บทที่ 20
บรรยากาศภายในห้องทำงานพลันเงียบกริบ โดยเฉพาะบรรยากาศระหว่างเซบาสเตียนกับไซม่อน ทั้งหมดเป็นเพราะคำพูดของคุณครูสวิฟต์
ใจของชารอนเต้นแรงทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น อันที่จริง ระหว่างมองไปที่ไซม่อน ชารอนเองก็รู้สึกว่าเขาหน้าคล้ายเซบาสเตียนเช่นกัน เธอเคยสงสัยในเรื่องนี้มาสักพักหนึ่งแล้ว แต่ชารอนเองก็ไม่กล้าคิดไปไกลขนาดนั้น
ชารอนเผยเสียงหัวเราะอันแผ่วเบาเพื่อทำให้บรรยากาศดีขึ้น “คุณครูสวิฟต์คะ ฉันว่าคงจะเป็นความเข้าใจผิดกันระหว่างนักเรียนแหละค่ะ ก็เลยทำให้พวกเขาทะเลาะกัน อย่าไปคิดมากเลยคะ”
อันที่จริง คุณครูสวิฟต์เคยเห็นเด็กนักเรียนทะเลาะกันมานับไม่ถ้วนแล้ว "ครูแค่อยากแจ้งพวกคุณในฐานะพ่อแม่ เพื่อที่พวกเขาจะได้เข้าใจเหตุการณ์ได้มากขึ้น แต่แน่นอน มันต้องดีกว่าเดิมแน่ถ้าต่างฝ่ายสงบศึกกันได้อย่างสงบสุขน่ะค่ะ”
คุณครูสวิฟต์มองไปที่ลีวายด้วยท่าทางเคร่งขรึม “เธอเห็นพ่อของเซบาสเตียนแล้วนะ ต่อจากนี้ไป เธออย่าพูดจาว่าร้ายใส่เขาอีกล่ะ เข้าใจที่ครูพูดไหม?”
ทว่า ลีวายยังคงรู้สึกไม่พอใจอยู่เล็กน้อย ถึงกระนั้น เขาก็ก้มศีรษะลงและกล่าวคำพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “เข้าใจแล้วครับ”
“งั้นพวกเธอทั้งคู่ก็ควรขอโทษกันและกันด้วยนะ เพราะต่อจากนี้ไป พวกเธอจะต้องเป็นเพื่อนร่วมชั้นที่ดีต่อกัน” คุณครูสวิฟต์กล่าว
ทว่า ทุกคนไม่คาดคิดเลยว่าเซบาสเตียนจะโพล่งคำพูดออกมาแทบจะทันที “ผมจะไม่มีวันให้อภัยในสิ่งที่เขาพูดหรอกครับ ผมจะไม่ยอมรับคำขอโทษของเขาเด็ดขาด ยังไงก็เถอะ นายเองก็ต่อยฉันกลับมา งั้นเราก็เสมอกัน”
กล่าวอีกนัยหนึ่ง เซบาสเตียนจะไม่ยอมรับคำขอโทษ และเขาจะไม่ขอโทษกลับเช่นกัน
ทว่า ลีวายเองก็ไม่ยอมเช่นกัน “นายคิดว่าการมีพ่อทำให้นายดูยิ่งใหญ่มากขึ้นหรือยังไงกัน? ใครบ้างล่ะจะไม่มีพ่อ? ฮึ!” ทันทีที่พูดจบ ลีวายก็ส่ายหัวไปมา
เซบาสเตียนพ่นลมหายใจออกมาอย่างหนักหน่วงเพื่อตอบโต้และหันหน้าหนีเช่นกัน ทั้งสองไม่อยากมองหน้ากันเลยด้วยซ้ำ
เหล่าผู้ใหญ่ที่เฝ้าดูทั้งสองต่างคิดว่าเด็กชายสองคนนี้เล่นใหญ่กันเสียจริง พวกเขาส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้และหัวเราะออกมา
หลังจากนั้น ชารอนก็พาลูกชายกลับบ้าน
ไซม่อนให้ทั้งสองติดรถกลับไปด้วย
ทันทีที่ถึงคอนโด ชารอนถามไซม่อนว่าเขาต้องการดื่มน้ำสักแก้วไหม ถึงกระนั้น ชารอนเองก็ไม่คาดคิดเลยว่าไซม่อนจะลงมาจากรถและตามขึ้นไปชั้นบน
ขาของชารอนยังคงได้รับบาดเจ็บอยู่ เธอยังเดินได้ไม่สะดวกนัก ดังนั้น ไซม่อนและเซบาสเตียนจึงอาสาพยุงเธอขึ้นไปข้างบน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ทำให้ชารอนรู้สึกแปลกไป
ทันทีที่มาถึงห้อง ส่วนที่เป็นตะคริวของชารอนพลันแสดงอาการดีขึ้นกว่าเดิม นั่นเป็นเพราะไซม่อนเป็นชายร่างสูงระหว่างที่กำลังพยุงเธอ
ชารอนรู้สึกอับอายเล็กน้อยที่จะปล่อยให้ไซม่อนเห็นพื้นที่ข้างใน 'มันจะเป็นเรื่องไร้มารยาทไปหรือเปล่านะ?'
