บทที่ 19
ชารอนไม่สนอาการบาดเจ็บบริเวณขาของเธออีกต่อไปแล้ว เพราะเธอรีบไปโรงเรียนของลูกชาย ครูประจำชั้นเพิ่งโทรมาและแจ้งว่าเซบาสเตียนทะเลาะกับเพื่อนที่โรงเรียน
เมื่อเห็นว่าชารอนวิตกกังวลขนาดไหน อีกทั้ง มันยังเป็นเรื่องยากถ้าจะปล่อยให้เธอไปที่นั่นคนเดียว ด้วยเหตุนั้น ไซม่อนจึงเสนอว่าเขาจะพาเธอไปโรงเรียนเอง
แม้ว่าอาการบาดเจ็บที่ขาของชารอนจะไม่รุนแรงนัก แต่เธอก็ยังเดินเองไม่ได้ เมื่อมาถึงโรงเรียน ชารอนลังเลว่าจะลงจากรถยังไงดี
ไซม่อนเดินไปยังประตูฝั่งชารอนโดยไม่พูดอะไรสักคำ จากนั้น เขาก็ยื่นมือออกไป “ลงมาสิ เดี๋ยวผมพยุงคุณเข้าไปข้างในเอง”
ชารอนมองดูมือที่ใหญ่และเรียวยาวของไซม่อนตรงหน้า ลึกลงไปในจิตใจ เธอรู้สึกกังวลเรื่องลูกชายไม่น้อย ด้วยเหตุนั้น เธอจึงไม่จำเป็นต้องคิดอะไรเลย ชารอนรีบเอื้อมไปจับมือของไซม่อนทันที
ไซม่อนพยุงเธอไปยังห้องพักครู ทันทีที่ทั้งสองเข้าไป เธอเห็นเซบาสเตียนยืนอยู่กับเด็กผู้ชายอีกคนหนึ่ง
เสื้อของเด็กน้อยสกปรกและขาดวิ่น อีกทั้ง เขายังมีรอยฟกช้ำที่มุมปาก พร้อมกับแขนที่เปื้อนเลือดอีกด้วย ดูเหมือนว่าเซบาสเตียนคงจะทะเลาะกับเด็กชายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ มา
ชารอนรู้สึกราวกับหัวใจตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม เธอไม่สนใจความเจ็บปวดที่ขาของตัวเองเลย เธอลากเท้าและเดินเตาะแตะตรงไปหาลูกชาย “เซบาสเตียนลูกรัก” 'ลูกเราเพิ่งจะเข้าโรงเรียนได้ไม่กี่วันเองนะ เขากล้าไปมีเรื่องกับเด็กคนอื่นแล้วเหรอ?'
ทันทีที่เซบาสเตียนจอมหัวรั้นเห็นแม่ของตัวเอง ดวงตาของเขาก็เริ่มแดงก่ำ ทันใดนั้น เซบาสเตียนก็กัดริมฝีปากโดยไม่ส่งเสียงอะไรออกมา
ชารอนมองดูนักเรียนชายที่ยืนอยู่ข้างเซบาสเตียน เด็กคนนั้นหน้าช้ำและบวม เสื้อผ้าขาดวิ่น แถมยังมีคราบเลือดติดอยู่ที่หน้าของเขาอีกด้วย ดูเหมือนว่าเด็กคนนี้จะได้รับบาดเจ็บหนักกว่าเซบาสเตียนมาก
“คุณคงเป็นคุณแม่ของเซบาสเตียนสินะคะ คุณชารอนใช่ไหม?” คุณครูที่นั่งอยู่พลันกล่าว
ชารอนตอบกลับอย่างรวดเร็ว "ใช่ค่ะ ฉันเอง คุณครูสวิฟต์ เกิดอะไรขึ้นกันแน่คะ? พวกเขาทะเลาะกันแบบนี้ได้ยังไง?"
คุณครูสวิฟต์เหลือบมองชารอน จากนั้น เธอก็เหลือบมองไปที่ไซม่อนเช่นนั้น คุณครูสวิฟต์มีความรู้สึกราวกับว่าผู้ชายคนนี้น่าเกรงขามไม่น้อย
ถึงอย่างไร คุณครูสวิฟต์ก็เรียกสติกลับมาและพูดขึ้น "ให้ลูกชายบอกคุณเองดีกว่าค่ะ”
หลังจากนั้น ชารอนก็มองไปที่เซบาสเตียนและถามขึ้น “บอกแม่มาเลยนะ ว่าทำไมลูกต้องทะเลาะกับเพื่อนด้วยล่ะ?”
