ตอนที่ 1147-1148 สิ่งสำคัญที่สุดคือความเข้าใจ
“เป็นไปได้ไหมว่าพี่รองเป็นฝ่ายอยากเก็บเรื่องความสัมพันธ์ของพวกพี่เป็นความลับ? พี่สะใภ้คงจะรู้สึกไม่มั่นคง เลยไม่บอกเรื่องนี้กับพี่?” หยางเชาชิงจำได้ว่าดาราสาว ๆ ที่ติดตามเขาก็มักจะใช้วิธีเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงถือว่าการกระทำของเฉียวเมียนเมียนก็ไม่ต่างจากดาราเหล่านั้น
เขาต้องการให้คนทั่วไปรู้เพื่อทำให้ตำแหน่งของเขามั่นคง
แต่เขาก็รู้สึกว่าสำหรับเฉียวเมียนเมียนแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นเลย
เห็น ๆ กันอยู่ว่าเหมาเยซื่อให้ความสำคัญกับเฉียวเมียนเมียนมากแค่ไหน
ไม่ว่าคนอื่นจะรู้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับเธอ
ถ้าเธอต้องการเปิดเผยเรื่องนี้ต่อสาธารณะ พี่รองไม่มีทางปฏิเสธเธออย่างแน่นอน
เหมาเยซื่อขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย “อย่าเอาเธอไปรวมกับผู้หญิงที่อยู่รอบตัวนาย ทำไมพี่สะใภ้ของนายต้องทำแบบนั้นด้วย”
หยางเชาชิงพูดไม่ออก
“ก็ได้ ก็ได้ ก็ได้ รอบตัวฉันมันมีแต่ผู้หญิงไม่ดี ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรคิดว่าภรรยาที่มีค่าของพี่รองจะเหมือนกันผู้หญิงพวกนั้น แต่พี่รอง พี่ไม่ลองถามพี่สะใภ้ดูหน่อยเหรอ? อีกอย่าง ทั้งสองคนก็แต่งงานกันแล้วไม่ใช่เหรอ?”
“พี่สะใภ้ของนายก็อยู่ข้าง ๆ ฉันเนี้ย” เหมาเยซื่อไม่มีอารมณ์จะคุยกับเขาต่อ “เอาล่ะ ฉันจะถามเธอเองว่าเกิดอะไรขึ้น แค่นี้นะ”
เขาวางสายก่อนที่หยางเชาชิงจะตอบรับ
เขาหันไปมองเฉียวเมียนเมียนด้วยอารมณ์ที่ไม่สามารถอธิบายได้
“หยางที่สามโทรมาบอกผมแล้วว่าคุณโพสต์บนเว่ยป๋อ”
เหมาเยซื่อยังไม่ได้อ่านเนื้อหานั่น
เขาดาวน์โหลดแอปเว่ยป๋อมาแล้ว แต่ยังไม่ได้สมัครสมาชิกเข้าใช้งาน
เขาจึงไม่เคยใช้มัน
หลังจากที่เขาได้รู้จักเฉียวเมียนเมียน เขาก็เริ่มคิดที่จะใช้
เขาพยายามทำเสียงให้สงบที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่เธอก็ยังสัมผัสได้ถึงอารมณ์ที่ไม่คงที่ของอีกฝ่าย
ดูเหมือนว่าเขาจะพยายามระงับอะไรบางอย่าง
เฉียวเมียนเมียนพยักหน้า “อืม”
ก่อนที่เธอจะโพสต์บนเว่ยป๋อ เธอไม่ได้พูดอะไรกับเขา
เป็นเพราะเธอรู้ว่าถ้าเธอบอกว่าจะทำ เขาคงไม่เห็นด้วย
แม้ว่าเขาจะอยากเปิดเผยเรื่องระหว่างเธอกับเขามานานแล้วก็ตาม
แต่เขาคงไม่ต้องการทำอะไรที่จะส่งผลเสียต่อเธอ
เธอรู้ว่าผู้ชายคนนี้ห่วงใยเธอมากแค่ไหน
เหมาเยซื่อจ้องมองเธอด้วยดวงตาลึกของเขา ซักพักก็ถามว่า “ทำไมล่ะ”
เขาถามเพียงว่า ‘ทำไม’
เฉียวเมียนเมียนรู้ว่าเขาต้องการจะถามอะไร
เขาคงอยากจะถามว่า : ทำไมคุณถึงได้โพสต์? ทำไมจู่ ๆ ถึงได้ตัดสินใจประกาศความสัมพันธ์ระหว่างเรา?