“ท่านประธานแซคคารี่คะ คุณนั่งรอตรงนี้ก่อนก็ได้ค่ะ” ชารอนบอกให้เขานั่งบนโซฟา
หลังจากนั้น ชารอนก็หันไปหาลูกชาย "ไปรินน้ำให้คุณลุงสักแก้วสิลูก”
ก่อนหน้านี้ เซบาสเตียนไม่ชอบไซม่อนเลยแม้แต่น้อย แต่ทว่า ทันทีที่เห็นว่าไซม่อนพุ่งเข้ามาช่วยแก้หน้าให้ตัวเองในวันนี้ที่โรงเรียน เซบาสเตียนก็คิดว่าไปรินน้ำให้คุณลุงสักแก้วคงไม่เป็นอะไรหรอก
“แม่ครับ นั่งก่อนเถอะ เดี๋ยวผมไปรินน้ำให้เอง” เซบาสเตียนยังคงห่วงใยแม่ของตนมาก
ท้ายที่สุด ชารอนก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกทันทีที่เห็นไซม่อนนั่งลงโดยไม่ได้รู้สึกรังเกียจอะไร
ไม่นานหลังจากนั้น เซบาสเตียนก็เดินกลับมาพร้อมน้ำสองแก้ว เขาวางแก้วน้ำต่อหน้าไซม่อนและพูดขึ้น “นี่ครับ คุณลุง ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ผมจะไม่ค่อยชอบหน้าคุณลุงเท่าไหร่ แต่วันนี้คุณลุงก็ช่วยผมเอาไว้ ขอบคุณนะครับ หวังว่าเราคงจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้นะครับ”
ทันทีที่พูดจบ เซบาสเตียนก็แตะไหล่ของไซม่อนราวกับว่าเขาโตแล้ว
ชารอนแทบจะสำลักน้ำออกมาทันทีที่ได้ยินคำพูดของลูกชายตน
ไซม่อนมองดูเด็กน้อยและรู้สึกว่าเขาเป็นเด็กที่น่าสนใจไม่น้อย ไซม่อนกัดริมฝีปากและพูดขึ้น “งั้นก็หมายความว่าลุงต้องทำตามกฎถึงจะได้เป็นเพื่อนกับนายสินะ เจ้าหนู?”
“ใช่แล้ว ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีสิทธิ์เป็นเพื่อนของผมนะ ว่าแต่คุณลุงครับ คุณลุงรู้สึกเป็นเกียรติกับบ้างไหม?” เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมองไซม่อนอย่างภาคภูมิใจ
ไซม่อนเผยยิ้มกว้างออกมา ดวงตาของเขาเริ่มเป็นประกายยิ่งกว่าเดิม “อันที่จริง ลุงรู้สึกเป็นเกียรติมากเลยล่ะ” ไซม่อนอดคิดไม่ได้ว่าชารอนสอนลูกชายอย่างไรให้เป็นเด็กที่น่าสนใจและฉลาดได้ขนาดนี้...
แต่ทว่า ชารอนรู้สึกประหม่าไม่น้อย ดังนั้น เธอจึงดึงลูกชายกลับมาอยู่ข้างกายอย่างรวดเร็ว “ไหน แม่ขอดูหน่อยสิว่าลูกมีแผลตรงไหนบ้าง?”
