ตอนที่ 173+174 ให้ผมชิมความหวานของคุณหน่อย
ตอนที่ 173 ให้ผมชิมความหวานของคุณหน่อย
หัวใจของเจียงเหยาพองโตขึ้นด้วยความอบอุ่นและความรัก “ไปเถอะ ฉันจะรอคุณอยู่ที่นี่”
“ฉันไม่ใช่เด็กสามขวบนะคะ ทำไมฉันต้องกลัวที่จะอยู่ในโรงแรมคนเดียวด้วยล่ะ?” เธอเยาะเย้ยอย่างเงียบ ๆ
เมื่อเห็นรอยยิ้มที่มั่นใจ บนใบหน้าของเจียงเหยา ลู่ชิงสีก็พยักหน้า เขาหันหลังและเดินไปที่ประตู
เมื่อมือของเขาวางบนลูกบิดประตู ทันใดนั้นเขาก็ปล่อยมือ จากนั้นก็หันร่างเดินมาทางเจียงเหยาที่กำลังเฝ้าดูเขา
“มา” ลู่ชิงสีโบกมือให้เธอ
“มีอะไรคะ?” เจียงเหยาเอียงศีรษะของเธอด้วยความสับสน เธอยืนอยู่ตรงที่เดิมและถาม “คุณลืมอะไรหรือเปล่า?”
ลู่ชิงสีหยุดนิ่งครู่หนึ่ง ดวงตาของเขาเหล่ไปทางซ้ายทางขวาอย่างไม่สบายใจ ในที่สุดก็พูดออกมา เขาส่ายหน้าและพูดอย่างเศร้าใจพร้อมกับถอนหายใจออกมาด้วย “ช่างมันเถอะ ไม่มีอะไร” เนื่องจากเธอไม่ต้องการที่จะเดินมาหา เขาจึงปล่อยให้มันผ่านไป
เจียงเหยาระเบิดเสียงหัวเราะและกระโดดไปทางลู่ชิงสี ขณะที่หยอกล้อ “เพ่นพ่านอยู่ได้ น่ารำคาญ คุณรู้ไหมว่า.. อืมมมมม!”
ไฟแห่งราคะจุดประกายในดวงตาของลู่ชิงสีทันที ขณะที่เจียงเหยามุ่งหน้ามาทางเขา เขาจ้องเธอเหมือนคนเร่ร่อนที่กระหายน้ำ แล้วพบโอเอซิสกลางทะเลทราย เขากลืนคำพูดสุดท้ายของเธอ โดยเอาริมฝีปากแตะที่ริมฝีปากของคนที่กำลังเยาะเย้ยและปล่อยให้เธอได้พัก แล้วโพล่งออกมาว่า “คุณมาหาผมเองนะ ให้ผมได้ลิ้มรสความหวานของคุณหน่อยสิ”
เขาโอบแขนรอบเอวเรียวของเธอแล้วล็อกมันไว้ หมุนตัวและตรึงเธอไว้กับผนัง เขาโน้มตัวและปิดผนึกริมฝีปากอันโอชะและเย้ายวนของเธอ
ข้างหลังเธอคือกำแพงที่ทั้งแข็งและเย็นเยียบ ในขณะที่ข้างหน้าเธอคือหน้าอกที่แข็งแรงและอบอุ่น – หน้าอกของลู่ชิงสีกดเธอเข้ากับผนัง เขาวางน้ำหนักลงบนร่างกายของเธอ เขาแข็งแกร่งมากจนรู้สึกว่ากับว่าเขาพยายามผลักเธอเข้าไปในกำแพงหรือเขาอยากจะดูดซับเธอเข้าสู่ร่างกายของเขาอย่างมากและกายเป็นหนึ่งเดียว
พวกเขาจูบกันจนหญิงสาวตัวติดกับเขาอ่อนแรง ก่อนจะปล่อยเธอ เขายกคางของเธอและหัวเราะกับใบหน้าที่แดงก่ำของอีกฝ่าย “คืนนี้มาแข่งกันต่อ”
เธอกลอกตาใส่เขาอย่างรำคาญ ขณะที่เขาบีบจมูกและหัวเราะออกมาอย่างสนุกสนาน
“แล้วนี่คุณเรียกฉันมาเพื่อจะจูบฉันเหรอ?” เจียงเหยามุ่ยหน้าและสะกิดชายที่ยังคงวางน้ำหนักมาบนตัวเธอด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย “งั้นฉันก็เดินเข้ามาติดกับดักด้วยตัวเองสินะ?”
“ใช่” ลู่ชิงสียอมรับ
เขาได้รับการกลอกตาด้วยความรำคาญจากเธออีกครั้ง แต่เขากลับรู้สึกยินดีราวกับว่าเขาได้รับจูบกลับจากเธอ
“รอผมที่นี่ อย่าคิดหนีล่ะ คืนนี้...”
