บทที่ 4
“เจ้าหนู แม่เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพ่อของเธอเป็นใคร หยุดคิดถึงพ่อได้แล้วล่ะ ตอนนี้แค่มีแม่ทูนหัวก็พอแล้วแหละใช่ไหม?” ไรลีย์เคาะหัวเด็กน้อย 'เธอไม่ชอบป้าขนาดนั้นเลยเหรอ?'
“ผมไม่สน แม่สัญญากับผมแล้วว่าแม่จะพาผมมาหาพ่อ!” เด็กน้อยยังคงอ้าปากกล่าวคำพูด
เมื่อเห็นท่าทีจ้ำม่ำของเซบาสเตียน
ไรลีย์ก็อดใจไม่ไหวจนจูบเด็กน้อยเข้าที่แก้ม “แก้มเธอจะเด้งนิ่มไปไหนล่ะเนี่ย?”
เซบาสเตียนเผยหน้าซีดแทน “แม่ครับ... ป้าคนนี้แอบแต๊ะอั๋งผม!”
ทั้งนี้ ชารอนเลี้ยงได้ดูเซบาสเตียนด้วยตัวเองและเธอเองก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกับคนอื่น ดังนั้น เซบาสเตียนจึงเป็นเหมือนเด็กติดแม่และไม่ค่อยได้พบเจอคนอื่นมากนัก
“จูบถือว่าเป็นการแต๊ะอั๋งงั้นเหรอ?” ไรลีย์หัวเราะ
ชารอนเองก็หัวเราะออกมาเช่นกัน ก่อนที่เธอจะ 'ช่วย' ลูกชายของตนให้พ้นจากอ้อมแขนของเพื่อนสนิท “เจ้าตัวเล็กแค่กลัวคนแปลกหน้าน่ะ แต่ถ้าเขาได้อยู่กับเธอมากขึ้น เดี๋ยวทุกอย่างก็ดีขึ้นเองแหละ”
ไรลีย์เลิกคิ้ว “เอาล่ะ งั้นป้าจะให้เธออยู่กับป้าหนึ่งวันเต็ม ๆ เลย!” ไรลีย์กล่าวคำพูดออกมาด้วยน้ำเสียงกึ่งบังคับ
เซบาสเตียนพ่นลมหายใจและหันกลับมากอดแม่ของตัวเองพร้อมกับเผยยิ้มด้วยความดีใจ
สองสาวถึงกับหัวเราะลั่นทันทีที่เห็นเช่นนั้น
หลังจากนั้น ไรลีย์ก็พาชารอนและเซบาสเตียนเข้าไปในบ้าน ภายในมีห้องนอนขนาดเล็กสองห้อง โดยปกติแล้ว แต่ละห้องนั้นกว้างมากเมื่อไรลีย์อยู่คนเดียว
ถึงอย่างไร มันก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกอึดอัดขนาดนั้น ถึงแม้ว่าชารอนและเซบาสเตียนจะอยู่ด้วยกัน แต่มันก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกอึดอัดขนาดนั้น เพราะไรลีย์เองก็นอนห้องอื่นอยู่ดี
“พอรู้ว่าพวกเธอสองคนจะมา ฉันก็ซื้ออาหารมาตุนไว้เพียบเลยนะ แถมวันนี้ฉันจะเตรียมงานเลี้ยงสุดยิ่งใหญ่ให้พวกเธอทั้งสองคนเพื่อเป็นการรับแขกจากแดนไกลอีกด้วย!” ไรลีย์กล่าวด้วยรอยยิ้มหลังจากวางสัมภาระลง
“แม่ครับ ผมหิวแล้ว” เซบาสเตียนกล่าวคำพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างงอแง
“ก็ได้ งั้นลูกนั่งเล่นรออยู่ตรงนี้ไปก่อนนะจ้ะ เดี๋ยวแม่กับคุณป้าไปทำอาหารให้เอง” ชารอนสั่งให้ลูกชายของตนนั่งรออยู่บนโซฟาในห้องโถง
"ลุยเลยครับ" เด็กน้อยเผยยิ้มออกมาพร้อมกับเผยสีหน้าขี้เล่นใส่แม่ของตน
ท้ายที่สุดแล้ว ไรลีย์ก็ตระหนักได้ว่าเซบาสเตียนเป็นเด็กที่ฉลาดไม่น้อย อย่างที่ชารอนเคยพูดเอาไว้ เขาจะเล่นกับคนที่รู้จักหรือสนิทเท่านั้น และเขาจะไม่สนใจคนอื่นเลย 'เขาจะเป็นเด็กชายจอมเย่อหยิ่งและเย็นชาหรือเปล่านะ?
'นิสัยดูไม่เหมือนกับชารอนเลยสักนิด เป็นไปได้ไหมนะที่เด็กคนนี้จะได้นิสัยมาจากพ่อที่ไม่แม้แต่จะมีตัวตนด้วยซ้ำ?'
ในระหว่างที่ชารอนและไรลีย์กำลังทำอาหารอยู่ในครัว เซบาสเตียนก็กำลังเล่นอยู่ในห้องโถง
ไรลีย์เหลือบมองไปทางห้องโถงและสะกิดชารอนด้วยข้อศอก เธอพลันกระซิบ “เซบาสเตียนไม่ค่อยเหมือนเธอเท่าไหร่เลยนะ ถ้าดูจากรูปร่างหน้าตาแล้ว ฉันขอเดาว่าเขาต้องได้พ่อมาสักแปดสิบเปอร์เซ็นต์แน่ อันที่จริง ฉันว่าพ่อของเด็กคนนี้ต้องหล่อมากแน่ ๆ เลยล่ะ!”