เฉียวเมียนเมียนเม้มริมฝีปากและมองไปที่เขาครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “ฉันเพิ่งจะเข้าใจอะไรบางอย่าง”
ดวงตาของเหมาเยซื่อจับจ้องไปที่เธอ ลูกกระเดือกขยับไปตามการกลืนน้ำลาย “คืออะไรล่ะ?”
หญิงสาวเม้มริมฝีปากของเธออีกครั้งและมองไปที่เขาอย่างมั่นคง เธอพูดคำต่อคำอย่างชัดเจน “สิ่งสำคัญที่สุดคือความเข้าใจ”
เหมาเยซื่อเม้มริมฝีปากและนิ่งเงียบ
ทว่าสายตาของเขากลับเร่าร้อนขึ้นเรื่อย ๆ
เฉียวเมียนเมียนรู้สึกอึดอัด เธอยกมือขึ้นสัมผัสใบหน้าที่ร้อนผ่าวของตนเองและถามเบา ๆ ว่า “อะไรเล่า..มีอะไรผิดปกติอย่างงั้นเหรอ?”
ใบหน้าที่หล่อเหล่าตรงหน้าเธอ แทบจะทำให้หัวใจของเธอหยุดเต้นอย่างกะทันหันเมื่อเขาขยับเข้ามาใกล้
เฉียวเมียนเมียนเงยหน้าขึ้น ตอนนี้หัวใจของเธอเต้นเร็วอย่างผิดจังหวะ
เหมาเยซื่อขยับเข้าไปใกล้และจูบเธอ
ระยะห่างระหว่างพวกเขาน้อยกว่า 2 เซนติเมตร
แม้ว่าชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเธอจะเป็นสามีของเธอ แม้ว่าเธอจะถูกเขาจูบมาหลายต่อหลายครั้ง
แต่ในครั้งนี้เฉียวเมียนเมียนยังรู้สึกกระวนกระวายและประหม่า
__
เธอวางมือบนหน้าอกของเขาสะเปะสะปะเพื่อไม่ให้เขาเข้ามาใกล้
เหมาเยซื่อไม่ได้ตั้งใจจะเข้าใกล้ สายตาที่มองลึกของเขาจับจ้องไปที่ใบหน้าแดงก่ำของหญิงสาว เขาใช้นิ้วบีบคางเธอเบา ๆ “แล้วคุณรู้แล้วเหรอว่าอะไรสำคัญที่สุด?”
เฉียวเมียนเมียนมองไปที่ใบหน้าหล่อ ๆ ที่อยู่ตรงหน้าเธอ หัวใจของเธอเต้นเร็วอย่างควบคุมไม่ได้ แม้ว่าเธอจะประหม่า แต่สายตาของเธอก็ไม่สั่นไหว
เธอประสานตาเข้ากับตาคู่นั้น แม้ใบหน้าจะร้อนผ่าวสักเพียงไหน แต่ก็ตอบออกไปว่า “ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว เหมาเยซื่อ คุณสำคัญที่สุดสำหรับฉันค่ะ”
เหมาเยซื่อตกตะลึง
ไม่กี่วินาทีต่อมา ดวงตาของเขาดูเหมือนจะเร่าร้อนดั่งไฟแผดเผา ดวงตาของเขาชัดเจนและสดใส
เฉียวเมียนเมียนรู้สึกได้ถึงการจับคางที่บีบแน่น
“พูดอีกครั้งซิ อะไรสำคัญที่สุดสำหรับคุณ” เสียงของชายคนนี้เย้ายวนและอ่อนโยน
เฉียวเมียนเมียนมองมาที่เขาและพูดอีกครั้ง “เหมาเยซื่อคะ ฉันรู้แล้วค่ะ ว่าคุณสำคัญที่สุดสำหรับฉัน ฉันรู้ว่าคุณไม่ชอบให้เราคบกับอย่างลับ ๆ เพราะงั้นต่อจากนี้ไป เราคบหากันอย่างเปิดเผยนะค”
เหมาเยซื่อตกตะลึงอย่างที่สุด
เขาหรี่ตาให้เล็กลง “คุณหมายถึงว่าเราควรประกาศเรื่องนี้ออกไปอย่างนั้นเหรอ”
“ค่ะ ต่อสาธารณะ”
“ที่รัก พูดอีกครั้งสิ คุณต้องการเปิดเผยความสัมพันธ์กับผมใช่ไหม คุณแน่ใจแล้วใช่ไหม?”
