บทที่ 8
ชารอนพลันได้สติ หัวใจของเธอกำลังเต้นแรง ชารอนก้มศีรษะลงและกัดริมฝีปาก อันที่จริง เธอรู้สึกหงุดหงิดไม่น้อย
ไซม่อนรู้สึกตะขิดตะขวงใจทันทีที่เห็นชารอนเผยท่าทีเช่นนั้น และก็เป็นอีกครั้งที่ไซม่อนสามารถจับกลิ่นของชารอนได้ มันเป็นกลิ่นที่เขาต้องการสูดดมมาโดยตลอด
ไซม่อนชำเลืองมองชารอนอย่างละเอียดกว่าเดิม
บรรยากาศระหว่างทั้งสองในตอนนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าพลันดังขึ้นใกล้พวกเขา
“ชาร์ เธอได้ยามาหรือยังน่ะ?” ไรลีย์และเซบาสเตียนรออยู่ในห้องผู้ป่วยมาระยะหนึ่งแล้ว ด้วยเหตุนี้ ไรลีย์จึงตัดสินใจออกมาตามหาชารอน เนื่องด้วยเธอไม่รู้ว่าชารอนหายไปไหน
ชารอนสงบสติอารมณ์ 'ให้ตายสิ! เราลืมลูกชายของตัวเองได้ยังไงกันล่ะเนี่ย?'
“อ่า ฉันได้ยามาแล้ว เซบาสเตียนเป็นยังไงบ้างล่ะ?”
“เขาดีขึ้นแล้ว แต่หมอบอกว่าเขายังต้องกินยาอยู่” ไรลีย์มองไปยังชายร่างสูงสุดเย็นชาที่ยืนอยู่ข้างชารอน ดวงตาของไรลีย์เริ่มเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น “นี่เจ้านายของเธอไม่ใช่เหรอ ชาร์? ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ด้วยล่ะ?”
'ไม่คิดเลยว่าคุณไซม่อนจะหล่อมากขนาดนี้ เขาหล่อกว่าที่เห็นในโทรทัศน์เสียอีก แต่ยังไงก็เถอะ ผู้ชายคนนี้ปล่อยออร่าอะไรออกมาสักอย่างซึ่งทำให้เราไม่อยากเข้าใกล้เข้าเลย'
ชารอนไม่สามารถพูดคุยกับไซม่อนได้อีกต่อไปแล้ว ดังนั้น เธอจึงกล่าวอย่างสุภาพ “ท่านประธานแซคคารี่คะ ฉันขอตัวไปดูลูกชายก่อนนะคะ” หลังจากนั้น ชารอนก็เดินออกไปพร้อมกับไรลีย์
ทว่า ไซม่อนพลันกล่าวคำพูด “เดี๋ยวฉันช่วยดูเจ้าหนูคนนั้นเอง”
ชารอนตกตะลึง “เอ่อ... ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” เธอรู้สึกแปลกใจไม่น้อย
'เขาใจดีเกินไปหรือเปล่านะ?'
ไซม่อนทำตัวราวกับว่าเขาไม่ได้ยินคำปฏิเสธของชารอนเมื่อครู่เลย เธอถึงกับก้าวเท้าเดินออกมาแล้วด้วยซ้ำ "เขาอยู่ห้องไหนล่ะ?" ไซม่อนถามด้วยท่าทางที่ไม่ยอมให้ชารอนปฏิเสธอะไรทั้งสิ้น
ชารอนกัดริมฝีปาก “เอ่อ ท่านประธานแซคคารี่ คุณไม่มีธุระอย่างอื่นต้องทำเหรอคะ?”
“คุณหมอกำลังตรวจร่างกายพ่อของผมอยู่น่ะ ตอนนี้ผมเองก็ว่างอยู่ด้วย” เขากล่าวคำพูดออกมาโดยไม่ได้คิดอะไรมาก
ชารอนรู้ถึงเหตุผลที่ไซม่อนมาโรงพยาบาลแล้ว ในระหว่างที่เธอกำลังลังเล ในทางกลับกัน ไรลีย์ก็เผยท่าทีสุดเป็นมิตรและรีบนำทางไซม่อนไป "แค่เลี้ยวตรงข้างหน้านี่เองค่ะ ตามเรามาก็ได้"
ไรลีย์กล่าวคำพูดพร้อมกับดึงชารอนเดินไปข้างหน้า
ชารอนเหลือบมองไรลีย์และกระซิบ “อย่าทำอะไรโง่ ๆ เลยน่า ไรลีย์”
ไรลีย์ไม่ได้ใส่ใจคำพูดของชารอนเลย “ทำไมเธอถึงกังวลนักล่ะ?”
สุดท้ายแล้ว ชารอนก็ปฏิเสธไซม่อนไม่ได้ เธอจึงพาไซม่อนไปที่ห้องผู้ป่วย
เซบาสเตียนขมวดคิ้วและกำลังนอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล ทันทีที่เซบาสเตียนเห็นว่าแม่ของตัวเองกลับมาแล้ว ดวงตาของเด็กน้อยก็เริ่มเป็นประกายระยิบระยับ “แม่ของผมกลับมาแล้ว!”
นอกจากนี้ เมื่อเซบาสเตียนเห็นไซม่อนยืนอยู่ข้างหลัง สีหน้าที่มืดมนของเด็กน้อยในตอนนี้ก็ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น “หือ? ทำไมลุงใจยักษ์คนนี้ถึงมาอยู่ที่นี่ด้วยล่ะครับ?”
