บทที่ 3
ไซม่อน แซคคารี่เผยสีหน้าแปลกไป "อย่ากังวลไปเลย ในฐานะคนเป็นพ่อแม่ คุณก็แค่ต้องดูแลลูกชายตัวเองให้ดีกว่านี้หน่อย"
“ใช่ เสื้อผ้าที่ท่านประธานแซคคารี่ใส่อยู่เป็นของสั่งทำพิเศษเชียวนะ คุณคิดว่าตัวเองจะจ่ายค่าชดเชยไหวไหมล่ะ?” แฟรงกี้ ซิมเมอร์ ผู้ช่วยของไซม่อนที่ยืนอยู่ข้างหลังพลันกล่าวคำพูดออกมา ก่อนหน้านี้ แฟรงกี้นี่แหละเป็นคนที่ดุลูกชายของชารอน
แฟรงกี้จ้องไปที่ชารอน 'กล้ามากเลยนะ! ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าเข้าใกล้ท่านประธานแซคคารี่ขนาดนี้มาก่อน!'
“มันก็แค่กางเกงตัวหนึ่งไม่ใช่เหรอครับ? ผมจ่ายเองก็ได้!” เซบาสเตียนพูดขึ้น ในเมื่อเขาเป็นคนก่อปัญหา เซบาสเตียนจึงไม่อยากปล่อยให้แม่ของตัวเองต้องรู้สึกอับอายขายขี้หน้า
ไซม่อนจ้องไปที่เด็กน้อยเซบาสเตียน เขาขมวดคิ้วทันทีและรู้สึกว่าตนคุ้นเคยกับเด็กน้อยตรงหน้าไม่น้อย
แฟรงกี้เผยเสียงหัวเราะ “เด็กน้อย หนูจะชดเชยยังไงล่ะ?”
เซบาสเตียนหยิบกระปุกออมสินที่อยู่ในกระเป๋าเป็ดสีเหลืองของตนออกมา จากนั้น เขาก็เทเงินสดที่มีทั้งหมดออกมา “นี่ไง เท่านี้พอไหมล่ะครับ?”
ไซม่อนมองไปที่เงินในกระเป๋า ดูเหมือนว่าเขาจะนึกถึงอะไรบางอย่างออกในระหว่างที่กำลังเผยสีหน้าสุดเย็นชาออกมา
เขาเผยยิ้มจาง ๆ และกล่าวคำพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ต่างไปจากตอนแรก “เก็บเงินไว้เถอะเจ้าหนู ครั้งหน้าก็มองทางให้มันดีกว่านี้หน่อยนะ”
“คุณลุงกำลังดูถูกผมอยู่เหรอ?” เซบาสเตียนขมวดคิ้วและมองไปยังชายที่ยืนสูงตระหง่าน
สำหรับตอนนี้ ชารอนไม่อยากที่จะโต้เถียงกับพวกเขาอีกต่อไปแล้ว เนื่องจากอีกฝ่ายไม่ได้คิดมากอะไร เธอจึงต้องการรีบออกไปจากตรงนี้
ชารอนรีบดึงลูกชายเข้าหาตัวเองและกล่าวขอโทษอีกครั้ง “ฉันต้องขอโทษด้วยนะคะที่สร้างปัญหาให้คุณทั้งสอง”
หลังจากกล่าวขอโทษเสร็จ เธอก็รีบจูงมือลูกชายออกจากตรงนั้น ทว่า ทันใดนั้น เธอก็พลันเดินผ่านไซม่อนไปโดยบังเอิญ
ไซม่อนเองก็กำลังจะจากไปเช่นกัน แต่ทว่า ทันทีที่ชารอนเดินผ่านไป กลิ่นหอมที่เคยตราตรึงอยู่ในความทรงจำก็ลอยเข้าจมูกของไซม่อน
ไซม่อนหยุดชะงักไปชั่วครู่ทันที เขาหรี่ตาลงและหันกลับมามอง ถึงอย่างไร ชารอนกับลูกชายของเธอก็อยู่ห่างออกไปไกลแล้ว
ในชั่วพริบตา ทั้งชารอนและลูกชายก็เดินเข้าไปในกลุ่มฝูงชนของสนามบิน ถึงกระนั้น ไซม่อนยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
แฟรงกี้ที่รู้สึกงุนงงหันมามองเจ้านายของตนและถามขึ้นอย่างสงสัย “ท่านแซคคารี่ครับ คุณอยากให้เธอคนนั้นซื้อกางเกงให้ใหม่หรือยังไงกันเหรอครับ?”
