บทที่ 14
ชารอนยืนอยู่ตรงข้ามกับแซลลี่ ทุกคนรวมทั้งโฮเวิร์ดต่างก็กำลังมองดูทั้งสอง ทว่า โฮเวิร์ดยืนอยู่ไม่ไกลจากพวกเธอมากนัก
โฮเวิร์ดขมวดคิ้วและรู้สึกสงสัยว่าแซลลี่กำลังคิดทำอะไรอยู่
ดูเหมือนว่าแซลลี่กำลังเผยรอยยิ้มอันเจ้าเล่ห์ออกมาระหว่างที่มองไปที่ชารอน เธอบอกกฎ "คุณช่วยตอบคำถามฉันก่อนได้ไหมคะ? และถ้าตอบผิด คุณก็จะถูกลงโทษ"
"พูดมาสิ" ชารอนมองเข้าไปในดวงตาของแซลลี่ 'ปลอมมากเลยนะแซลลี่! กระแดะทำเป็นไม่รู้จักกันต่อหน้าสาธารณะ!'
ดวงตาของแซลลี่เป็นประกายอย่างเย็นชา “ฉันขอถามคุณหน่อยได้ไหมว่าคุณคุยอะไรกับสามีของฉันที่ทางเดินด้านนอกเมื่อครู่?”
ชารอนขมวดคิ้วทันทีที่รู้ว่าแซลลี่กำลังวางแผนอะไรอยู่
“สำหรับคำถามนั้น ฉันว่าคุณควรไปถามโฮเวิร์ดมากกว่านะ เพราะเขาเป็นคนที่ลากฉันออกไปข้างนอก”
“ฉันถามเขาแล้ว และเขาบอกว่าคุณกำลังพยายามจะจีบเขา เป็นแบบนั้นจริงเหรอ?!” แซลลี่กล่าวคำพูดอย่างเย็นชาออกมาโดยคิดว่าชารอนต้องทำความผิดอะไรสักอย่างเอาไว้แน่
ความโกลาหลเกิดขึ้นท่ามกลางฝูงชนบนเวทีทันที ผู้คนเริ่มกระซิบกระซาบกัน
ดวงตาของชารอนเป็นประกายอีกครั้ง ทว่า เธอยังไม่ได้ถูกเปิดโอกาสให้พูดเลย แซลลี่พลันชี้นิ้วมาที่ชารอนและกล่าวคำพูดกับทุกคน “ทุกคนคะ ผู้หญิงคนนี้ชื่อชารอน ยีนส์! เธอคือผู้หญิงคนเดียวกันกับที่นอกใจโฮเวิร์ดเมื่อห้าปีก่อนระหว่างงานวิวาห์!”
ทุกคนต่างตกตะลึงทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น หลังจากนั้น พวกเขาก็เริ่มชี้นิ้วไปที่ชารอน
ท่าทีของชารอนเปลี่ยนไปเล็กน้อย ดูเหมือนว่าแซลลี่กำลังพยายามเปิดเผยตัวตนของชารอนด้วยการงัดความแค้นครั้นอดีตออกมาเพื่อทำให้เธออับอายต่อหน้าทุกคนอีกครั้ง
“ตอนนี้โฮเวิร์ดเป็นสามีของฉันแล้ว และคุณเองก็ยังไม่คิดเปลี่ยนนิสัยของตัวเอง แถมคุณยังพยายามจีบโฮเวิร์ดอีกด้วย!” แซลลี่ตะโกนออกมาอีกครั้ง
สำหรับตอนนี้ ทุกคนเริ่มสบถใส่ชารอน พวกเขารู้สึกเห็นใจแซลลี่ไม่น้อย
ชารอนถึงกับได้ยินใครบางคนไล่ให้เธอออกไปจากงานเลี้ยงเสีย
ชารอนกำหมัดแน่น 'แหม่ แซลลี่ เธอนี่มันร้ายถึงขั้นสุดจริง ๆ!'
