ตอนที่ 49 พฤติกรรมที่เปลี่ยนไป...
กระบวนท่ามังกรมายานี้ เป็นกระบวนท่าที่ใช้จิตคุกคามจิตสังหารผสมปนเปกันและถ่ายทอดเข้าสู่จิตสำนึกโดยตรงด้วยพลังลมปราณในร่าง เป็นกระบวนท่าที่ดึงจิตสำนึกเข้าสู่มิติภาพหลอน ข้อดีที่สุดของวิชานี้คือสามารถใช้กับคนจำนวนมากได้ในเวลาเดียวกัน!! กินอาณาเขตกว่าร้อยเมตรรอบตัวเล้งซาน หากใช้กับผู้มีลมปราณระดับสูงหรือผู้มากประสบการณ์อาจทำให้หยุดชะงักได้ 2-3 ลมหายใจ แต่เมื่อถูกนำมาใช้กับเหล่าศิษย์แกนหลักที่ยังเยาว์วัย มันจะแสดงพลังคุกคามจนถึงขีดสุด!!
ภาพที่เหล่าศิษย์แกนหลักเห็นเบื้องหน้า คือเล้งซานค่อยๆขยายขนาดขึ้นเรื่อยๆ สูงกว่า 2 เมตร 5 เมตร 10 เมตร... จนในที่สุดก็มิอาจเงยมองหน้าของเล้งซานได้ ราวกับสามารถปิดบังท้องฟ้าได้โดยการเอื้อมมือ!!
ม่านตาของเหล่าศิษย์แกนหลักเบิกกว้าง ริมฝีปาก และมือเท้า นั้นด้านชาหมดสิ้นเรี่ยวแรง ทุกครั้งที่เล้งซานก้าวเท้าเข้ามาผืนปฐพีล้วนสั่นสะเทือนราวกับแผ่นดินไหว ทุกคราที่เล้งซานกะพริบตาจะเกิดเสียงดังราวกับฟ้าผ่าที่ข้างหู แรงลมจากการหายใจของเล้งซานแทบจะพัดพาพวกมันให้ปลิวไปไกล ร่างของพวกมันทุกคนสั่นสะท้านราวกับมันเป็นลูกนกลูกกา ที่เกาะกลุ่มกันอยู่ด้านหน้าของราชันย์มังกร!!
เล้งซานกระทืบเท้าลงที่พื้นหนึ่งครา ร่างของพวกมันทั้ง สามสิบคนก็ลงไปกองนั่งลงกับพื้น อย่างไม่อาจขัดขืน ห้าคนในกลุ่มมีน้ำสีเหลืองนองซึมออกจากกางเกงทันที สามคนในกลุ่มผมบนศีรษะลุกตั้งชัน ราวพบเจอภูติผีจากนรก เล้งซานแสยะยิ้มขึ้นจากนั้นก็สะบัดมือหนึ่งครา ภาพมายาทั้งหมดก็จางหายไป เหลือทิ้งไว้เพียงสภาพอเนจอนาถ ของเหล่าศิษย์แกนหลัก เล้งซานโคจรวิชาต่อเนื่อง วิชาที่มันโคจรใหม่นี้ มาจากตำราที่หยิบอ่านเมื่อครู่...
ตำราระดับ 5 วิชากระบี่ลมปราณ!!
"ปราณกระบี่ หมื่นสวรรค์"
ปราณรูปร่างกระบี่ ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้านับพันนับหมื่นเล่ม แต่ละเล่มแฝงด้วยพลังปราณอันมหาศาล!! บรรยากาศโดยรอบบิดเบี้ยวจากแรงกดดันของกระบี่นับหมื่นบนฟ้า ครอบคลุมอาณาบริเวณกว่าสามร้อยเมตร
จากนั้นเล้งซานก็สะบัดมือเบาๆ หนึ่งครา กระบี่สามสิบเล่มจากกระบี่นับหมื่น มีการสั่นสะเทือน จากนั้นก็พุ่งไปยังทิศทางของศิษย์แกนหลักทั้งหมด แต่ละเล่มแฝงไว้ด้วยพลังของชั้นลมปราณสีน้ำเงิน แผ่พลังแรงกดดันออกมาอย่างต่อเนื่อง ความเร็วในการพุ่งเข้ามา สามารถทำได้เพียงมองตามลำแสงกระบี่เท่านั้น ไม่อาจขยับตัวตามความเร็วขอบมันได้ทันแม้แต่น้อย!!