ก่อนที่ลู่ชิงสีจะพูดจบ เจียงเหยาก็เปิดประตูและผลักชายคนนั้นออกไป จากนั้นก็ปิดประตูใส่หน้าเขา
นอกประตู ลู่ชิงสีเคาะประตูสองครั้งแล้วคิดว่า ‘ถ้าผมไม่ต้องไปที่สถานีตำรวจในตอนนี้ ผมจะบุกเข้าไปแล้วจับคุณโยนลงบนเตียง แล้วเปิดศึกระหว่างเรา’
อารมณ์ของลู่ชิงสีสูงขึ้นจากการที่เจียงเหยาเข้ามาใกล้ ทว่าหลังจากออกจากโรงแรม เขาก็กลับเข้าสู่โหมดยมทูตลู่ที่น่าสะพรึงกลัว ระหว่างทางไปสถานีตำรวจ คนขับแท็กซี่หวังว่าเขาจะเร่งความเร็วได้เหมือนเครื่องบิน เพื่อที่จะส่งก้อนน้ำแข็งขนาดมหึมาในที่นั่งผู้โดยสารไปยังจุดหมายได้อย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาด แล้วไล่เขาลงรถไปพร้อมกับรังสีอันตรายที่ฉายออกมาทั่วร่างของชายหนุ่ม
หลังจากที่ลู่ชิงสีออกไปแล้ว สิบหน้านาทีต่อมา เจียงเหยาได้รับโทรศัพท์จากหมายเลขที่ไม่คุ้นเคย ทันทีที่คนปลายสายเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ บางสิ่งที่จุดประกายความทรงจำของเธอ เฉินซวีเหยาจะมาวันนี้
โจวเหวยฉีโทรหาเธอเมื่อวาน เบื้องต้น เธอได้ขอให้พวกเขาไม่ต้องมา แต่โจวเหวยฉียืนกรานที่จะส่งเฉินซวีเหยามาที่นี่
หลังจากที่เธอได้พบกับลู่ชิงสี เธอก็ลืมไปเลย เกี่ยวกับการที่เฉินซวีเหยาจะมา
เมื่อเฉินซวีเหยาโทรหาเธอ เขาก็มาถึงหนานเจียงแล้ว และกำลังเดินทางจากสนามบินไปยังมหาวิทยาลัยแพทย์หนานเจียง เพื่อพบกับเจียงเหยา
“เจียงเหยา ตอนนี้คุณอยู่ที่มหาวิทยาลัยหรือเปล่า? ว่างไหม? ผมจะเข้าไปหา” เฉินซวีเหยากล่าว
เจียงเหยาบอกชื่อและที่ตั้งของโรงแรมที่เธออยู่ แม้เฉินซวีเหยาจะงงอยู่บ้าง แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เว้นเสียแต่การขอให้เธอลงมารอเขาที่ล็อบบี้ในอีกยี่สิบนาทีต่อมา
__
ตอนที่ 174 เส้นทางของศัตรู
ยี่สิบนาทีต่อมา เจียงเหยาออกมาจากห้องพักและลงไปรอที่ล็อบบี้ หลังจากนั้นประมาณห้านาที เธอเห็นรถแท็กซี่กำลังขับเข้ามาที่โรงแรม และเฉินซวีเหยาก็ลงมาจากรถ เขาสวมเสื้อยืดสีเทา กางเกงยีน ดูเหมือนนักศึกษาใหม่ในมหาวิทยาลัย
แม้ว่าเธอจะไม่เคยมีความประทับใจใด ๆ ต่อเฉินซวีเหยา แต่เธอก็จำเขาได้อย่างรวดเร็ว
“สวัสดีเจียงเหยา” เฉินซวีเหยาทักทายหลังจากจ่ายเงินให้กับคนขับรถ
หลังจากเหลือบมองอย่างรวดเร็ว เขารู้สึกว่าเจียงเหยาดูเด็กกว่าในวันงานแต่งงานเสียอีก แม้ว่าเธอจะสวมชุดสีแดงเหมือนในวันแต่งงาน แต่ความประทับใจก็แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เธอยืนอยู่ที่นั่นด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่นบนใบหน้าของเธอ มีชีวิตชีวาและกระฉับกระเฉง กลายเป็นจุดดึงดูดความสนใจของคนอื่น
“เจียงเหยา ทำไมคุณถึงมาพักที่โรงแรมนี้ล่ะ”
เฉินซวีเหยาอยากจะถามเธอเรื่องนี้ตั้งแต่ที่พวกเขาคุยโทรศัพท์กันแล้ว เมื่อได้พบกับเธอก็จำนนต่อความอยากรู้ของเขาและถามออกไปอย่างรวดเร็ว กังวลว่าจะเป็นเพราะการคุกคามของฉีเซียง ที่ทำให้เธอไม่สามารถแม้แต่จะอยู่ที่มหาวิทยาลัยในขณะนี้ได้
“ฉันเพิ่งลาออกมาค่ะ คืนนี้ฉันจะพักที่นี่กับชิงสี” เจียงเหยาอธิบายด้วยรอยยิ้ม “พี่ลู่ของคุณก็อยู่ที่นี่ด้วย เขาเดินทางมาเมื่อคืน เพิ่งถึงเมื่อเช้า”
“เขามาที่นี่? คุณบอกเขาเรื่องเกี่ยวกับฉีเซียงด้วยเหรอ?” เฉินซวีเหยาขมวดคิ้วด้วยความสับสน เธอตั้งใจจะทำให้เรื่องแย่ลงหรือเปล่า?