“ฉันไม่ได้จีบเขาเลยสักนิด เรียกเขาขึ้นมาอธิบายต่อหน้าทุกคนสิ!” อันที่จริง ชารอนต้องการดูว่าโฮเวิร์ดสามารถแยกเรื่องจริงหรือเท็จได้หรือไม่
ทันทีที่ชารอนพูดจบ แซลลี่ก็หยิบไวน์แก้วหนึ่งขึ้นมาและสาดใส่หน้าชารอนอย่างไร้ความปรานี
ทว่า ชารอนหลบไม่ทัน ด้วยเหตุนั้น เธอจึงรีบหลับตาลง หลังจากนั้น ของเหลวเย็นยะเยือกก็ไหลลงมาจากผมของชารอน
ทุกคนในเหตุการณ์ถึงกับตกตะลึงทันทีที่มองดูทั้งสอง พวกเขาแทบจะไม่พูดอะไรออกมาเลยด้วยซ้ำ
ไซม่อนซึ่งยืนอยู่ตรงหัวมุมเผยสีหน้าตกใจออกมาเช่นกัน ไซม่อนมองตรงไปที่ชารอน ดูเหมือนว่าเธอจะรู้สึกอับอายไม่น้อย 'นี่คือเหตุผลที่ชารอนมาที่นี่งั้นเหรอ?'
ไซม่อนไม่แม้แต่ขยับนิ้ว เขาถึงกับตั้งหน้าตั้งตารอดูว่าชารอนจะรับมือกับสถานการณ์ตรงหน้าได้อย่างไร
ร่างกายของชารอนสั่นเทาเล็กน้อย เธอรู้สึกราวย้อนกลับไปยังงานวิวาห์เมื่อห้าปีก่อน ย้อนกลับไปตอนนั้น แซลลี่เองก็ได้ทำให้ชารอนขายหน้าต่อสาธารณชนเหมือนกัน
ในตอนนี้ ความโกรธทั้งหมดพวยพุ่งขึ้นมาในตัวชารอน เธอลืมตาขึ้นพร้อมกับเผยออร่าลุกไหม้ที่เต็มไปด้วยความโกรธออกมา
แซลลี่รู้สึกตกใจทันทีที่มองดูชารอน เธอรู้สึกประหลาดใจ
ชารอนโน้มตัวลงข้างหูของแซลลี่และกระซิบ “ฉันได้ยินมาว่าคุณท้องนี่ แต่ฉันรู้นะว่าเด็กในครรภ์ของคุณไม่ใช่ลูกของโฮเวิร์ด...”
ทันใดนั้น แซลลี่เบิกตากว้างขึ้น เธอรู้สึกราวกับว่ากำแพงอันสูงส่งในตัวพังทลายลงอย่างกะทันหัน มันเป็นความรู้สึกราวกับว่าใครสักคนล่วงรู้ความลับดำมืดที่สุดของเธอ แซลลี่รู้สึกตกใจจนถึงกับสติหลุด เพราะแบบนั้น แซลลี่จึงผลักชารอนออกไป
“ออกไปให้พ้น!” แซลลี่ตะโกนออกมาอย่างกังวลใจ
ชารอนรู้สึกประหม่าทันทีที่ถูกแซลลี่ผลักออกไปอย่างแรง ชารอนผงะถอยจนไปกระแทกเค้กจัดงานก้อนโตที่อยู่ด้านหลัง
กล่าวอีกนัยหนึ่ง เธอผงะถอยใส่เค้กและล้มลงกับพื้น ทั้งใบหน้าและชุดของชารอนถูกย้อมไปด้วยเนยทั่วไปหมด
ฝูงชนโห่ร้องทันทีที่เห็นเหตุการณ์ตรงหน้า
ในทางกลับกัน แซลลี่ถึงกับสติหลุดและเริ่มกรีดร้องอย่างประหม่า "ใครก็ได้! ลากตัวนางแพศยานี่ออกไปที!!"