เซบาสเตียนเดินชนไซม่อนที่สนามบินเมื่อวันก่อน ย้อนกลับไป ไซม่อนดูเป็นชายผู้เย็นชาและไร้ความรู้สึกมากระหว่างที่ทั้งสองเจอหน้ากันครั้งแรก ด้วยเหตุนั้น เด็กน้อยจึงทักทายไซมอนในฐานะลุงใจยักษ์
ชารอนเผยสีหน้าลำบากใจออกมา เธอมองไปยังชายตรงหน้าซึ่งไม่มีใครสามารถคาดเดาอารมณ์ของเขาได้เลย ชารอนพลันกล่าวคำพูดกับลูกชายของตัวเองทันที "เซบาสเตียนลูกรัก คุณลุงคนนี้เป็นเจ้านายของแม่เองจ่ะ ลูกควรเรียกเขาว่าคุณลุงแซคคารี่นะ"
เซบาสเตียนเหลือบมองคุณลุงใจยักษ์ ไซม่อนเผยสีหน้าสุดเย็นชาออกมา “บังเอิญขนาดนั้นเลยเหรอครับ?! เขามาทำอะไรที่นี่กัน?”
ทันใดนั้น ไซม่อนเดินไปที่เตียงของเซบาสเตียนและพูดขึ้นอย่างอ่อนโยน “ฉันได้ยินมาว่านายไม่สบาย ฉันเลยมาเยี่ยมนายที่นี่น่ะ” ไซม่อนมองเด็กชายตรงหน้าพร้อมหรี่ตา ยิ่งมองใกล้เท่าไหร่ ไซม่อนก็ยิ่งรู้สึกคุ้นเคยมากขึ้นเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น ความสงสัยภายในใจก็ยิ่งเพิ่มกว่าเดิมด้วย
เซบาสเตียนเหลือบมองไซม่อนโดยไม่เชื่อว่าเขาจะเป็นคุณลุงที่ใจดีได้ 'วันนั้นเราทำกางเกงคุณลุงเปื้อนไอศกรีม แถมคุณลุงยังทำหน้าไม่พอใจใส่เราด้วย เพราะฉะนั้น คุณลุงคนนี้ต้องมาที่นี่เพื่อเยาะเย้ยเราแน่เลย'
“ผมสบายดี ผมไม่ต้องการให้ใครมาเยี่ยมด้วย” เด็กน้อยจงใจเผยหน้าตาไม่พอใจ เซบาสเตียนนั่งตัวตรงราวกับเขาต้องการพิสูจน์ว่าเขาไม่ได้ป่วยและสบายดี
ถึงกระนั้น ไม่นานนัก ท้องของเด็กน้อยก็ร้องดังขึ้นมา ด้วยเหตุนั้น เซบาสเตียนจึงไม่สามารถเก็บสีหน้าของตัวเองได้อีกต่อไป
แต่ทว่า เซบาสเตียนยังคงเผยท่าทีหน้าจริงจังออกไปเพราะเขาไม่ต้องการให้คุณลุงมาเยาะเย้ยตน
ไซม่อนพลันเม้มปากทันทีที่เห็นท่าทีของเด็กน้อยตรงหน้า "ถ้านายไม่สบาย ก็บอกลุงมาเถอะน่า ลุงไม่แกล้งอะไรนายหรอก" ไซม่อนสามารถเดาความคิดของเซบาสเตียนออก ทันทีที่พูดจบ ไซม่อนก็ตบไหล่ของเซบาสเตียนเบา ๆ
“ผม... ผมสบายดี!” ใบหน้าของเซบาสเตียนเปลี่ยนเป็นสีชมพูสดใส เด็กน้อยตั้งใจแน่วแน่ที่จะไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ เซบาสเตียนไม่ยอมให้ใครมาหัวเราะเยาะเย้ยเขาแน่!
ชารอนถอนหายใจกับตัวเองทันทีที่เห็นลูกชายของตัวเองทำตัวแบบนั้น 'อารมณ์ไหนของลูกกันล่ะเนี่ย?'
“มากินยาก่อนเถอะ ลูกรัก” ชารอนยื่นยาและน้ำหนึ่งถ้วยให้เด็กน้อย
เซบาสเตียนรับยาและกลืนมันลงไปทันทีพร้อมกับกระดกน้ำตาม
"ใจเย็นลูก" ชารอนลูบหลังของเซบาสเตียนเบา ๆ
ไซม่อนยืนอยู่ข้างทั้งและเผยยิ้มออกมาโดยไม่พูดอะไรสักคำ
ไรลีย์มองดูทั้งสามคนและนึกฝันขึ้นมา 'เหมือนครอบครัวเลย!'
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องนั้นเลย ไรลีย์พลันสังเกตเห็นแล้วว่าเซบาสเตียนและไซม่อนหน้าตาเหมือนกันมาก!
หลังจากที่เด็กน้อยกินยา ชารอนก็ให้เขานอนลงกับเตียงเพื่อพักผ่อน
ชารอนหันกลับมาและสังเกตเห็นว่าไซม่อนกำลังจ้องมองลูกชายของเธออยู่ ด้วยเหตุนั้น เธอจึงไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ว่าตอนนี้ไซม่อนกำลังคิดอะไรอยู่ นั่นทำให้ชารอนรู้สึกราวกับว่าหัวใจของตัวเองกำลังถูกบีบรัด
ในตอนนั้นเอง ชายคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามา "ลุงครับ อาการของคุณปู่เป็นยังไงบ้าง?"
ชารอนขมวดคิ้ว 'โฮเวิร์ด?'