ทันทีที่ได้ยินคำพูดของไรลีย์ ชารอนพลันนึกถึงชายหนุ่มสุดเย็นชาที่เธอพบเจอโดยบังเอิญที่สนามบิน
ชารอนพลันรู้สึกว่าผู้ชายคนนั้นเกิดมาพร้อมกับออร่าอันทรงเกียรติ ออร่าบางอย่างที่ชายคนนั้นเผยออกมาทำให้ผู้คนต้องการที่จะออกห่างจากเขา
“เธอคิดอะไรอยู่น่ะ?” ไรลีย์ยกมือขึ้นและโบกไปมาต่อหน้าชารอน
ชารอนรีบสะบัดมือของไรลีย์ออกไป ดวงตาของเธอเริ่มเป็นประกาย “ไม่มีอะไรหรอก แต่เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรนะ?”
“ฉันบอกว่าเซบาสเตียนจะต้องหน้าเหมือนพ่อของเขาแน่ และผู้ชายคนนั้นจะต้องเป็นคนที่หล่อมาก ๆ ด้วย”
“ไร้สาระน่า ดูก็รู้ว่าเขาได้ฉันมาเยอะ!”
“เธอไม่อยากให้พ่อแท้ ๆ ของเขาหน้าตาดีหรือยังไงกัน? มันคงจะดีกว่านะถ้าพ่อแท้ ๆ ของเซบาสเตียนหล่อกว่าโฮเวิร์ดสักร้อยเท่า! เพราะถ้าเป็นแบบนั้น เธอจะได้ไม่ต้องรู้สึกด้อยค่าอีกต่อไป”
ทว่า ไรลีย์รู้สึกเสียใจกับคำพูดของตนทันทีที่พูดโพล่งออกมา เธอหมุนตัวและมองไปทางชารอน ชารอนเผยสีหน้าสุดเศร้าสร้อยออกมา
“เป็นอะไรไปน่ะ? เธอยังไม่เลิกคิดถึงโฮเวิร์ดอีกเหรอ?”
ชารอนส่ายหัว "ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย"
“ดีมาก หมอนั่นก็เป็นแค่ไอ้คนทุเรศที่ไม่เคยสนใจผู้คนรอบตัวด้วยซ้ำ!” ไรลี่ย์กล่าวคำพูดออกมาก่อนที่จะเปลี่ยนประเด็นไปอย่างรวดเร็ว "แต่ฉันอยากจะบอกข่าวดีเรื่องหนึ่งนะ ฉันส่งเรซูเม่ของเธอให้แล้ว พรุ่งนี้เตรียมตัวไปรายงานตัวที่บริษัทใหม่ได้เลย!”
“ได้เร็วขนาดนั้นเลยเหรอ?” ชารอนรู้สึกประหลาดใจ
"ใช่ งานใหม่ไม่ได้หากันง่าย ๆ นะเพื่อน อีกอย่าง เธอเองก็เป็นนักออกแบบที่กำลังจะสร้างชื่อเสียงเชียวนะ!"
วันรุ่งขึ้น ชารอนเดินทางไปรายงานตัวที่บริษัทใหม่
เมื่อห้าปีที่แล้ว ชารอนออกจากนอร์เทิร์นซิตี้เพื่อย้ายมาอยู่ที่เมืองเอ็มคันทรี่ หลังจากให้กำเนิดลูกชายเซบาสเตียน ชารอนก็ไปเรียนต่อด้านการออกแบบ
ในตอนนี้ ชารอนได้ก้าวเท้าเข้าสู่บริษัทเซ็นทรัลคอร์ปอเรชั่น ถึงอย่างไร ระหว่างที่ชารอนกำลังจะถามหาแผนกบุคคลว่าอยู่ชั้นไหน เธอก็ได้ยินเสียงดังขึ้นมาจากด้านหลัง
ในตอนนั้นเอง พนักงานทุกคนที่ทางเข้าแบ่งแยกกันเป็นสองแถว นอกจากนี้บรรยากาศโดยรอบยังอบอวนราวกับว่าพวกเขากำลังทำการต้อนรับคนใหญ่คนโต
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่สวมเสื้อสีดำก็ผลักประตูกระจกให้เปิดออก ทันใดนั้น
ชายหนุ่มร่างสูงตระหง่านและออร่าเป็นประกายก็เดินเข้ามาข้างใน ใบหน้าของเขาสงบนิ่งราวกับเป็นกระบี่ที่แหลมคม นอกจากนี้ เขายังเผยออร่าที่สง่างามจนทำให้พนักงานทุกคนที่ยืนอยู่รอบกายรู้สึกกดดันออกมาด้วย
ชารอนหันกลับมา เธอเห็นผู้คนมากมายต่างก็เข้ามารายล้อมผู้ชายคนนั้นที่กำลังเดินเข้ามา หลังจากนั้น ชารอนก็พลันสะดุ้ง 'อะไรกัน? ชายคนนั้น?'