เฉียวเมียนเมียนรู้สึกเวียนหัวเล็กน้อยเมื่ออยู่ใกล้ใบหน้าหล่อ ๆ ของสามีตนเอง และยิ่งได้ยินเสียงที่อ่อนโยนของเขาด้วยแล้ว เธอรู้สึกว่าหากชายหนุ่มบอกกับเธอว่าเขาต้องการชีวิตเธอ เธอก็คงจะให้เขาได้
หากคนอย่างเขามีใจจะยั่วยวนใคร คงไม่มีใครที่ปฏิเสธได้อย่างแน่นอน
เธอกลืนน้ำลายและมองดูริมฝีปากแดงสดที่อยู่ใกล้เธอเพียงคืบ เธออดไม่ได้ที่จะหลับตาและจํบเขา
เธอแสดงความมุ่งมั่นของเธอด้วยการกระทำ
เหมาเยซื่อหลับตาลง
ในตอนแรก เขาทำได้เพียงอดทนกับมันอย่างเฉยเมย แต่สุดท้ายเขาก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป และตอบสนองความต้องการของตัวเอง เขาเอื้อมมือไปดึงเธอไว้ในอ้อมแขนและจูบเธอเบา ๆ
จูบนี้แตกต่างจากครั้งก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง
ทั้งสองต่างรักกันอย่างลึกซึ้ง
ไม่กี่นาทีต่อมา
“คุณไม่เสียใจนะ” เหมาเยซื่อลูบไล้แก้มขาวเนียนของเธอและถามด้วยเสียงต่ำ
เฉียวเมียนเมียนคิดก่อนที่จะโพสต์แล้ว
และเธอตัดสินใจที่จะโพสต์ ดังนั้นเธอไม่เสียใจ
เธอไม่ได้ทำเพราะอารมณ์ชั่ววูบ
ตอนนี้เธอก็ยังรู้สึกว่าเขาคือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเธอ
“ไม่เสียใจค่ะ” เธอส่ายหน้า น้ำเสียงหนักแน่น
“คุณไม่กลัวว่าการเผยแพร่เรื่องนี้ออกไปจะส่งผลต่องานของคุณเหรอ?”
“ไม่ค่ะ”
อย่างที่ลินดาพูด เธอไม่คิดจะเป็นไอดอล
เธอไม่ได้เดบิวต์ในฐานะไอดอล จึงไม่จำเป็นต้องสร้างภาพลักษณ์ว่าเป็นคนบริสุทธิ์ ไม่มีพันธะกับแฟนคลับ
เธอเข้ามาในวงการนี้เพราะเธอรักการแสดง
สำหรับเธอไม่มีอะไรสำคัญไปกว่านั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดือการมุ่งเน้นเรื่องการแสดง
เธอเชื่อมั่นว่าตราบใดที่ผลงานของเธอดี คนดูก็จะชอบเธอเอง
เธอเพิ่งคิดออก
เธอไม่เสียใจที่โพสต์ไปแบบนั้นบนเว่ยป๋อ คนเดียวที่เธอรู้สึกเสียใจก็คือลินดา
อย่างไรเสียการกระทำของเธอถือว่าเป็นการละเมิดสัญญา
เฉียวเมียนเมียนเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าเขาขยับตัว เธออดมาได้ที่จะล้อเขา
“ถึงแม้หวนหยูจะยกเลิกสัญญา คุณก็สนับสนุนฉันต่อได้นี่ค่ะ สามีฉันเก่งและรวยมากซะขนาดนี้ แค่ลงทุนสร้างหนังให้ฉัน ฉันก็ได้เป็นนักแสดงต่อไปแล้ว ไม่ใช่เหรอ”