอิญ และพวกเขาไมได้ถูกพาที่ที่สถานีตำรวจอย่างไม่มีเหตุผลด้วยเช่นกัน เขาไม่ได้รับแจ้งจากเฉินซวีเหยาว่าจะมาที่เมืองหนานเจียง ดังนั้นเขาจึงมั่นใจว่าเฉินซวีเหยามาที่นี่เพื่อพบกับเจียงเหยา
เจียงเหยาจับแก้วในมือของเธออย่างเงียบ ๆ พร้อมกับเหลือบมองไปที่ลู่ชิงสี และจ้องมองโดยไม่คาดคิด เธอยิ้มอย่างเขินอายและก้มลงมองแก้วน้ำของเธอ
ใบหน้าที่เย็นชาของเขาไม่มีอารมณ์อะไรปรากฏ เขาล็อกสายตาที่เยือกเย็นและจดจ่ออยู่กับเธอ เจียงเหยารู้ว่าเขาอารมณ์เสียแต่เธอไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายไม่มีความสุขเพราะเธอไม่ได้อยู่รอที่โรงแรมตามสัญญา หรือเพราะเรื่องตลกของตระกูลจาง
“เมื่อวันก่อนโจวเหวยฉีมาหาฉัน เกิดเรื่องบางอย่างขึ้น” เฉินซวีเหยาแนะนำให้เธอบอกเขาอย่างตรงไปตรงมา ดังนั้นเธอจึงเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ให้เขาฟัง
“ฉีเซียง?” ลู่ชิงสีรู้ว่าบุคคลดังกล่าวเป็นเพื่อนของโจวเหวยฉี แต่หลังจากที่เจียงเหยาเล่าให้เขาฟัง เขาอยากจะฆ่าผู้ชายคนนั้นเสียตอนนี้เลย หลังจากนั้นเขาก็พูดชื่อจางซีชิงอีกครั้งและคำรามด้วยน้ำเสียงเย็นชาอย่างน่าขนลุก “การที่ผมเตะไปนั่นถือเป็นการลงโทษที่น้อยเกินไปเสียด้วยซ้ำ”
ถ้าเขารู้เรื่องนี้เร็วกว่านี้ จางซีชิงคงไม่จบด้วยการถูกเตะง่าย ๆ แบบนั้นแน่