ปราณกระบี่ทั้งสามสิบสาย ปักลงบนพื้นใกล้หว่างขาของพวกมันที่นั่งอยู่ ห่างจากจุดยุทธศาสตร์ของพวกมันเพียงแค่ครึ่งนิ้ว!! ลูกนกลูกกาเหล่านี้ใบหน้าของพวกมันต่างซีดเซียวราวกับไร้โลหิตหมุนเวียน ไม่อาจบรรยายความรู้สึกในใจออกมาได้ เพราะว่าพวกมันทั้งหมดเกือบสูญพันธุ์!!
"หากในวันพรุ่งนี้ข้าพบเจอพวกเจ้า และยังมีผู้ใด มีเส้นผมอยู่บนศีรษะล่ะก็ จงจำไว้ว่ามันจะไม่ใช่เพียงแค่เกือบ!!"
เล้งซานตะโกนออกมา จากนั้นก็หันหลังกลับไปหยิบตำราและเหรียญทองทั้งหมด กระบี่นับหมื่นเล่มบนฟ้าสลายหายไปในทันที บรรยากาศรอบตัวกลับสู่ภาวะปรกติอีกครั้ง เหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่เริ่มจนจบผ่านไปด้วยเพียงเวลาไม่ถึง 30 ลมหายใจ!!
หัวหน้าของศิษย์แกนหลักเป็นคนแรกที่หลุดออกจากภวังค์และตั้งสติได้ แม้ร่างกายจะยังสั่นเทาแต่ก็พยายามฝืนพยุงร่างลุกขึ้นมาอย่างช้า ๆ จากนั้นจ้องมองไปที่ใบหน้าของเล้งซานด้วยแววตาที่หวาดกลัว ก่อนจะยกมือที่สั่นเทาขึ้นมาประสานกัน โค้งตัวเล็กน้อย และกล่าว...
"ขะ...ขอบคุณที่ให้การสั่งสอนขอรับ ศะ..ศิษย์พี่"
เล้งซานแสยะยิ้ม พลางเดินเข้ามาตบไหล่ของมันเบา ๆ
"นับว่าเจ้ายังรักษาสัญญา ต่อไปเจ้าจงเป็นตัวแทนข้าอบรมพวกนี้ต่อไป"
กล่าวจบเล้งซานก็ค่อยๆเดินจากไป ทิ้งไว้ซึ่งความหวาดกลัวอย่างท่วมท้นไว้ที่เบื้องหลังของมัน...
"เจ้านี้มันสัตว์ประหลาดชัดๆ วิชาระดับ 5 นั่นข้าใช้เวลาฝึกฝนถึง 3 ปี!! และอานุภาพยังมีไม่ถึงสองในสิบส่วนจากที่เจ้าใช้ไปเมื่อครู่" อี้หลงหวังยืนกอดอก รอเล้งซานอยู่บนทางเดินกล่าวขึ้น
เล้งซานส่ายหน้าเล็กน้อย
"ความจริงแล้วที่ข้าสามารถใช้วิชาพวกนี้ได้ในทันทีนั้น เพราะข้าเคยเห็นวิชาดั้งเดิมของพรรคมังกรเหินมาก่อน และพื้นฐานของวิชาก็คล้ายคลึงกับวิชาตระกูลเล้งถึงสี่ในสิบส่วน แม้ก่อนหน้านี้ข้าจะไม่เคยฝึกปรือ แต่หากคิดจะฝึกก็ย่อมทำได้ไม่ยากเย็นนัก"
"จะ..เจ้าบอกว่าเคยเห็นวิชาดั้งเดิมของพรรคมังกรเหิน ตอนนี่ยังมีคนของพรรคมังกรเหินอยู่อีกหรือ!!" นางเบิกตากว้างทันทีด้วยความตกใจ นางคิดมาเสมอว่าพรรคของนางเป็นพรรคเดียวที่สืบทอดวิชาจากพรรคมังกรเหิน
เล้งซานอึ้งเล็กน้อย ที่มันเผลอหลุดปากพูดออกไปด้วยความไม่ระวัง แต่ก็ใช้เวลาเพียง สองลมหายใจคำแก้ตัว(ตอแหล) มากมายก็พลุ่นพร่านเข้ามาในสมอง
"พรรคมังกรเหิน ยังหลงเหลืออยู่เล็กน้อย เพียงแต่ตอนนี้ไม่ได้อยู่ในโลกมนุษย์อีกแล้ว ทั้งหมดอยู่ในโลกเทพของเผ่าเทพ ข้าเคยมีโอกาสได้ไปเมื่อครั้นเยาว์วัย"
เล้งซานกล่าวอย่างไม่สะดุดติดขัดแม้แต่นิด พลางยิ้มมุมปากเล็กน้อย อย่างไรซะการโกหกคำโตของมัน อี้หลงหวังย่อมไม่สามารถพิสูจน์อะไรได้อย่างแน่นอน แต่เมื่อหันไปมองสีหน้าของนาง กลับพบว่านางเบิกตากว้างกว่าเดิม จนแทบจะถลนออกมาจากเบ้า!!