เจียงเหยาส่ายหน้า “เปล่า ฉันรู้แค่ว่าเขามาเยี่ยมแม่ของสหายเขา ฉันเจอกับเขาเมื่อเช้าที่โรงพยาบาล เขามาที่นี่เพราะงานของกองทัพค่ะ เขามาโดยไม่ได้บอกฉันด้วยซ้ำ”
เจียงเหยารู้ว่าเฉินซวีเหยากำลังคิดอะไรอยู่ เพียงแค่ชำเลืองตามองเขา เธอไม่ต้องการให้เขามาเสียด้วยซ้ำ จะเป็นไปได้ยังไงที่เธอจะเรียกลู่ชิงสีที่ทำงานอยู่ถึงจินโด มาเพราะเรื่องไร้สาระเช่นนี้?”
เธอคงจะพูดกับลู่ชิงสี หากฉีเซียงและจางซีชิงยังคงรบกวนเธออีก แต่ฉีเซียงถูกลงโทษในความผิดของเขาไปแล้ว ส่วนจางซีชิงเป็นเพียงคู่แข่งที่ไม่มีอะไรสู้กับเธอได้ ทำไมเธอถึงต้องบอกเรื่องนี้กับลู่ชิงสีด้วย? เพียงเพื่อให้เขาเป็นกังวลใจขณะที่เขาทำงานในกองทัพหรือไง?
ยิ่งไปกว่านั้น หากตระกูลจางยื่นกรงเล็บใส่เธออย่างไม่ตั้งใจ เธอก็ยังมีตระกูลหวงคอยช่วยเธออยู่
เฉินซวีเยหาถอนหายใจด้วยความโล่งอก โดยรู้ว่าเขาต้องแสดงอารมณ์อย่างชัดเจนเกินไป จนเธอสามารถมองทะลุจิตใจของเขาได้ขนาดนี้
เฉินซวีเหยาขอให้เจียงเหยารอเขา เธอยืนอยู่ข้างเขาเมื่อเขาเดินที่ไปที่แผนกต้อนรับเพื่อเช็คอิน เขาหันไปถามว่าเธอพักอยู่ที่ชั้นไหน เธอตอบก่อนจะเงียบไปอีกครั้ง
จางซีชิงและจางซีหนานอยู่ที่ทางเข้าของโรงแรม พวกเขาเห็นเจียงเหยากำลังคุยกับผู้ชายคนหนึ่งต่อหน้าต่อตา ดวงตาของจางซีหนานเปรียบเสมือนเรดาร์ที่มีความแม่นยำในการตรวจจับสาวสวยที่อยู่ใกล้ ๆ อย่างรวดเร็วในทุก ๆ ที่เขาไป เขาสบตาเข้ากับผู้หญิงสาวสวยในชุดสีแดงแทบจะในทันที
“เฮ้ นั่นไม่ใช่เพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยของเธอหรอกเหรอ? ว้าว วันนี้เธอสวยขึ้นเยอะเลย!” จางซีหนานตบริมฝีปากของเขาอย่างเจ้าชู้
“เธอรู้จักเธอใช่ไหม? เข้าไปทักทายหน่อยเป็นไง! เธอจะได้แนะนำให้ฉันรู้จักกับเธอด้วย”
จางซีชิงอ่านความคิดของจางซีหนานได้เหมือนกับหลังมือของเธอเอง ดวงตาของเธอเร่าร้อนด้วยความโกรธที่รุนแรง ขณะที่เธอจ้องไปที่เจียงเหยา ความอับอายที่เธอได้รับในงานพิธีเปิดเมื่อเช้ายังเป็นแผลสดในใจของเธอ
“ฮึ่ม! ฉันพูดถูกสินะ ผู้หญิงคนนั้นเป็นเด็กเสี่ย เธอมีคนคอยเลี้ยงอยู่! แล้วถ้าเธอแต่งงานแล้วล่ะ? ก็มีผู้หญิงจำนวนไม่น้อยนี่น่าที่จะนอกใจสามี!” จางซีชิงพ่นลมหายใจออกมาด้วยความรังเกียจ “เธอน่ารังเกียจมาก ทำไมฉันถึงต้องรู้จักเธอด้วย”
จางซีหนานรู้สึกไม่สบายใจกับคำพูดของจางซีชิง และเขาก็อ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ เขาหันกลับมามองหญิงสาวในชุดสีแดงอีกครั้ง เขาคิดว่าผู้หญิงคนนี้ไร้เดียงสาและบริสุทธิ์ผุดผ่อง