“ก็เขาสมควรโดนแล้วครับแม่!” เซบาสเตียนรู้สึกเสียใจเล็กน้อย แต่กลับรู้สึกโกรธยิ่งกว่าเดิมแทน ทว่า เซบาสเตียนยังคงพูดราวกับว่าตัวเองบริสุทธิ์
ชารอนขมวดคิ้ว "บอกแม่มาเดี๋ยวนี้"
“เขา... เขาพูดไม่เพราะเลยครับแม่ เขาด่าผมด้วย!”
ชารอนขมวดคิ้ว เธอไม่เคยเห็นลูกชายของตัวเองมีพฤติกรรมแบบนี้มาก่อน “เด็กคนนั้นด่าลูกว่าอะไรล่ะ?”
เซบาสเตียนเริ่มน้ำตาไหลออกมา เห็นได้ชัดว่าดวงตาของเด็กน้อยกำลังเอ่อล้นไปด้วยน้ำตาแห่งความเสียใจ แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังกำหมัดเอาไว้อยู่ เด็กน้อยพยายามกลั้นใจเพื่อไม่ให้น้ำตาหยดลงมา “เขาบอกว่าผมเป็นเด็กป่าเถื่อน เขาด่าว่าผมเป็นเด็กไม่มีพ่อครับ!”
"ใช่ นายเป็นเด็กป่าเถื่อนที่ไม่มีพ่อ! ทุกคนมีพ่อกันหมด ยกเว้นนายคนเดียว!" เด็กชายที่ยืนอยู่ข้างกายเซบาสเตียนพลันตะโกนขึ้นมา เขาเองก็โกรธเช่นกัน
“ลองพูดอีกครั้งดูสิ!” เซบาสเตียนกำหมัดแน่นด้วยความโกรธ เขากำลังจะต่อยหน้าคู่อริอีกครั้ง
ทั้งนี้ เด็กอีกคนไม่ได้แสดงท่าทีอ่อนน้อมออกมาเลย ทันทีที่ชารอนเห็นว่าเด็กทั้งสองกำลังจะทะเลาะกันอีกครั้ง เธอจึงรีบเข้าไปดึงพวกเขาออกจากกันอย่างรวดเร็ว
ท้ายที่สุด ชารอนก็เข้าใจเหตุผลของการทะเลาะ เธออุ้มลูกชายของตัวเองขึ้นมาพร้อมกับมองหน้าเด็กชายคู่อริของเซบาสเตียน
“ว่าไงจ้ะหนุ่มน้อย ฉันเป็นแม่ของเซบาสเตียนเอง หนูชื่ออะไรล่ะ”
เด็กชายคู่อริของเซบาสเตียนเหลือบมองชารอนและพ่นลมหายใจ "ลีวาย ชาร์ลส์"
“อ่า หนุ่มน้อยลีวาย สิ่งที่หนูพูดออกมาเมื่อครู่ก็ถูกนะ ทุกคนมีพ่อก็จริง แต่เซบาสเตียนก็มีพ่อเหมือนกันนะจ้ะ ฉันเข้าใจนะว่าเซบาสเตียนไม่ควรทำร้ายหนูขนาดนั้น เพราะหนูกับเซบาสเตียนต่างก็เป็นเพื่อนร่วมห้องกัน แต่ยังไงก็เถอะ ฉันแนะนำว่าหนูว่าพูดจาอะไรที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนออกมาเลยนะจ้ะ”
ชารอนไม่คิดว่าเซบาสเตียนจะถูกเด็กคนอื่นกลั่นแกล้งเพราะไม่มีพ่อ อันที่จริง เธอรู้สึกเศร้าพอ ๆ กับเซบาสเตียนเช่นกัน
ทว่า ลีวายไม่ได้ทำตัวดีขึ้นเลย เด็กคนนี้กล่าวคำพูดด้วยสีหน้าดูถูกออกมา "งั้นถ้าเขามีพ่อ แล้วพ่อเขาอยู่ไหนล่ะ? เรียกพ่อเขามาสิครับ ไม่ใช่แค่ผมเท่านั้นนะ ทุกคนก็รู้ว่าเซบาสเตียนไม่มีพ่อ!"