ไซม่อนหรี่ตาลง 'ทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงได้มีกลิ่นตัวหอมแบบนั้นกันนะ?'
ผ่านมาห้าปีแล้ว ถึงแม้ว่าไซม่อนจะเคยได้กลิ่นหอมมากมายมาจากสาวงามหลายต่อหลายคน แต่ทว่า ไม่เคยมีกลิ่นไหนที่เคยทำให้เขาหวนนึกความหลังเช่นนี้มาก่อนเลย
“ช่วยสืบหาผู้หญิงคนนั้นที” ไซม่อนกล่าวคำสั่งอย่างใจเย็น
แฟรงกี้รู้สึกประหลาดใจ แต่เขาก็ยังพยักหน้าตอบกลับ "รับทราบครับ"
โดยปกติแล้ว ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนเลยที่สามารถกระตุ้นต่อมความสนใจของท่านประธานแซคคารี่ได้ 'ผู้หญิงคนนั้นมีลูกแล้วนะ นายท่านสนใจผู้หญิงที่แต่งงานแล้วเนี่ยนะ?'
ชารอนพาลูกชายออกจากสนามบิน เธอโบกมือเรียกแท็กซี่และมุ่งหน้าไปยังบ้านของไรลีย์
ชารอนไม่รู้ว่าทำไม แต่รูปลักษณ์ของชายเมื่อครู่ทำให้เธอรู้สึกแปลกไป ทว่า ระหว่างที่เธอพาลูกชายเดินห่างออกมา ชารอนก็รู้สึกราวกับว่ามีดวงตาคู่หนึ่งกำลังจ้องมองเธอจากด้านหลัง
เมื่อทั้งสองมาถึงบ้านของไรลีย์ ไรลีย์ก็ยืนรออยู่ที่ทางเข้าแล้ว
ไรลีย์รีบวิ่งออกมาทันทีที่เห็นชารอนลงมาจากรถ ไรลีย์พุ่งเข้าไปกอดเธอ “ชาร์! ในที่สุดเธอก็กลับมา ฉันล่ะคิดถึงเธอจริง ๆ เลย!”
ถึงกระนั้น ไรลีย์ก็กอดเธอเสียแน่นจนแทบจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว "รู้แล้วน่า ใจเย็นก่อนสิ ฉันแทบจะหายใจไม่ออกอยู่แล้วนะ!"
หลังจากนั้น ไรลีย์ก็ปล่อยชารอน ดวงตาของไรลีย์แปรเปลี่ยนเป็นสีแดง “ไหน?! ขอดูหน่อยสิว่าตอนนี้เธอเป็นยังไงบ้าง?! เธอมีลูกแล้ว!”
“อีกอย่าง เธอยังหุ่นดีเหมือนเดิมเลยนะ แบบนี้ก็คงหาแฟนใหม่ได้แล้วมั้ง!” ไรลีย์ยังคงชมชารอนต่อไป
“แฟนใหม่คืออะไรเหรอครับคุณป้า” เซบาสเตียนลากกระเป๋าเล็ก ๆ ไปยืนข้างแม่ของตน พร้อมกับมองไปที่ไรลีย์ด้วยดวงตาสีดำสุดไร้เดียงสา
“อ่า เจ้าหนูเซบาสเตียน! ทำไมเธอถึงหล่อและน่ารักได้ขนาดนี้เนี่ย?! เธอต้องได้แม่มาเยอะแน่ ๆ เลย!” ไรลีย์อุ้มเด็กน้อยเซบาสเตียนเอาไว้ในอ้อมแขนทันทีที่เห็น
เซบาสเตียนพยายามหายใจ เด็กน้อยเผยท่าทีสุดอึดอัดออกมาราวกับตัวเองกำลังติดอยู่กลางขากรรไกรของหมาป่า เซบาสเตียนโบกมือไปมาเพื่อขอความช่วยเหลือจากแม่ของตน “ช่วยผมด้วย...”
ชารอนรู้สึกตลกไม่น้อย “คุณป้าไรลีย์เป็นแม่ทูนหัวของลูกเลยนะ เธอไม่ใช่คนเลวอะไรหรอกจ้ะ”
“ใช่แล้ว ป้านี่แหละเป็นแม่ทูนหัวของเธอ เป็นเด็กดีด้วยล่ะ ไหน! ลองเรียกป้าว่าแม่ทูนหัวหน่อยสิ”
เซบาสเตียนเบ้ปากอย่างไม่เต็มใจเท่าไหร่นัก “ผมอยากได้พ่อมากกว่า ผมไม่ได้อยากได้แม่ทูนหัวสักหน่อย”