"ตะ..ตำนานเผ่าเทพ มีอยู่จริงหรือ!!" น้ำเสียงของนานตื่นเต้นถึงขีดสุด ฉายแววตาเปล่งประกายเมื่อพูดถึงเผ่าเทพ
"ก็มีสิ แม้แต่เผ่าอสูร ก็มีอยู่จริงแท้แน่นอน" เล้งซานเมื่อพูดถึงเผ่าอสูรแววตาของมันก็แข็งกร้าวขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็ถอนหายใจและรีบกลับสู่ภาวะปรกติ
อี้หลงหวัง อ้าปากกว้าง พลางยกมือขึ้นปิดปากตนเองด้วยท่าทีคล้ายเชื่อครึ่ง ไม่เชื่อครึ่ง นางกำลังจะเอ่ยปากถามเล้งซานต่อในเรื่องนี้ แต่กลับถูกเล้งซานบ่ายเบี่ยง เปลี่ยนประเด็นไปเรื่องอื่นอย่างแนบเนียน นางก็เผลอไผลไปตามเล้งซานจนลืมประเด็นนี้ไปในเวลาไม่นาน...
เช้าวันถัดมา เกิดเรื่องน่าตื่นตะลึงขึ้นภายในพรรคกระบี่เหิน ศิษย์แกนหลักทั้ง 30 คน โกนหัวล้านเลี่ยนเตียนทั้งหมด!! แม้เหล่าอาจารย์และผู้อาวุโสพรรคคะยั้นคะยอถามถึงสาเหตุ ก็ไม่มีผู้ใดกล่าวตอบแต่อย่างใด ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นความต้องการของพวกมันเอง การกระทำเช่นนี้ไม่ได้ผิด กฎใด ๆ ในพรรค จึงไม่สามารถว่ากล่าวใด ๆ ต่อเหล่าศิษย์แกนหลักได้
เล้งซานเดินมาที่ลานฝึกยุทธพร้อมกับอี้หลงหวัง เห็นเหล่าศิษย์แกนหลักต่างหัวล้านเลี่ยนเตียนทุกคน ก็แสยะยิ้มเล็กน้อยแต่ไม่ได้กล่าวสิ่งใด ผิดกับอี้หลงหวัง ที่นางนั้นหัวร่อออกมาจนเอามือมากุมท้องเนื่องจากหายใจไม่ทัน นางเป็นคนเดียวในพรรคที่รู้เห็นสาเหตุการโกนหัวของเหล่าศิษย์แกนหลัก
พวกศิษย์แกนหลักยังคงฝึกวิชา โดยมีอาจารย์คนเดิมเป็นผู้สอน เล้งซานประสานมือโค้งตัวเล็กน้อยเช่นเดียวกันกับเมื่อวาน อาจารย์ผู้สอน ก็ยิ้มและพยักหน้าให้เช่นเคย แต่!! สิ่งที่เปลี่ยนไปคือเหล่าๆศิษย์แกนหลักทั้งหมด วิ่งอย่างพร้อมเพรียงมาทาง เล้งซาน แสงแดดยามเช้าสะท้อนเข้ากับศีรษะล้านเตียนของพวกมัน จนเล้งซานยังต้องหรี่ตามอง
พวกมันมายืนเรียงแถวเป็นหน้ากระดาน ด้านหน้าของเล้งซาน และโค้งตัวลงอย่างพร้อมเพรียง ก่อนจะตะโกนขึ้นพร้อมกันด้วยเสียงอันดังว่า
"อรุณสวัสดิ์ครับ ศิษย์พี่!!!"
ภาพที่เห็นสร้างความงุนงงให้แก่อาจารย์ผู้สอนอย่างมาก จากพฤติกรรมของศิษย์แกนหลักที่แสดงต่อเล้งซานเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ ภายในวันเดียว...
............................................