ใบหน้าของเซบาสเตียนแปรเปลี่ยนกลายเป็นสีชมพูสด นั่นเป็นเพราะเขารู้สึกโกรธจัดและต้องการที่จะชกหน้าลีวายไม่น้อย แต่ทว่า ชารอนก็ห้ามเซบาสเตียนเอาไว้
ดูเหมือนว่าเธอกำลังมีปัญหา ชารอนไม่รู้ว่าจะไปหา 'พ่อ' ให้เซบาสเตียนได้จากที่ไหน
“ฉันคือพ่อของเด็กคนนี้เอง” ทันใดนั้น เสียงของผู้ชายคนหนึ่งก็ดังขึ้น
ชารอนรู้สึกอึ้งทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น เธอหันกลับมาราวกับเป็นหุ่นยนต์ ชารอนมองยังไซม่อนซึ่งยืนอยู่ข้างหลั 'เมื่อครู่เขาพูดว่าอะไรนะ?'
เซบาสเตียนกลับคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ยากจะยอมรับระหว่างที่มองไปยังไซม่อน
ไซม่อนมองดูท่าทางประหลาดใจของทั้งสองและเดินตรงไป เขายืนต่อหน้าลีวาย ดูเหมือนว่าลีวายจะรู้สึกกลัวมากเสียจนถึงกับต้องเบิกตากว้างออกมา “ฉันเป็นพ่อของเซบาสเตียนเองหนุ่มน้อย ถึงแม้ว่าลูกชายของฉันจะเป็นคนเริ่มก่อน แต่ฉันว่านายก็ยังติดค้างคำขอโทษเขาอยู่นะ”
ไซม่อนตัวสูงมาก ดังนั้น ระหว่างที่ไซม่อนเดินมายืนอยู่ต่อหน้าลีวาย เด็กคนนี้ก็ตัวแข็งทื่อทันที
ในตอนนั้นเอง ชารอนก็ยังคงตกอยู่ในห้วงแห่งความคิด ถึงกระนั้น เซบาสเตียนสามารถเข้าใจสถานการณ์อย่างรวดเร็วและวิ่งเข้าไปจับมือไซม่อน เซบาสเตียนกล่าวคำพูดออกมาด้วยความมั่นใจ “พ่อของฉันอยู่ที่นี่แล้ว และถ้านายยังกล้าพูดว่าฉันเป็นเด็กไม่มีพ่ออีก นายโดนพ่อฉันกระทืบแน่!”
ลีวายถึงกับตกตะลึงและตัวแข็งทื่อทันทีที่เห็นไซม่อน ในตอนแรก ลีวายเองก็ยังไม่เชื่อว่าไซม่อนเป็นพ่อของเซบาสเตียน แต่ถึงกระนั้น ทั้งสองก็ดูคล้ายกันมาก ดังนั้น ลีวายจึงไม่กล้าพูดอะไรออกมา
เหตุการณ์ตรงหน้าช่างกะทันหัน แม้ว่าชารอนจะกล่าวคำพูดออกไปก่อนแล้ว แต่เธอเองก็ไม่รู้จะพูดอะไรต่อนับจากนี้ เธอไม่คาดคิดเลยว่าไซม่อนจะยอมโกหกเพื่อปกป้องเซบาสเตียน
ในตอนนั้นเอง คุณครูสวิฟต์ก็เดินเข้ามา “อ่า คุณเป็นพ่อของเซบาสเตียนงั้นเหรอคะ? ไม่แปลกใจเลยที่คุณเดินเข้ามา เพราะฉันเองก็รู้สึกว่าคุณสองคนหน้าตาเหมือนกันมากเลย เหมือนกันอย่างกับออกมาจากแม่พิมพ์เดียวกันแหนะ”
ไซม่อนและเซบาสเตียนอดไม่ได้ที่จะมองหน้ากันทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ดวงตาของทั้งสองเปล่งประกายด้วยความอยากรู้อยากเห็น 'เราสองคนเหมือนกันจริง ๆ งั้นเหรอ?'