“ไม่เป็นไรครับแม่ แม่ไม่ต้องเป็นห่วงผมหรอก ลีวายไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผมด้วยซ้ำ”
“งั้นลูกเป็นแผลได้ยังไงกันล่ะ? แถมเสื้อนักเรียนก็ขาดหมดเลยเนี่ย!” ชารอนชี้ไปที่มุมปากของเซบาสเตียน
เซบาสเตียนร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดและรีบสะบัดมือออกทันที “ผมก็แค่หลบหมัดลีวายไม่ทันเอง”
“ครั้งหน้าอย่าทะเลาะกับเพื่อนร่วมชั้นอีกนะ ความรุนแรงแก้ปัญหาไม่ได้หรอก เข้าใจที่แม่พูดไหม?” ชารอนพลันกล่าวคำพูดออกมา ดูเหมือนว่าเธอจะรู้สึกเสียใจ
“ผมว่าไม่ใช่ทุกเรื่องนะครับแม่ เพราะบางเรื่องความรุนแรงก็แก้ไขได้”
ชารอนรู้สึกหมดหนทางกับลูกชาย เธอพลันถอนหายใจ “อย่าพูดอะไรแบบนั้นออกมาอีกนะ ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้ว”
“โอเคครับคุณแม่!”
เด็กน้อยเดินไปอาบน้ำอย่างเชื่อฟัง
ด้วยเหตุนี้ ภายในห้องโถงจึงเหลือเพียงแค่ชารอนและไซมอนเท่านั้น เธอหันกลับมาและสบตากับไซม่อน เธอตระหนักได้ว่าไซม่อนกำลังจ้องมองเธอไม่หยุด
“เอ่อ... ขอบคุณสำหรับทุกอย่างวันนี้ด้วยนะคะ”
“ไม่ต้องห่วง คุณเองก็บาดเจ็บเพราะผมด้วยไม่ใช่หรือยังไงกัน?” ไซม่อนกล่าวคำพูดออกมาอย่างแผ่วเบา
ชารอนหลับตาลงและคิดในใจ 'เขานั่งดื่มน้ำจนหมดแล้วนะ ยังไม่อยากกลับไปอีกเหรอ?'
ไม่ใช่ว่าชารอนอยากไล่ไซม่อนออกไป แต่ทว่า เธอเองก็ไม่รู้เหตุผลเหมือนกัน ชารอนรู้สึกแค่ว่าการที่ไซม่อนอยู่ในห้องนี้ทำให้เธออึดอัดใจ
“แล้วพ่อของลูกคุณอยู่ที่ไหนล่ะ?” ไซม่อนถามขึ้นทันที
ชารอนถึงกับตกตะลึง เธอชักมือกลับมาโดยไม่รู้ตัว ชารอนไม่รู้ว่าควรตอบกลับไปยังไงดี
“ผมจำได้ว่าในเรซูเม่ คุณบอกว่าคุณไม่ได้แต่งงาน นั่นหมายความว่าคุณท้องก่อนแต่งใช่หรือเปล่า?” ไซม่อนหรี่ตาและมุ่งความสนใจไปกับชารอน
ชารอนสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่ก่อนที่จะตอบกลับ “ใช่ค่ะ ฉันท้องก่อนแต่ง เซบาสเตียนเป็นลูกไม่มีพ่อ”
ไซม่อนยังคงจ้องมองที่ชารอนเช่นเดิม ทว่า คำพูดที่ไม่ค่อยรีบเร่งของไซม่อนดูจะจริงจังมากขึ้น "งั้นเด็กคนนั้นไม่มีพ่อได้ยังไงกันล่ะ?"
ทว่า ไซม่อนชะงักไปครู่หนึ่ง เขาจ้องเขม็งมาทางชารอน “ไม่ใช่ลูกของโฮเวิร์ดหรอกเหรอ?”
ชารอนมองไปที่ไซม่อนทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น เธอขมวดคิ้วและรีบปฏิเสธ “ไม่ใช่แน่นอนค่ะ!”
ทั้งสองสบตากัน ชารอนสามารถบอกได้เลยว่าไซม่อนอยากรู้อยากเห็นเรื่องของเธอไม่น้อย 'นี่เขาคิดว่าเซบาสเตียนเป็นลูกชายของโฮเวิร์ดจริง ๆ เหรอเนี่ย?'