ทั้งนี้ เห็นได้ชัดว่าคำพูดของชารอนยั่วโมโหแซลลี่ได้
โฮเวิร์ดทนดูไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เขาเหลือบมองไปที่ชารอนอย่างเย็นชา ถึงแม้ว่าเธอจะล้มลงอยู่ที่พื้น หลังจากนั้น โฮเวิร์ดก็พุ่งตัวขึ้นไปบนเวทีเพื่อปกป้องแซลลี่
ไม่นานนัก เขาก็ตะโกนเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทันที ถึงกระนั้น ทันทีที่เหล่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกำลังพุ่งตัวเข้ามาจับชารอน น้ำเสียงเย็นชาของชายคนหนึ่งก็พลันดังขึ้น "หยุดอยู่ตรงนั้นก่อน"
ฝูงชนหันไปหาชายร่างสูง ท่าทีของเขาดูทรงอำนาจไม่น้อย ชายคนนั้นก้าวเท้าเข้ามาทีละก้าว นอกจากนี้ ทุกคนก็หลีกทางให้เขาโดยไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ
ทันทีที่เงยหน้ามอง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่กล้าทำอะไรทั้งสิ้น แต่ละคนถึงกับหยุดนิ่งไป
ไม่นานนัก ร่างชายผู้สูงสง่าของชายผู้นั้นก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าชารอน ชารอนเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าอันเยือกเย็นและเคร่งขรึมของชายตรงหน้า
ชารอนไม่รู้ว่าทำไม แต่เธอรู้สึกขัดใจทุกทีที่เห็นไซม่อน
ชารอนเผยยิ้มออกมา ซึ่งมันดูดีกว่าการร้องไห้ต่อหน้าไซม่อนแน่นอน "ท่านประธานแซคคารี่ ฉันต้องขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้คุณต้องอับอาย"
ไซม่อนยังคงก้มมองดูชารอน เขาไม่ตอบเธอ ดวงตาอันเยือกเย็นและเฉียบคมของไซม่อนพลันเหลือบไปมองแค่แซลลี่ซึ่งอยู่บนเวทีเท่านั้น ไซม่อนกล่าวคำพูดอย่างใจเย็นออกมา “ฉันเป็นคนชวนชารอนมาที่นี่ เธอน่าจะขออนุญาตฉันก่อนที่จะเรียกตัวชารอนขึ้นมาข้างบนนี้นะ”
น้ำเสียงของไซม่อนยังคงสงบเช่นเดิม มีเพียงแค่ออร่าแห่งความเย็นชาเท่านั้นที่เล็ดลอดออกมาจากร่างกายของไซม่อน แค่นั้นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ใครก็ตามรู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมา
ดังคำกล่าวที่ว่า 'เราควรขออนุญาตจากเจ้าของสุนัขก่อนที่จะทำอะไรกับมัน'
ชารอนเป็นถึงคู่เต้นรำของไซม่อน การทำให้ชารอนต้องอับอายในที่สาธารณะถือเป็นการไม่ให้เกียรติไซม่อนหรือเปล่า?
แซลลี่เริ่มตัวสั่นด้วยความกลัว ทั้งนี้ ไซม่อนยังคงจ้องมองเธอด้วยสายตาเย็นชาเช่นเดิม ทันใดนั้น แซลลี่ก็รู้ตัวว่าเธอเองที่ทำตัวไม่ดี
“คุณลุงคะ...” ดูเหมือนแซลลี่จะอยากพูดอะไรบางอย่างออกมา
ทว่า ไซม่อนกลับตอบกลับสั้น ๆ “อย่ามาเรียกฉันว่าคุณลุง เธอไม่มีสิทธิ์พูดแบบนั้น”
แซลลี่หน้าซีด เธอไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีก
ทันใดนั้น โฮเวิร์ดก็รีบเข้าไปปกป้องเธอ “คุณลุงครับ แซลลี่ไม่ได้ตั้งใจนะครับ”
สายตาอันเย็นชาของไซม่อนเหลือบมองไปยังฝูงชน เขาขมวดคิ้วและไม่ได้พูดอะไรออกมา ทว่า ไซม่อนเอนตัวลงไปอุ้มชารอนขึ้นมาแทน หลังจากนั้น เขาก็อุ้มชารอนออกจากตรงนั้นไป